วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 740 ตัดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

“เข้าใจแล้ว” อันจื่อเฮ่าพูดด้วยเสียงอู้อี้

 

 

พูดให้ชัดคือเขาไม่เพียงแค่เข้าใจแต่จิตใจของเขาก็ชัดเจนขึ้นด้วย

 

 

เรื่องที่เฉินซิงเยียนมีความหมายกับเขาและอยู่ในตำแหน่งไหนในหัวใจเขานั้นชัดเจนยิ่งกว่าน้ำแข็ง เขาตระหนักดีว่าอวิ๋นซินเป็นอดีตไปแล้ว ดังนั้นเขาจะไม่ปล่อยให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องสองคนมาทำร้ายแฟนสาวของเขา

 

 

ดังนั้น ไม่สนว่าจะเป็นเวลาค่ำมืดเพียงใด อันจื่อเฮ่าออกตามหาร้านขายโทรศัพท์มือถือที่ยังคงเปิดให้บริการอยู่แล้วช่วยสั่งซิมการ์ดอันใหม่ให้เฉินซิงเยียนและนำมันไปส่งให้เธอโดยตรง ทว่าเขาขอให้ถังหนิงไม่ต้องปลุกเฉินซิงเยียนขึ้นมา

 

 

ถังหนิงรับโทรศัพท์เอาไว้และส่ายหน้า แต่เธอก็ยังช่วยเพื่อนของเธออยู่ดี ทางที่ดีเธอไม่ควรเข้าไปยุ่งกับความสัมพันธ์ของคนอื่น

 

 

แม้เธอจะมีเจตนาดีก็ตาม

 

 

อีกอย่างเธอเข้าใจดีว่าไม่มีใครเหมือนโม่ถิงที่จะรับรองความปลอดภัยของเธอ ไม่ว่าเขาจะไร้ความปรานีแค่ไหนก็ตาม กระนั้นเธอเชื่อว่าอันจื่อเฮ่าได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว

 

 

“ฉันยอมให้คุณทำเฉินซิงเยียนเสียใจแค่ครั้งเดียว ห้ามมีครั้งที่สอง!”

 

 

“ไม่ต้องห่วงครับ” อันจื่อเฮ่าแสดงออกถึงความมุ่งมั่น ขณะที่เขาจากไปสายตาเขาดูมั่นคง

 

 

กระนั้นก็ตาม เขาจะใช้เวลาทั้งคืนครุ่นคิด เพราะเขากลัวว่าเฉินซิงเยียนจะยอมแพ้ และกลัวว่าตัวเองจะตัดสินใจผิดพลาด แต่ถ้าชีวิตไม่ก้าวต่อไปก็จะไม่มีผลลัพธ์ใดๆ เกิดขึ้น ถ้าเป็นเช่นนั้นความเจ็บปวดของเฉินซิงเยียนก็จะไม่มีวันสิ้นสุด…

 

 

เขาจะไม่มีวันปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น!

 

 

 

 

ที่จริงแล้วในคืนนั้น เฉินซิงเยียนได้ทำร้ายตัวเองด้วย นับตั้งแต่ทั้งสองเริ่มคบหากัน วันเวลาของพวกเธอผ่านไปอย่างหวานชื่น ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างวันนี้เป็นเรื่องที่หาได้ยาก…

 

 

แต่ความขัดแย้งเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะแทงลึกเข้าไปถึงก้นบึ้งของหัวใจเธอ ซึ่งมันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลย

 

 

ดังนั้นหลังจากร้องไห้กว่าครึ่งค่อนคืน ในที่สุดเฉินซิงเยียนก็ผล็อยหลับไป แน่นอนว่าถังหนิงในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการฝึกอบรมคนอื่นรู้ดีว่าเฉินซิงเยียนจะแทบไม่ได้นอนในช่วงหัวค่ำ เธอจึงยังไม่ได้เอาโทรศัพท์ให้อีกฝ่าย จนกระทั่งเธอตื่นขึ้นมาเพื่อให้นมเด็กๆ ตอนรุ่งสาง ถังหนิงจึงวางโทรศัพท์เครื่องนั้นไว้บนโต๊ะข้างเตียงนอนของเฉินซิงเยียน

 

 

เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังหลับลึก ถังหนิงก็ส่ายหน้า “น่าสงสารจริง ร้องไห้ซะขนาดนั้น”

 

 

ดวงตาทั้งสองข้างของเฉินซิงเยียนบวมตุ่ยราวกับไข่ห่าน

 

 

แต่นี่เป็นเรื่องปกติของผู้หญิงและถังหนิงรู้ดีว่าความรักจะทำให้คนเราเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นต่อให้ถังหนิงรู้สึกปวดใจเล็กๆ เธอก็จะไม่เข้าไปยุ่ง

 

 

ไม่นานนัก… ดวงอาทิตย์ขึ้นเต็มที่ในที่สุด เฉินซิงเยียนลุกขึ้นนั่งบนที่นอนด้วยความงัวเงียและสังเกตเห็นโทรศัพท์เครื่องหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอนซึ่งดูเหมือนเครื่องเดิมที่เธอเคยมีอย่างไม่ผิดเพี้ยน ใช่แล้ว… นี่มันเหมือนเดิมเป๊ะเลย!

 

 

เฉินซิงเยียนรีบวิ่งออกจากห้องพร้อมผมอันยุ่งเหยิง เมื่อเห็นถังหนิงกำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ เฉินซิงเยียนก็เอ่ยถามขึ้น “พี่หนิง โทรศัพท์นี่มาจากไหนงั้นเหรอ”

 

 

“’ บางคน’ เอามาส่งเมื่อคืนนี้” ถังหนิงตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ

 

 

“เขาไม่พูดอะไรเลยงั้นเหรอ”

 

 

“เขาบอกฉันไม่ให้รบกวนการนอนของเธอและให้เธอพักผ่อนอย่างเต็มที่” ถังหนิงกล่าวก่อนที่เธอจะเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมอาหารเช้าของโม่ถิง

 

 

แต่หัวใจเฉินซิงเยียนเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเสียงกลอง

 

 

เมื่อคืนเธอถูกครอบงำด้วยความรู้สึกมากมาย แต่วันนี้ด้วยการกระทำเดียวของอันจื่อเฮ่า ปัญหาทั้งหมดของเธอได้มลายหายไปจะหมดสิ้น

 

 

ความรัก…

 

 

…สิ่งที่ไม่ต้องมีเหตุผล เป็นสิ่งที่ไม่มีกฎเกณฑ์หรือคำอธิบายใดๆ

 

 

“เธอแน่ใจเหรอว่าอยากจะไปที่สตูดิโอด้วยหน้าตาแบบนั้น ผู้ช่วยของเธอกำลังรอเธออยู่…” ถังหนิงกลับไปในห้องครัวหลังจากนั้นสักครู่แล้วชี้ไปยังแขกที่กำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น

 

 

เฉินซิงเยียนหันไปมองเสี่ยวซีก่อนที่เธอจะรีบกลับเข้าไปจัดการตัวเองในห้อง จากนั้นเธอจึงเดินไปหาน้องเจ็บและกล่าว “ไปกันเถอะ”

 

 

“ไม่กินข้าวเช้าเหรอ” ถังหนิงถามพลางกอดอก

 

 

“ไม่ล่ะ…” เธอจะไปอยากอาหารได้ยังไง

 

 

กระนั้นอันจื่อเฮ่ารู้ดีว่าเธอชอบไม่กินข้าวเช้า เขาจึงสั่งเสี่ยวซีให้นำอาหารมาให้เธอด้วย แต่เสี่ยวซีรอจนพวกเธอขึ้นมาบนรถตู้ก่อนจะส่งอาหารเช้าให้เธอ “คุณอันเอามาให้ค่ะ”

 

 

ขณะที่เฉินซิงเยียนมองดูที่อาหารเช้าพวกนั้น ดวงตาทั้งสองข้างของเธอแดงก่ำทันที เมื่อคืนนี้เธอหนีออกมาโดยไม่ทันได้คิดทั้งที่เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของอันจื่อเฮ่าด้วยซ้ำ

 

 

เธอคิดอะไรได้มากมายหลังผ่านไปหนึ่งคืนเต็ม

 

 

เธอพึ่งพาอันจื่อเฮ่ามากเกินไป หากวันหนึ่งเขาต้องการจะจากไป เธอจะยังยืนอยู่ได้ไหม

 

 

“คุณเฉินอยากกลับไปที่บ้านก่อนไหมคะ หรือจะตรงไปที่สตูดิโอเลย”

 

 

“ตรงไปที่สตูดิโอกันเถอะ” เฉินซิงเยียนตอบ อันจื่อเฮ่าทำเพื่อเธอมากมายโดยหวังว่าเธอจะพัฒนาและเติบโตขึ้น ดังนั้นเธอจะทำให้เขาผิดหวังไม่ได้

