ตอนที่ 897 กลับมาแต่งงานอีกครั้ง
ธัชชัยอุ้มตะวันลูกชายของเขา พลางโอบวัจสา จนหญิงสาวใจอ่อน ยอมขึ้นรถของเขา
ระหว่างทางที่กำลังขับไปยังอำเภอ
“ธัชชัย นายช่วยฉันแค่นี้ แล้วมาหลอกให้ฉันคืนดีด้วยงั้นเหรอ?”
รอจนวัจสากว่าจะคิดขึ้นมาได้ ก็ถูกธัชชัยพามาถึงหน้าอำเภอแล้ว
“คุณวัจสาสุดสวยครับ ผมได้ขอคุณแต่งงานไปแล้วนะครับ ภาพพรีเวดดิ้งของพวกเราก็ถ่ายแล้ว แหวนคุณก็สวมแล้ว ผมก็ได้สัญญากับลูกชายไว้แล้ว ว่าจะจีบคุณกลับมาภายในสามเดือน คงไม่ทำให้พ่อคนนี้ผิดคำพูดกับลูกชายนะครับ?”
“พูดอีกอย่างว่า ที่นายขอฉันแต่งงานอีกครั้งเพราะลูกชายใช่ไหม?”
“ทำไมหาเรื่องกันอีกแล้ว? เธอควรจะรู้ไว้ว่า ฉันพูดกล่อมให้เจ้าเด็กน้อยนี่ยอมรับแม่เลี้ยงยังง่ายเสียกว่าตามจีบเธอ!”
“ฉันจะแต่งงานกับเธออีกครั้ง ไม่เกี่ยวกับลูก แต่เป็นเพราะฉันขาดเธอไม่ได้ เป็นคนที่ฉันรักที่สุด และเป็นผู้หญิงที่ฉันอยากจะใช้ชีวิตด้วยไปตลอดชีวิต ฉันไม่อยากจะแก่ตายโดยลำพัง วัจสา เธอจะยอมตกลงไหม?”
สิ่งที่ธัชชัยพูดออกมา ทำให้วัจสาตื้นตันมาก เธอมองผู้ชายที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า แล้วก็ร้องไห้ออกมาด้วยความประทับใจ
รีบเข้าไปกอดชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเอาไว้
ธัชชัยนั้นเตรียมตัวมาดี เขาพกเอกสารไว้ที่ตัวตลอด
ผ่านไปซักพัก วัจสาก็ได้ทะเบียนสมรสของตัวเองกลับคืนมาอีกครั้ง
มองทะเบียนสมรสเล่มสีแดงนั้น แล้วเธอก็ยิ้มขึ้นมาทั้งน้ำตา
ณ ตอนนั้น วัจสารู้สึกเหมือนตัวเองเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง เธอเป็นภรรยาของธัชชัยอย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ว่าจะเป็นทางพฤตินัยหรือนิตินัย เธอก็เป็นภรรยาของเขาแล้ว
“ฉันเป็นภรรยาของธัชชัยอีกครั้งแล้ว ไม่อยากรู้ว่าฉันรู้สึกอย่างไรเหรอ?”
ธัชชัยโอบเอวของหญิงสาวเข้ามา แล้วบรรจงหอมลงบนใบหน้าของเธอ พลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “อยากสอบถามคุณภรรยาว่า รู้สึกอย่างไรครับ?”
“ความรู้สึกมันช่าง ยอดเยี่ยมไปเลย!”
มือเล็กๆของวัจสาค่อยๆล้วงเข้าไปในเสื้อชองชายหนุ่ม สัมผัสตรงแผงอกอันแข้งแรงของเขา วัจสารู้ดีว่านี่เป็นจุดไวต่อสัมผัสของเขา และเป็นจุดอ่อนของเขาเช่นกัน
“ได้สิ ฉันจะให้จังหวะ แล้วเธอร้องให้ดังๆไปเลยนะ!”
มองจากนัยน์ตาของวัจสา ชายหนุ่มมองเห็นแววตาที่เป็นระยิบระยับจากดวงตาของเธอ
“อื้อ…อืม!” เสียงครางนั้นดังขึ้นเพราะ หญิงสาวได้ล้วงมือไปที่เอวของชายหนุ่ม
“ธัชชัย ครั้งนี้จะให้นายจำไว้ว่า : เมื่อกี้นายคุกเข่า ขอร้องคืนดีกับฉัน!”
หลังจากผ่านวินาทีอันแสนทรมาน วัจสาก็เขย่งขึ้น แล้วจูบเขา
บดขยี้ที่ริมฝีปากของเขา ช่องระหว่างฟันและริมฝีปากนั้นมีเพียงลมหายใจของชายหนุ่ม
“ธัชชัย จูบนี้เป็นการบอกนาย ว่าฉันวัจสารักนายมากขนาดไหน! ต่อให้เจอความลำบากมากมาย ฉันก็จะไม่หยุดรักนาย!”
หลังจากพูดจบ เธอก็ทิ้งชายหนุ่มที่ถูกจูบจนเสียสตินั้น แล้วเดินมุ่งไปยังรถPorsheสีดำ
หนูน้อยตะวันตื่นมาด้วยหอมของหม่ามี๊
หนูน้อยพอใจกับการปลุกแบบนี้มาก
“ตะวัน…หม่ามี๊รักหนูมากๆนะ!”“ตะวันก็รักหม่ามี๊มากๆเหมือนกัน!” หนูน้อยโอบคอหม่ามี๊เอาไว้ แล้วหอมกลับอย่างแรง“ตะวัน หม่ามี๊จะให้ดูรูปหนึ่ง หม่ามี๊หรือคุณพ่อดูดีกว่ากัน?”วัจสาอุ้มหนูน้อยที่ยังงัวเงียอยู่ขึ้นมา แล้วเปิดหนังสือทะเบียนสมรสให้หนูน้อยดูหนูน้อยยังไม่รู้จังสิ่งที่เรียกว่า “หนังสือสมรส” แต่เขาเห็นภาพของหม่ามี๊และคุณพ่อถ่ายภาพคู่กันอย่างหวานชื่น“นี่! หม่ามี๊ทำไมไปถ่านรูปกันไม่เรียกลูกชายสุดที่รักไปด้วย? ยอมไม่ได้จริงๆ!”หนูน้อยรีบโวยวายขึ้นมา“นี่เป็นรูปพรีเวดดิ้งที่ถ่ายได้แค่สองคน เลยไม่พานายไปด้วย ฉันกับพ่อสารเลวของนายคืนดีกันแล้ว ดังนั้นตั้งแต่นี้ไปนายจะเรียกเขาว่าคุณพ่อ ปะป๊า หรือปะปี๊ ก็แล้วแต่นายเลย!”วัจสาในตอนนั้นมีความสุขมาก“ฉันไม่เรียก! พวกเธอนิสัยไม่ดี ไม่พาฉันไปด้วย! สารเลวธัชชัยนิสัยไม่ดีที่สุด!”เพื่อเป็นการรักษาแผลใจของหนุน้อย ทั้งสามคนจึงกลับไปที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง เพื่อถ่ายรูปพวกเขาสามคนหลังจากทานอาหารเย็นสุดอลังการเสร็จ วัจสาบอกว่าจะพาหนูน้อยกลับไปที่อ่าวไม่คิดว่าธัชชัยจะตกลง“พอดีฉันมีธุระจะไปหากรดล เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันมารับกลับไปนะ!”“ธัชชัย! นายจะไปหากรดลเหรอ! พาฉันไปด้วยสิ! ฉันชอบรังผีของกรดลมาก! เหมือนปราสาทลึกลับ!”ทุกครั้งที่พูดถึงกรดล หนูน้อยก็จะดูตื่นเต้นและนับถือมาก“ครั้งหน้าค่อยพานายไป ครั้งนี้พ่อจะไปทำธุระ!”แววตาของชายหนุ่มเผยความโหดเหี้ยมออกมาเล็กน้อย……สิบสองเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูอ่าวเพราะธัชชัยไม่มีทางที่จะเข้าไป ดังนั้นหน้าที่ออกมารับวัจสาสองแม่ลูกจึงตกอยู่ที่เขาวัจสาจูงมือหนูน้อยที่ง่วงจนแทบไม่ลืมตาลงมาจากรถสิบสองรีบไปรับหนูน้อยมาอุ้มเอาไว้หนูน้อยพยายามลืมตากลมโตที่อยู่ในความง่วงนั้น แล้วเกยคางที่ไหล่ของสิบสอง พลางโบกมือให้ธัชชัยหลังจากที่มองภรรยาตัวเองและลูกชายเข้าไปด้านในกับสิบสอง ธัชชัยจึงเริ่มขับรถออกไป“สิบสอง ฉันหาแฟนให้นายดีกว่า เห็นนายก็ไม่เด็กแล้ว คงจะต้องมีแฟนบ้างแล้ว!”คืนนี้วัจสาอารมณ์ดีมาก เรื่องดีๆที่เกิดขึ้นระหว่างวันยังทำให้เธอมีความสุขจนถึงตอนนี้“ถ้าผู้หญิงวุ่นวายและงี่เง่าแบบเธอ ฉันยอมแก่ตายไปกับพ่อเลี้ยงดีกว่า!”สิบสองที่เดินเข้ามายังคฤหาสน์แล้ว ได้แต่ทิ้งคำพูดที่ดูน่าหมั่นไส้ไว้ให้วัจสาวัจสา “???” เธอวุ่นวายและงี่เง่าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?แต่เธอก็ไม่ได้โกรธ รู้สึกว่าสิบสองเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่เหมือนกับคนนั้น ที่ปากหวานเสียยิ่งกว่าอะไรนั้นเพียงแค่คิด ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ราวกับความฝัน เหมือนกับเธอกลับไปเมื่อห้าปีก่อน หลังจากตื่นขึ้นมา ยังคงไปเรียนเหมือนเดิมและเรื่องคืนดีพวกเธอก็คืนดีกันแล้ววัจสารู้สึกว่าท่าทางของชายหนุ่ม ตอนคุกเข่าของเธอแต่งงานนั้น หล่อมาก!เขาบอกว่าเธอคือผู้หญิงที่เขาอยากจะใช้ชีวิตด้วยตลอดไป…แค่คิดก็รู้สึกดีใจแล้ว“สิบห้า ดึกขนาดนี้เพิ่งจะกลับมา พ่อเลี้ยงรอกินข้าวด้วยอยู่นะ!”บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารมากมาย และอำเภอพัดรักนั่งชงชาอยู่ด้านข้าง ราวกับกำลังใช้วิธีนี้ในการรอเวลา อย่างที่เขาบอก ว่ากำลังรอสิบห้ากลับมา“สิบห้ากินกับพ่อสารเลวมาแล้ว!”หนูน้อยลงมาจากแขนของสิบสอง แล้วปีนไปบนตักของอำเภอพัดรักพ่อเลี้ยงของเขาด้วยความลำบากอำเภอพัดรักที่ไม่ได้กอดหนูน้อยมานานก็คิดถึงเขามาก“อย่าเรียกพ่อว่าสารเลว นายเรียกว่าคุณพ่อสิถึงจะถูกต้อง”อำเภอพัดรักบอกหนูน้อยด้วยเสียงอ่อนโยน อยากจะแก้ไขคำว่า “สารเลว” ที่ใช้ว่าลูกชายของอำเภอพัดรัก ถ้าลูกชายเขาเป็น “สารเลว” แล้วเขาไม่ใช่ “ไอแก่ที่สารเลว” เหรอ?“หึ จะเรียกเขาว่าสารเลว! ใครสั่งให้เขาไปจดทะเบียนกับหม่ามี๊ ไปถ่ายรูปแต่งงานไม่พาผมไปด้วย! ในรูหนังสือสีแดงนั้นก็มีแค่รูปคู่ของพวกเขาสองคน!”หนูน้อยโกรธขนาดนี้ เพราะในทะเบียนสมรสไม่มีรูปเขา“จดทะเบียนสมรส?” อำเภอพัดรักชะงักไป “วัจสาพวกเธอแต่งงานกันแล้วเหรอ?”วัจสาไม่ได้จะปิดบังอำเภอพัดรัก แต่เธอก็ไม่คิดว่าเขาจะได้ข่าวนี้จากปากลูกชาย“อืม” วัจสาพยักหน้าแต่เมื่อคิดดูแล้ว ตัวเองแต่งงานกลับธัชชัย ความสัมพันธ์ของอำเภอพัดรักและเธอตอนนี้ก็ดูแปลกๆ…อำเภอพัดรักกลายเป็น…พ่อสามี?”แล้วตัวเธอก็กลายเป็นลูกสะใภ้ของเขา?เมื่อก่อนถูกบีบคั้นมาตั้งหลายปี แล้วยังเป็นนักโทษของอำเภอพัดรัก ไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ“แบบนั้นก็ดี เธอควรจะแต่งงานกับธัชชัยมานานแล้ว!”อำเภอพัดรักเลิกคิ้วเข้มๆขึ้น ดูเหมือนเขาพึงใจมาก แต่สิ่งที่เขาพูดต่อมา ก็ไม่ได้น่าฟังอีกต่อไป“ตอนนี้สิบห้าห้าขวบแล้ว เธอกับธัชชัยมีอีกคนสิ! ฉันจะเลี้ยงสิบห้าเอง พวกเธอก็เลี้ยงคนเล็ก!”เพ้อฝันจริงๆ! จะเอาอีกวัจสาอยากจะเถียงกลับไปว่า ต้องขอโทษด้วยจริงๆ แต่ฉันยังต้องกลับไปเรียนอีกปี ไม่มีเวลาทำหลานให้!แต่เมื่อคิดถึงเวลาอำเภอพัดรักโกรธ ถ้าเขารู้ว่าเธอจะไปเรียนอีกปี คงจะทำให้เธออับอายหรือ แอบทำให้เธอไปเรียนไม่ได้แน่ๆ อย่างนี้เธอคงจะเสียหาย จึงเงียบไป“ไม่เอา! หม่ามี๊อย่ามีน้อง! หม่ามี๊ต้องเลี้ยงผม หม่ามี๊เป็นของผม รักได้แต่ลูกชายสุดที่รักคนเดียว!”ในขณะที่วัจสากำลังอึดอัดอยู่นั้น หนูน้อยก็โวยวายขึ้นมาหนูน้อยช่างมาได้ทันเวลาพอดี“อย่าสิ สิบห้า ให้หม่ามี๊มีน้องไว้เล่นเป็นเพื่อนหนูไง!”“ไม่เอาๆ วุ่นวายเกินไป! หม่ามี๊เป็นของผมคนเดียวก็พอแล้ว!” หนุน้อยดื้อดึง เพราะเขาไม่ต้องการแบ่งความรักของหม่ามี๊กับใคร“ดูเด็กนี่สิ ถูกสปอยจนเป็นอย่างไงแล้วเนี่ย? เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่นายจะสั่งได้นะ”ดูหนูน้อยที่ถูกเขาตามใจมาจนโต จึงได้แต่รับผลกรรม“อ๋อ ธัชชัยบอกแล้ว ว่าตะวันคนเดียวก็พอ”เพื่อไม่ให้อำเภอพัดรักคิดเพ้อฝันไปไกล วัจสาจึงใช้ชื่อธัชชัยธัชชัยเคยพูดอย่างนี้ แต่ถูกวัจสาตัดตอนออกมาใช้“ธัชชัยจะคิดอย่างนั้นได้ยังไง? มีลูกเยอะๆสิ ถึงจะดี!” อำเภอพัดรักไม่เห็นด้วยกับธัชชัย“เขาคงอยากจะชดเชยให้ตะวันในช่วงห้าปีที่หายไปค่ะ”ประโยคนี้แสดงให้เห็นท่าทีที่ดูต่ำกว่าของวัจสาต่อหน้าอำเภอพัดรักเธอสามารถพูดไปตามตรงได้ว่า ฉันไม่อยากจะมีลูกอีกคน! คุณจะทำอะไรฉันได้?แต่เธอไม่มีความกล้านั้นได้ยินที่วัจสาบอกว่าหลานชายขาดความรักจากคนเป็นพ่อ อำเภอพัดรักจึงถอนหายใจออกมาที่หลานชายตัวเองไม่ได้ความรักจากพ่อ เป็นเพราะเขาทั้งนั้นทุกเรื่องย่อมมีสองด้านเสมอถ้าหากตอนแรกอำเภอพัดรักไม่พาตัวสองแม่ลูกมาด้วย วัจสาที่ท้องโตอยู่ที่เมืองเอส จะรอดเงื้อมือของกนิษฐาไปได้เหรอ?หรือจะพูดอีกอย่างว่า อำเภอพัดรัก ได้ให้ที่พักพิงอันปลอดภัยแก่พวกเธอ“มีแค่ฉันก็พอแล้ว! ครั้งนี้ธัชชัยทำถูก!”หนูน้อยดีใจ รู้สึกว่าการตัดสินใจของพ่อเขาครั้งนี้นั้นถูกต้องแล้ว“วัจสา ในเมื่อพวกเธอคืนดีกันแล้ว ก็กลับไปซะ อย่าทอดทิ้งเขา”อำเภอพัดรักไม่อยากจากหนูน้อยไป แต่เขาก็ไม่อาจให้ลูกชายตัวเองถูกทอดทิ้ง“ค่ะ”วัจสาแทบจะไม่คาดฝันมีเพียงกลับสู่ข้างกายธัชชัย เธอจึงจะไปเรียนเสริมได้อย่างอิสระ