วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 1132 เธอไปตายซะ!

เพื่อเปิดโอกาสให้พ่อของเธอ เสี่ยวต้านเขอปล่อยมือหนานกงเฉวียนและวิ่งไปหาซูโยวหรานด้วยตัวเอง “พี่สาวคะ ให้หนูพาฝาแฝดไปส่งที่ห้องเรียนนะคะ หนูรู้ว่าห้องของเขาอยู่ไหนค่ะ”

ด้วยพวกเขาเข้ามาในรั้วโรงเรียนแล้ว ซูโยวหรานจึงวางใจและปล่อยเจ้าตัวแสบสองคนไปกับเสี่ยวต้านเขอ “อย่างนั้นก็ขอบคุณนะจ๊ะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ!”

พูดจบเสี่ยวต้านเขอก็เหลือบมองพ่อของเธอ คล้ายบอกให้เขาคว้าโอกาสนี้เอาไว้ หากแต่หนานกงเฉวียนยังไม่คิดจะลงมือ

ซูโยวหรานหันไปมองและเห็นหนานกงเฉวียน ทว่าเธอไม่ได้พูดอะไรขณะเดินตรงไปที่รถของเธอ

แน่นอนว่าหนานกงเฉวียนไม่มีเหตุผลอะไรต้องตามเธอไป

ในขณะที่เสี่ยวต้านเขอมองพ่อของเธอพลาดโอกาสที่มีกับซูโยวหรานไป เธอก็นึกงอนเขาในใจ

เขาไม่ได้รุกซึ่งๆ หน้าอย่างที่เธอทำ แต่เธอไม่เข้าใจว่าผู้ใหญ่มักจะเป็นกันเองกับเด็กๆ มากกว่า

สำหรับซูโยวหรานนอกจากการไปรับส่งฝาแฝดที่โรงเรียน เธอก็ใช้เวลาที่เหลือไปกับการเรียนหนังสือ เธอเป็นทหารมานานและรู้สึกตัดขาดกับโลกภายนอก ในเมื่อเธอไม่มีหวังที่จะเป็นอิสระจากครอบครัวปัจจุบันของเธอ เธอจึงต้องทุ่มเทเพื่อสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง

เธอเข้าใจว่าแม่ตัวเองไม่ยอมหย่าเพราะไม่อยากดึงเธอให้ลำบากไปด้วย แต่เธอก็ไม่อยากจะเชื่อว่าแม่จะต้องเสียสละตัวเองอย่างนั้น

เมื่อคิดได้ดังนั้น ซูโยวหรานพยายามมากขึ้นในทุกๆ วัน แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณค่าจ้างที่ได้รับจากถังหนิง ซึ่งช่วยให้เธอมีทางออกและไล่ตามฝันของเธอได้

ในขณะที่ซูโยวหรานกำลังเรียนอยู่ หนานกงเฉวียนยืนอยู่ด้านนอกและเฝ้ามองเธออยู่ราวครึ่งชั่วโมง

ทว่าซูโยวหรานไม่ได้เข้าเรียนแค่วิชาเดียว เธอมีตารางเรียนแน่นทั้งวัน ดูเหมือนว่าเวลาว่างช่วงเดียวของเธอคือตอนที่เธอไปรับส่งเด็กทั้งสองคนที่โรงเรียนเท่านั้น

หลังจากจบวัน ซูโยวหรานก็กลับมาบ้านที่เธอไม่อยากมา ก่อนมองพ่อแม่ที่แสร้งทำเป็นรักใคร่กลมเกลียวกัน

“ฉันได้ยินว่าแกไปเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกของดาราดัง ถังหนิง เหรอ” คุณพ่อซูถามระหว่างมื้อเย็น

“ค่ะ” ซูโยวหรานพยักหน้ารับ

“งั้นค่าจ้างก็คงไม่น้อยเลยสินะ แกก็รู้อาการของแม่แกดีนี่ ต่อไปนี้ก็ควรช่วยออกเงินเพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัวบ้างนะ” คุณพ่อซูเอ่ย