 

 

เสี่ยวซีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยแต่เธอยังคงเชื่อฟังคำสั่งของเฉินซิงเยียนและขับตรงไปยังสตูดิโอ

 

 

เฉินซิงเยียนไม่ได้ติดต่อหาอันจื่อเฮ่าในทันทีเพราะเธอยังต้องการเวลาในการพิจารณาตัวเธอเอง

 

 

แน่นอนว่าอันจื่อเฮ่าเองก็ไม่ได้รีบร้อนติดต่ออีกฝ่ายเช่นกัน เพราะถึงอย่างไรเขาก็รู้ตารางงานทุกอย่างของเธอและรู้ดีว่าเธออยู่ที่ไหน

 

 

เพื่อเซอไพรส์อีกฝ่ายในคืนนั้น เขาไม่ได้โทรเช็กอาการของเธอหรือไม่แม้แต่จะบอกให้เธอทำตัวดีๆ

 

 

หลังจากทำงานมาทั้งวัน เฉินซิงเยียนก็ทุ่มเทตั้งใจทำงานมากกว่าแต่ก่อน ขณะที่เธอเดินออกมา เธอชำเลืองมองนาฬิกาของตัวเองก๋พบว่าเป็นเวลาสามทุ่มแล้ว

 

 

“ให้ฉันพาไปส่งที่บ้านไหมคะ” เสี่ยวซีเสนอ

 

 

เฉินซิงเยียนค่อนข้างเหนื่อยล้า เธอจึงพยักหน้ารับ ถึงเวลาที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แล้ว มีอีกหลายสิ่งที่เธอต้องการพูดกับอันจื่อเฮ่า

 

 

ไม่ช้าไม่นาน รถตู้ได้ขับมาถึงด้านหน้าอะพาร์ตเมนต์ของอันจื่อเฮ่า เฉินซิงเยียนโบกมือลาเสี่ยวซีและเดินเข้าไปในอะพาร์ตเมนต์ด้วยตัวเอง เดิมทีเธอคิดว่าอันจื่อเฮ่าน่าจะยังไม่อยู่บ้าน แต่เธอต้องประหลาดใจเพราะอันจื่อเฮ่ากำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นพร้อมกับป้าอวิ๋นและลุงอวิ๋น ภาพตรงหน้าทั้งน่าขบขันแต่ก็ดูเข้ากัน

 

 

มันดูราวกับพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันและเธอเป็นเพียงคนนอกเท่านั้น

 

 

ด้วยความคิดเช่นนี้ เฉินซิงเยีนอยากจะหันหลังกลับและเดินออกไป แต่อันจื่อเฮ่าเรียกเธอเอาไว้ “มานี่สิ…”

 

 

เฉินซิงเยียนอึ้งเล็กน้อย แต่ภายใต้สายตาปลอบโยนของอันจื่อเฮ่า สุดท้ายเธอเกิดมาอยู่ข้างเขาอย่างเชื่อฟังและนั่งลง ลุงอวิ๋นและป้าอวิ๋นดูไม่พอใจขณะที่พวกเขาเอ่ยปากถามขึ้นมาทันที “นี่มันหมายความว่ายังไงกัน เธอเรียกพวกเรามาเพื่อพลอดรักให้ดูหรือไง

 

 

ย้อนกลับไปตอนที่เธอคบกับอวิ๋นซิน เธอสัญญาว่าจะไม่มีวันรักคนอื่นอีก”

 

 

“คุณป้าจะพูดอะไรให้มีหลักฐานด้วยนะครับ” อันจื่อเฮ่าโต้แย้ง

 

 

“อวิ๋นซินไม่อยู่อีกแล้วนี่ เธอก็เลยจะปฏิเสธอยู่แล้ว…”

 

 

“สำหรับผม ถ้าผมพูดอะไรไว้ผมก็จะยอมรับ แต่ถ้าไม่ ผมก็จะไม่มีแสร้งทำเป็นว่าผมพูด ผมมั่นใจว่าแฟนผมเชื่อมั่นในตัวผม” อันจื่อเฮ่ากล่าวก่อนที่เขาจะหันมามองเฉินซิงเยียน “ใช่ไหม”

 

 

เฉินซิงเยียนพยักหน้าด้วยความหนักแน่น

 

 

“เห็นไหม…”

 

 

“พอแล้ว หยุดพูดจาวกวนสักที บอกมาตามตรงว่าเธอเรียกพวกเรามาที่นี่เพื่ออะไร”

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset