“โอเค” อันจื่อเฮ่าพยักหน้า
เฉินซิงเยียนได้ยินคำตอบของอันจื่อเฮ่าแล้ว ก็หันหลังกลับไปยังห้องนอนก่อนจะตรงเข้านอนหลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอเข้าใจว่าหากเธอทำตามคำสั่งของอันจื่อเฮ่า เขาจะไม่มีวันทิ้งเธอไป
แต่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำของเธอเป็นสัญญาณสะท้อนถึงความประมาทของตัวเอง เธอรู้เพียงแค่ว่าเธอรู้สึกไม่สบายใจอยู่ภายในแต่ไม่รู้จะพูดออกมาได้อย่างไร
อันจื่อเฮ่ารู้ดีว่าเขาได้ทำร้ายอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจึงวางงานในมือลงและเดินเข้าไปในห้องนอน ภายใต้ความมืด เขาเอื้อมมือออกไปโอบกอดเฉินซิงเยียนเอาไว้ “ขอโทษที่ไม่ได้ปกป้องหัวใจของเธอนะ”
เฉินซิงเยียนไม่พูดอะไร เธอเพียงแต่กัดลงไปบนแขนของอันจื่อเฮ่าและทิ้งรอยเขี้ยวลึกเอาไว้
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้หรือทอดทิ้งเธอ แต่ฉันหวังว่าเธอจะไม่ยอมแพ้ในตัวฉันเช่นกัน”
เฉินซิงเยียนยังเด็ก นิสัยเธอจึงยังไม่คงที่และจิตใจของเธอก็ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นอันจื่อเฮ่าจึงไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะอดทนมาได้ไกลขนาดนี้ตั้งแต่ต้น
เพราะถึงอย่างไร ก็เป็นเรื่องแน่นอนที่การรบกวนจากพ่อแม่ของอวิ๋นซินจะไม่มีทางจบลงง่ายๆ แต่กระนั้นเขาก็จะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหาทางแก้ไข
“โอเค” เฉินซิงเยียนเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะทนต่อไปได้นานแค่ไหนเช่นกัน
เธอไม่ชอบถูกใครบังคับมาตั้งแต่เด็กๆ ในขณะเดียวกันเธอก็ไม่ชอบบังคับตัวเองเพื่อคนอื่นเช่นกัน
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมีความรู้สึกพิเศษให้กับใครสักคน ดังนั้นเธอจึงหวังว่าความทุ่มเทของเธอจะไม่สูญเปล่าเพราะผู้ชายที่ไม่มีค่าพอ
…
หลังจากถังหนิงคลอดลูก ไห่รุ่ยปิดข่าวเรื่องนี้ไว้อย่างแน่นหนา แต่สื่อก็ยังสามารถถ่ายรูปซย่าอวี้หลิงกำลังอุ้มเด็กสองคนเอาไว้ได้ ส่งผลให้การตั้งท้องของถังหนิงกลับมาอยู่ในความสนใจของสื่ออีกครั้ง
โม่ถิงยังคงไม่ให้คำตอบกับสื่อในขณะที่เขาน้อมรับความคาดเดาต่างๆ ของสาธารณะ กระนั้นบริษัทต่างๆ เองก็ได้ยินข่าวนี้และเริ่มส่งสัญญามากมายมาถึงโม่ถิงผ่านทางลู่เช่อ
เพราะถึงอย่างไร โม่ถิงก็ยังคงเป็นผู้จัดการของถังหนิง!
“ท่านประธานครับ ร่างสัญญาพวกนี้เกี่ยวของกับเด็กทั้งหมด…”
พูดง่ายๆ คือโลกภายนอกกำลังบอกว่าถังหนิงควรจะเปลี่ยนสไตล์ได้แล้ว
เธอไม่ได้อยู่ในวัยสาวอีกต่อไป หลังการเป็นแม่ เธอต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงมากมายแน่
โม่ถิงไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองขณะที่เขาปัดสัญญาเหล่านั้นลงไปกองกับพื้น “จากนี้ไปอย่าเอาของแบบนี้มาวางบนโต๊ะฉันอีก”
“รับทราบครับ” ลู่เช่อเดาไว้แล้วว่าจะต้องเป็นเช่นนี้ เพราะเป็นเรื่องปกติที่โม่ถิงจะโกรธ ใครกันกล้ามาพูดว่าถังหนิงสามารถเป็นตัวแทนคนเป็นแม่ได้เพียงอย่างเดียว และใครกันที่กล้าพูดว่าภรรยาของเขาแก่
เขาจะทำให้ถังหนิงของเขาใช้ชีวิตอย่างอ่อนเยาว์ยิ่งกว่าเดิมอีก
“เราควรทำยังไงกับข่าวลือเกี่ยวกับการคลอดลูกของคุณผู้หญิงดีครับ”
“ฉันจะหาโอกาสอธิบายเรื่องนี้เอง” โม่ถิงกล่าวก่อนกลับไปง่วนอยู่กับเอกสารในมือ
ขณะเดียวกัน ถังหนิงได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นผ่านทางช่องทางข่าวสารเล็กๆ น้อยๆ มากมายของหลงเจี่ย ว่ามีโอกาสและสัญญามากมายแค่ไหนมาเสนอให้เธอจากบรรดาบริษัทเกี่ยวกับเด็ก กระนั้นปฏิกิริยาของเธอไม่ได้แตกต่างไปจากของโม่ถิง
“คนพวกนั้นต้องตาบอดแน่ๆ ดูหุ่นกับผิวตึงๆ ของคุณสิ เหมือนแต่ก่อนเปี๊ยบเลยนะ” หลงเจี่ยพูดไปด้วยกินไปด้วย “ทำไมเราไม่ขอให้นายใหญ่จัดการเปิดตัวเธอบนรันเวย์ไปเลยล่ะคะ”
การคงความสาวและสดใสไว้ได้ตลอดกาล เป็นเส้นแบ่งที่ชัดเจนมากสำหรับศิลปินคนหนึ่ง
ถังหนิงไม่พูดอะไรเลย เธอเพียงแค่มองไปที่สัญญาของ ‘ชายาหนิง’ และทำเป็นไม่สะทกสะท้าน
“ว่าแต่ตอนนี้ทุกคนกำลังเดาเพศของลูกคุณไปต่างๆ นานา แถมยังพูดกันด้วยว่าลูกคุณเกิดมาพิการหรือเปล่า ฉันคิดว่าถึงเวลาที่คุณจะออกมาพูดได้แล้วนะคะ แน่นอน ไม่ใช่การทำเพื่อพวกสอดรู้สอดเห็นพวกนั้น แต่ทำเพื่อแฟนๆ ของคุณต่างหาก คุณซื่อสัตย์ต่อคนพวกนั้นมาตลอดนี่นะ”
ถังหนิงพยักหน้าพลางนำคำพูดเหล่านั้นมาไว้พิจารณา กระนั้นขณะที่เธอมองวิธีที่หลงเจี่ยสวาปามอาหารตรงหน้า เธอก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “เธอไม่คิดว่าตัวเองกินเยอะดื่มเยอะไปหน่อยเหรอ”
“ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมค่ะ แต่หมู่นี้ฉันชอบกินนู้นกินนี่เป็นพิเศษ” หลงเจี่ยบ่นงึมงำ
“เธอได้ตรวจบ้างหรือไง เธอท้องหรือเปล่า”
ท้อง?
หลงเจี่ยตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้นี่มาก่อน หลังจากไป๋ลี่หวาบอกให้เธอเปลี่ยนบรรยากาศเมื่อครั้งก่อน ความกังวลของเธอก็หมดไปและเธอแค่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ถ้าถังหนิงไม่ได้เตือนเธอถึงความเป็นไปได้นี้ เธอคงคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับกระเพาะของเธอแน่
“ฉันจะตรงไปตรวจที่โรงพยาบาล”
“ไปสิ” ถังหนิงพยักหน้า “โทรหาลู่เช่อด้วยล่ะ เธอต้องมีใครสักคนไปเป็นเพื่อนนะ”
“ได้ค่ะ” หลงเจี่ยกล่าวก่อนจะหายไปจากสายตาของถังหนิงอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น ถังหนิงตกอยู่ในห้วงความคิด
เธอไม่อาจยอมรับสิ่งที่โลกจำกัดความตัวเธอหลังจากการคลอดลูกได้ ส่งผลให้เธอฝึกฝนร่างกายของตัวเองหนักขึ้นกว่าเดิม
คืนนั้น โม่ถิงกับมาถึงบ้านก็พบว่าถังหนิงยังคงอยู่ในห้องออกกำลังกาย ชายหนุ่มจึงเดินไปให้นมลูกๆ กระนั้นถังหนิงได้เห็นว่าเขากลับมาแล้ว ขณะที่โม่ถิงกำลังอุ้มลูกชายคนหนึ่งขึ้นมา ถังหนิงได้ถ่ายรูปช่วงเวลาแห่งความรักนั้นเอาไว้ได้
เมื่อโม่ถิงเงยหน้าขึ้นมาและพบว่าถังหนิงกำลังถ่ายรูปอยู่นั้น เขาพูดขึ้น “มาใช้รูปที่คุณถ่ายในการแถลงข่าวกับสื่อกันเถอะ”
ถังหนิงพยักหน้าและเข้าใจเจตนาของโม่ถิงเป็นอย่างดี ทั้งสองต้องการจัดการกับข่าวลือ โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดจากคำใส่ร้ายของฮว่าเหวินเฟิ่งก่อนหน้านี้
ดังนั้นถังหนิงจึงล็อกอินเข้าไปในโซเชียลมีเดียของโม่ถิงและโพสต์รูปของคู่พ่อลูกลงไปพร้อมกับคำบรรยายสั้นๆ ว่า [ปะป๊าถิง]
หลังสาธารณชนได้เห็นรูปดังกล่าว ทุกคนต่างพากันตื่นเต้น
[ถังหนิงคลอดโม่ถิงน้อยออกมาแล้ว!]
[เป็นลูกชาย! ถังหนิงนี่รู้วิธีฉีกหน้าคนได้ดีจริงๆ!]
[ทุกคนต่างพากันคิดไปต่างๆ นานาว่าลูกของเธอเข้าโรงพยาบาล ในที่สุดพวกเราก็ได้สบายใจเสียที ดูรูปน่ารักพวกนั้นสิ…]
[ปะป๊าถิงกำลังอิ่มรัก…]
[ฉันไม่ชอบโพสต์นี้เลย ไม่เป็นมีถังหนิงเลยอ่ะ]
[หุ่นของถังหนิงต้องอ้วนเผละไปแล้วแน่ๆ]
โม่ถิงบอกถังหนิงให้โพสต์เช่นนี้เพราะเขาต้องการให้เธอยังคงเป็นปริศนาและป้องกันไม่ให้สื่อต่างๆ ตัดสินใจว่าเป็นแค่แม่ธรรมดาคนหนึ่ง
ในขณะที่ทำเช่นนั้น ถังหนิงไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะว่าเธอได้ให้กำหนดลูกหนึ่งหรือสองคนเช่นกัน!
“ก่อนการกลับเข้าสู่วงการแสดง ผมได้รับงานโฆษณาไว้ให้คุณตัวหนึ่งครับ” โม่ถิงกล่าวขณะที่เขาอยู่ในห้องอาบน้ำกับถังหนิงหลังจากส่งเด็กๆ เข้านอนแล้ว “เป็นแบรนด์เครื่องสำอางราคาแพงที่มีชื่อเสียงโด่งดังของต่างประเทศ”
นี่เป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับถังหนิง พูดตามหลักแล้วหลังจากการถอนตัวออกจากวงการมาเนิ่นนาน ชื่อเสียงของเธอควรจะซ่าลงแต่กลับกัน เธอไม่ได้รับผลกระทบเลยแม้แต่น้อย ทั้งหมดนี่ต้องขอบคุณหนังทั้งสามเรื่องของเธอ เนื่องจากการฉายในต่างประเทศมักจะล่าช้ากว่าการฉายภายในประเทศเสมอ ทำให้ ‘คนรักที่สาบสูญ’ เพิ่งจะเริ่มฉายในต่างประเทศ
ขณะที่ชื่อเสียงของเธอกระจายไปในต่างประเทศ จึงเป็นเรื่องง่ายที่เธอจะคว้าตำแหน่งตัวแทนแบรนด์ระดับโลกไว้ได้
“ทำไมคุณถึงเลือกทำแบบนี้คะ”
“เพราะผมต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าผู้หญิงของผมยังคงงดงามอย่างน่าทึ่งเหมือนเดิมไงล่ะ!”
ถังหนิงพยักหน้า
ขณะที่เธอฝึกซ่อมร่วมกับโม่ถิงนั้น โปรเจกต์ตัวแทนแบรนด์ก็ได้เริ่มมีความคืบหน้า
แน่นอนว่าวิสัยทัศน์ของดม่ถิงยังคงเฉียบแหลมเฉกเช่นทุกครั้ง เหตุผลที่เขาช่วยให้ถังหนิงได้งานโฆษณาครั้งเพราะตัวโฆษณาขะช่วยสร้างภาพลักษณ์ของผู้หญิงตะวันตกที่ดูโฉบเฉียวและยังสามารถช่วยถังหนิงได้เฉิดฉายความพลังที่อยู่ภายในตัวเธอ
เมื่อเวลานั้นมาถึง เขาจะบอกบริษัทผลิตภัณฑ์เด็กทุกเจ้าว่านี่คือผู้หญิงของเขาและเธอไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อนเลยแม้แต่น้อย!