“ถ้าหนูจำไม่ผิด พ่อก็มีธุรกิจของตัวเองอยู่ตั้งสามอย่างนี่คะ พ่อ” ซูโยวหรานท้วง

“แกหมายความว่าอะไร” ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปทันที

“หนูเข้าประจำการตั้งแต่ยังเด็ก ประเทศชาติเป็นคนเลี้ยงดูหนูมา ไม่ใช่พ่อสักหน่อย ส่วนเรื่องแม่ หนูยินดีจะจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนของแม่ทั้งหมดค่ะ แต่แม่ต้องหย่ากับพ่อก่อน” ซูโยวหรานตอบกลับ

“โยวหราน…”

“มีหลักฐานว่าผู้ชายคนนี้นอกใจและเจ้าชู้ไปทั่ว ถ้าเราเอาหลักฐานนี้ไปฟ้องร้อง หนูมั่นใจว่าจะต้องถูกตัดสินให้ยกทรัพย์สินของเขาครึ่งหนึ่งกับแม่แน่ค่ะ”

“ถือซะว่าคืนนี้ฉันไม่ได้พูดอะไรแล้วกัน” คุณพ่อซูตัดบท เขารู้ว่าลูกสาวของเขาไม่ได้ล้อเล่น เขาจึงต้องยังเก็บสองแม่ลูกไว้ ทว่าขณะที่เขาลุกขึ้นก็อดไม่ได้ที่จะด่าทอภรรยาตัวเอง “เธอไปตายซะ!”

คุณนายซูปล่อยโฮออกมา ซูโยวหรานถามขึ้นขณะมองหน้าแม่ตัวเอง “ทำไมแม่ถึงไม่หย่ากับเขาละคะ”

“นั่นมันเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับแก” คุณนายซูบอกกลับ “ฉันอยากจะตามรังควานเขาไปตลอดชีวิต ถ้าฉันต้องทรมานงั้นก็มาทรมานไปด้วยกันนี่แหละ”

“แต่ว่าแม่ก็ไม่ต้องทำให้หนูลำบากไปด้วยสิ…” ซูโยวหรานเอ่ย “ถ้าแม่ไม่ไป อย่างนั้นหนูก็ต้องยอมทรมานไปกับแม่ด้วย ถ้าหนูไปคนเดียวหนูก็จะรู้สึกผิดกับแม่นะคะ…”

ตอนนั้นเองที่คุณนายซูนึกถึงนามบัตรจากหนานกงเฉวียน เธอยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคุณพ่อซู เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้จะต้องขายลูกสาวตัวเองหากมีโอกาสอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เธอเชื่อว่าลูกสาวของเธอคงจะมีใครสักคนให้พึ่งพา และไม่ต้องกลัวว่าใครจะมารังแกหากได้แต่งงานกับหนานกงเฉวียนจริง…

ดังนั้นคุณนายซูจึงแอบไปพบกับหนานกงเฉวียน

ทั้งซูโยวหรานกับคุณพ่อซูไม่ได้รับรู้เรื่องนี้

ในขณะที่การนัดพบกับของถังหนิงกับชิวจิ่นนั้นได้รับการยืนยัน ชิวจิ่นได้เจาะจงมาโดยเฉพาะว่าไม่ต้องการเจอใครในตระกูลโม่ เขาจะพบเพียงแค่ถังหนิงคนเดียวเท่านั้น

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่โม่ถิงจะเตรียมการรักษาความปลอดภัยให้กับภรรยาของเขา ว่าแต่ชิวจิ่นวางแผนอะไรเอาไว้อยู่กัน

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะลักพาตัวถังหนิง เขามาสุสานนี้ตลอดยี่สิบปีและรู้ทุกซอกทุกมุม

ในเมื่อถังหนิงส่งตัวเองมาถึงมือเขา เขาก็จะไม่ออมมือให้

“ผู้อาวุโสชิวครับ เราจะให้คนของเราประจำอยู่ที่ทางออกพวกนี้ การลักพาตัวถังหนิงก็เหมือนแค่เกมเด็กเล่น” ลูกน้องของชิวจิ่นเอ่ยขณะที่ชี้ไปที่แผนที่ของสุสาน

“แค่เราคอยระวังทางออกเอาไว้ ก็จะไม่มีใครเข้ามาได้ครับ!”

“งั้นก็ทำตามนั้น” ชิวจิ่นตกลง “คู่รักโม่เหลี่ยมจัด ทำให้มั่นใจว่าพวกแกคอยระวังอยู่ตลอดเวลา

“ในเมื่อเราลักพาตัวไอ้เด็กสองคนนั้นไม่ได้ ลักพาตัวภรรยาสุดที่รักก็ไม่ใช่วิธีการที่แย่สักเท่าไหร่…

“ถ้าครั้งนี้เราทำสำเร็จ มันก็คงเป็นการปลอบใจภรรยาและลูกที่ตายไปของฉันที่ดีเลยละ”

แต่ใครบอกว่าการเล่นงานถังหนิงเป็นเรื่องง่ายกันละ ต่อให้คนของชิวจิ่นกระจายตัวอยู่ตามสุสาน ต่อให้ปิดทุกทางเข้าออกเอาไว้ ก็ไม่มีใครหยุดประธานโม่จากการเข้าไปในสถานที่ที่เขาอยากเข้าไปได้

ไม่นานปรสิตซึ่งกำกับโดยไป๋จวินเหยี่ยก็เริ่มถ่ายทำอย่างจริงจัง ในเวลาเดียวกัน มดราชินีสองก็ได้เตรียมทีมงานอย่างรวดเร็ว มันแทบจะเป็นความฝันของคอภาพยนตร์ เพราะว่าความมุ่งมั่นของถังหนิง ภาพยนตร์ไซไฟจึงพัฒนาไปข้างหน้ายิ่งกว่าเดิม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่สถานะของถังหนิงในใจของทุกคนจะยกระดับขึ้นไปอีกขั้น

ในเวลานี้มีข่าวดีออกมาอีกหนึ่งเรื่อง หลังจากพักฟื้นหลังคลอดอยู่ที่บ้านมากว่าหนึ่งเดือน หลินเฉี่ยนก็ได้ประกาศว่าจะกลับมาดูแลจู้ซิงมีเดียอย่างเป็นทางการและบริษัทจะดำเนินการต่อไป พูดอีกความหมายคือเธอกำลังจะมาทำหน้าที่แทนถังหนิงในการเฟ้นหาคนที่มีความสามารถที่ถูกลืม

ในขณะเดียวกันหลงเจี่ยกลับมาอยู่ที่บ้านเพื่อเตรียมคลอด ตอนนี้ถังหนิงไม่จำเป็นต้องมีผู้ช่วย แค่ลู่เช่อก็เพียงพอที่จะคอยช่วยเหลือเธอได้แล้ว

ระหว่างนี้เองฟังอวี้ก้าวขึ้นมาช่วยโม่ถิง ในขณะที่ลู่เช่อใช้เวลาไปช่วยถังหนิงมากขึ้น

ตอนนี้สถานการณ์ในวงการบันเทิงดูสงบสุข ศิลปินหน้าใหม่แจ้งเกิดในวงการอยู่ทุกวัน ศิลปินหน้าเก่าเองก็ลาวงการไปเช่นกัน ข่าวซุบซิบนินทายังคงแพร่สะพัดต่อไป ศิลปินมีเรื่องทะเลาะกันไม่หยุด แต่ไม่มีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับถังหนิงอีกแล้ว อย่างไรเสียสถานะของเธอก็เหนือชั้นไปกว่าการเป็นแค่ศิลปิน ผู้สร้าง หรือนักแสดง เธอได้เป็นสัญลักษณ์ของภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมและการบุกเบิกวงการไซไฟอีกครั้ง มันทำให้ให้เธอกลายเป็นบุคคลสำคัญมากในวงการนี้

และแน่นอนว่าโม่ถิงก็เป็นคนที่สร้างบุคคลสำคัญคนนี้ขึ้นมา!

ทว่าไม่มีใครรู้ถึงเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นเบื้องหลัง โดยเฉพาะพวกเขาไม่รู้ว่าตอนนี้ถังหนิงกำลังถูกศัตรูหมายหัวเอาไว้อยู่…

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์
Status: Ongoing
ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset