ตอนที่ 814 สองแม่ลูกกลับบ้านเดิมขุนทด
ผ่านไปซักพัก วรพลจึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “วัจสา เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
วัจสาเงียบไปซักพักจึงตอบกลับ “ฉัน… ฉันหย่ากับธัชชัยแล้ว เพิ่งจะหย่าเมื่อเช้า แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับตะวัน…”
วัจสาไม่ได้อยากจะปิดบัง และไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น การแต่งงานของเธอและธัชชัยเป็นความผิดพลาดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นใช้การหย่ามาแก้ปัญหานี้มันถูกต้องแล้ว
เมื่อฟังที่วัจสาพูดจบ วรพลก็ยืนกำหมัดอยู่เนิ่นนาน
วัจสา พี่ขอโทษ เป็นความผิดพี่เอง ไม่อย่างนั้นเรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ ชีวิตของเธอ ฉันได้ทำลายมันไปแล้ว…”
“พี่ชาย…อย่าเป็นแบบนี้ พวกเราไม่เคยมีใครโทษพี่เลย เพราะนี่เป็นปัญหาของพวกเราเอง คนอื่นไม่เกี่ยว และประเด็นคือมันคือปัญหาระหว่างฉันกับธัชชัย มากจนเกินไป มากจนทนต่อไปไม่ไหว”
วัจสาเริ่มพูดปลอบวรพลที่เอาแต่โทษตัวเอง
“วัจสา ฉันสามารถช่วยอะไรพวกเธอได้บ้างไหม? ไม่อย่างนั้นฉันคงจะรู้สึกผิดต่อพวกเธอ”
เสียงของวรพลดูแผ่วเบา แต่มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน เสียงที่ฟังได้ไม่ชัดนั้น เจือความแหบพ่ราเล็กน้อย
“พี่ชาย…อย่าเป็นแบบนี้…”
วัจสาฟังเสียงของวรพล รู้สึกผิดและรู้สึกเสียใจมาก
“ที่จริงเพราะพี่ ฉันถึงมีโอกาสได้เจอผู้ชายดีๆอย่างธัชชัย ได้รักผู้ชายดีๆ ฉันไม่เสียใจเลย ถึงแม้จะเป็นความผิดพลาด แต่ฉันก็มีแต่ความรู้สึกขอบคุณต่อพี่”วรพลตื้นตันกับสิ่งที่วัจสาทำมาก เสียจนรู้สึกเจ็บปวด“วัจสา เธอดีเกินไปแล้ว…”เดิมวรพลต้องการจะพูดบางอย่าง แต่รู้สึกจุกอยู่ที่คอ พูดไม่ออก……อยู่จนถึงห้าโมงเย็น ภูษิตก็มาส่งตะวันที่ห้องพักของแวววัยเมื่อหนูน้อยเจอหม่ามี๊ จึงรีบวิ่งเข้าไปซุกอ้อมกอดหอมๆนั้น “หม่ามี๊ คิดถึงลูกชายสุดที่รักไหม?”เขาไม่ได้ร้องไห้อย่างที่วัจสาคิด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ดีใจ แต่หนูน้อยก็ไม่ได้เสียใจเธอแปลกใจอยู่เล็กน้อย ว่าธัชชัยพูดอะไรกับเขาไปวัจสากอดลูกชายแน่น “หม่ามี๊คิดถึงหนูแทบแย่! ทำไมถึงออกไปคนเดียว? หนูรู้ไหมว่าหม่ามี๊ตกใจแทบแย่?”หนูน้อยประคองหน้าหม่ามี๊ขึ้นมาหอมสองสามที “หม่ามี๊ ผมโตแล้ว แล้วก็ทิ้งโน้ตไว้ให้หม่ามี๊แล้วไม่ใช่เหรอ? ผมไม่หายไปไหนหรอก!”หยุดไปซักพัก จึงพูดขึ้น “หม่ามี๊ ผมจะกลับไปบ้านปยุตกับหม่ามี๊!”วัจสาอึ้งไป “นั่นเป็นคุณตาหนูนะ เรียกชื่อเฉยๆได้ยังไง!”ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าธัชชัยเป็นคนบอกให้ลูกทำตัวอย่างไรต่อไปและแวววัยที่คอยยื้อสองแม่ลูก อยากให้พวกเธออยู่ต่อ ก็ไม่สำเร็จเพราะวัจสารู้สึกว่าห้องเล็กเกินไป เหมาะที่จะอยู่คนเดียวมากกว่า ตอนนี้แวววัยก็ท้องอยู่ เธอคงต้องการที่ว่างให้อากาศถ่ายเทเพื่อบำรุงครรภ์ และถ้าเธอและลูกชายอยู่ ก็มีแต่นอนเบียดแวววัยบนเตียง ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีก่อนจากไป วัจสาทิ้งเงินไว้ให้แวววัยสองหมื่น และสัญญาว่าเธอและลูกชายจะกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ แล้วทั้งสามก็อำลากันด้านนอกคฤหาสน์บ้านเดิมขุนทด วัจสาจูงมือหนูน้อย แกว่งไปมาเบาๆ“ตะวัน หนูยังโกรธหม่ามี๊อยู่ไหม?” วัจสาที่ยืนอยู่สูงกว่าถาม“ทำไมถึงโกรธหม่ามี๊ล่ะ? ถ้าจะโกรธก็โกรธพี่กรดลกับคุณพ่อ!” เหมือนหนูน้อยอารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย“พ่อของหนูบอกอะไร?”มีคำถามที่วัจสาอยากจะถาม ได้โอกาสเธอจึงถามขึ้นมาหนูน้อยพูด “คุณพ่อบอกว่า ที่เขาตกลงหย่ากับหม่ามี๊ เพราะเขามั่นใจ ว่าจะจีบหม่ามี๊กลับมาได้ภายในหนึ่งเดือน!”หนูน้อยพูดพึมพำ “แต่ผมคิดว่าเขาอาจจะทำไมสำเร็จ ผมเลยให้เวลาเขาสามเดือน”“หม่ามี๊ ครั้งนี้ ต้องเข้มแข็งนะ อย่าให้พ่อสารเลวนั้นจีบติดง่ายๆ”วัจสาโกรธไปทั้งตัว จนกำมือแน่น“พ่อสารเลวของหนูพูดอะไร? บอกว่าจะจีบหม่ามี๊ให้ติดภายในหนึ่งเดือน?”ถ้าหากหนูน้อยตั้งใจฟัง ก็คงได้ยินเสียงฟังกระทบกันของหม่ามี๊“ใช่แล้ว ผมก็รู้สึกว่ามันเว่อร์เกินไป!” หนูน้อยเงยหน้าขึ้น “อย่างนั้นพวกเราเพิ่มความยากอีก ให้เขาจีบไม่ติดในสามเดือน!”สองพ่อลูกนี้เห็นเธอเป็นอะไรกัน? เดือนเดียวไม่ได้ ยังมีสามเดือน? เห็นเธอเป็นอะไรกันแน่?“สามเดือน? ผมจะทำให้พ่อสารเลวจีบหม่ามี๊ไม่ติด ถึงแม้จะใช้เวลาสามปีก็ตาม!”วัจสาพูดด้วยความง้องอน ราวกับเด็กๆแต่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ ว่าช่วงไม่กี่ปีมานี้ผ่านความยกลำบากและความเจ็บปวดอะไรมาบ้างวัจสาเดินมุ่งไปยังคฤหาสน์เดิมขุนทดด้วยความโกรธหนูน้อยที่เดินตามด้านหลังรีบเดินตาม