พูดได้ในอีกความหมายว่าถังหนิงยังไม่ได้ยกเลิกสัญญากับทีมงานจากชัยชนะ ทีมงานจากปรสิตไม่ทำข้ามขั้นเกินไปหน่อยหรือ
ต่อให้พวกเขาจะต้องการแย่งตัวใครสักคนไปจากเธอ ทีมงานก็ยังต้องตามสะสางตัวเองก่อน
พวกเขาทำโจ่งแจ้งขนาดนี้ กำลังคิดหยามหน้าเธออยู่หรือ
“มื้อนี้ฉันเลี้ยงเองนะคะ พวกคุณเชิญกินดื่มกันได้ตามสบายเลย ถือว่าเป็นของขวัญจากฉันก็แล้วกัน
“ฉันจะไม่พูดถึงเรื่องอื่นหรอกนะคะ แค่อยากจะบอกทีมงานของปรสิตว่าอย่ารีบร้อนเกินไปหน่อยเลยค่ะ ใครจะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันวันนี้จะไม่เกิดขึ้นกับคุณในอนาคต” ถังหนิงออกปากเตือน แล้วเหยียดยิ้มก่อนหันกลับไปคืนแก้วไวน์ให้กับบริกรสาว จากนั้นจึงหันหลังเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย
ทีมงานจากชัยชนะก้มหน้าตลอดช่วงเวลานี้ อย่างไรเสียพวกเขาก็ได้ทำบางอย่างที่น่าละอายใจลงไป ถังหนิงลงทุนในการสนับสนุนพวกเขามามาก แต่เขาก็ยังทรยศเธอได้ขนาดนี้ ใครมาเป็นเธอก็คงโกรธ
“เอาละ พอได้แล้ว อย่าปล่อยให้นังนั่นมาทำให้เสียอารมณ์พวกเราเลย มาดื่มกันต่อเถอะ” ทีมงานคนหนึ่งยกแก้วขึ้นเพื่อคลายบรรยากาศอึมครึม
หากแต่นักเขียนบทกลับส่งสายตาไม่ไว้วางใจไปทางทีมงานของชัยชนะ “ผมอาจจะเมาไปหน่อย แต่ผมก็เข้าใจทุกอย่างที่ถังหนิงพูดนะครับ พวกคุณยังไม่ได้ยกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการกับถังหนิง และเธอก็ไม่คิดจะยกเลิกมันด้วย นี่ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างที่คุณทำเป็นเรื่องผิดกฎหมายเหรอครับ”
“เอ่อ…”
“ถ้าเราถ่ายทำปรสิตเสร็จแล้วถังหนิงตัดสินใจฟ้องเราขึ้นมา หมายความว่าเราก็จะฉายหนังไม่ได้งั้นเหรอ”
ทีมงานจากชัยชนะไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคาดคิดเอาไว้ “เราไม่เคยรู้ว่าเธอจะงัดไม้นี้มาใช้นี่ครับ”
“ฮ่าๆๆ …” ตอนนั้นเองที่ไป๋จวินเหยี่ยระเบิดหัวเราะออกมา “นี่ไม่ใช่ลูกไม้ที่เธอเอามาใช้หรอกนะ แต่เป็นเงื่อนไขตามสัญญาต่างหาก พวกคุณฉีกสัญญาตัวเองแล้วยอมรับเงินจากชุนชิว คุณมันไร้จิตสำนึกตั้งแต่แรกแล้ว ทำไมถึงยังหวังให้เธอใจดีกับพวกคุณอีกล่ะ”
