ครู่ต่อมา อันจื่อเฮ่าก็กดโทรหาถังหนิง เขาอยากให้โม่ถิงช่วยเฉินซิงเยียนแก้แค้น…
ในที่สุดเมื่อชายหนุ่มกลับถึงห้อง เฉินซิงเยียนนั้นเพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ และเมื่อเธอเห็นความโกรธบนใบหน้าของอันจื่อเฮ่า หญิงสาวก็รู้ได้ในทันทีว่าเขาไปเอาคืนหลิงหลงมา ดังนั้นเธอจึงส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “นายไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้”
“ฉันไปยืนหยัดเพื่อเธอมานะ บ่นทำไมเนี่ย”
“เมื่อก่อนไม่เคยมีใครยืนหยัดเพื่อฉันมาก่อนเลย” เฉินซิงเยียนหัวเราะ “แล้วชีวิตของฉันก็ยังออกมาราบรื่นดี ใช่ไหมล่ะ”
นั่นเป็นเพราะเฉินซิงเยียนปกป้องตัวเองมาโดยตลอดจนเธอกลายเป็นคนที่ไม่พึ่งพาใครและมีความเป็นตัวเองสูงมาก
“นั่นมันเมื่อก่อน…”
เฉินซิงเยียนโผกอดอันจื่อเฮ่าอีกครั้ง ร่างนุ่มๆ ของเธอแนบชิดกับร่างที่เปียกปอนของชายหนุ่ม…
“ไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนสักหน่อยเถอะ…” อันจื่อเฮ่าดันตัวเฉินซิงเยียนออกด้วยความกลัวว่าเขาจะทำตัวหุนหันและทำบางอย่างที่ไม่น่าให้อภัยลงไป
“แต่นายก็ต้องอาบน้ำเหมือนกันไม่ใช่เหรอ…”
“อย่าสนใจฉันเลย” อันจื่อเฮ่าจับหัวเฉินซิงเยียนให้อยู่กับที่เพื่อป้องกันไม่ให้เธอซี้ซั้วขยับตัว “ฉันเองก็มีความต้องการนะ ถ้าเธอยังซี้ซั้วขยับตัวอยู่แบบนี้ ฉันอาจจะกินเธอไปทั้งตัวก็ได้นะ”
เฉินซิงเยียนตัวแข็งทื่อแล้วมองหน้าอันจื่อเฮ่าด้วยสายตาว่างเปล่า
อันจื่อเฮ่าถอนหายใจ ขณะที่เขากำลังจะหมุนตัวกลับหลัง เฉินซิงเยียนก็เข้าสวมกอดเขา “ฉันไม่เชื่อหรอก!”
“อย่าทำตัวเหมือนนักเลงสิ การตัดสินใจของผู้หญิงควรผ่านการคิดทบทวนอย่างรอบคอบนะ”
“งั้น…ทุกอย่างที่ผ่านการคิดทบทวนอย่างรอบคอบคือสิ่งที่ถูกเหรอ การตัดสินใจของผู้หญิงสักคนไม่ได้เปลี่ยนไปตามผู้ชายที่เธอพบงั้นเหรอ”
นี่เป็นครั้งแรกที่อันจื่อเฮ่าแพ้เฉินซิงเยียนด้วยวาจา
“คืนนี้นอนที่นี่เถอะ”
“คนในกองถ่ายจะรู้เข้านะ”
“ทุกคนเขาดูออกกันหมดแล้วล่ะว่านายชอบฉัน” เฉินซิงเยียนกล่าวพร้อมแก้มที่แดงขึ้นมาเล็กน้อย
“มันจะทำลายชื่อเสียงของเธอหมดน่ะสิ” อันจื่อเฮ่ากล่าวด้วยท่าทีเข้มงวด “ฟังฉันนะ ไปนอนได้แล้ว”
“ถ้านายปฏิเสธฉันอีก พรุ่งนี้ฉันจะจูบนายต่อหน้าคนทั้งกองถ่าย!” เฉินซิงเยียนขู่อย่างเด็กๆ
“สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่สนใจเรื่องอาชีพนักแสดงของเธอเลยใช่ไหม ผู้หญิงที่ไหนเขาทำอะไรตามอำเภอใจอย่างเธอกัน เธอขอให้ผู้ชายค้างคืนด้วยง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน”
อันจื่อเฮ่าดูเหมือนจะพร้อมระเบิดความโกรธออกมาทุกที ทว่า…เฉินซิงเยียนเอาหัวถูกับหน้าอกของชายหนุ่มแล้วกล่าวว่า “ไม่มีใครเคยทำกับฉันอย่างที่นายทำมาก่อน นายใจดีกับฉัน นายเป็นห่วงและดูแลฉัน ตั้งแต่พ่อจากไป ฉันก็ไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกของการถูกปกป้องอีกจนกระทั่งตอนนี้ ที่ฉันขอให้นายอยู่ไม่ใช่เพราะฉันอยากให้มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา ฉันก็แค่อยากจะเก็บความรู้สึกของการถูกปกป้องนี้เอาไว้ให้นานขึ้นอีกนิด”
อันจื่อเฮ่าตะลึงกับคำพูดของเฉินซิงเยียน หลังจากช่วงเวลาสั้นๆ ชายหนุ่มก็พลันคลุมตัวเธอด้วยเสื้อแจ็กเกตของเขา “ไปกันเถอะ”
“ไปไหน”
“ไปถึงแล้วเธอจะรู้เอง”
ไม่พูดเปล่า อันจื่อเฮ่าพาเฉินซิงเยียนออกมาจากห้อง ชายหนุ่มคุยโทรศัพท์กับผู้กำกับไปด้วยขณะที่เดิน “ผู้กำกับครับ หลิงหลงขังเฉินซิงเยียนเอาไว้บนภูเขาและทำให้เธอเปียกฝนไปทั้งตัว ตอนนี้ผมกำลังพาเธอไปโรงพยาบาล ช่วยเตรียมตารางถ่ายทำของวันพรุ่งนี้ทีครับ”
ทันทีที่ผู้กำกับได้ยินว่าหลิงหลงทำอะไรลงไป เขาก็ตอบทันทีว่า “ได้ ดูแลเธอให้ดีล่ะ”
อันจื่อเฮ่าไม่พูดอะไรอีกและนำทางเฉินซิงเยียนออกจากโรงแรมต่อไป ชายหนุ่มลงเอยด้วยการพาเธอไปโรงพยาบาลตามที่บอกกับผู้กำกับไว้ แต่เขาไปซื้อแค่ยาแก้ไข้หวัด
หลังจากนั้น อันจื่อเฮ่าก็พาเฉินซิงเยียนไปที่บ้านตากอากาศริมทะเลเพื่อนอนค้างคืน
สถานที่แห่งนั้นเงียบสงบและเป็นของเพื่อนคนหนึ่งของชายหนุ่ม ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เสี่ยงถูกตามหรือถ่ายภาพ
เฉินซิงเยียนไม่ได้คาดคิดว่าอันจื่อเฮ่าจะพาเธอมายังที่พักอีกแห่ง หัวใจเธอเริ่มเต้นระรัวด้วยความตกใจและความคาดหมาย…
“เอาเลยสิ ในที่สุดเธอก็สามารถอาบน้ำและพักผ่อนได้แล้วใช่ไหม” อันจื่อเฮ่าเอ่ยถามอย่างเสียมิได้
หากเฉินซิงเยียนเชื่อฟังตั้งแต่แรก ตอนนี้เธอคงได้หลับฝันหวานไปแล้ว
“แต่…มันมีแค่เตียงเดียวเองนะ…” เฉินซิงเยียนกล่าวพลางชี้ไปที่เตียงเตียงนั้น “นาย…”
“ดูเข้าสิ เธอไม่ใช่หญิงชราสักหน่อยนี่ ทำไมความคิดเธอถึงได้ซับซ้อนแบบนี้”
ขณะที่อันจื่อเฮ่ากำลังจะพูดว่าเขาจะนอนที่โซฟา เฉินซิงเยียนก็พลันเขยิบตัวเข้ามาใกล้และกัดริมฝีปากเขาอย่างเย้ายวน
ดวงตาอันจื่อเฮ่าเบิกกว้าง เขาอยากจะผลักเธออก แต่หญิงสาวเริ่มลูบไล้มือทั้งสองข้างไปทั่วทั้งร่างของเขา
อันจื่อเฮ่านั้นต้านทานความต้องการไม่ไหว ดังนั้นชายหนุ่มจึงกดเฉินซิงเยียนลงกับเตียงแล้วจูบเธอด้วยความหลงใหล แก้มของพวกเขาแดงระเรื่อ ทว่าหลังจากผ่านไปสักพัก อันจื่อเฮ่าก็ปล่อยเธอแล้วเตือนว่า “ไปนอนพักผ่อนเลย หยุดคิดอะไรมากเกินไปได้แล้ว แค่จูบเท่านั้น ห้ามคิดจะทำอย่างอื่น!”
“เมื่อไหร่จะทำได้มากกว่าจูบล่ะ”
“เธอยังอายุไม่ถึงยี่สิบเลย อย่ามาคุยเรื่องผู้ใหญ่ๆ กับฉันสิ” อันจื่อเฮ่ากล่าวพลางบีบจมูกของหญิงสาว
“งั้น…ฉันขอจูบนายบ่อยกว่านี้ได้ไหม”
อันจื่อเฮ่าลุกจากปลายเตียงแล้วคลุมหัวหญิงสาวด้วยผ้าขนหนูแห้งๆ “ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของเธอ”
“ที่นี่ดูเงียบสงบมากเลยเนอะ” เฉินซิงเยียนพึมพำขณะที่เพลิดเพลินไปกับบริการเช็ดผมอันแสนพิเศษที่อันจื่อเฮ่ามอบให้
“เพื่อนฉันเปิดกิจการนี้น่ะ ทำเลไม่เลวเลย” อันจื่อเฮ่าตอบ
“งั้นจากนี้ไปมาทำที่นี่ให้เป็นจุดนัดพบลับของเราสองคนกันเถอะ คิดว่าไง เราไม่น่ามีโอกาสไปออกเดตกันบ่อยนักเพราะตัวตนของเราทั้งสองคน”
เมื่อได้ยินคำบ่นของเฉินซิงเยียน อันจื่อเฮ่าก็หยุดเช็ดผมของเธอ ชายหนุ่มพลันรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้กีดกันหลายๆ สิ่งที่ไม่ควรถูกกีดกันจากเธอ เด็กสาวที่โหยหาความรักและความหวานที่เธอปรารถนาจากคนรักของเธอ
เป็นผลให้อันจื่อเฮ่าตอบตกลง แม้ว่าเดิมทีเขาอยากจะปฏิเสธก็ตาม
ชายหนุ่มรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าพวกเขาถูกจับได้ แต่เขาก็ยังตรงดิ่งไปยังความอันตรายนั้น
เพราะเฉินซิงเยียนนั้นช่างน่าอัศจรรย์และเขาก็ไม่อยากเสียเธอไป…
…
ขณะเดียวกัน ถังหนิงเล่าเรื่องที่อันจื่อเฮ่าโทรมาให้โม่ถิงฟังขณะที่กำลังนอนพิงแผงอกของชายหนุ่ม
“ถิงคะ…เรื่องเฉินซิงเยียนน่ะ ไม่คิดว่าอันจื่อเฮ่าทำเกินขอบเขตของเขาไปหน่อยเหรอคะ”
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากเห็นหรอกเหรอครับ” โม่ถิงกอดถังหนิงพลางวางฝ่ามืออุ่นๆ ลงบนท้องของเธอแล้วเพลิดเพลินไปกับการเคลื่อนไหวของเด็กที่อยู่ในนั้น
“คุณเป็นพี่ชายคนโตของซิงเยียนนะคะ ในเมื่อน้องสาวของคุณกำลังเป็นทุกข์ ฉันก็คิดว่าคุณควรช่วยเธอ”
โม่ถิงไม่ตอบอะไร เขาเพียงแต่จดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวใต้ฝ่ามือเขา หลังจากที่เงียบไปพักหนึ่ง ในที่สุดชายหนุ่มก็กระซิบที่ข้างหูของถังหนิงอย่างยั่วยวนว่า “รีบๆ คลอดสักทีสิครับ…”
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันตัดสินใจได้นะคะ” ถังหนิงประคองหลังของเธออย่างเหน็ดเหนื่อย “เมื่อไหร่ตึกข้างๆ จะปรับปรุงเสร็จคะ”
“ลูกของเราจะย้ายเข้าไปอยู่ได้หลังจากที่คุณคลอดเขาแล้วครับ”
“มันจะไม่ดีกับลูกหรือเปล่าคะ”
“เราปรับปรุงตามแนวทางอย่างเข้มงวดครับ จะไม่เป็นอันตรายกับลูกอย่างแน่นอน” โม่ถิงตอบ “ผมเกือบจะลืมไปแล้วนะครับว่าคุณดูเป็นยังไงตอนที่ยังไม่ตั้งท้อง…”
“ฉันอ้วนเหรอคะ ฉันต้องดูแย่แน่ๆ” ถังหนิงปิดแก้มทั้งสองข้างแล้วถอนหายใจ
โม่ถิงหัวเราะโดยที่ไม่ตอบคำถามของถังหนิง เขาเพียงแต่เอนตัวไปหาหูของหญิงสาวแล้วพูดบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิงออกมา “คุณไม่ได้ดูแย่หรอกครับ…ก็แค่เราทำกิจกรรมอย่างว่าได้ไม่ค่อยสะดวกเท่านั้นเอง…”