“ตาสีม่วง ส่องแสงได้หรอ” คุณอาหวังอึ้ง แล้วมองมู่เวยเวยอย่างแปลกใจ จากนั้นก็ส่ายหน้า “ผมมีอายุมาขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยเห็นคนดวงตาสีม่วงเลย คุณหนูคิดอะไรอยู่ครับ ทำไมท่าทางสิ้นหวังอย่างนั้น เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า หรือว่าคุณชายรังแกอะไรคุณ คุณหนูฟังผมนะ ถึงแม้ว่าคุณชายของเราจะปากร้าย แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนใจดีมากนะ คุณ…”
“ฉันรู้แล้วค่ะ เย่ฉ่าวเฉินไม่ได้รังแกอะไรฉัน ไม่เลย…” มู่เวยเวยรีบหยุดคำพูดพล่ามพรรณนาของคุณอาหวัง
หลังจากที่ฟังคุณอาหวังแนะนำคฤหาสน์เมื่อวาน เธอก็รู้ทันทีว่า ถ้าเธอไม่ขัดคำพูดของเขา อาหวังต้องคุยลากยาวอีกหลายชั่วโมงจนไม่ได้พักเป็นแน่
แถมยังต้องฟังเรื่องเกี่ยวกับเย่ฉ่าวเฉิน ขอร้องเถอะ สำหรับผู้ชายเลวๆคนนั้น เธอไม่สนใจเลยสักนิด เป็นคนจิตใจดีหรอ ล้อเล่นรึไง เพิ่งจะรู้จักกันสองวัน เธอก็เกือบโดนเขาทรมานจนตายแล้ว
คุณอาหวังพยักหน้าพูดยิ้มๆ “ไม่มีก็ดีแล้วครับ ผมว่าแล้วว่าคุณชายของเราต้องเป็นคนที่มีเหตุผลมาก”
เย่ฉ่าวเฉินมีเหตุผลหรอ
มู่เวยเวยกระตุกยิ้มออกมาอยากอดไม่ได้ เพื่อที่จะไม่แสดงความเกลียดต่อเย่ฉ่าวเฉินออกมา เธอจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว “คุณอาหวัง ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เคยเจอผู้ชายที่ตาสีม่วง แต่ฉันขอถามหน่อย คือว่าเย่ฉ่าวเฉินคุณชายของพวกคุณ เขามีพี่น้องมั้ย”
“คุณชายมีน้องชายคนหนึ่ง” คุณอาหวังพูด
“น้องแท้ๆหรอคะ”
“ใช่” คุณอาหวังพยักหน้า “น้องชายของคุณชายคือ คุณชายเหยียน”
คุณชายเหยียน เย่ฉ่าวเหยียน
หรือว่าผู้ชายตาสีม่วงคนนั้นคือเย่ฉ่าวเหยียน
“งั้นดวงตาของเย่ฉ่าวเหยียนส่องแสงได้มั้ย ลูกตาเป็นสีม่วงรึเปล่า”
“ไม่ครับ ลูกตาของคุณชายเหยียนเป็นสีดำ”
“สีดำหรอ” ความตกใจกลับมาที่มู่เวยเวยอีกครั้ง “เย่ฉ่าวเฉินมีลูกตาสีฟ้า ทำไมน้องของเขาถึงมีสีดำล่ะคะ”
คุณอาหวังตอบยิ้มๆ “คุณชายมีเชื้อสเปนอยู่ 25% ครับ ดังนั้นจึงมีลูกตาสีฟ้า ส่วนคุณชายเหยียนดวงตาสีดำ ตามคุณท่านของเรา”
เมื่อได้ฟังคุณอาหวังอธิบายจบ มู่เวยเวยก็เพิ่งรู้ว่ายีนของเย่ฉ่าวเฉินนั้นดีมาก ถึงได้หล่อขนาดนั้น เธอว่าแม่ของเขาก็ต้องสวยมากๆแน่
งั้นผู้ชายตาสีม่วงคนนั้นเป็นใครล่ะ ในเมื่อไม่ใช่เย่ฉ่าวเฉิน แล้วก็ไม่ใช่เย่ฉ่าวเหยียนด้วย แล้วจะเป็นใคร….
มู่เวยเวยคิดไม่ออกอีกแล้ว เมื่อคุณอาหวังเห็นว่าเธอยึกยักจะพูดก็ไม่พูด เขาจึงถามยิ้มๆ “คุณหนูมีอะไรก็พูดมาเถอะครับ ผมจะช่วยแน่นอนถ้าช่วยได้”
เมื่อฟังคุณอาหวังพูดจบ ใจของมู่เวยเวยก็คันยุบยิบอีกครั้ง เธอเงียบไปพักใหญ่ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “งั้นคุณอาหวังคะ คุณบอกฉันได้ไหมว่าทำไมถึงห้ามเข้าใกล้ห้องที่มีกระดิ่งนั่น ข้างในมีอะไรกันแน่”
คิดไม่ถึงว่า เมื่อคุณอาหวังได้ยินคำถามของมู่เวยเวย สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปเป็นซีดเผือดในทันที พร้อมกับสายตาที่จ้องไปข้างหลัง
เมื่อมู่เวยเวยเห็นท่าทางของเขา เธอก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก จึงรีบจับมือคุณอาหวังไว้และถาม “คุณอาหวังต้องรู้อะไรมาแน่ๆ รีบบอกฉันสิคะ ในนั้นมีอะไรกันแน่”
ทันทีที่พูดจบ เธอก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำ และเย็นชาดังมาจากข้างหลัง “ถ้าคุณอยากรู้ว่าข้างในมีอะไร ถามผมตรงๆไม่ดีกว่าหรอ”
มู่เวยเวยอึ้งไปทันที เสียงนี้คือ….
พระเจ้า!!!
มู่เวยเวยหันหน้าไป ก่อนจะเห็นใบหน้าทะมึนทึงของเย่ฉ่าวเฉินอยู่ข้างหลังตัวเอง ใบหน้าของเข้าบึ้งแทบจะถึงขีดสุดแล้ว