คืนนั้น ตอนที่แขกทุกคนไปจากโรงพยาบาลและทุกอย่างสงบลง ถังหนิงก็สังเกตเห็นสีหน้าเหนื่อยล้าของโม่ถิงในที่สุด
“นอนพักสักหน่อยเถอะค่ะ ถ้าคุณยังไม่ยอมนอนอยู่แบบนี้ คุณจะหมดแรงก่อนที่ลูกจะเกิดอีกนะคะ” หัวใจถังหนิงปวดร้าวขณะที่พูดกับโม่ถิง “ฉันไม่ได้บอบบางขนาดนั้นค่ะ”
“ผมอยากจะเห็นลูกทันทีที่เขาเกิดมาครับ” โม่ถิงเอาหลังมือของถังหนิงมาถูแก้มของเขา “อีกอย่าง ผมสังเกตเห็นว่าคุณเจ็บท้องมาสักพักแล้ว แต่ผมไม่สามารถทำอะไรให้คุณได้เลย ทุกครั้งที่ผมคิดถึงเรื่องนี้ ผมก็รู้สึกผิดจนนอนไม่หลับครับ”
“ฉันยินดีเสียยิ่งกว่ายินดีที่จะทำสิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่นะคะ การมอบลูกให้กับคนที่ฉันรักน่ะ” ถังหนิงตอบซึ้งๆ “ขึ้นมานอนกับฉันบนนี้สักพักสิ”
“ผมกลัวว่าผมจะเบียดคุณ”
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ถังหนิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “นี่มันเตียงคู่นะคะ…”
ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนก็ไม่พยายามหาข่าวเกี่ยวกับถังหนิง มีเพียงซ่งซินเท่านั้นที่ใช้ทุกวิถีทางสืบหาเรื่องราวเกี่ยวกับเธออยู่ภายในวงการ โชคร้ายที่นอกเหนือจากกลุ่มคนที่สนิทกับถังหนิงแล้ว ก็ไม่มีใครรู้สถานการณ์ในปัจจุบันของเธอเลย และคนจากไห่รุ่ยนั้นก็ปิดปากเงียบกันหมด
ซ่งซินรับไม่ได้กับเรื่องนี้ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจจ้างนักสืบเอกชนคนหนึ่ง ถึงอย่างนั้น โม่ถิงก็ได้เตรียมบอดีการ์ดจำนวนมากให้เฝ้าห้องไว้ จึงยากมากที่จะได้เห็นถังหนิง ไม่ต้องพูดถึงสืบข้อมูลอะไรเลย
โม่ถิงรู้เรื่องนักสืบเอกชนคนนี้ผ่านเหล่าบอดี้การ์ด ในช่วงที่ชายหนุ่มว่า เขาถามลู่เช่อว่า “ต้วนจิ่งหงเป็นยังไงบ้าง”
“ขาของเธอหายดีมานานแล้วครับ แม้เราจะบังคับให้เธอไปอยู่วงเกิร์ลกรุป แต่เธอก็ทำงานอย่างหนักและปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ หากเราเร่งเธออีกสักหน่อย เธอก็จะสามารถเดบิวต์พร้อมกับคนอื่นๆ ในวงได้ครับ” ลู่เช่ออธิบาย
“งั้นก็ถึงเวลาที่จะทำให้ซ่งซินต้องเป็นทุกข์แล้วล่ะ…”
“เข้าใจแล้วครับ”
ด้วยนิสัยของซ่งซินแล้ว ลู่เช่อก็พอจะคาดการณ์ได้ว่าซ่งซินจะรู้สึกอย่างไรและท่าทีของเธอจะน่าสนใจแค่ไหนหากเธอรู้เรื่องที่ผู้เป็นเพื่อนรักอย่างต้วนจิ่งหงได้เดบิวต์กลายเป็นศิลปินที่มีอนาคตไกลยิ่งกว่าเธอ
ทว่าซ่งซินไม่ได้ล่วงรู้เรื่องนี้เลย
หญิงสาวพยายามติดต่อต้วนจิ่งหงดังปกติแต่เธอกลับหาตัวเธอไม่พบ นี่เป็นเพราะต้วนจิ่งหงกำลังอาศัยอยูที่หอพักที่ไห่รุ่ยจัดเตรียมเอาไว้ให้ อย่างไรก็ตาม ซ่งซินนั้นคิดเพียงแค่ว่าต้วนจิ่งหงกลับไปที่บ้านเกิดเพื่อพักรักษาตัว
“จิ่งหง ตอนนี้ขาของเธอหายดีมาสักพักแล้วนะ เมื่อไหร่เธอจะกลับมาอยู่เคียงข้างฉันงั้นเหรอ เรายังคืนวงการได้อยู่นะ เมื่อเวลานั้นมาถึง เธอก็สามารถกลับมาเป็นผู้จัดการยอดฝีมือของฉันได้”
ผู้จัดการ?
ต้วนจิ่งหงอดหัวเราะเยาะไม่ได้ ซ่งซินจะแค่ขอให้เธอลงมือทำตามแผนชั่วของตัวเองไม่ใช่หรือ
“ได้สิ ฉันเตรียมตัวแล้วล่ะ เราจะได้พบกันในเร็วๆ นี้แน่”
“งั้นตกลงตามนี้นะ ฉันจะได้ยกเลิกสัญญากับไห่รุ่ยในเร็วๆ นี้แหละ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เราก็สามารถกลับไปเป็นเหมือนที่เคยเป็นได้…”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ต้วนจิ่งหงก็อดรู้สึกขยะแขยงไม่ได้ หญิงสาววางโทรศัพท์ลงข้างๆ ปล่อยให้ซ่งซินหวนนึกถึงอดีตอยู่กับตัวเอง คนเราควรจะมองไปยังอนาคตข้างหน้า ในเมื่อต้วนจิ่งหงเคยถูกซ่งซินทำร้ายอย่างแสนสาหัสมาก่อน ไม่ว่าเธอจะโง่แค่ไหน เธอก็ไม่มีวันเป็นผู้ติดตามของซ่งซินอีก เพราะถึงอย่างไรก็ยังมีเส้นทางที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงรอเธออยู่
หญิงสาวผ่านอุปสรรคมากมายที่ไห่รุ่ยมอบไห่เธอมาแล้ว แม้จะยังขาดหลายๆ สิ่งอยู่ แต่ถ้าเป็นเรื่องเต้นแล้วล่ะก็ แม้แต่สมาชิกคนอื่นๆ ในวงก็ยังต้องยกนิ้วโป้งให้เธออย่างยอมรับ
“จิ้งหง ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลยล่ะ”
“สัญญาณที่นี่ไม่ค่อยดีน่ะ” ต้วนจิ่งหงตะโกนกลับไปที่โทรศัพท์พลางนวดขาไปด้วย
“อ้อใช่ ตอนนี้เธออยู่ที่ชนบทใช่ไหม ถ้างั้นมาเจอกันหน่อยนะถ้าเธอกลับมาแล้ว”
“ได้สิ” พูดจบต้วนจิ่งหงก็กดวางสาย เธอเริ่มเหนื่อยกับการเล่นละครกับซ่งซินแล้ว
อันที่จริง หญิงสาวเข้าใจความสำคัญของเธอที่มีต่อถังหนิงดี ถังหนิงกำลังรอคลอดลูกอยู่แต่ซ่งซินกลับตามสืบเรื่องของเธอไปทั่ว ดังนั้นบทบาทของต้วนจิ่งหงก็คือโจมตีซ่งซินซึ่งๆ หน้าเพื่อที่ซ่งซินจะได้ตื่นตกใจและหันเหความสนใจไปที่อื่น
นี่คือสิ่งที่เธอติดค้างฮั่วจิงจิงและถังหนิง หากมันคือสิ่งที่เธอต้องยอมสละเพื่อมีชื่อเสียงโด่งดัง หญิงสาวก็ยินดีจะแบกรับมัน
อีกอย่าง เธอจะปกป้องถังหนิงเพราะมันเป็นเพียงหนทางเดียวที่เธอจะไถ่บาปของตัวเองได้
…
ไม่กี่วันต่อมา เกิร์ลกรุปเอเชียวงใหม่ก็ประกาศการเดบิวต์ของพวกเขาในประเทศเกาหลีใต้ ไห่รุ่ยนั้นฉลาดในแง่มุมนี้ พวกเขาให้เด็กสาวทั้งสี่ไปเก็บเกี่ยวความนิยมและทำความคุ้นเคยกับเวทีที่ประเทศเกาหลีใต้ก่อน ไห่รุ่ยยังให้พวกเขาเทียบเคียงกับวงเกิร์ลกรุปของเกาหลีเพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถเกาะกระแสเกาหลีก่อนจะกลับมายังประเทศจีนพร้อมกับประสบการณ์ที่เก็บสะสมไว้
ดังนั้น ต้วนจิ่งหงจึงบินไปที่ประเทศเกาหลีใต้ในอีกหนึ่งวันหลังจากที่คุยกับซ่งซินผ่านทางโทรศัพท์…
วงเกิร์ลกรุปนี้มีสมาชิกทั้งหมดสี่คน และแต่ละคนก็มีจุดแข็งเป็นของตัวเอง แรกเริ่มเดิมทีสมาชิกคนอื่นๆ ในวงนั้นไม่ยอมรับต้วนจิ่งหง แต่ในที่สุดพวกเขาก็ต้องตะลึงและถูกตบเข้าที่หน้าด้วยการเต้นอันน่าประทับใจของเธอ
ซ่งซินไม่ได้เตรียมใจไว้สำหรับผลลัพธ์เช่นนี้เลย
อันที่จริง ในการโทรคุยกับต้วนจิ่งหงครั้งสุดท้าย หญิงสาวนั้นยังคงตื่นเต้นสุดตัว “จิ่งหง ฉันกำลังจะฟ้องชนะไห่รุ่ยแล้วนะ!”
ในตอนนั้น ต้วนจิ่งหงคิดกับตัวเองว่า “เธอไม่ได้กำลังจะชนะหรอก แต่หลังจากที่ยื้อเธอเอาไว้มานาน ก็ถึงเวลาแล้วที่ไห่รุ่ยจะมอบการโจมตีครั้งต่อไปให้เธอ”
“ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนเหรอ”
ซ่งซินไม่รอคำตอบของต้วนจิ่งหงพลางใส่ความตื่นเต้นเข้าไปอีก
“ต่างประเทศน่ะ”
“ทำไมไปต่างประเทศล่ะ” ซ่งซินหงุดหงิดเล็กน้อยที่ไม่รู้ว่าต้วนจิ่งหงอยู่ที่ไหน
“ฉันกำลังพยายามลดรอยแผลเป็นที่ขาน่ะ ขอบคุณสำหรับบัตรธนาคารของเธอนะ ฉันหาทางรักษามันได้ดีทีเดียวเลย”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น เราจะเจอกันได้เมื่อไหร่ล่ะ” ก่อนตอบคำถามของซ่งซิน ต้วนจิ่งหงหันไปถามกับกัปตันวงของเธอ
กัปตันวงกำลังทำท่าฉีกขาอยู่ เมื่อเห็นต้วนจิ่งหงจ้องมาทางเธอ หญิงสาวจึงหัวเราะอย่างรวดเร็ว “เราจะกลับไฟลต์เช้าในอีกสองวันข้างหน้าน่ะ…”
“อีกสองวันนะ!” ต้วนจิ่งหงตอบซ่งซิน
“เยี่ยม บอกเลขเที่ยวบินของเธอมาแล้วฉันจะไปรับเธอ”
“เอาสิ” ต้วนจิ่งหงพยักหน้า
หลังจากวางสาย ต้วนจิ่งหงก็มองหน้าสมาชิกวงทั้งสามคนที่อยู่ด้านหลังเธอแล้วยักไหล่ เด็กสาวทั้งสาวได้ยินเรื่องซ่งซินมาไม่มากก็น้อย ดังนั้นพวกเขาจึงอดหัวเราะไม่ได้ “พอถึงเวลาแล้วอย่าทำให้เราต้องอับอายล่ะ”
“เธอคืออาวุธลับที่เอาไว้โจมตีซ่งซินนะ ทำให้ดีที่สุดล่ะ ฉันศรัทธาในตัวเธอ! ฉันไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่หล่อนกล้าจะฟ้องไห่รุ่ยแล้ว แทงหล่อนให้ตายไปเลย!”
“ว่ากันตามตรงแล้ว ฉันก็เป็นแฟนคลับของถังหนิงนะ ฉันมาที่ไห่รุ่ยก็เพราะพี่หนิง แต่คุณซ่งกลับลงเอยด้วยการใช้ลูกไม้สกปรกมากมาย สารเลวจริงๆ! ฉันอยากตบหน้าหล่อนในนามของถังหนิงมานานแล้ว ต้องขออภัยให้กับความก้าวร้าวของฉันด้วยนะ” กัปตันวงกล่าวก่อนจะปิดปากด้วยความอับอาย
“ถ้าเธอทำให้ซ่งซินสิ้นท่าได้ ฉันจะเลี้ยงอาหารทะเลเธอเดือนนึงเลย!”
สมาชิกทั้งสาวแสดงการสนับสนุนให้ต้วนจิ่งหง แต่พวกเขาก็อดถอนหายใจไม่ได้ “ฉันสงสัยจังว่าถังหนิงคลอดหรือยัง เด็กคนนั้นจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันนะ เมื่อหนิงของเราหายดีแล้ว ซ่งซินจะถูกบังคับให้ต้องเริ่มจากก้นหลุมอีกครั้งอย่างแน่นอน!”
…
ทุกคนกำลังรอให้ลูกของโม่ถิงและถังหนิงเกิดมา ทว่าเด็กกลับไม่ยอมออกมาแม้ว่าจะเลยกำหนดคลอดไปแล้วก็ตาม
หมอหลายคนเข้ามาตรวจร่างกายถังหนิง ทุกอย่างปกติดี ดังนั้นพวกเขาจึงแนะนำให้เธอรอต่อไป ถังหนิงไม่พูด แต่โม่ถิงนั้นกลัดกลุ้มยิ่งกว่าภรรยาที่ตั้งท้องของเขาเสียอีก เพราะชายหนุ่มรู้ดีว่ายิ่งเด็กอยู่ในท้องของถังหนิงนานเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งต้องเจ็บปวดนานขึ้นเท่านั้น…