สีหน้าของมู่เวยเวยเต็มไปด้วยความเย้ยหยันและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ถากถาง ” เย่ฉ่าวเฉิน คุณนี่มันช่างกล้าพูดจริงๆ! คุณตามใจฉันงั้นหรอ? ตอนคุณพูดคำนี้คุณไม่รู้สึกว่ามันตลกหรอ? ”
ตั้งแต่แต่งงานกับเขา เขาเคยตามใจเธอสักเรื่องด้วยหรอ?
วันนั้นวันที่เขาแทบจะถลกหนังเธอออก? มีครั้งไหนบ้างที่เธอไม่โดนเขาทำร้าย?
เย่ฉ่าวเฉินไม่ได้รู้สึกอะไรและพูดขึ้นอย่างไม่แยแส ” มู่เวยเวย อย่ามาทำเป็นไม่รู้ตัว เรื่องร้ายๆพวกนั้นที่เธอกับซินโยวไว้ฉันไม่ได้เอาเรื่องอะไร ก็ถือว่าใจดีกับเธอมากแล้ว! ”
เมื่อได้ยินเขาเอ่ยถึงเฉียวซินโยว มู่เวยเวยโกรธจนอกแทบแตก
เรื่องพวกนั้นที่เธอถูกเฉียวซินโยววางแผนใส่ร้ายต่างๆนานาก็ลอยเข้ามาวนเวียนอยู่ที่หัวเธออีกรอบ
เริ่มจากที่งานออกแบบโดนเธอฉีกขาด ทำให้เธอต้องเป็นตัวตลกในสายตาทุกคน เรื่องต่อมาก็เป็นเรื่องที่วางแผนให้ได้เข้ามาอยู่บ้านตระกูลเย่ และร้ายใส่เธอต่างๆนานา แล้วก็ตั้งใจที่ทำให้ตัวเองตกบันได้และทำให้เธอต้องถูกเย่ฉ่าวเฉินไล่ออกจากบ้าน……
ฝากฝังบาดแผลไว้ให้กับเธอ แต่ว่าตอนนี้แผลจะแห้งแล้วทิ้งไว้แค่รอย แต่ถึงยังไงแผลมันก็ไม่มีวันที่จะหายสนิท
มู่เวยเวยแสยะยิ้ม ยิ้มทั้งน้ำตา และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด ” เย่ฉ่าวเฉิน คุณมันก็คือคนตาบอดดีๆนี่เอง! ถูกคนอื่นหลอกจนไม่เหลือชิ้นดี แต่กลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่นิด มันช่างน่าสมเพชจริงๆ! ”
” เพี้ยะ- – ”
หน้าของมู่เวยเวยหันขวับ แล้วรอยแดงบนหน้าก็ค่อยๆเจ็บปวดแต่มันเจ็บที่ใจมากกว่า
สีหน้าของเย่ฉ่าวเฉินน่ากลัวมาก ดวงตาสีน้ำเงินที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม เป็นเหมือนตาของหมาป่าที่กระหายเลือดเป็นอย่างมาก
” มู่เวยเวย คนที่น่ารังเกียจมากที่สุดคือเธอ! รู้มั้ยว่าฉันเกลียดผู้หญิงแบบไหนมากที่สุด? ก็ผู้หญิงที่ร้ายกาจและผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองแน่แบบเธอไง! ”
มู่เวยเวยยกยิ้มมุมปากด้วยสีหน้าท่าทีเยาะเย้ย ” ในเมื่อคุณเกลียดฉันมากขนาดนี้ แล้วทำไมคุณถึงไม่ยอมหย่ากับฉันสักที? ต้องเจอหน้าผู้หญิงที่ตัวเองเกลียดทุกวี่ทุกวัน คุณยังนอนหลับกินดีได้อยู่อีก ดูเหมือนว่าคุณจะชอบทำร้ายตัวเองนะ! ”
เย่ฉ่าวเฉินหัวเราะแล้วพูดอย่างเย็นชา “คุณไม่ต้องทำให้ฉันโกรธหรอก ตราบใดที่ฉันยังหาตัวมู่เทียนเย่ไม่เจอ เธอก็อย่าคิดว่าฉันจะยอมหย่า!”
