สีหน้าของเย่ฉ่าวเฉินบึ้งตึงอย่างมาก ดวงตาสีน้ำเงินมีแสงออร่ามืดเปล่งออกมา ในเวลาเดียวกันภายในห้องก็ได้ยินเสียง ” เพล้ง – – ” กระถางต้นไม้ที่วางอยู่มุมไหนสักแห่งของห้องก็ล่วงตกลงพื้น จนแตกกระจุยกระจายไปหมด!
โทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้นอีกครั้ง มู่เวยเวยรีบรับสาย ปลายทางเป็นเสียงของเลขาหลิวพูดว่า ” คุณมู่เวยเวย เชิญคุณรีบมาที่ห้องทำงานของประธานเย่หน่อยนะคะ ”
มู่เวยเวยพอได้ฟังแบบนั้นก้ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า ” โอเค ฉันรู้แล้ว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ ”
” โอเค ”
ค่อยๆวางสาย มู่เวยเวยรู้สึกแปลกใจว่าเย่ฉ่าวเฉินจะมีเรื่องอะไร?
คิดไปคิดมายังไงก็คิดไม่ออก เธอรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ สัญชาตญาณของเธอบอกว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่แน่……
มองไปที่ด้านหลังของมู่เวยเวย เฉียวซินโยวสีหน้าเป็นกังวลมาก ในใจของเธอก็กังวลมาก ฉ่าวเฉินเรียกหามู่เวยเวยในตอนนี้หมายความว่ารู้เรื่องที่มู่เวยเวยท้องแล้วงั้นหรอ?
ถ้ามันเป็นแบบนั้น เขาจะให้มู่เวยเวยเก็บเด็กคนนี้ไว้ หรือว่าจะให้เอาเด็กคนนี้ออกกันล่ะ?
…….
เธอขึ้นลิฟต์แล้วตรงขึ้นไปที่ชั้นบนสุด มองดูแผงประตูเหล็ก มู่เวยเวยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็เคาะประตูไปสองที
” เชิญ. เข้ามา ”
พอได้ยินคำตอบรับจากครั้งใน มู่เวยเวยก็ผลักประตูเปิดออก แล้วเดินตรงเข้าไปหาเขาจากนั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ” ประธานเย่ ท่านเรียกหาฉันหรอ? ”
ตั้งแต่ที่เธอเดินเข้ามา สายตาของเย่ฉ่าวเฉินก็จ้องไปที่เธอ มองท่าทีที่นิ่งๆสงบๆของเธอ รู้สึกเป็นวังวนใจ เขาทุบไปที่โต๊ะอย่างแรง แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสุขุมว่า ” เธอลองเดาดูสิว่าฉันมีเรื่องอะไรทำไมถึงเรียกหาเธอ? ”
สัมผัสได้ถึงสายตาที่เฉียบคมของเขา มู่เยเวยรู้สึกแข็งทื่อไปทั้งตัว ในใจของเธอรู้สึกเขาต้องอาการกำเริบแต่ๆ ทุกครั้งที่พูดแบบนี้ ขั้นต่อไปต้องพบกับความหายนะแน่นอน!
มู่เวยเวยครุ่นคิดอย่างจริงจัง ช่วงนี้เธอได้ทำเรื่องอะไรให้เฉียวซินโยวไม่พอใจงั้นหรือ? พอคิดอยู่นานมากเธอก็แน่ใจว่าสองสามวันมานี้ก็ไม่ได้มีเรื่องผิดใจกับเฉียวซินโยว
นอกจากเรื่องที่อาหารมีพิษ……
จู่ๆมู่เวยเวยก็คิดขึ้นได้เรื่องนึง เย่ฉ่าวเฉินน่าจะอยากให้เธอขอโทษเฉียวซินโยวงั้นหรอ?
คิดไปคิดมา ก็มีแค่เรื่องนี้ที่เป็นไปได้
มู่เวยเวยสีหน้านิ่งๆแล้วพูดขึ้นอย่างเฉยเมย ” คุณจะให้ฉันไปขอโทษเฉียวซินโยวงั้นหรอ? ก่อนหน้านี้ฉันเคยบอกแล้ว คุณต้องขอโทษฉันต่อหน้าทุกคนก่อนไม่งั้นก็ไม่มีทาง! ”
ความเด็ดเดี่ยวของเฉียวซินโยว แต่เธอกลับคิดไม่ถึงเลย ตอนนี้ในใจของเย่ฉ่าวเฉินโกรธมาก กิริยาท่าทางของเธอเป็นแบบนี้ ยิ่งทำให้เขาโกรธขึ้นไปอีก!
เมื่อเห็นว่าเธอตอบได้ไม่ตรงคำถาม เย่ฉ่าวเฉินก็มั่นใจทันทีว่าเธอกำลังโกหก เขาได้ยินจากปากจางเห่อว่าคุณหมอซุนได้บอกกับมู่เวยเวยแล้วแล้วเธอทำไมถึงยังมาเล่นลิ้นอยู่อีก!
มองท่าทีเธอที่นิ่งมาก เย่ฉ่าวเฉินนับถือเธอจริงๆ รู้สึกว่าเธอแสดงได้ดีมาก ทำได้ถึงขั้นจากเรื่องปลอมให้กลายเป็นเรื่องจริงได้!
เย่ฉ่าวเฉินจ้องมองเธอแล้วยกยิ้มอย่างเยาะเย้ยแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและเย่อหยิ่งว่า ” มู่เวยเวย อย่ามาแสแสร้งต่อหน้าฉัน ยังไม่ผ่าน! ”
พอได้ยินคำพูดที่ชั่วร้ายของเย่ฉ่าวเฉิน สีหน้าของมู่เวยเวยของเคร่งขรึมขึ้นมากแล้วยกยิ้มมุมปากอย่างต่อต้านแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เย่ฉ่าวเฉิน ฉันคิดว่าคุณคงจะว่างมากสินะ! วันวันก็เอาแต่หาเรื่องจับผิดฉันมันดีตรงไหน?
หาเรื่อง?
เย่ฉ่าวเฉินลุกขึ้นด้วยสีหน้าที่อยากจะบีบคอเธอให้ตาย เดินกระแทกเท้าหนักๆเข้าไปหาเธอ แล้วตบหน้าเธอไปหนึ่งทีจากนั้นก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา ” ฉันไม่มีเวลาที่จะฟังคำพูดไร้สาระพวกนั้นของเธอหรอกนะ! บอกมา เด็กในท้องของเธอเป็นลูกของใคร? ”
มู่เวยเวยโดนตบอย่างไม่รู้เหตุผลอะไรเลย สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น สายตาจ้องไปที่มือของเขา ในใจของเธอโกรธเกลียดเขามากจนอยากกระโดดเข้าไปกัดเนื้อเขา!
เมื่อเธอกำลังจะกระทำ สับสนมึนงงกับคำพูดของเขา ในหัวว่างเปล่า แล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ ” คุณบอกว่าฉันท้องงั้นหรอ? ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอเย่ฉ่าวเฉินขมวดคิ้ว คิดในใจว่าเธอไม่รู้หรอกหรอ? หรือว่าทางโรงพยาบาลยังไม่ได้บอกกับเธอ? หรือเธอเกรงว่าถ้ายอมรับแล้วเขาจะโกรธ?
พอคิดได้แบบนี้ เย่ฉ่าวเฉินก็บิดคางของเธอ มองดูเธอที่เจ็บปวดจนหน้าซีดเซียวไปหมด ในใจโกรธแค้นมาก ” อย่ามาเล่นลิ้นกับฉัน! เธอท้องหรือไม่ท้องเธอน่าจะรู้ดีที่สุด!บอกฉันมาว่าเธอท้องลูกของใคร? ”
สีหน้าของมู่เวยเวยเปลี่ยนไปกะทันหัน ยากที่จะยอมรับ นี่เธอท้องจริงๆงั้นหรอ!
เธอตั้งสติได้เร็วมากนี่เขากล้าพูดว่าเธอท้องลูกชู้!
มู่เวยเวยหยิบโทรศัพท์ขึ้นแล้วไปดูที่ประวัติการโทร ดูให้แน่ใจว่าไม่มีสายที่ไม่ได้รับ รู้สึกสับสนในใจเล็กน้อย เธอหันหลังแล้วตัดสินใจจะไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง
ในตอนนี้เอง เธอก็เห็นว่าเย่ฉ่าวเฉินอยู่ข้างหลังเธอ สีหน้าของมู่เวยเวยมีความหวาดกลัว
สีหน้าเย่ฉ่าวเฉินเย็นชามากแล้วมองลงมาที่เธอ แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแสว่า ” ฉันได้ข่าวจากแพทย์ที่เธอเข้าไปใช้บริการว่าเธอท้องได้สองเดือนแล้ว เธอยังมีอะไรจะพูดอีกมั้ย? ”
ในเมื่อเธอทำเป็นหน้าซื่อตาใส เขาก็บอกกับเธอด้วยตัวเองไปเลย ดูซิว่าเธอจะมีข้ออ้างอะไรอีก!
แน่นอนว่าหลังจากที่มู่เวยเวยได้ยินคำพูดของเขา สีหน้าก็ตกใจมาก แล้วพูดขึ้นด้วยความโมโหว่า ” คุณโกหก! ฉันจะไปท้องสองเดือนได้ยังไง!เย่ฉ่าวเฉิน ถึงแม้ว่าคุณอยากใส่ร้ายฉันแต่ก็ไม่ต้องใช้วิธีนี้หรอกมั้ง!”
สีหน้าของมู่เวยเวยซีดเซียว สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ถ้ามันเป็นเรื่องจริง แล้วเย่ฉ่าวเฉินจะทำกับเธอยังไง?
เย่ฉ่าวเฉินจ้องมองสีหน้าของเธอมาตั้งนานแล้ว ตอนที่เขาเห็นว่าการแสดงออกของเธอเปลี่ยนไป เขาก็รู้เลยทันที เขาเดินไปข้างหน้าดึงผมมู่เวยเวยไว้แล้วตะโกนขึ้นอย่างเสียงดัง ” ตอนนี้คิดออกรึยัง? พูด มันเป็นใคร? ”
สีหน้าของมู่เวยเวยหวาดกลัวมาก แต่ก็พยายามสงบสติอารมณ์แล้วพูดว่า ” ฉันไม่รู้ ”
เย่ฉ่าวเฉินใช้แรงมากขึ้นไปอีก มู่เวยเวยเจ็บจนน้ำตาไหล เขารู้สึกว่าเหมือนโดนเย้ยหยันแล้วตะโกนขึ้นอย่างน่ากลัว ” ใช่ลู่จื่อหานมั้ย? ”
มู่เวยเวยค้านสุดฤทธิ์ ไม่ยอมรับ ” ไม่ใช่! ”
” ถ้างั้นใคร? ”
” ฉันไม่รู้จริงๆ! ”
เธอไม่รู้จริงๆ ตอนนี้เธอเสียใจมาก ตอนนั้นเธอไม่น่าไปที่นั่นเลย! ตอนนั้นที่หลังจากเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเธอไม่น่าหนีออกมาก่อนเลยอย่างน้อยเธอน่าจะดูให้ชัดเจนก่อนว่าเขาคือใคร!
กลับกันในตอนนี้ มู่เวยเวยทำหน้านิ่งๆ ถึงแม้ว่าเธอจะท้องจริงๆ แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องก่อนแต่งงาน และจะเรียกว่าสวมเขาได้ยังไง?
เขากล้าพูดหรอว่าก่อนที่เขาจะแต่งงานกับเธอ เขาไม่เคยมีผู้หญิงคนอื่น?
นอกจากนี้การแต่งงานไม่ใช่แผนของเธอ แล้วเธอก็ไม่ได้บังคับให้เขาแต่งงานกับเธอสักหน่อย แล้วอีกเรื่องทีเรื่องของเขากับเฉียวซินโยวหลังแต่งงานพวกนั้นเขาลืมไปแล้วงั้นหรอ?
ถ้าหากว่าเธอท้องจริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่สำหรับเธอ จากนิสัยของเย่ฉ่าวเฉินแล้ว เขาต้องไม่อยากเห็นหน้าเธออีกต่อไปแน่ๆ ถ้าเป็นแบบนั้น เขาอาจจะได้ยุติการแต่งงานในครั้งนี้กับเธอสักที!
มู่เวยเวยยกยิ้มมุมปากแล้วพยายามเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดบนหนังหัวแล้วพูดขึ้นนิ่งๆว่า ” ฉันไม่รู้จริงๆว่าเป็นลูกใคร แต่ว่าถึงยังไงก็ไม่ใช่ลูกคุณ คุณรู้ไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไร! ”
มองไปที่ท่าทีอันนิ่งสงบของเธอ เย่ฉ่าวเฉินมองเธออย่างคาดคั้นแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงถากถาง ” แล้วยังไง? ”
มู่เวยเวยไม่เห็นด้วยแล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา “มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนแต่งงานแล้วจะบอกว่าสวมเขาให้คุณได้ยังไงกัน? ถึงยังไงตั้งแต่แต่งงานกันมาคุณก็ไม่ได้เสียเปรียบอะไร ถ้างั้นเราก็ใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้รีบหย่าให้แล้วๆกันไปเถอะ! ”
พวกเราหย่าให้แล้วกันไป!
เย่ฉ่าวเฉินหัวเราะเยาะ เธอพูดออกมาง่ายดีนิ เกิดเรื่องบัดซบขึ้นขนาดนี้แล้ว เธอกลับจะหนีออกไปง่ายๆ?
แตะไปที่จมูกของเธอไม่รู้สึกถึงลมหายใจของเธอ เย่ฉ่าวเฉินตกใจมาก เขารีบอุ้มมู่เวยเวยเข้าไปที่รับรองแล้ววางเธอลงบนเตียงทันที จากนั้นก็รีบล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรหาคุณหมอหาน
” มาที่ห้องทำงานของฉันภายในยี่สิบนาที! ”
ทางด้านของคุณหมอหาน ก็หยุดการทำงานแล้วขมวดคิ้วจากนั้นก็พูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า ” จากบ้านฉันไปบริษัทคุณอย่างน้อยต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ยี่สิบนาทีมันเป็นไปไม่ได้! ”
เย่ฉ่าวเฉินทำหน้าสุขุมและตะโกนขึ้นอย่างเสียงดังๆ “ฉันไม่สน ภายในครึ่งชั่วโมงถ้ายังมาไม่ถึง ฉันจะเผาบ้านนายทิ้ง! ”
คุณหมอหานรีบหยิบกล่องยาที่วางอยู่บนโต๊ะ ไปด้วยความเร็วเหมืองแข่งวิ่งมาราธอน และไม่ลืมที่จะถามถึงสถานการณ์ให้เข้าใจ ” คราวนี้เป็นใครที่บาดเจ็บล่ะ? คงไม่ใช่คุณมู่หรอกใช่มั้ย? ”
เย่ฉ่าวเฉินขมวดคิ้วแล้วพูดนิ่งๆว่า ” คุณทายถูกแล้ว! ”
” คราวนี้ – – “คุณหมอหานถอนหายใจ แล้วพูดอย่างไม่พอใจ ” คุณนี่มันหาเรื่องให้ฉันทำจริงๆเลย! คราวนี้เพราะเรื่องอะไรอีกล่ะ? ”
” ถ้ามาถึงคุณก็รู้เอง ”
คุณหมอหานสตาร์ทรถอย่างรวดเร็ว รถสปอร์ตสีเทาเงินพุ่งไปข้างหน้าทันทีอย่างกับบินได้ แล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า ” ตกลงแล้วเป็นเพราะอะไร คุณบอกมาก่อน ฉันจะได้เตรียมรับมือล่วงหน้าได้! ”
พอได้ฟังคำอธิบายของเขาจบ เย่ฉ่าวเฉินก็พูดขึ้นว่า “จมน้ำ ”
จมน้ำ?
” แม่เจ้า ” คุณหมอหานอุทานออกมา รีบใช้เท้าเหยียบคันเร่งและรถเคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว ได้ยินเสียงเบรกที่ล้อเสียดสีกับพื้นอย่างรุนแรง
เย่ฉ่าวเฉินสีหน้าตกใจ แล้วถามชึ้นอย่างรีบร้อนว่า ” เกิดอะไรขึ้น? ”
เกิดอุบัติเหตุงั้นหรอ?
คุณหมอหานรีบกลับรถแล้วขับกลับเส้นทางเดิม พูดขึ้นด้วยความโมโห ” ฉันไม่ได้เอาถังออกซิเจนมา ต้องกลับไปเอาที่บ้าน ตอนนี้นายฟังคำแนะนำของฉันนะ ต้องทำการช่วยคนป่วยล่วงหน้าก่อน! ”
เย่ฉ่าวเฉินเดินไปข้างเตียง มองไปที่มู่เวยเวยที่ไม่มีสติ สีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมแล้วพูดว่า ” คุณพูดมา ”
“ตอนนี้คุณพลิกตัวคุณมู่ให้เอียงไปด้านใดด้านหนึ่งก่อน จากนั้นก็เอาหมอนมารองไว้ใต้ไหล่ของเธอ ถ้าทำเสร็จแล้วก็บอกกับฉัน ” คุณหมอหานขับรถไปด้วยแล้วพูดด้วยอย่างที่ชัดเจนไปด้วย
เย่ฉ่าวเฉินทำตามที่เขาบอกทุกอย่างและพูดขึ้นว่า ” เสร็จแล้ว ”
คุณหมอหานหักเลี้ยว แล้วพูดต่อว่า “คุณใช้มือทั้งสองข้างจับไปที่รอยต่อของข้อศอกของเธอแล้วยกแขนของเธอให้เหยียดตรง คุณจะเห็นว่าหน้าอกของมู่เวยเวยมีการขยับ รอ 2-3วินาทีให้งอและวางแขนทั้งสองข้าไปที่ส่วนล่างของกระดูกซี่โครง แล้วกดส่วนโค้งของกระดูกซี่โครงไปข้างหน้าประมาณ 2 วินาที……”