“ไป๋จวินเหยี่ย นายเข้าข้างใครกันแน่เนี่ย” นักเขียนบทถามขึ้นด้วยท่าทีข่มขู่
“ผมไม่ได้อยู่ข้างไหนทั้งนั้นแหละ ถ้าคุณเก่งนัก ผมก็อยากจะเห็นว่าคุณจะแก้ไขเรื่องสัญญาของพวกเขาได้ยังไง!” ไป๋จวินเหยี่ยเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นออกจากมื้อเย็นที่แสนน่าเบื่อไป
เขานึกไม่ถึงว่าถังหนิงจะมาหาเรื่องเช่นนี้
แม้ว่าเธอจะไม่สามารถหยุดยั้งปรสิตไม่ให้มาเยือนโลกนี้ได้ แต่เธอก็จะทำให้พวกเขาทุกข์ทรมานไปพร้อมๆ กับเธอ
ไม่นานข่าวเรื่องมื้อเย็นนั้นได้เริ่มกระจายไปทั่วโลกออไลน์ มันนับได้ว่าเป็นการแก้แค้นหรือเปล่านะ คงไม่ใช่เสียทีเดียว ในฐานะเจ้านาย การจัดงานเลี้ยงอำลาให้กับพนักงานของเธอเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม หากแต่อยู่ๆ ผู้คนกลับรู้สึกว่าการเข้าหาของถังหนิงนั้นดูเลือดเย็นไปสักหน่อย
ตอนแรกเธอทำเพื่อความสะใจ จากนั้นจึงเตือนปรสิตไม่ให้อวดดี และปิดท้ายด้วยการกีดกันทีมงานจากชัยชนะไม่ให้ก้าวหน้าในวงการ หากพวกเขาคิดทำร้ายเธอ เธอก็จะตอบโต้กลับในทันที!
ถ้าหากการแย่งคนจากไห่รุ่ยไปง่ายดายขนาดนั้น ยังจะมีกฎในวงการอยู่อีกหรือ
“ถังหนิงตบหน้ากลับได้สุดยอดมาก! เธอป่วนปรสิตโดยการแสดงความใจกว้างและทำให้เห็นว่าทีมงานจากชัยชนะไม่ได้มีค่าอะไรเลย”
“ถ้ามันเป็นแค่ผลงานที่ทำร่วมกัน การย้ายไปบริษัทอื่นก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนี้หรอก แต่ถังหนิงฝึกฝนพวกเขามากับมือ ก็ควรจะมีจิตสำนึกกันบ้างสิ ที่เธอโกรธขนาดนั้นก็สมควรอยู่หรอก”
“ตอนที่พวกคุณกำลังสนใจเรื่องนี้กัน ฉันยังสงสัยว่าเราจะพลาดโอกาสที่จะได้ดูมดราชินีสองหรือเปล่า”
ทว่าในขณะที่ไม่มีใครรู้ ถังหนิงไม่ได้นั่งอยู่เฉยหลังจากตามเอาคืน เธอเดินทางตรงไปที่เกาะส่วนตัวพร้อมข้อมูลเกี่ยวกับมดราชินีสอง ก่อนจะได้พบกับลูกสาวของเฉียวเซิน
“ฉันเจอข้อมูลในแวดวงไซไฟที่ห้องทำงานของพ่อเยอะเลยค่ะ มาลองดูว่ามีอะไรที่ใช้กับมดราชินีสองได้บ้างด้วยกันเถอะค่ะ.
“แล้วฉันก็ได้อ่านบทแล้วนะคะ เส้นเรื่องดีมากเลยล่ะค่ะ ดาราดังสายบู๊น่าจะดึงดูดความสนใจจากชาวต่างชาติได้แน่ค่ะ แต่ว่าคุณวางแผนจะทำยังไงกับการตัดต่อล่ะคะ” คุณเฉียววางข้อมูลในมือลงและมองหน้าถังหนิง “ตอนนี้ปรสิตก็ทำให้คุณต้องปวดหัวขนาดนี้ คุณวางแผนจะจัดการยังไงล่ะคะ”
“ฉันยับยั้งทีมงานที่พวกเขาแย่งตัวไปไว้แล้วค่ะ และตอนนี้พวกเขาก็กำลังลำบากไม่น้อยเลยล่ะ
“ฉันหวังว่าพวกเขาจะรู้จักกลัวซะบ้าง ระหว่างนี้ฉันก็ลองหาอัจฉริยะดู ฉันว่าพวกเขาอาจจะช่วยเราได้น่ะค่ะ”
“คุณหมายความว่าเราจะไม่มองหาทีมงานตัดต่อมืออาชีพ แต่จะใช้อัจฉริยะด้านคอมพิวเตอร์แทนเหรอคะ” คุณเฉียวมองถังหนิงอย่างงุนงง
“ใช่แล้วค่ะ น่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างการหาคนที่สร้างวิดีโอเกมเก่งๆ หรือเชี่ยวชาญในการเขียนโปรแกรม อย่างนั้นพวกเขาจะเข้าที่เข้าทางได้เร็วมากขึ้นค่ะ ยังไงเงินก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา สิ่งที่พวกเขามีความสุขด้วยก็คือความท้าทายกับความตื่นเต้นค่ะ! พวกเขาจะช่วยเราแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ มดราชินีสองไปก่อน หลังจากนั้นเราจะมาคุยกันเรื่องนี้ทีหลังก็ได้ค่ะ” เพราะเรื่องคนทรยศที่เธอเผชิญมา ถังหนิงไม่ได้คิดข้ามขั้นไปไกลมากนัก โดยเฉพาะกับมดราชินี
เธอต้องจัดการเรื่องมดราชินีสองเป็นอันดับแรก ถึงอย่างไรเมื่อถึงเวลาของมดราชินีสองอาจมีทีมงานใหม่ที่มีความสามารถรอให้เธอค้นพบอยู่ก็เป็นได้
“โอเค งั้นเรามาตั้งใจกับมดราชินีสองกันเถอะค่ะ แต่ว่าฉันต้องขอเวลาสักสามเดือนนะคะ” คุณเฉียวขอเอาไว้ “ถึงการถ่ายวิดีโอกับการกำกับจะคล้ายกัน แต่ฉันก็ต้องการเวลาในการฝึกฝนน่ะค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันให้เวลาสามเดือนคุณได้ค่ะ”
ถังหนิงเข้าใจว่าคุณเฉียวไม่มีประสบการณ์ในการกำกับภาพยนตร์มาก่อน แต่เธอเชื่อว่าคุณเฉียวมีใจที่จะสร้างภาพยนตร์ไซไฟดีๆ สักเรื่องอย่างแท้จริง เธอมีไฟที่ลุกโชนอยู่ภายในอย่างเช่นพ่อของเธอ
ถังหนิงจึงเชื่อมั่นในตัวเธอ
จากนั้นถังหนิงได้ประกาศรับคัดเลือกทีมงานตัดต่อชุดใหม่อย่างเป็นทางการในชื่อว่า สตาร์ไชน์
คนแรกที่เข้าสมัครกับเธอเป็นหนุ่มมหาวิทยาลัยวัยยี่สิบปี ด้วยเขาชื่นชอบในการเล่นวิดีโอเกมมาตั้งแต่เด็ก จึงได้ออกแบบฉากเกมในเวลาว่าง แต่เพราะพ่อแม่ไม่ได้สนับสนุน เขาจึงไม่เคยได้แสดงงานออกแบบนี้ให้ใครได้เห็น ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าถังหนิงกำลังเปิดรับสมัคร เขาจึงตัดสินใจลองดูเพื่อสานฝันตัวเอง
เมื่อถังหนิงได้เห็นงานออกแบบของเขา เธอตัดสินใจรับเขาทันที
อย่างไรก็ตามผู้คนต่างมีข้อกังขากับการรับคัดเลือกของถังหนิง “คุณไม่กลัวว่าแสงดาวจะลงเอยเหมือนอย่างชัยชนะบ้างเหรอ
“อีกอย่างมือสมัครเล่นจะมีฝีมือไปกว่ามืออาชีพได้ยังไงกัน”
ถังหนิงตอบกลับเมื่อได้ยินข้อกังขาของผู้คน “ชัยชนะมีความสามารถ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาต้องอาศัยการสนับสนุนของฉัน ที่ฉันบอกว่าตัวเองสร้างชัยชนะขึ้นมาเลยไม่ได้เป็นเรื่องเกินจริง ฉะนั้นฉันก็สร้างแสงดาวขึ้นมาได้เหมือนกันค่ะ!”