มู่เวยเวยอึ้ง แล้วยิ้มมุมปากอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ ” ใจของคุณนี่มันแข็งจริงๆ เพื่อที่จะได้แก้แค้นพี่ชายฉันถึงกลับยอมใช้คู่ชีวิตมาเป็นเดิมพัน! ”
……
เฉียวซินโยวมองไปที่นาฬิกาภายใต้แสงจันทร์ เวลาก็ขยับไปเรื่อยๆ แต่ว่าเย่ฉ่าวเฉินก้ยังไม่กลับมาที่ห้องนอนตัวเองสักที ทำให้เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย
เธอยังคงรอเย่ฉ่าวเฉินเข้ามายังห้องนอน และรวดใส่ชุดนอนสุดเซ็กซี่ เธอคาดหวังว่าเธอจะได้เป็นคนในใจของเขาจริงๆ
เดิมทีเธอคิดว่า เย่ฉ่าวเฉินคงทำงานอยู่ที่ห้องหนังสือ เธอจึงนอนรอเขาบนเตียงนุ่มนุ่ม และเธอก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจและอยากจะหนีออกไปเพราะเธอเขินอาย แต่เธอก็พูดให้กำลังใจตัวเองอยู่เรื่อยๆ
เฉียวซินโยว อย่าไปกลัว เธอทำได้! ขอแค่ผ่านคืนนี้ไป มู่เวยเวยก็จะไม่มีอะไรมาต่อรองกับเธอได้อีก!
เธอรอจนถึงดึก
ในที่สุด ก็ได้ยินเสียงคนเดินมาจากหน้าห้อง เธอรู้ว่าเป็นเขาเดินมา
เฉียวซินโยวรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น เธอใช้ผ้านวมห่อตัวเธอไว้ รอด้วยความคาดหวังอย่างมากว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น
ประตูห้องเปิดออก และเห็นเงามืดมืดเดินเข้ามา ในห้องก็สว่างจ้าขึ้นทันที
หัวใจเฉียวซินโยวเต้นรัวๆ เงยหน้าขึ้นด้วยความเขยอาย แต่ตอนที่เห็นเขาในตอนนี้กลับทำให้เธอผิดหวังอย่างมาก
บนตัวเขาใส่เพียงกางเกงในตัวเดี๋ยว เผยให้เห็นเรือนร่างที่สมบูรณ์แบบของเขา ถ้าเป็นวันปกติ เฉียวซินโยวคงจะหน้าแดง
แต่เมื่อเธอเห็นรอยแดงจ้ำๆบนตัวเขา เฉียวซินโยวแทบจะหมดสติ!
เธอเป็นผู้หญิง ทำไมจะไม่รู้ ว่ารอยแดงพวกนั้นมันหมายถึงอะไร!
เพราะอะไร!
เธอไม่พอใจ!
เย่ฉ่าวเฉินกลับถึงห้อง ก็เปิดไฟในห้องทันที แต่เมื่อเห็นเฉียวซินโยวที่นอนอยู่บนเตียงเขาก็ตกใจมาก
” ซินโยว ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่? “เย่ฉ่าวเฉินขมวดคิ้วแล้วถามด้วยน้ำเสียงตกใจ
เขาไม่รู้ว่าการกระทำของเขาตอนนี้ทำร้ายจิตใจเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ
ดวงตาของเฉียวซินโยวแดงไปหมด เธอกำมือไว้แน่น และใช้เล็บที่แดงของเธอจิกไปที่เนื้อตัวเอง แต่กลับไม่แสดงท่าทีใดใดออกมาเลย และพูดด้วยน้ำเสียงที่คับแค้นใจว่า ” ฉ่าวเฉิน ฉันรอคุณนานมาก คุณไปหาเวยเวยมาหรอ? ”
เธอรู้สึกเจ็บปวดที่ใจ และเจ็บรุนแรงมากขึ้น เจ็บมากจนเธอแทบขาดใจตาย สิ่งที่เธอสามารถรับรู้ได้ในตอนนี้มีแต่ความโศกเศร้า
เย่ฉ่าวเฉินทำหน้าตกใจ แต่เขาไม่ได้อยากจะปกปิดแล้วพูดไปตามความจริงว่า ” อือ เธอรีบกลับห้องนอนตัวเองเถอะ พรุ่งนี้ต้องไปบริษัทแต่เช้า”
พอพูดประโยคนี้จบ เขาก็หันหลังแล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำทันที
เห็นท่าทีของเขาที่ตอบอย่างไม่ลังเล ใจของเฉียวซินโยวเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก เธอกระโดดลงจากเตียงอย่างใจกล้า แต่เธอไม่ได้เดินไปทางประตู เธอกลับเดินไปด้านหน้าเขาแล้วกอดเอวเขาไว้
สัมผัสกับเรือนร่างที่นุ่มนวลของเธอ เย่ฉ่าวเฉินตะลึงไปเลย ผ่านไปชั่วขณะจากนั้นจึงหันหลัง แล้วมองไปที่เธอที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าแล้วพูดขึ้นเบาเบา ” เป็นอะไร? ”
เฉียวซินโยวกัดริมฝีปากและพูดขึ้นอย่างโศกเศร้า ” ฉ่าวเฉิน ทำไมคุณถึงไม่เอาฉัน? ทำไมคุณถึงเต็มใจที่จะไปหาเวยเวยแทนที่จะเป็นฉัน?”
เธอสู้มู่เวยเวยไม่ได้ตรงไหน ทำไมเขาถึงไม่ยอมแตะตัวเธอ
ทุกครั้งมันก็แค่อีกนิดเดียว……
เย่ฉ่าวเฉินมองไปที่เธออย่างจริงใจ ในใจอ่อนปวกเปียกไปหมด และค่อยๆเช็ดน้ำตาออกให้เธอจากนั้นพูดขึ้นว่า ” ฉันไม่อยากทำร้ายเธอไง”
เรื่องที่ใกล้ชิดมากที่สุดระหว่างชายหญิง ทำไมถึงเรียกว่าทำร้ายหล่ะ?
เฉียวซินโยวอยากถามเขาแบบนี้มาก แต่มีบางอย่างบอกกับเธอว่า ไม่ได้ เธอจะกดดันเขามากขนาดนี้ไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นจะทำให้เขาลำคานเปล่าๆ ถ้าเป็นแบบนั้นจะทำให้เขาถอยห่างจากเธอไปมากขึ้นเรื่อยๆ!
เฉียวซินโยวก้มหน้าลง จากนั้นก็ฉีกยิ้มออกแล้วพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไร ถึงยังไงฉันก็เป็นคนของคุณแล้ว ฉ่าวเฉิน ฉันรอได้ รอให้คุณเต็มใจที่จะรักฉัน ”
มองไปที่เธอที่แท้จริงแล้วเศร้ามาก แต่กลับต้องฝืนยิ้มออกมา เย่ฉ่าวเฉินก็ลูบไปที่ผมนุ่มนุ่มของเฉียวซินโยวเบาเบา แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า ” ซินโยว ทำไมเธอถึงซื้อบื่อแบบนี้? ”
ซื่อบื้อจนฉันรู้สึกเสียใจ จนฉันรู้สึกว่าทำกับเธอได้ไม่ดีพอ
เฉียวซินโยวมองไปที่ท่าทีของเขาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น เธอรู้สึกพอใจมาก นี่แหละคือผลที่เธออยากได้ เธอต้องการเป็น ” ภรรยาที่ดี “ที่สามารถยอมรับความผิดของ ” สามี ” ได้ และจะเป็นผู้หญิงที่ ” ใจกว้าง ”
เธอรู้จักผู้ชายเป็นอย่างอย่างดี แทนที่จะได้รับความโปรดปรานเพียงชั่วคราวยังไม่ดีเท่ากับการได้รับความโปรดปรานไปตลอด
มีเพียงแค่วิธีนี้ ที่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็จะไม่ลืมเธอ ไม่ว่าเขาจะสนุกแค่ไหนแต่ก็จะยังคงมีที่ว่างสำหรับเธอ……
ต้องบอกเลยว่า เฉียวซินโยวเป็นคนที่ฉลาดมาก มู่เวยเวยเจอคู่ต่อสู้แบบนี้ มันคือความโชคร้ายในโชคร้าย
……
ในวันต่อมา มู่เวยเวยลืมตาขึ้น และลากร่างกายที่ปวดไปทั้งตัวมาที่ห้องน้ำ จากนั้นก็อาบน้ำให้สดชื่นรู้สึกรับได้ถึงรสชาติที่เค็มๆในปาก เธอถึงได้รู้ตัวว่าเบ้าตาของเธอเปียกชุ่มไปหมด
ส่องกระจกมองตัวเธอที่เนื้อตัวที่เต็มไปด้วยรอบช้ำแดงๆ ไม่เพียงแค่ตาของเธอเท่านั้น แต่ยังมีใจของเธอที่เจ็บช้ำไปหมด
คำพูดของเย่ฉ่าวเฉินเมื่อคืน มันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดมาก
ในตอนนี้ เธอกลับกลายเป็นคนที่เกลียดตัวเองมากที่สุด
มู่เวยเวยร้องไห้จนเหนื่อย แล้วค่อยเช็ดน้ำตาตัวเอง ยื่นมือไปหยิบผ้าขนหนูแล้วมาพันรอบตัว จากนั้นก็เดินออกจากห้องน้ำทันที
พอแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว มู่เวยเวยพึ่งจะเปิดประตูไม่คิดเลยว่าจะเจอหน้าคนที่ทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงมาก
” เฉียนซินโยว เช้าขนาดนี้ เธอมายืนหน้าห้องฉันทำไม? ” มู่เวยเวยขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นอย่างหมดความอดทน
เฉียวซินโยวมองไปที่ใบหน้าของเธอ เธอก็มีความคิดบ้าๆเกิดขึ้นในใจ เธออยากจะฉีกหน้าเธอให้เสียโฉมไปเลย ให้ผู้ชายคนอื่นไม่อยากเข้าใกล้เธอเมื่อเจอหน้าเธอ!
” ก็ต้องอยากเห็นใบหน้าที่เจ้าเล่ห์ของเธออยู่แล้ว! “เฉียวซินโยวแสยะยิ้ม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ” ดูเหมือนว่าเมื่อคืนคงนอนไม่หลับสินะ? ขอบตาดำๆบนใบหน้าเธอมันน่าตกใจมาก! ”
มู่เวยเวยหัวเราะแล้าทำหน้าไม่พอใจ จากนั้นก็พูดขึ้นนิ่งๆว่า ” เธอก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉันเท่าไหร่หรอก ดูถุงใต้ตาบนหน้าเธอสิ สามารถเทียบได้กับหมีแพนด้าเลยนะ! ”
เมื่อได้ยินว่าเธอเปรียบเทียบตัวเองกับแพนด้า เธอก็รู้สึกโกรธมาก
ยกยิ้มมุมปากแล้วพูดอย่างเยือกเย็นว่า ” มู่เวยเวย อย่าได้ใจไป! ดูเหมือนว่าช่วงนี้เธอน่าจะว่างมากไป เธอคงลืมไปหมดแล้ว ว่าเคยได้รับ”ความเอาใจใส่สุดพิเศษ ” จากฉันยังไง! ”
มู่เวยเวยรู้สึกได้ว่าเธอตั้งใจที่จะทำให้เธอโกรธ จากนั้นก็ให้เย่ฉ่าวเฉินมาเห็นแล้วให้เขาออกหน้าแทนเธอ
มู่เวยเวยกลับมาสีหน้าปกติ แล้วค่อยๆยิ้มที่มุมปาก จากนั้นก็พูดนิ่งๆว่า “สิ่งที่เธอเคยทำ มันก็ทำให้คนอื่นยากที่จะลืมจริงๆ แต่ว่าฉันขอเตือนเธอไว้อย่างหนึ่งนะ เดินทางในที่มืดบ่อยๆ ไม่ช้าก็เร็วจะเจอผีเข้า! ”
เฉียวซินโยว เธอได้ใจไปเถอะ!
เธอเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง ไม่ใช่ตามไม่ทันแต่มันแค่ยังไม่ถึงเวลา
เฉียวซินโยวหัวเราะและพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย ” ขอร้องเหอะ มู่เวยเวย เธออายุตั้งเท่าไหร่แล้ว? ยังจะเชื่อคำพูดที่เอาไว้หลอกเด็กสามขวบพวกนั้นอยู่หรอ? เธอคิดว่าฉันจะกลัวงั้นหรอ? ”
มู่เวยเวยไม่คิดว่าเธอจะกลัว สำหรับผู้หญิงที่ขายศักดิ์ศรีความเป็นคนอย่างเธอ? จะไปกลัวคำพูดหลอกเด็กสามขวบพวกนั้นได้ยังไง?นอกสะจากว่าจะเจอผีจริงๆ ไม่งั้นเธอก็คงจะสร้างปัญหาแบบนี้ต่อไป!
” มันเป็นเรื่องผีหลอกรึป่าว ฉันเชื่อว่าเธอจะรู้ในไม่ช้า! ” มู่เวยเวยแสยะยิ้มแล้วพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ
” ฉันจะเจอผีหลอกมั้ยไม่รู้ แต่ที่แน่ๆเธอกำลังจะซวยแล้วเนี่ยเป็นเรื่องจริง! “สีหน้าแววตาของเฉียวซินโยวเต็มไปด้วยความร้ายกาจและเธอก็ยกยิ้มมุมปากอยากสะใจ
พอมู่เวยเวยฟังจบ หัวใจของเธอเต้นแรง เธอรู้จักเฉียวซินโยวดี เธอไม่พูดเรื่องที่ไม่มีมูลหรอก ในเมื่อเธอกล้าพูดถึงขนาดนี้แล้วซึ่งก็ชัดเจนว่าเธอต้องกำลังวางแผนจะทำอะไรบางอย่าง
เป็นเรื่องที่ใส่ร้ายเธอ!
” เธอจะใช้กลอุบายอะไรอีกล่ะ? จะกลิ้งลงจากบันไดหรือว่าจะแสแสร้งทำเป็นน่าสงสาร? ” มู่เวยเวยพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา แต่ในใจเธอกลับมีความระแวง
” สีหน้าของเฉียวซินโยวแสดงออกว่าเหยียดหยามอย่างชัดเจน และน้ำเสียงของเธอก็เต็มไปด้วยความถากถาง ” ฉันไม่ชอบใช้มุกซ้ำ! ครั้งนี้จะเป็นอะไรที่ไฮไลต์มากกว่าเดิม เชื่อฉันเถอะว่าเธอจะไม่มีวันลืมเลย! อ้อจริงด้วย อย่าลืมเตรียมโลงศพไว้ด้วยล่ะ! ”
เฉียวซินโยวพูดขึ้นอย่างโหดเหี้ยมด้วยน้ำเสียงที่โกรธแค้น ทำให้มู่เวยเวยตกใจนิดหน่อย
แค่เพียงเพราะว่าเย่ฉ่าวเฉิน เธอถึงขั้นเกลียดเธอมากขนาดนี้เลยหรอ?
แล้วเธอน่ากลัวมากแค่ไหนกัน แล้วจะลงมือกับเธอเมื่อไหร่?
” เฉียวซิวโยว ตอนนี้เธอมันบ้ามาก! เพื่อผู้ชายคนเดียว! ใจของเธอมันโดนยักษ์โดนมารที่ไหนกินไปแล้ว เธอไม่เคยลองคิดบ้างเลยหรอ ว่าที่ทำมันคุ้มกันรึป่าว! ”
มู่เวยเวยสั่นไปทั้งตัว ไม่ใช่เพราะกลัวแต่เพราะความโกรธ
ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ได้?
ถึงแม้ว่าเธออยากแต่งงานกับเย่ฉ่าวเฉิน อยากเป็นคุณผู้หญิงแห่งตระกลูเย่ ทำไมเธอถึงไม่ใช้ความพยายามของตัวเธอเองเพื่อแย่งชิงมัน? แต่กลับใช้วิธีที่ต่ำช้าแบบนี้!
ถึงแม้ว่าสุดท้ายเธอจะเป็นผู้ชนะ แล้วเธอจะนอนหลับได้สนิทใจหรอ? เธอจะไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรอ?
เฉียวซินโยวหัวเราะเย้ยหยันแล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา ” มู่เวยเวย ตอนที่เธอพูดอยู่เธอไม่รู้สึกเจ็บเอวหรอ! สภาพเธอตอนนี้ เธอยังมีหน้ามาพูดกับฉันแบบนี้อีกหรอ? ”
มู่เวยเวยโกรธมากแล้วตะโกนออกมา “เธอนี่มันไร้เหตุผลจริงๆ ฉันไม่ยอมเธออีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าวันนี้เธอมีแผนอะไร อย่าคิดว่ามันจะได้ผล!”
” โห น้ำเสียงแรงกล้าดีนิ! ” เฉียวซินโยวพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูถูก ” ฉันจะรอนะ ฉันจะคอยดูว่าเธอจะมีปัญญาอะไร! เธอระวังตัวไว้เถอะ ไม่ช้าก็เร็วฉันจะทำให้เธอต้องคุกเข่าขอชีวิตต่อหน้าฉัน! ”
เฉียวซินเหลือบมองเธอด้วยสายตาโกรธแค้นแวบหนึ่ง จากนั้นก็ใส่ส้นสูงหันหลังเดินออกไป
มู่เวยเวยรู้สึกหน้ามืดตามัว และเธอก็ค่อยค่อยพิงไปที่ประตู ของเหลวเย็นๆก็ไหลออกมาจากดวงตาเธออีกครั้ง
มันเปลี่ยนไปแล้ว ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว
เธอคิดถึงช่วงเวลาในโรงเรียนถนนที่เคยเดินเคียงข้างกัน ห้องที่เคยเรียวร่วมกัน ปัญหาที่เคยปรึกษากัน
ทั้งหมดนี้มันเหมือนถูกทิ้งไว้ให้เป็นแค่อดีต
ทั้งหมดนี้มันเหมือนความชัดเจนที่ถูกทิ้งไปเมื่อวาน แต่มันแตกต่างออกไป
เธอนึกถึงตอนที่มีข่าวลือจากเพื่อนร่วมห้องว่าเฉียวซินโยวมักจะแอบนินทาเธอลับหลัง แต่ในตอนนั้นเธอไม่เชื่อและยังต่อว่าเพื่อนพวกนั้นว่านิสัยไม่ดี
ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป เธอในตอนนั้นโง่มาก โง่ถึงขั้นแยกคำพูดดีๆไม่ออก โง่ถึงขั้นไว้ใจคนที่โกหกหลอกลวงและเชื่อใจคนที่หลอกใช้เธอ!