โรงพยาบาล
หนานกงเฮ่าอยากเอาใจมู่เวยเวย และได้ให้เชฟที่บ้านทำอาหารส่งมาให้เธอแต่เช้า
” เวยเวย เธอลองกินซุปปลานี้ดูสิ ฉันบอกให้พวกเขาเคี่ยวนานมาก ” หนานกงเฮ่าตักซุปปลาขึ้นมาตรงหน้าเธอด้วยตัวเอง
มู่เวยเวยใช้ช้อนชิมดู ปรากฏว่ามันอร่อยมาก
หนานกงเฮ่ามองเธอด้วยสายตาที่คาดหวัง ” เป็นยังไงบ้าง? ”
” อร่อยมาก “มู่เวยเวยตอบไปตามความจริง
หนานกงเฮ่าหัวเราะด้วยความดีใจ ” เธอชอบก็ดีแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะให้พวกเขาทำเมนูอื่นๆมาให้เธอชิมนะ ”
พรุ่งนี้? นี่เขาจะมาทุกวันเลยหรอ?
กำลังจะปฏิเสธ หนานกงเฮ่าก็มีสายเรียกเข้า เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูจากนั้นก็เดินออกไปรับสายด้านนอก มู่เวยเวยยื่นหูออกไปฟังอย่างตั้งใจ
” แม่ ผมรู้แล้ว…..ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้……”
ในที่สุดคุณก็ถูกเรียกตัวไปสักที มู่เวยเวยแทบจะทนไม่ไหวกับการจู้จี้จุกจิกของเขาแล้ว
หลังจากหนานกงเฮ่าคุยโทรศัพท์เสร็จก็เดินเข้ามายังห้องผู้ป่วย พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
” เวยเวย เธอค่อยๆกินนะ ฉันมีธุระที่ต้องจัดการนิดหน่อย จานชามพวกนี้เดี๋ยวจะมีคนมาเก็บเอง ”
” อ้อ ” มู่เวยเวยก้มหน้ากินข้าวโดยไม่ได้สนใจเขาเลย หนานกงเฮ่าก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร มองเธอสักพักก็หันหลังเดินออกไป
พอเขาเดินไปไกลแล้ว มู่เวยเวยลุกมายืนที่หน้าห้องว่าเขาไปแล้ว
ทั้งเช้าของวันนี้ อึดอัดจะตายอยู่แล้ว
เธอค่อยๆดื่มซุปปลาให้หมด มู่เวยเวยเดินไปมาอยู่ในห้อง ในใจก็ถึงเรื่องทนายของเย่ฉ่าวเฉินจะมาเมื่อไหร่?
เธอในตอนนี้แค่คิดถึงเรื่องหย่ากับเย่ฉ่าวเฉินเธอก็ดีใจมาก ถ้าเป็นแบบนี้เขาก็ไม่สามารถใช้เหตุผลอะไรมากักขังเธอไว้อีกแล้ว
” เธอก็ดูไม่ได้เป็นอะไรมากนะ ” เสียงเข้มของผู้ชายดังขึ้นจากข้างหลัง
มู่เวยเวยรีบหันไปดู เย่ฉ่าวเฉินบืนอยู่หน้าประตู ในมือเขาถือกล่องอาหารกลางวันอยู่
” ไม่ต้องมามองฉันด้วยสายตาแบบนี้ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก ” เย่ฉ่าวเฉินเดินเข้ามาและสังเกตเห็นอาหารที่หลากหลายวางอยู่บนโต๊ะเขาก็ขมวดคิ้วแล้วถามด้วยความสงสัย ” เธอกินข้าวแล้วหรอ? ”
มู่เวยเวยมองเขาอย่างเย็นชาโดยไม่ได้พูดอะไร
” ถ้าอย่างนั้นก็กินเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ ” เย่ฉ่าวเฉินเอาอาหารที่เตรียมมาวางไว้บนโต๊ะ
มู่เวยเวยหยิบมีดปอกผลไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะเล็งไปที่เขา แล้วพูดว่า ” ออกไป! ”
เย่ฉ่าวเฉินตกใจเล็กน้อย และเงยหน้าขึ้นมามองเธอ และพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำอะไรไม่ถูก ” ฉันแค่อยากกินข้าวเงียบๆ ”
” ออกไป —– ” มู่เวยเวยตะโกนออกมา เริ่มมีอารมณ์โกรธ ” ฉันบอกให้คุณออกไป ไม่งั้นฉันจะฆ่าคุณ ”
เย่ฉ่าวเฉินพยายามพูดปลอบเธอ ” เวยเวย เธอใจเย็นๆหน่อยได้ไหม…… ”
” ฉันไม่อยากได้ยินคำพูดของคุณ ออกไป เย่ฉ่าวเฉิน ฉันบอกให้คุณออกไป……” มีดปอกผลไม้ในมือก็มู่เวยเวยสะบัดไปมา เย่ฉ่าวเฉินกลังว่าจะพลาดโดนเธอจึงไม่กล้าเข้าไปแย่ง
หมอและพยาบาลได้ยินเสียงดังมาจากทางนี้ ก็รีบวิ่งไปดู พอเห็นเหตุการณ์ก็รีบลากตัวเย่ฉ่าวเฉินให้ออกไป
หมอประจำของเธอพูดปลอบเธอว่า ” โอเคแล้ว เขาไปแล้ว เวยเวยคุณอย่าใจร้อนวางมีดในมือลงก่อน ”
มือของมู่เวยเวยสั่น เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองบ้าไปแล้วจริงๆ
” ติง —- ” เสียงมีดตกลงพื้น มู่เวยเวยนั่งกอดเข่าตัวเอง น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้
หมอประจำตัวเธอเห็นว่าเธอสงบลงแล้ว จึงเดินเข้ามาลูบหลังเธอแล้วพูดปลอบเธอว่า
” โอเคแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว ”
นอกห้องผู้ป่วย เย่ฉ่าวเฉินมองเธอผ่านกระจกห้อง ทำให้เขารู้สึกว่ามีมีดปักลงที่ใจ แต่ก่อนเธอเคยกลัวที่จะต่อปากต่อคำกับเขาสักที่ไหน เขารู้สึกว่าเธอมีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยความกล้า ในสายตาของเธอมีเขาอยู่เสมอ
แต่ตอนนี้ เธอเก็บตัวอยู่ในมุมมืด ร้องไห้งอแง ตัวเขาเองเข้าใกล้เธอไม่ได้เลยแม้แต่ก้าวเดียว
เขาบีบบังคับเธอให้ต้องมาถึงจุดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
” คุณเย่ ต่อไปหากคุณไม่มีเรื่องสำคัญก็ไม่ต้องมาแล้วนะคะ อารมณ์ช่วงนี้ของเธอดีขึ้นมาก บางทียังพูดเล่นกับพยาบาลเลย แต่ว่าพอคุณมา เธอก็กลับไปเป็นแบบเดิม ”
สายตาของเย่ฉ่าวเฉินยังคงมองไปที่เธอ ผ่านไปสักพักก็ต่อยๆพูดว่า ” ฉันรู้แล้ว ”
ในเวลาสิบเอ็ดโมงตรง หนานกงเฮ่าก็มาหามู่เวยเวยที่ห้องผู้ป่วย นอกจากจะเตรียมอาหารที่น่ากินมาให้เธอแล้วยังได้เตรียมดอกกุหลาบช่อใหญ่มาให้เธออีกด้วย
” ขอให้เธอหายไวไวนะ ชอบไหม? ”
มู่เวยเวยรับดอกกุหลาบมาแล้วฝืนยิ้มพูดว่า ” หนานกงเฮ่า ฉันไม่ชอบดอกกุหลาบ ”
” แล้วเธอชอบดอกอะไร? ฉันจะไปซื้อมาให้เธอเดี๋ยวนี้ ”
มู่เวยเวยพูดว่า ” ฉันไม่ชอบดอกไม้ คุณไม่ต้องให้ดอกไม้กับฉัน ”
” โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ” หนานกงเฮ่าไม่โกรธและตอบด้วยความยินดี
เย็นวันนั้น หนานกงเฮ่าได้เตรียมของขวัญสุดพิเศษมาซึ่งก็คือผลงานของแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดังของฝรั่งเศส
มู่เวยเวยตกใจ เธอมองดูอย่างกับได้ของที่เธอรัก ” คุณได้มันมาได้ยังไง? นี่มันมีค่ามากเลยนะ ”
หนานกงเฮ่าเห็นเธอดีใจขนาดนี้ก็รู้เลยว่าของขวัญชิ้นนี้เหมาะสมแล้วที่จะมอบให้เธอ คำแนะนำของเฉียวซินโยวก็ใช้ได้นะเนี่ย
” ขอแค่เธอมีความสุข นอกจากพระจันทร์บนฟ้าแล้ว สิ่งที่เธออยากได้ฉันก็จะเอามาวางไว้ตรงหน้าเธอให้ได้ ” หนานกงเฮ่าพูดอย่างซาบซึ้ง
มู่เวยเวยขนลุกไปทั้งตัว แต่ก็ยังคงยิ้มแล้วพูดว่า ” ขอบคุณนะ หนานกง ”
หนานกงเฮ่ายิ้มออกมาอย่างมีความสุข ดูเหมือนว่าความพยายามของเขาไม่ได้เสียเปล่า แค่เพียงเวลาสั้นๆแค่สองวัน ท่าทีของมู่เวยเวยที่มีต่อเขาเปลี่บยไปมาก
มู่เวยเวยดูผลงานออกแบบนั้นอย่างตั้งใจ ผมเธอตกมาบังหน้าเธอ หนานกงเฮ่าใช้มือเก็บผมทัดหูให้เธออย่างสนิทสนม มู่เวยเวยไม่ได้ปฏิเสธทำให้หนานกงเฮ่ายิ่งดีใจมากขึ้นไปอีก
เพื่อเอาชนะใจมู่เวยเวย หนานกงเฮ่าพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะซื้อผลงานที่ราคาสูงของดีไซเนอร์คนดังมาครอบครอง ขอแค่ผลงานตกอยู่ในมือเขา เขาก็จะเอามาวางไว้ให้มู่เวยเวยตรงหน้าทันที
ทันใดนั้น มู่เวยเวยก็มองหน้าเขา รอยยิ้มบนหน้าก็ยิ้มมากขึ้นเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ของทั้งสองดีขึ้นมาก ราวกับว่าเรื่องบาดหมางแต่ก่อนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
……
วันหยุดสุดสัปดาห์ ห้องหนังสือ ที่ คฤหาสน์ตระกูลเย่
” เมื่อครั้งที่แล้วให้นายไปสืบเรื่องหนานกงเฮ่า ได้เรื่องยังไงบ้าง? ” เย่ฉ่าวเฉินถามจางเห่อ
” หนานกงเฮ่าไม่ได้เคลื่อนไหวทำเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ไม่มีหลักฐานใดๆที่จะแสดงให้เห็นว่าเรื่องครั้งที่แล้วมันเกี่ยวข้องกับเขา แต่ว่า….. ” จู่ๆจางเห่อก็หยุดพูด
เย่ฉ่าวเฉินมองหน้าเขา ” พูด ”
” ช่วงนี้หนานกงเฮ่าไปโรงพยาบาลบ่อย ”
” เขาป่วยหรอ? ” เย่ฉ่าวเฉินขมวดคิ้ว
จางเห่อกุมมือตัวเอง แล้วพูด ” ป่าวครับ เขาไปเยี่ยมคุณผู้หญิง ”
เย่ฉ่าวเฉินทำหน้าผิดหวัง เขาคิดถึงอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะครั้งนั้น ตอนนั้นก็รู้สึกเหมือนกันว่าจานชามพวกนั้นประณีตมากไม่เหมือนกับของโรงพยาบาลหรือโรงแรม ที่แท้ก็เป็นของบ้านหนานกงเฮ่า
” ทำไมไม่บอกฉันให้เช้ากว่านี้? ” เย่ฉ่าวเฉินรู้สึกอิจฉา
จางเห่อก้มหน้า ” พวกผมก็พึ่งรู้ครับ ข้างกายเขามีการ์ด พวกเราเข้าไปใกล้เขามากไม่ได้”
“ไอ้โง่! ” เย่ฉ่าวเฉินด่าออกมา
ทันใดนั้น ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เย่ฉ่าวเฉินตะโกนถามด้วยความโกรธ ” ใคร? ”
” คุณชาย ฉันเอง ”
” เข้ามา ”
พ่อบ้านหวังเปิดประตูเข้ามา ในมือถือพัสดุอยู่ ” คุณชาย มีของพึ่งส่งมาครับ ”
เย่ฉ่าวเฉินรับมา เปิดออก ข้างในมีกระดาษสองสามแผ่น พอหยิบออกมาดูก็โกรธขึ้นมาทันที ” อยากหย่า ฝันไปเถอะ! ” จากนั้นเขาก็โยนกระดาษพวกนั้นทิ้งลงบนโต๊ะแล้วถีบประตูออกไปเลย
จางเห่อและพ่อบ้านหวังมองหน้ากัน แล้วรีบเดินตามเขาไป
พ่อบ้านหวังเก็บกระดาษที่ตกอยู่ขึ้นมาดู ในกระดาษเขียนไว้ว่า ข้อตกลงในการหย่า
ที่เซ็นชื่อฝ่ายชายว่างอยู่ แต่ฝ่ายหญิงเซ็นเรียบร้อยแล้ว มู่เวยเวย
……
เมื่อหลายชั่วโมงก่อน
มู่เวยเวยตื่นมาแต่เช้าแล้วรู้สึกเวียนหัว พอแพทย์ประจำตัวมาตรวจดูแล้วปรากฏว่ามีไข้เล็กน้อย ให้เธอพักผ่อนก่อนถ้ายังมีไข้อยู่ก็จะให้กินยา
ในตอนที่เธอกำลังจะหลับ หนานกงเฮ่าก็เข้ามา
” เวยเวย ฉันได้ยินหมอบอกว่าเธอไข้ขึ้น? ” หนานกงเฮ่าวางของลง และเดินเข้ามาใช้มือแตะที่หน้าผากเธอ ” มีไข้เล็กน้อย ตอนนี้เป็นไงบ้าง? อยากดื่มน้ำไหม? ”
มู่เวยเวยพยักหน้า เธอคอแห้งมากแล้ว
หนานกงเฮ่าเทน้ำอุ่นๆแล้วป้อนให้เธอ ” ค่อยๆกินนะ ”
มู่เวยเวยดื่มน้ำแล้วรู้สึกดีขึ้นมาก
” หนานกง ทำไมมาเช้าขนาดนี้ล่ะ? ”
หนานกงเฮ่านั่งลงข้างเตียงเธอ ก้มหน้าพูดกับเธออย่างอ่อนโยน ” วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉันกลัวว่าเธอจะเบื่อเลยมาอยู่เป็นเพื่อน ”
” ขอบคุณนะ หนานกง ” มู่เวยเวยพูดเบาๆ ” ฉันยังรู้สึกง่วงมากๆ ฉันขอนอนก่อนนะ ”
หนังตาของหนานกงเฮ่ากระตุก แล้วแตะไปที่ไหล่เธอเบาๆ ” เวยเวยอย่าพึ่งนอน ฉันเอาเอกสารบางอย่างมา เธอเซ็นชื่อก่อนแล้วค่อยนอนนะ ”
” มันคืออะไร—– ” มู่เวยเวยอยู่ในสภาพที่ไร้เรี่ยวแรง หัวใจเธอเต้นเร็วมาก ในที่สุดหางเขาก็โผล่แล้ว
เห็นว่าหนานกงเฮ่าหยิบเอกสารบางอย่างขึ้นมาวางไว้ตรงหน้าเธอแล้วพูดว่า ” เธออยากหย่ากับเย่ฉ่าวเฉินไม่ใช่หรอ? เชื่อฉัน เซ็นชื่อตรงนี้ เธอก็จะหย่ากับเขาสำเร็จ ”
” จริงหรอ? ได้จริงๆใช่ไหม? ” มู่เวยเวยพยามลุกออกจากเตียงแล้วรับเอกสารพวกนั้นมาดู ใบแรกเขียนไว้ว่าข้อตกลงในการหย่า
ข้อตกลงในการหย่า? มู่เวยเวยรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที มันทำได้ง่ายดายขนาดนั้นเลยหรอ ถ้ารู้ว่าเป้าหมายของหนานกงเฮ่าเป็นเรื่องนี้เธอก็คงให้ความร่วมมือไปตั้งนานแล้ว
” เวยเวย เธอโอเคไหม? ” หนานกงเฮ่าถามด้วยน้ำเสียงที่กังวล
มู่เวยเวยค่อยๆหันไป แล้วยิ้มบอกว่า ” หนานกง ฉันเวียนหัวนิดหน่อย ”
หนานกงเฮ่ารู้สึกดีใจ ยื่นปากกาให้กับเธอแล้วพูดว่า ” เวยเวย เซ็นเถอะ เซ็นเสร็จเธอก็จะหลุดพ้นจากเย่ฉ่าวเฉินแล้ว ”
มู่เวยเวยรับปากกามา แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเซ็นชื่อลงตรงที่ชื่อของฝ่ายหญิงต้องเซ็น หนานกงเฮ่ายื่นเอกสารอีกใบหนึ่งแล้วชี้ไปตรงจุดหนึ่งพูดว่า ” เซ็นตรงนี้ด้วย ”
มู่เวยเวยไม่ได้ปฏิเสธ แล้วเซ็นชื่อตัวเองลงไป
เพียงแปบเดียว การเซ็นชื่อสิ้นสุดลง หนานกงเฮ่ารู้สึกโล่งอกแล้วเอาเอกสารข้อตกลงในการหย่าเก็บไว้เป็นอย่างดี จากนั้นก็ลูบผมเธออย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า ” โอเคแล้ว นอนเถอะคนดี ที่เหลือฉันจัดการเอง ”
มู่เวยเวยพยักหน้า แล้วนอนปิดตาลง
แค่นี้ก็เสร็จแล้วหรอ? เธอยังไม่ได้อ่านเอกสารนั้นอย่างจริงจังเลย แต่ว่าจะอ่านหรือไม่อ่านก็เหมือนกัน ถึงยังไงเธอก็จะออกมาแต่ตัวอยู่แล้ว เงินทองของตระกูลเย่เธอไม่ต้องการแม้แต่บาทเดียว
แต่ว่า เย่ฉ่าวเฉินจะยอมเซ็นไหม?
จากนิสัยของเขาแล้ว ถ้าเซ็นสิแปลก
ช่างเถอะ ถึงยังไงก้าวแรกก็ถือว่าดำเนินไปได้ดี ขอแค่ได้ออกจากชีวิตเย่ฉ่าวเฉิน หนานกงเฮ่าจะทำอะไรก็ตามใจเขาเถอะ
เพียงแต่ว่ามู่เวยเวยลืมคิดไปว่า สิ่งที่ตัวเองทำลงไปมันคือหนีเสือปะจระเข้
เธอตื่นขึ้นมาในตอนเย็น เธอรู้สึกดีขึ้นมา ไข้ก็ลดแล้ว
หนานกงเฮ่าเอาน้ำอุ่นๆมาให้เธอ ” คุณหมอบอกแล้วว่าเป็นไข้มักจะคอแห้ง รีบดื่นน้ำสักหน่อยนะ ”
” อ้อ ” มู่เวยเวยยื่นมือไปรับน้ำมาดื่ม เมื่อคิดถึงเอกสารข้อตกลงในการหย่านั่น เย่ฉ่าวเฉินน่าจะเห็นแล้วนะ
กำลังคิดอยู่ ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกเปิดออก คนที่เธอพึ่งนึกเธอก็ปรากฏตัวตรงหน้าประตู
อย่างกับว่าเป็นโจโฉ
เย่ฉ่าวเฉินเดินเข้ามา แล้วมองไปที่หนานกงเฮ่า ” หนานกงเฮ่า ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่? ”
หนานกงเฮ่านั่งอยู่ข้างเตียงและไม่ได้ลุกขึ้น และเอาตัวบังมู่เวยเวยไว้ แล้วพูดอย่างอ่อนโยน ” เวยเวยป่วย ฉันมาดูแลเธอ ”
เย่ฉ่าวเฉินโกรธมาก ” มู่เวยเวยเป็นภรรยาของฉัน ไม่ต้องรบกวนหนานกงเฮ่านายมาดูแลหรอก ”
หนานกงเฮ่าพูดท้าทายเขา ” เย่ฉ่าวเฉิน ถ้าไม่ใช่เพราะนาย เวยเวยจะอยู่ในสภาพแบบนี้ไหม? นี่นายจะกล้าพูดอย่างเต็มปากว่าเธอคือภรรยาหรอ? นายเคยยกย่องเธอในฐานะภรรยาด้วย?
” นี่มันเป็นเรื่องภายในของตระกูลเย่ ไม่ใช่เรื่องของนาย! ” เย่ฉ่าวเฉินกำหมัดแน่นเหมือนพร้อมจะต่อยอยู่ตลอดเวลา
หนานกงเฮ่าแสยะยิ้ม ” ถ้าคนที่นายแต่งงานด้วยเป็นคนอื่น ฉันก็ไม่ยุ่งหรอก แต่ว่าคนที่นายแต่งงานด้วยคือเวยเวย ฉันไม่ยุ่งไม่ได้ ”
” นายถอยไป ฉันจะคุยกับเธอ ” เย่ฉ่าวเฉินเดินผ่านเขาไป มองไปที่มู่เวยเวย
” ไม่ ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ คุณออกไป ” มู่เวยเวยตะโกนมาในขณะที่ยังหลบอยู่หนานกงเฮ่า
เย่ฉ่าวเฉินยื่นมือไปดึงเธอให้ออกมาจากด้านหลังหนานกงเฮ่า แล้วจ้องเธอด้วยสายตาน่ากลัว ” มู่เวยเวย เธอเป็นคนเซ็นชื่อในเอกสารข้อตกลงในการหย่าหรอ? ”
มู่เวยเวยทุบแขนของเขาสุดแรง และพูดด้วยความตื่นตระหนก ” ฉันเป็นคนเซ็นเอง ฉันจะหย่ากับคุณ คุณมันปีศาจร้าย ฉันต้องการหย่ากับคุณ ”
” หย่า? จากนั้นก็ให้เธอสมหวังกับหนานกงเฮ่า? มู่เวยเวย ฝันไปเถอะ ”
หนานกงเฮ่าแกะมือเขาออก แล้วบังตัวมู่เวยเวยไว้ ” เย่ฉ่าวเฉิน เชิญนายออกจากที่นี่ด้วย เวยเวยไม่อยากเห็นหน้านาย ”
” นายหุบปากไปเลย! ” เย่ฉ่าวเฉินจ้องหน้าหนานกงเฮ่าด้วยความโกรธ ” นี่มันเป็นเรื่องระหว่างสามีภรรยา นายมีสิทธิ์อะไรมายืนพูดอยู่ตรงนี้? ”
หนานกงเฮ่ายักไหล่ ” เอาล่ะ ฉันไม่เถียงกับคนแบบนาย แต่ว่าเย่ฉ่าวเฉิน เพื่อศักดิ์ศรีของนาย นายยอมเซ็นหย่าแต่โดยดีเถอะ ”
เย่ฉ่าวเฉินสู้ไม่ถอย ” ฉันบอกไปแล้ว ฉันไม่เซ็น แม้มู่เวยเวยตายไปแล้ว ป้ายหน้าศพเธอก็ต้องเขียนไว้ว่าภรรยาของเย่ฉ่าวเฉิน ถ้านายอยากใช้ชีวิตร่วมกับเธอก็ขอพรเอาชาติหน้านะ ”
คำพูดของเย่ฉ่าวเฉินเหมือนดาบอาบยาพิษ ซึ่งทำให้มู่เวยเวยสั่นสะท้าน
” ได้ ถ้าอย่างนั้นเราก็รอเจอกันในชั้นศาล ” หนานกงเฮ่าพูด
เย่ฉ่าวเฉินหัวเราะออกมาด้วยความเยาะเย้ย ” หนานกงเฮ่า นายทำแบบนี้พ่อแม่นายเห็นด้วยรึป่าว? นายคิดว่าพวกท่านจะยอมให้นายแต่งงานกับผู้หญิงที่เคยแต่งงานแล้วอย่างนั้นหรอ? นายลืมไปแล้วหรอครั้งที่แล้วพวกท่านเตือนนายว่ายังไง? ”
” เย่ฉ่าวเฉิน นายไม่ต้องเอาพ่อแม่ฉันมาขู่ ถ้าฉันต้องการจะทำแบบนี้ แล้วพวกท่านจะทำอะไรได้? ” หนานกงเฮ่ายังคงปากแข็ง แต่ในใจเขารู้ดีว่าพ่อแม่เขาไม่ยอมรับในตัวมู่เวยเวยแน่ๆ
แต่แล้วยังไงละ ถึงพวกเขาไม่เห็นด้วย เขาก็จะพาเธอไปใช้ชีวิตด้วยกันไกลๆ
” หนานกงเฮ่า รอให้นายเป็นผู้ดูแลกิจการของตระกูลหนานกงแล้วค่อนว่ากันใหม่ ตอนนี้ นายออกไปจากที่นี่ได้แล้ว ” เย่ฉ่าวเฉินพูดขึ้นพร้อมชี้ไปที่ประตู
มู่เวยเวยรีบจับมือหนานกงเฮ่าไว้ ” ไม่ หนานกงคุณอย่าไปนะ เย่ฉ่าวเฉินคนที่ควรจะออกไปเป็นคุณ ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ ”
คำพูดของเธอทำให้เย่ฉ่าวเฉินโกรธมาก
หนานกงเฮ่าจับมือเธอไว้แน่นแล้วมองไปที่เย่ฉ่าวเฉินอย่างเย้ยหยันแล้วพูดว่า ” นายเห็นรึยัง? เขาที่สมควรจะอยู่? ”
” มู่เวยเวย เธออยากตายใช่ไหม? ” สายตาของเย่ฉ่าวเฉินจ้องเธอราวกับว่าจะฆ่าเธอให้ได้
มู่เวยเวยจ้องหน้าเขาแล้วพูดว่า ” ก็ดีนะ คุณฆ่าฉันเลยสิ ยังไงคุณก็ฆ่าพี่ชายฉันไปแล้ว ฆ่าฉันอีกคน ฉันจะได้ไม่ทรมาน ”
” เธอ……” คำพูดของเธอทำให้เย่ฉ่าวเฉินพูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้น้ำเข้าสมองใช่ไหม ทำไมถึงเข้าข้างคนอื่น?
หนานกงเฮ่าหันลังแล้วพูดอย่างสนิทสนม ” ไม่ต้องกลัวนะ มีฉันอยู่เขาทำอะไรเธอไม่ได้หรอก ”
มู่เวยเวยหลบอยู่ที่ไหล่เขาแล้วพยักหน้า
” เย่ฉ่าวเฉิน ทีนี้นายเห็นแล้วนะ คนที่เวยเวยกลัวและไม่อยากเจอมากที่สุดคือนาย แล้วตอนนี้คุณจะยังอยู่ที่นี่อยู่อีกทำไม? ” หนานกงเฮ่ามองหน้าเขาด้วยความเย้ยหยัน และยังคงไม่ปล่อยมือมู่เวยเวย
เย่ฉ่าวเฉินเห็นมือที่ประสานกันของพวกเข่ ก็รู้สึกโกรธมากแล้วต่อยไปที่หน้าของหนานกงเฮ่า
” ปั๊บ —— ”
หนานกงเฮ่าถูกต่อยล้มลงกับพื้น มู่เวยเวยกรี๊ดด้วยความตกใจ
หนานกงเฮ่ากำลังจะลุกขึ้น เย่ฉ่าวเฉินก็ใช้เท้าเหยียบไปที่หน้าอกเขา และพูดเตือนเขาว่า ” หนานกงเฮ่า จำสิ่งที่นายพูดวันนี้ไว้นะ นายจะต้องชดใช้ ”
พอพูดจบ ก็หันหลังกลับไปบีบคอมู่เวยเวย มองหน้าเธอแล้วพูดว่า ” อย่าคิดว่าจะหย่ากับฉันได้ ชีวิตเธอในชาตินี้ เป็นคนของตระกูลเย่ ถ้าต้องตายก็ต้องเป็นผีของตระกูลเย่ จะออกจากชีวิตฉัน อย่าเพ้อฝัน แล้วก็ถ้าเธอกับไอ้นี่มีอะไรกัน ฉันจะถลกหนังเธอทิ้ง ”
” โอ๊ย —— ” มู่เวยเวยกรีดร้อง แล้วทุบแขนเย่ฉ่าวเฉิน
หมอได้ยินเสียงกรีดร้องก็รีบวิ่งเข้ามาพอเห็นสถานการณ์ทุกคนก็ต่างตกใจ เย่ฉ่าวเฉินเป็นคนยังไง ทุกคนรู้ดี
เย่ฉ่าวเฉินรีบปล่อยมือออกแล้วเดินออกจากห้องผู้ป่วยไป
มู่เวยเวยหอบอบ่างรุนแรง แล้วลูบหน้าอกตัวเอง เย่ฉ่าวเฉิน นายนี่มันบ้าจริงๆเลย
หนานกงเฮ่าลุกขึ้นจากพื้นแล้วเช็ดเลือดที่มุมปากออก แล้วพูดปลอบเวยเวยว่า ” เธอยังโอเคใช่ไหม? ”
” ไม่เป็นไร……ฉันไม่เป็นไร……” เสียงของมู่เวยเวยสั่น เธอนอนลงบนตัวแล้วพูดว่า ” ฉันอยากนอนพัก คุณไม่ต้องสนใจฉัน ”
หนานกงเฮ่ายังอยากพูดอะไรบางอย่างต่อ ถ้าว่าโดนคุณหมอห้ามไว้แล้วดึงออกจากห้องไป ” สภาพเธอในตอนนี้เหมาะที่จะอยู่คนเดียว ให้เวลาเธอสงบสติอารมณ์หน่อย ”
หนานกงเฮ่าพยักหน้า ปิดประตูห้องผู้ป่วย แล้วเดินออกไปสุดทาง
จะปล่อยให้เรื่องเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เย่ฉ่าวเฉินต้องหาวิธีให้เขาออกจากมู่เวยเวยแน่ๆ ดังนั้นเขาต้องรีบลงมือทำตามแผนที่วางไว้
” เฉียวซินโยว ออกมาเจอกันหน่อย ”
” เมื่อไหร่? ” เฉียวซินโยวกำลังสั่งให้สาวใช้เปลี่ยนม่านหน้าต่างอยู่
” ห้าโมงเย็น ที่เดิม ”
เฉียวซินโยวดูเวลาตอนนี้บ่ายสามยังมีเวลาเตรียมตัวสองชั่วโมง
” ได้ ฉันตกลง ”
……
บนถนน รถคาเยนน์คันใหม่ของเย่ฉ่าวเฉินกำลังวิ่งอยู่ ในใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาเหยียบคันเร่งให้ขับเร็วขึ้นเรื่อยๆ มองไปเหมือนกับว่าจะชนเข้ากับรถบรรทุกคันข้างเธอ เขาจึงเหยียบเบรก
” ฟึ่บ —— ” เสียงเบรกดังขึ้น รถคาเยนน์หยุดลงโดยห่างจากรถบรรทุกคันข้างหน้าหนึ่งเมตร
ก้มหน้าฟุบลงกับพวงมาลัย เย่ฉาวเฉินกดโทรออกเบอร์ของใครบางคน
” คุณหนานกง ไม่เจอกันนานมาก ”
” ฮ่าๆ ประธานเย่คงยุ่งๆ งานเลี้ยงบริษัททุกครั้งก็ไม่เคยเจอเลย ” เสียงหนักแน่นของพ่อหนานกงเฮ่าพูดขึ้น
” ที่ผมโทรมาในวันนี้ก็เพราะอยากจะบอกเรื่องหนึ่งกับท่าน ”
” เชิญพูดได้เลย ”
เย่ฉ่าวเฉินมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีรถเต็มไปหมด แล้วพูดนิ่งๆว่า ” คุณหนานกงได้ใส่ใจบ้างรึป่าวว่าลูกชายของท่านกำลังทำอะไรอยู่? ผมขอเตือนนะครับท่าน ถ้าหนานกงเฮ่ายังสนใจในตัวภรรยาผมแบบนี้ถ้าผมทำอะไรลงไป ก็ขอให้คุณหนานกงอย่าถือโทษผมนะครับ ”
” นี่ ……ไอ้ลูกเวรนี่ ” คุณหนานกงสบถคำนี้ออกมา แล้วรีบพูดขอโทษ ” ประธานเย่ ฉันจะไปเรียกตัวมันมาเดี๋ยวนี้ คุณสบายใจได้ เรื่องนี้เดี๋ยวผมจัดการให้ ”
ตระกูลหนานกงก็ถือว่ามีหน้ามีตาในเมือง A ไม่ได้แตกต่างอะไรกับเขามากนัก เย่ฉ่าวเฉินไม่อยากให้เธอขั้นมองหน้ากันไม่ติด
” ไม่ต้องจัดการหรอก แต่ว่าผมไม่อยากเห็นเขามาวนเวียนอยู่รอบตัวภรรยาผมอีก ถ้ามีคราวหน้าผมเองก็ไม่แน่ใจว่าปืนของผมจะมีกระสุนหรือเปล่า ”
คุณหนานกงพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมาก ” ฉ่าวเฉิน เราทั้งสองครอบครัวก็เป็นมิตรกันมานาน ไว้หน้าลุงเถอะ อย่าพึ่งทำร้ายหนานกงเฮ่าเลย อาจะสั่งสอนมันเอง ”
” แบบนี้ดีสุดแล้วครับคุณลุงหนานกง ” เย่ฉ่าวเฉินวางสายและขับรถต่อ
หนานกงเฮ่า นายก็แค่ทายาทที่ไม่มีอะไรในมือเลย ฉันจะคอยดูว่านายจะใช้อะไรมาแย่งคนของฉันไป
ไปตามที่ที่นัดหมายไว้
เสียงเรียกเข้าของหนานกงเฮ่าดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นคุณพ่อเขาครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วค่อยกดรับ
” ไอ้เด็กเวร แกอยู่ไหน ” คุณหนานกงพูดด้วยน้ำเสียงโมโห
หนานกงเฮ่าพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ” พ่อครับ ผมอยู่ข้างนอก มีอะไรรึป่าว? ”
” กลับมาเดี๋ยวนี้ ให้ไวที่สุด ”
” ไม่ได้ ตอนนี้ผมมีเรื่องสำคัญต้องทำ ไว้พรุ่งนี้ผมค่อยกลับได้ไหม? ” หนานกงเฮ่าพูด
กลับมาเดี๋ยวนี้ เขามีทางเลือกเดียวคือกลับไปขังตัวอยู่ที่บ้าน
” แกอยู่กับมู่เวยเวยนั่นใช่ไหม? ” คุณหนานกงถามไปตรงๆ
หนานกงเฮ่าปฏิเสธ ” เปล่าครับ ไม่ได้อยู่ด้วยกันจริงๆ ครั้งที่แล้วแม่เตือนผมแล้ว ผมจะไปหาเธออีกได้ยังไง? ”
” แกอย่ามาโกหกฉัน เย่ฉ่าวเฉินโทรมาบอกฉันแล้ว ” คุณหนานกงยื่นคำขาด ” ถ้าคืนนี้ไม่เจอหน้าแก ฉันจะอายัดบัตรเครดิตและเงินสดทั้งหมดของแก ”
” พ่อ ถ้าพ่ออยากจะอายัดก็อายัดไปเลย ” พูดจบก็ตัดสายทิ้งทันที
อายัดบัตร? อายัดตามสบายเลย ยังไงผมก็โอนเงินไปเก็บไว้อีกธนาคารหนึ่งของผมไว้แล้ว เงินพวกนั้นมันเพียงพอสำหรับคนสองคนที่จะไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศไปทั้งชีวิตเลย
โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง เขาเหลือบไปมอง เป็นเบอร์ของแม่ของเขา เฉินซูฮว่า
ครั้งนี้เขาไม่ได้รับ แต่เลือกที่จะปิดเครื่องไปเลย
……
คฤหาสน์ตระกูลเย่
เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ เฉียวซินโยวออกจากคฤหาสน์อย่างเงียบๆ
เย่ฉ่าวเหยียนยืมมองเธอที่เดินออกไปอยู่ตรงระเบียง ก็รีบลงมาชั้นล่างแล้วบอกพ่อบ้านหวัง ” เตรียมรถ ฉันจะออกไปข้างนอก ”
รถคันสีดำตามรถขนส่งสาธารณะไป พอถึงป้ายรถหนึ่ง เย่ฉ่าวเหยียนเห็นเฉียวซินโยวเดินข้ามถนนแล้วเดินเข้าไปที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
เย่ฉ่าวเหียยนมองไปที่ป้ายชื่อของร้านกาแฟ ก็แสยะยิ้ม โอ้พระเจ้า นี่พวกเธอสองคนต้องมั่นใจขนาดนั้นกัน ไม่คิดจะเปลี่ยนสถานที่เลยหรอ?
ตอนที่เฉียวซินโยวไปถึง หนานกงเฮ่าก็นั่งอยู่ตรงตำแหน่งประจำอยู่แล้ว
” มีเรื่องอะไร? ทำไมรีบร้อนขนาดนี้? ทางคุณทุกอย่างราบรื่นดีไหม? ” เฉียวซินโยวนั่งรถก็ถามออกไปตรงๆ
หนานกงเฮ่าให้พนักงานมาเสิร์ฟกาแฟแล้วพูดว่า ” ก็ไม่เลว ฉันหวังว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกัน ”
เฉียวซินโยวพูดด้วยความดีใจ ” จริงหรอ? ”
” ตอนนี้มันเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว ฉันจะพาเวยเวยออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ” พอหนานกงเฮ่าพูดถึงชื่อเธอก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
เฉียวซินโยวเห็นท่าทีแบบนี้ของเขา ก็รู้สึกอิจฉามู่เวยเวยขึ้นไปอีก เธอมีอะไรดี ทำไมมีแต่ผู้ชายรุมล้อมเธอ แต่ว่าอีกไม่นานผู้ชายที่ดีที่สุดอย่างเย่ฉ่าวเฉินก็จะเป็นของเธอแล้ว
” ยังต้องการให้ฉันทำอะไรอีกหรือเปล่า? ” เฉียวซินโยวถาม
หนานโกงเฮ่าหยิบการ์ดสีดำออกมาหนึ่งใบแล้วโยนให้เธอ ” ในนี้มีเงินก้อนหนึ่ง ให้เธอ ”
เฉียวซินโยวรับมาเก็บไว้ในมือ ” นี่มันอะไร? ค่าทำงานร่วมกันหรอ? ”
หนานกงเฮ่าไขว้ขาแล้วมองหน้าเธอ ” เธอคิดมากไปแล้ว ฉันส่งเอกสารข้อตกลงการหย่าให้เย่ฉ่าวเฉินแล้ว เธอต้องทำให้เย่ฉ่าวเฉินเซ็นให้ได้ งานของเราถึงจะเสร็จสมบูรณ์ ”
” เซ็นชื่อ? ฉันจะทำได้ไง……” เฉียวซินโยวรู้สึกว่างานนี้ยากมาก ” เย่ฉ่าวเฉินเป็นใคร? ถ้าเขาไม่ยอมเซ็น จะให้ฉันมัดเขาให้เซ็นอย่างนั้นหรอ? ”
หนานกงเฮ่าแสยะยิ้ม ” ฉันไม่สนใจว่าเธอจะใช้วิธีอะไร ขอแค่ให้เขาเซ็นชื่อให้ได้ เย่ฉ่าวเฉินกับมู่เวยเวยถึงจะถือว่าหย่ากันแล้วจริงๆ ถ้าไม่อย่างนั้นเธอก็จะไม่มีวันได้เป็นคุณผู้หญิงแห่งตระกูลเย่ ”
เฉียวซินโยวครุ่นคิดแล้วเหมือนกับว่าเธอจะคิดวิธีบางอย่างได้แล้ว เธอยกยิ้มมุมปาก ” โอเค คุณพามู่เวยเวยออกไป ฉันจะหาวิธีทำให้เย่ฉ่าวเฉินเซ็นชื่อ ”
หนานกงเฮ่ายกแก้วกาแฟขึ้น “ขอให้เราทั้งคู่สมหวัง ”
เฉียวซินโยวยกแก้วกาแฟขึ้น ” ต้องสมหวัง ”
นอกร้านกาแฟ เย่ฉ่าวเหยียนเห็นเหตุการณ์เป็นแบบนี้ เขารู้เลยว่าทั้งสองคนทำข้อตกลงกันสำเร็จอีกแล้ว แต่ว่าพวกเขาวางแผนทำอะไรกัน?
พอเห็นหนานกงเฮ่าเดินออกมาจากร้านกาเฟ เย่ฉ่าวเหยียนก็โทนบอกลูกน้อง ” อาเจี๋ย ตามหนานกงเฮ่าไป ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้มารายงานฉัน ”
” ครับ เจ้านาย ”
พอวางสาย เย่ฉ่าวเหยียนก็รู้สึกไม่สบายใจ สัญชาตญาณของเขาบอกว่าคราวนี้หนานกงเฮ่าและเฉียวซินโยวจะทำเรื่องที่ทุกคนคาดไม่ถึง
พอคิดได้แบบนี้ เย่ฉ่าวเหยียนรีบส่งข้อความบอกมู่เวยเวย หนานกงเฮ่าและเฉียวซินโยวนัดเจอกันอีกแล้ว เหมือนว่ากำลังจะลงมือทำอะไรสักอย่าง เธอต้องระวังตัวนะ
ผ่านไปสักพัก มู่เวยเวยก็ตอบกลับ โอเค ฉันรู้แล้ว
ผ่านไปสักพัก ก็มีข้อความส่งมาอีกว่า ฉันลืมบอกคุณไป เมื่อเช้าหนานกงเฮ่าให้ฉันเซ็นใบหย่าไป พอเย่ฉาวเฉินเห็นจึงมาหาฉันที่โรงพยาบาล และพึ่งออกไป เขาโกรธมาก
ข้อตกลงในการหย่า? เย่ฉ่าวเฉินเห็นประโยคพวกนั้น ก็อึ้งไปสักพัก หนานกงเฮ่านี่ดำเนินการเร็วมาก รู้แบบนี้แล้ว เรื่องที่เขาและเฉียวซินโยวเจอกันในครั้งนี้น่าจะเกี่ยวกับเอกสารข้อตกลงในการหย่าแน่นอน
คฤหาสน์ตระกูลเย่
พอเย่ฉ่าวเฉินกลับมาถึงก็เข้าไปที่ห้องหนังสือ เอกสารการหย่านั่นคุณอาหวังวางไว้อย่างดี เขาวางไว้บนสุดของเอกสารทุกอย่าง เย่ฉ่าวเฉินหยิบขึ้นมาดูอีกครั้ง
เหตุผลในการหย่าที่เขียนไว้ คือ หลังจากที่ทั้งคู่ได้แต่งงานกันแล้ว นิสัยเข้ากันไม่ได้ ทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง ความรู้สึกระหว่างสามีภรรยาพังทลายลงแล้ว ไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกันต่อไปได้อีก
เงื่อนไขในการหย่ามีเพียงข้อเดียวเท่านั้น ฝ่ายหญิงมู่เวยเวยจะออกไปตัวเปล่า
เหอะ ออกไปตัวเปล่า ถึงจะเป็นแบบนี้ มู่เวยเวยเธออย่าหวังเลยว่าจะไปจากฉันได้
เย่ฉ่าวเฉินจุดไฟเผาเอกสารนั่นทิ้ง
ตอนที่กินข้าวเย็น เย่ฉ่าวเหยียนเห็นว่าเขาอารมณ์ไม่ดี จึงดึงตัวเขาไปเดินเล่นในสวน พอเฉียวซินโยวเห็นเข้าก็รีบขึ้นไปที่ห้องหนังสือชั้นสาม
เธอลองเปิดประตู ปรากฏว่าเปิดได้
เฉียวซินโยวเข้าห้องไปอย่างไม่ลังเล
เขาจะเอาเอกสารในการหย่าวางไว้ที่ไหน?
บนตู้หนังสือ บนโต๊ะ ในลิ้นชัก เฉียวซินโยวค้นหาด้วยความรวดเร็วแต่ก็ยังคงหาไม่เจอ
เอาวางไว้ตรงไหนกันแน่?
เฉียวซินโยวใช้สายตากวาดมองไปทั่วห้อง และเห็นว่ามีขี้เถ้าอยู่ในถังขยะ
เขา……คงไม่ได้เผาเอกสารการหย่าไปหรอกนะ
พอคิดได้แบบนี้ เฉียวซินโยวก็ปวดหัวขึ้นมา เย่ฉ่าวเฉินนี่ก็ใจแข็งจะไม่ยอมหย่ากับมู่เวยเวย
แล้วจะให้เขาเซ็นยังไงล่ะ?
ได้ยินเสียงคุยกันของเย่ฉ่าวเหยียนและเย่ฉ่าวเฉินอยู่ชั้นล่าง เฉียวซินโยวก็รีบออกจากห้องไป
……
โรงพยาบาล
พอมู่เวยเวยได้รับข้อความจากเย่ฉ่าวเหยียน ก็ได้ระวังทุกการกระทำของหนานกงเฮ่า
รวมถึงอาหารที่เขาเอสมาเธอก็ไม่ได้แตะเลย
” ทำไม? ไม่อร่อยหรอ? เธออยากกินอะไร? เดี๋ยวฉันไปซื้อมาให้ ” หนานกงเฮ่าพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
มู่เวยเวยส่ายหัว ” ฉันไม่อยากอาหาร ไม่อยากกินอะไรเลย ”
หนานกงเฮ่ามองซุปที่ใส่วัตถุดิบมากมายแล้วตักให้เธอด้วยตัวเอง ” ไม่อยากกินข้าว ก็ดื่มซุปสักหน่อยนะ ถ้าไม่กินอะไรเลย ตกดึกมาหิวจะทำยังไง? ”
มู่เวยเวยรับถ้วยซุปนั้นมา ใช้ช้อนคนไปคนมา และก็ได้กลิ่นเหมือนมียาบางอย่าง เธอตกใจ และถามเขาว่า ” ซุปนี้ทำไมกลิ่นแปลกไปไม่เหมือนเดิม ”
หนานกงเฮ่าพูดด้วยท่าทีนิ่งๆเหมือนเดิม ” ฉันซื้อซุปที่มีส่วนผสมของยาจีน มันทำให้จิตใจสงบ แล้วก็ช่วยให้นอนหลับได้สนิท ”
” อ้อ…..เป็นอย่างนี้นี่เอง ” มู่เวยเวยตักขึ้นมาน้อยๆแล้วใช้ลิ้นแตะชิมดู ” อ๊า ไม่ได้ ฉันไม่ชิน ” จากนั้นก็วางถ้วยซุปลงบนโต๊ะ
หนานกงเฮ่าไม่อยากให้ผิดสังเกต จึงบอกว่า ” จริงหรอ ถ้าไม่อยากดื่มก็ไม่ต้องดื่มก็ได้ พรุ่งนี้ฉันจะหาซื้อเจ้าอื่นมาให้ ”
มู่เวยเวยใช้โอกาสที่เขากำลังเก็บจานรีบวิ่งไปแปรงฟันในห้องน้ำ
เขาอยากวางยาเธอ? เขาจะทำอะไร?
คงไม่ใช่จะวางยาให้เธอสลบ จากนั้นก็……
ในหัวคิดถึงภาพที่ยากที่จะอธิบาย มู่เวยเวยตัวสั่น เขาก็ไม่ต่ำช้าขนาดนั้นหรอก
ออกจากห้องน้ำ หนานกงเฮ่าเอาอาหารทุกอย่างทิ้งลงในถังขยะเรียบร้อยแล้ว และเทน้ำอุ่นๆไว้ให้เธอ แล้วเปิดทีวีไว้
” อยากดูรายการทีวีอะไรไหม? ” หนานกงเฮ่าเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ โดยไม่มีท่าทีผิดปกติเลย
มู่เวยเวยนั่งลงบนโซฟาที่ไกลจากเขาที่สุด ในมือเธอจับแก้วน้ำไว้แต่ไม่ได้ดื่มเลยแม้แต่คำเดียว
” หนานกง มืดแล้ว คุณกลับบ้านเถอะ ” มู่เวยเวยเริ่มหว่านล้อมให้แขกกลับไป