วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ – ตอนที่ 291 แพ้ฉันไม่เสียศักดิ์ศรีหรอก

” หยุดมองได้แล้ว คนที่อยู่ด้านในอยู่สูงกว่าเธอมาก ” ผู้จัดการมองแวบเดียวก็รู้ถึงความคิดของสาวน้อย เขาเลยพูดอย่างประชดประชัน

สาวน้อยหน้าแดงและถามผู้จัดการออกไปอย่างกล้าหาญว่า ” ผู้จัดการ คนข้างในพวกเขาเป็นใครกันหรอ? ”

ผู้จัดการกำลังเดินแล้วตอบไปว่า ” คนที่ดวงตาสีฟ้าและสีม่วงคนนั้น จะเป็นประธานบริษัทเย่ฮวางกรุ๊ปคนต่อไป พ่อของเขาคือเย่ฉ่าวเฉินที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เขาชื่อ เย่จิงเหยียน ช่วงสองสามปีมานี้ได้ยินข่าวมาว่าเย่ฉ่าวเฉินออกจากตำแหน่งแล้วให้เย่จิงเหยียนรับช่วงต่ออย่างเป็นทางการในการบริหารเย่ฮวางกรุ๊ป

สาวน้อยยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น ” ผู้จัดการ เย่จิงเหยียนดูแล้วยังอายุน้อยมาก เขาจะบริหารองค์กรขนาดใหญ่อย่างบริษัทเย่ฮวางกรุ๊ปได้หรอ? ”

“เธออย่าดูถูกเขาเชียวนะ ได้ยินมาว่าตั้งแต่สมัยเรียนเขาก่อตั้งบริษัทไปหลายแห่งมาก และเขายังเป็นนักเรียนแนวหน้าของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดอีกด้วย ตอนนี้เขากลับมาช่วยงานเย่ฉ่าวเฉิน แม้แต่ท่านประธานใหญ่ของเรายังชื่นชมเขาเลย ” น้ำเสียงของผู้จัดการมีความรู้สึกที่เคารพแฝงอยู่

ดวงตาสีดำเข้มของสาวเปล่งประกายแล้วถามต่อว่า ” แล้วอีกสามคนที่เหลือละ? สาวสวยคนนั้นเป็นใคร? ”

” หญิงสาวคนนั้นหน้าตาสวยขนาดนั้น และยังมีดวงตาสีม่วงอีก น่าจะเป็นคนที่ครองตำแหน่งสาวงามระดับต้นๆของเมืองAอย่างเย่ชูวเสวีย และก็เป็นน้องสาวของเย่จิงเหยียนด้วย ”

” ว้าว ที่แท้เธอตือเย่ชูวเสวียนี่เอง เธอช่างคู่ควรกับตำแหน่งมากจริงๆ หน้าตาเธอสวยมาก ”

ผู้จัดการก็พยักหน้า ” สวยมากจริงๆ สวยกว่าสาวงามในละครพวกนั้นอีก ”

” ผู้จัดการ แล้วฝาแฝดสองคนนั้นละเป็นใครกัน? ”

” อ้อ นั่นเป็นคุณชายทั้งสองของตระกูลมู่ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเย่จิงเหยียน เบื้องหลังของครอบครัวทั้งสองคนแข็งแกร่งกว่าเย่จิงเหยียนอยู่มาก คิดไม่ถึงเลยว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะดีขนาดนี้ ก็คิดว่าพวกคนรวยเขาจะ……”

คำพูดต่อจากนี้ของผู้จัดการ สาวน้อยคนนั้นไม่ได้ฟังเลย เธอเอาแต่จดจ่ออยู่กับเรื่องเน่จิงเหยียน ที่แท้……เขาชื่อเย่จิงเหยียน

ไม่คิดเลยว่าเวลาผ่านมาหลายปีแล้ว เธอจะเจอเขาที่นี่ หรือว่านี่จะเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต?

พวกเขาทั้งสี่คนคุยกันอย่างสนุกสนานจนเวลาล่วงเลยมาถึงห้าทุ่มกว่า พวกเขาเมาแล้วต่างคนต่างช่วยกันพยุงตัวออกมา ผู้จัดการดูเหมือนว่าตั้งใจรอพวกเขาออกมาอยู่แล้ว ทันที่ที่พวกเขาออกมาเขาก็รีบเข้าไปทักทาย ” ประธานเย่ ต้องการให้ผมส่งคุณกลับบ้านไหม? ”

” ไม่ต้อง ” เยาจิงเหยียนเป็นคนที่มีสติที่สุดในกลุ่ม ” มีรถที่บ้านมารับ ”

” อ้อ ดีมากเลย ”

พี่น้องตระกูลมู่ช่วยพยุงตัวเย่ชูวเสวียไว้ แล้วกระซิบว่า ” เจ้าหลิน นายแพ้แล้ว นายดื่ม ”

” ยัยหรูอี้ เดี๋ยวกลับไปก็รู้ว่าใครแน่กว่ากัน” เซียวอวี้หลินพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

” หึ ก็ลองดูว่าใครจะคอแข็งกว่ากัน ”

ออกจากร้านคาราโอเกะ มีลมกระโชกพัดมาอย่างแรง ทำให้สมองของเย่จิงเหยียนปลอดโปร่งขึ้นมาก จางเห่อเปิดประตูรถแล้วพยุงพวกเขาขึ้นรถ ” โอ้โห ทำไมถึงดื่มหนักกันขนาดนี้ ”

” ก็ความสุขของพี่น้องไง ” เย่จิงเหยียนตอนนี้เหมือนแมวเลย

จางเห่อถอนหายใจ ” กลับบ้านไประวังโดนคุณชายตำนินะ ”

เย่จิงเหยียนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งข้างคนขับกำลังคาดเข็มขัดนิรภัยและพูดว่า ” ไม่หรอก พวกเราต่างก็บรรลุนิติภาวะแล้ว พ่อไม่ว่าอะไรหรอก คุณลุงจาง วันนี้เจ้าพวกนี้จะนอนที่บ้านเรา ไม่ต้องไปส่งพวกเขากลับบ้านนะ ถึงยังไงคุณลุงคุณป้าก็ไม่อยู่บ้าน ”

” ได้ ”

ในรถมีแต่กลิ่นไอเหล้า เย่จิงเหยียนลดกระจกรถลงเพื่อให้ลมพัดเข้ามา ข้างนอกมีไฟสว่างไสว จู่ๆเขาก็นึกถึงผู้หญิงที่ทั้งเย็นชาและหยิ่งผยองที่เคนย่าในคืนนั้นอย่างไม่มีเหตุผล และเธอถามด้วยว่าเขาเป็นใคร

ผ่านมาปีกว่าแล้ว เขาแทบจะลืมไปแล้วว่าหน้าตาเธอเป็นยังไง แต่ว่าภาพของเธอยังตราตึงอยู่ในใจของเธอเสมอ

” เอี๊ยด—— ” รถเบรกกะทันหัน ตัวของเย่จิงเหยียนพุ่งไปข้างหน้า โชคดีที่เขาคาดเข็มขัดนิรภัยเลยทำให้ตัวเขากลับมานั่งอย่างมั่นคงในตำแหน่งเดิมได้

แต่ว่าสามคนข้างหลังโชคร้ายจริงๆ ไม่รู้ว่าหัวของใครกระแทกกับกระจกรถ

” โอ้ เจ็บมากเลย ” ที่แท้ก็คือมู่ยู่วฉี

เย่จิงเหยียนกำลังจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น? มีผู้หญิงคนหนึ่งล้มอยู่หน้ารถ

จางเห่อแสยะยิ้ม ” แม่งเอ้ย ดึกขนาดนี้แล้วยังมีคนออกมาเล่นมุกนี้เพื่อเรียกค่าเสียหายอยู่อีกหรอวะ จริงๆแล้วฉันไม่ได้ชนเธอด้วยซ้ำ ”

กังลังจะลงรถเพื่อเจรจากับเธอ ก็มีผู้ชายร่างกำยำกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา มือของพวกเขาถือไม้หน้าสามและเล็งไปที่ตัวเธอ

เฮ้? นี่มันอะไรกัน? ไม่ใช่กลอุบายเรียกค่าเสียหายหรอ? ”

” หยุดนะ! ” จางเห่อตะโกนออกมา แล้วพุ่งตัวไปข้างหน้าเพื่อหยุดการกระทำที่โหดร้ายของพวกเขา

พวกผู้ชายกำยำพวกนั้นหยุดการกระทำนั้น แล้วชี้หน้าจากเห่อและพูดอย่างอวดดีว่า ” ลุง มันไม่ใช่เรื่องของลุง อย่าเสือก ”

จางเห่อกางมือออก ” ฉันไม่ได้อยากเสือก แต่ว่า พวกนายขวางทางฉัน ”

” แม่งเอ้ย มึงอ้อมไม่เป็นหรอ? ทำไม รถหรูแล้วยังไง”

” พวกนายลากตัวเธอไปตีที่อื่นสิ ถ้าอย่างนั้นเราทั้งคู่ก็จะไม่มีใครเสียเวลา ” จางเห่อพูดอย่างเย็นชา เรื่องไม่ยุติธรรมในโลกใบนี้มันเยอะมาก เขาจัดการทั้งหมดไม่ได้หรอก โดยเฉพาะผู้หญิงแบบนี้ โดนผู้คนนับสิบรุมตี เบื้องหลังต้องไม่บริสุทธิ์แน่

พอหญิงสาวได้ยิน เธอร้องไห้และคลานมาทางจางเห่อ ” คุณลุง ขอร้องช่วยฉันด้วย ถ้าคุณไม่ช่วยฉัน คืนนี้ฉันต้องโดนพวกเขาตีตายแน่ๆ ”

จางเห่อถอยไปข้างหลังหนึ่งก้าว สีหน้าเย็นชา ” สาวน้อย ฉันช่วยเธอไม่ได้หรอก ”

” คุณลุง คุณจะมองคนตายไปต่อหน้าต่อตาโดยไม่ช่วยไม่ได้นะ ขอร้อง ถือสะว่าสงสารฉันก็ได้ ฉันยังเป็นนักเรียนอยู่เลย เพราะว่าพ่อฉันติดหนี้พวกเขา แต่พวกเขากลับมาทวงกับฉัน ฉันจะไปเอาเงินมาจากไหนคืนพวกเขา? ” หญิงสาวร้องไห้อย่างน่าสงสาร ทำให้ทั้งสี่คนในรถตื่นตัว

เย่ชูวเสวียออกมาจากรถตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เธอจับขอบประตูรถไว้แล้วอีกมือก็ชี้ไปที่ผู้ชายฉกรรจ์กลุ่มนั้น ” การกระทำใครการกระทำมัน พ่อเธอติดหนี้พวกนายก็ไม่ทวงกับพ่อเธอ รังแกผู้หญิงมีอะไรน่าภูมิใจ? ”

หญิงสาวที่ล้มนอนอยู่ที่พื้นพอเห็นว่าเริ่มมีความหวังก็คลานเข้ามาที่เท้าของเย่ชูวเสวีย เธอร้องไห้ฟูมฟายและพูดว่า ” พี่สาว ช่วยฉันด้วย ”

จางเห่อเดินเข้าไปกระซิบข้างหูเย่ชูวเสวียว่า ” หรูอี้ เรื่องนี้เราไม่รู้แน่ชัด ”

เย่ชูวเสวียดื่มมา สมองเลยมึนๆงงๆ เธอมีความยุติธรรมที่ท่วมท้น เธอเลยพูดว่า ” คุณลุงเห่อ เธอเป็นนักเรียน ฉันก็เป็นนักเรียน แล้วยังเป็นผู้หญิงเหมือนกันด้วย เราต้องช่วยเหลือกันและกัน ลุงดูสิตัวเธอเต็มไปด้วยเลือด ”

ชายฉกรรจ์พวกนั้นพอเห็นความงามของเย่ชูวเสวีย แววตาก็เป็นแระกาย เธอมีชื่อเสียงมากในเมือง A ถึงแม้ว่าคนพวกนี้จะไม่รู้จักหน้าตาของเธอ แต่ดงตาสีม่วงนั้นของเธอเป็นเอกลักษณ์ของเธอ

หนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า ” ที่แท้ก็คุณหนูแห่งตระกูลเย่ เป็นโอกาสที่หายากมากจริงๆ แต่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างพวกเรากับเธอ คุณหนูเย่โปรดอย่าเข้ามายุ่ง ”

” แล้วถ้าฉันจะพาตัวผู้หญิงคนนี้ไปด้วยละ? ” เยาชูวเสวียเงยหน้าขึ้นแล้วพูด

” ง่ายมาก ถ้าคุณหนูเย่ช่วยเธอปลดหนี้ ก็พาตัวเธอไปได้เลย ”

” ติดหนี้พวกนายเท่าไหร่? ”

” สามล้าน ” คนนั้นหัวเราะแล้วพูด

เย่ชูวเสวียขมวดคิ้ว ” เยอะขนาดนั้นเลยหรอ? ” เธอก็คิดว่าไม่กี่พัน

ฝ่ายตรงข้ามหัวเราะ ” เงินสามล้านสำหรับตระกูลเย่แล้วขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ”

เย่ชูวเสวียพูดอย่างไม่ต้องคิด ” เงินของตระกูลเย่ไม่ได้พัดมากับสายลมนะ ทั้งหมดเป็นความพยายามของพ่อ เงินสามล้านก็ต้องถือว่ามากอยู่แล้ว ”

หญิงสาวรีบคุกเข่าลงขอร้อง ” คุณหนูเย่ ขอร้องนะ ทั้งชีวิตนี้ถึงฉันจะต้องเป็นวัวเป็นควายฉันจะหาเงินสามล้านนี้มาคืนคุณให้ได้ ”

เย่ชูวเสวียรู้สึกเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำอะไรแน่ๆ เธอตบไปที่หลังคารถ ” พี่ชาย? พี่ชาย ฉันไม่รู้จะเอายังไง พี่รีบออกมาสิ ”

เย่จิงเหยียนถอนหายใจอย่างเหลืออด เขาเปิดประตูออกมาโบกหัวเธอไปหนึ่งที ” จัดการไม่ได้ แต่หาเรื่องให้ตัวเองได้ ”

เย่ชูวเสวียเงยหน้าขึ้นแล้วอ้อมเหมือนแมวน้อย ” ถึงยังไงก็ยังมีพี่อยู่ไง ”

ชายฉกรรจ์พวกนั้นพอเห็นเย่จิงเหยียน พวกเขาก็มองหน้ากันในแววตาของพวกเขาก็เป็นประกาย และพวกเขารอยยิ้มอย่างได้ใจ

หญิงสาวพอเห็นหน้าเย่จิงเหยียน ก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ ” พี่ชาย ”

เย่จิงเหยียนขมวดคิ้ว เขาเกลียดผู้หญิงประเภทนี้มากที่ชอบเข้าหาเขา และออกตัวจะคุยกับเขาก่อน เขาเจอมาเยอะแล้ว

ถึงแม้ว่าเย่จิงเหยียนจะดื่มไปมาก แต่ว่าเขาก็ยังมีสติอยู่ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ” เงินสามล้านฉันไม่ให้พวกนายหรอก พวกนายมีสองทางเลือก หนึ่งออกไปตั้งแต่ตอนนี้ สอง ฉันจะแจ้งความรอให้ตำรวจมาเอาตัวพวกนายออกไป ”

” คุณชายเย่ แบบนี้ช่างไร้เหตุผลจริงๆ ” ฝ่ายตรงข้ามพูดอย่างไม่พอใจ

เย่จิงเหยียนไม่อยากเสียเวลา เขาหยิบโทรศัพท์แล้วโทรหาตำรวจทันที ” ฮัลโหล? สถานีตำรวจใช่ไหม? ฉันจะแจ้งความ……”

ยังไม่ทันได้พูดจบ ฝ่ายตรงข้ามก็กระวนกระวาย ใช้ไม้ในมือชี้หน้าของผู้หญิงบนพื้น ” วันนี้ถือว่าเธอโชคดี แต่เธอหนีไม่พ้นหรอก ฉันจะรอดูว่าพรุ่งนี้เธอจะโชคดีแบบนี้ไหม พวกเรากลับ ”

ภายในสิบวินาที ชายฉกรรจ์พวกนั้นก็หายเข้าไปในกลีบเมฆ เย่จิงเหยียนก็วางสาย

เย่ชูวเสวียเริ่มได้สติขึ้นมาบ้าง ” พี่ชาย พี่แจ้งความจริงๆหรอ? ”

เย่จิงเหยียนเหลือบไปมองเธอแวบหนึ่ง เปิดประตูหลังรถแล้วผลักเธอเข้าไป จากนั้นก็ปิดประตู ” เปล่า แค่ขู่พวกเขาเฉยๆ ”

น้องสาวเกาะอยู่กับกระจกรถ ดวงตาสีม่วงนั้นส่องแสงประกายอย่างกับดาว ” พี่ชาย ทำไมพี่ถึงได้ฉลาดแบบนี้ ”

เย่จิงเหยียนแตะจมูกเธอเบาๆ และพูดอย่างอ่อนโยนว่า ” โห ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้ยินเธอชมพี่ ”

เย่ชูวเสวียชี้ไปทีหญิงสาวที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น ” แล้วจะเอายังไงกับเธอดี? ”

” หรูอี้ พวกเราไม่ได้มีหน้าที่ช่วยคน ” ความหมายก็คืออย่าไปสนใจ ทุกคนก็ต้องมีทางเดินของตัวเอง ตอนนี้เขาจัดการควบคุมได้ แต่จะจัดการและควบคุมทั้งโลกนี้ไม่ได้ ดังนั้น อยากจะหลุดพ้นจากคนกลุ่มนั้น เธอคงต้องช่วยเหลือตัวเอง

เย่ชูวเสวียครุ่นคิดครูหนึ่งแล้วพูดว่า ” ถ้าอย่างนั้นเธอจะโดนตีจนตายนะ ”

” ไม่หรอก ถ้าพวกเขายังต้องการเงินอยู่ เธอจะต้องมีชีวิตอยู่ ไม่อย่างนั้นใครจะเป็นคนคืนเงินพวกมันละ? “เย่จิงเหยียนอธิบาย

เย่ชูวเสวียหยุดคิดสักพัก เธอก็ตอบว่า ” อ้อ ”

” คุณลุงจาง เรากลับกันเถอะ ” เย่จิงเหยียนเตรียมขึ้นรถโดยไม่มองหน้าหญิงสาวบนพื้นเลย แต่หญิงสาวคนนั้นกลับจับขากางเกงเขาไว้

” พี่ชาย พี่จำฉันไม่ได้หรอ? ” หญิงสาวเบิกตากว้างและมองเขาอย่างคาดหวัง

เย่จิงเหยียนขมวดคิ้ว ” ฉันไม่รู้จักเธอ ” อยากจะสะบัดมือเธอออก แต่ว่ากลับไม่มีผลอะไรเลย

” พี่ชาย พี่ลืมไปแล้วหรอ? เราเคยเจอกันตอนเด็กครั้งหนึ่ง ” หญิงสาวเตือนความจำเขา

เย่จิงเหยียนแสยะยิ้ม ” คนที่ฉันเคยเจอตอนเด็กเยอะมาก ฉันต้องจำหน้าทุกคนให้ได้หรอ?”

” เปล่า ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น ” หญิงสาวลุกขึ้นจากพื้น มองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา แล้วพูดต่อว่า ” ตอนเด็กฉันเก็บหุ่นยนต์ได้ตัวหนึ่ง ในตัวเลิกเรียนโดนคนกลุ่มหนึ่งพยายามแย่ง ตอนนี้ฉันไม่ยอมพวกเขาเลยตีฉัน แล้วคุณก็มาช่วยฉันไว้ แล้วคุณยังออกเงินห้าสิบหยวนเพื่อซื้อหุ่นยนต์ตัวนั้นด้วย แต่ว่าต่อมาฉัรก็รู้ว่าหุ่นยนต์ตัวนั้นราคาหลายหมื่นเลย แบบนั้นฉันก็ขาดทุนนะสิ คุณยังจำได้อยู่ไหม? ”

พอหญิงสาวพูดถึงหุ่นยนต์ เย่จิงเหยียนก็จำได้ลางๆ เหมือนว่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้ เขาเลยโดนเย่ฉ่าวเฉินสั่งสอนอยู่พักใหญ่ และเริ่มตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเขาก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดให้กับการเรียน

หญิงสาวมองท่าทีของเขาก็รู้ว่าเขาจำได้แล้ว เธอรู้สึกดีใจ ” คุณจำได้แล้วใช่ไหม? ”

” เหมือนว่าจะเคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ ” เย่จิงเหยียนพูดออกไปตามตรง

มีรอยยิ้มอันสดใสปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาว ” เพราะว่าพี่ชายหน้าตาหล่อเหลามาก ฉันเลยจำได้มาตลอด ไม่คิดเลยว่าเราจะมาเจอกันที่นี่ เราคงมีวาสนาต่อกัน ”

เพราะว่าเคยเจอกันมาก่อน ความเกลียดของเย่จิงเหยียนที่มีต่อเธอก็ลดลงเยอะมาก และพูดไปว่า ” เธอรีบกลับบ้านเถอะ ดึกมากแล้ว ”

รอยยิ้มของหญิงสาวสลายหายไปทันที และยิ้มอย่างน่าสงสาร ” จะกลับบ้านได้ยังไงกัน? พวกเขายังคงเฝ้าอยู่ที่บ้านอยู่ ”

” ถ้าอย่างนั้นเธอ……”

” ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันจะนั่งรถสาธารณะกลับไปที่โรงเรียน พวกมันคงไม่ไปวุ่นวายถึงที่โรงเรียนหรอก ”

” อ้อ เธอยังเรียนอยู่หรอ? ”

” ใช่ ปีนี้ฉันพึ่งขึ้นปีสี่ ใกล้จะจบแล้ว รอให้ฉันหาเงินได้ ชีวิตคงจะดีกว่านี้ ” หญิงสาวพูดอย่างมั่นใจ

ถ้าเทียบกับสีหน้าที่ทุกข์ยากในตอนนั้น เย่จิงเหยียนรู้สึกว่าท่าทีของเธอที่เต็มไปด้วยออร่าในตอนนี้ทำให้คนรู้สึกชอบมากกว่า

” ถ้าอย่างนั้นเธอรีบไปขึ้นรถเถอะ ถ้าต่อไปพวกมันมาทวงหนี้กับเธออีก็รีบแจ้งความ ตนพวกนี้มันไร้เหตุผล ” เย่จิงเหยียนพูดด้วยความหวังดี

หญิงสาวพยักหน้า ” ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณนะพี่ชาย ”

” ลาก่อน ” เย่จิงเหยียนหันหลังจะขึ้นรถ แต่หญิงสาวกลับเรียกเขาอีกครั้ง ” พี่ชาย——”

เย่จิงเหยียนหันกลับมา

” เอ่อ……ฉันจะได้ฝึกงานเร็วๆนี้แล้ว ฉันสามารถไปทำที่บริษัทคุณได้ไหม? ” หญิงสาวถามขึ้นอย่างเกรงใจ

เย่จิงเหยียนพูดนิ่งๆว่า “ช่วงนี้บริษัทเย่ฮวางน่าจะเปิดรับสัครอยู่ ถ้าเธอมีความสามารถมากพอก็มาลองดูได้ ถ้าว่าจะได้รับเลือกให้เข้าทำงานหรือไม่ก็อยู่ที่ความสามารถของเธอแล้ว ”

” ขอบคุณมากพี่ชาย ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด ” หญิงสาวก้มคำนับเขา แล้ววิ่งไปที่สถานีรถสาธารณะที่อยู่ไม่ไกล ” พี่ชาย ฉันชื่อจ้าวเซวียน คุณต้องจำไว้นะ ”

เย่จิงเหยียนส่ายหน้าแล้วหัวเราะเบาๆ ก็แค่คนที่บังเอิญเจอ ทำไมเขาต้องจำเธอให้ได้ด้วย?

จางเห่อมองหญิงสาวที่จากไปไกลแล้ว ก็เกิดความสงสัยขึ้นในใจ

” คุณลุงจา ไม่ต้องดูแล้ว กลับกันเถอะ ” เย่จิงเหยียนพูดกับเขา

จางเห่อกลับขึ้นรถ สามคนข้างหลังหลับปุ๋ยไปแล้ว เขาสตาร์ทรถแล้วพูดเบาๆว่า ” ผู่หญิงคนนั้นแรงดีจรองๆ เมื่อกี้โดนตีหนักขนาดนั้น ยังวิ่งได้รวดเร็วมากขาดนี้ ”

เย่จิงเหยียนมองเขาด้วยความประหลาดใจ ” คุณลุงจา คุณนี่สังเกตได้ดีจริงๆ ”

” ผิงอัน เรื่องบางเรื่องก็ไม่ได้เป็นแบบที่ตาเห็น เบื้องหลังรอยยิ้มอาจจะเป็นหลุมพราง ” จางเห่อพูดอย่างจริงจัง

เย่จิงเหยียนหัวเราะ ” ฮ่าๆๆ คุณลุงจาสบายใจได้ ไม่ว่าเธอจะเป็นหลุมพรางหรือไม่ ผมก็ไม่ได้ใส่ฉัน แล้วจะตกเข้าไปในหลุมนั้นได้ไง? ”

จางเห่อหันหน้ามามองคุณชายน้อย แล้วพูดชื่นชมว่า ” ไม่เลว ดีกว่าพ่อคุณในตอนนั้นมาก ”

เย่จิงเหยียนหัสเราะ ” คุณลุงจาง คุณว่าพ่อแบบนี้ ถ้าพ่อรู้ต้องโกรธแน่ๆ ”

” ไม่เป็นไรหรอก คุณผู้หญิงต้องให้ความยุติธรรมกับลุงอยู่แล้ว ”

” ก็จริง ” เย่จิงเหยียนยิ้ม แล้วเอนหลังลงและหลับตาเพื่อพักผ่อน

สิ่งที่คุณลุงจางเห็นเขาเองก็เห็น ลุงหมายความว่าอะไรแน่นอนว่าเขารู้ดี ในใจของเขายังมีผู้หญิงคนหนึ่งตราตึงอยู่ แล้วเขาจะเห็นเธออยู่ในสายตาได้ไง?

ช่างประเมินค่าตัวเองสูงมากจริงๆ

พอกลับถึงบ้าน เย่ฉ่าวเฉินและมู่เวยเวยนอนพักผ่อนไปแล้ว คนใช้สามคนช่วยกันพยุงตัวทั้งสามคนกลับไปที่ห้องของตัวเอง

สถานทีนี้คือค่ายทหารที่ซ่อนอยู่บนภูเขา

การแสดงการต่อสู้ที่แท้จริงพึ่งจบลง ผู้หญิงคนหนึ่งสวมเครื่องแบบลายพรางและรองเท้าบูทสั้นเดินเข้าไปในค่าย ใช้เข็มขัดในมือของเธอฟาดไปที่คนที่นั่งอยู่บนพื้นอย่างหงุดหงิด หัวเราะแล้วด่าว่า ” ทำหน้าอย่างกับแม่ตาย ทำไมถึงทำหน้าเศร้าแบบนั้น?”

คนที่ถูกฟาดคนนั้นเงยหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างขมขื่นว่า ” หัวหน้า พวกเราทำให้นายขายหน้า”

” รู้ว่าขายหน้าก็ดี ” หญิงสาวชี้หน้าพวกเขาเจ็ดแปดคนแล้วพูดว่า ” ถ้าครั้งต่อไปยังเป็นแบบนี้อีก ฉันจะส่งตัวพวกคุณกลับไปยังกองทหารเดิม ”

ทุกคนลุกขึ้นแล้วพูดอย่างหนักแน่นว่า ” เจ้านาย ไม่ต้องห่วง จะไม่มีครั้งต่อไปเด็ดขาด ”

หญิงสางบีบไหล่บีบไปที่ไหลของคนหนึ่งในนั้น ” เจ็บไหม? ”

คนนั้นหัวเราะ ” พอทนได้ ”

” ได้ยินมาว่านายมีแฟนสาวคนหนึ่ง เธอสวยไหม? ” จู่ๆหญิงสาวก็เปลี่ยนเรื่อง

” เหอะเหอะ ถือว่าใช้ได้ โอ๊ย——” เสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนา แล้วรีบบ่นว่า ” หัวหน้า ปรับกระดูกผมให้เข้าที่ก็บอกกับผมสักคำสิ ”

” ฉันกลัวว่านายจะวิ่งหนี ” หญิงสาวลูบไหลเขา ” ลองขยับดูว่าดีขึ้นไหม? ”

คนนั้นขยับไปมา ” เฮ้ย ดีขึ้นแล้ว หัวหน้า ฝีมือคุณนี่ดีกว่าหมอประจำค่ายอีก ”

” ไม่ต้องชม ก็เรียนรู้มากจากพวกนายทุกคนนั้นแหละ ” หญิงสางเอาเข็มขัดในมือคาดไว้ที่เอวของเธอ ” ทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วคืนนี้ก็ให้เข้าร่มงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง ถ้าแม้ว่าเราจะเสียคนไปสองสามคน แต่ว่าฝ่ายตรงข้ามตายไปถึงห้าหกสิบคน ยังสมควรแก่การฉลองอยู่ เสี่ยวลิ่ว ไปแจ้งแผนกครัว คืนนี้ให้เพิ่มเมนู

” ได้เลย ”

” ขอบคุณสำหรับความกรุณาของหัวหน้า “ผู้ชายทุกคนตะโกนพร้อมเพรียงกัน

หญิงสาวหันมาแล้วพูดอย่างจริงจังว่า ” คืนนี้ อย่าดื่มมากเกินไป ”

” ครับ! ” ใบหน้าของทุกคนทีความดีใจเผยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ห้ามดื่มเยอะไม่ได้หมายความว่าดื่มไม่ได้

ภายใต้ต้นไม้ใต้แสงจันทร์ หญิงสาวเอาเบียร์ไว้หนึ่งขวดแล้วนั่งลงบนก้อนหินใหญ่ มองดวงจันทร์บนฟ้าแล้วดื่มเหล้าไปด้วย ข้างหูเธอก็เป็นเสียงฮือฮาในการดื่มเหล้าของเพื่อนร่วมงาน

เป็นเวลาครึ่งปีแล้วที่ฉันกลบมาจากต่างประเทศ เธออยู่ที่แอฟริกาเป็นเวลาสองปีเต็ม เธอมองดูประชาชนพวกนั้นที่ต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง เธอพึ่งจะเข้าใจว่าในการเป็นทหารนั้นที่จะทำให้ประชาชนในประเทศของตัวเองใช้ชีวิตอย่างสันติแลัสงบสุขมันมีค่ามากขนาดไหน เพื่อเป้าหมายนี้ ถึงเธอจะต้องเสียสละทุกอย่างที่เธอมี เธอก็ไม่เสียดาย

เหล้าหมดไปแล้วครึ่งขวด เงาของคนที่คุ้นเคยเดินก็มาจากสถานที่ที่ไม่ไกล หน้าตาคมเข้ม สายตาเฉียบคมราวกับนกอินทรี แต่ว่าสีหน้าไม่ค่อยจะดีนัก ช่วยไม่ได้ ไม่ว่าวันนี้ใครเป็นผู้แพ้ก็ต้องไม่มีความสุขทั้งนั้นแหละ

” ทำไมเธอถึงมานั่งข้างนอก? ” ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆเธอ

หญิงสาวชี้ไปที่ดวงจันทร์บนฟ้า ” ชมจันทร์ไง ”

” เฮ้ แอบมาทีความสุขรึเปล่า ” ชายนุ่มแย่งเหล้าจากมือเธอไป แล้วกระดกขวดเหล้าดื่ม

หญิงสาวหัวเราะแล้วพูดว่า ” ทำไมฉันต้องแอบมามีความสุขด้วย? ทั้งๆฉันแสดงออกมาชัดเจนขนาดนี้ ”

ได้ยินเสียงหัวเราดังมาจากด้านหลัง น่าจะเป็นเพราะว่าคนที่แพ้โดนทำโทษให้ดื่มเหล้า

ชายหนุ่มเช็ดปาก ” แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาของทหาร ครั้งหน้าฉันต้องชนะเธอให้ได้ ”

หญิงสาวลูบหลังเขาอย่างอย่างดีใจและพูดปลอบเขาว่า ” ไม่ต้องเสียใจนะ แพ้ฉันไม่เสียศักดิ์ศรีหรอก ”

” ใช่ ใครจะไม่รู้ถึงชื่อเสียงที่เก่งของเธอละ? เธอเป็นเหมือนดาบคมในกองทัพ C เอาไงเอากันและอยูยงคงกระพัน แม้กระทั้งผู้บังคับบัญชาตอนนี้ยังเคยพ่ายแพ้ให้กับเธอเลย เธอยอดเยี่ยมขนาดนี้ทำไมถึงเลือกมาอยู่กองเทพฮันเตอร์ละ? งานที่สบายกว่านี้มีเยอะแยะ

หญิงสาวมองไปที่แสงจันทร์อันสว่างไสว ใบหน้าที่นุ่มนวลแต่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว ” ฉันหรอ เกิดมาก็ชอบทรมานตัวเอง ความเรียบเฉยไม่เหมาะกับฉัน และอีกอย่าง ฉันต้องการที่ดึงเอาสิ่งที่อยู่ยงคงกระพันออกมา แบบนี่ศัตรูได้ยินแล้วต้องเกรงกลัว แบบที่เพื่อนในทีมได้ยินก็จะสบายใจและไว้วางใจ นี่เป็นคำสาบานของฉันตั้งแต่ก้าวเข้ามาในค่ายทหารนี้ ”

” ถ้าอย่างนั้นเธอก็ทำสำเร็จแล้ว ในทีมตอนนี้แค่เอ่ยถึงชื่อเธอก็ชิดซ้ายกันหมดแล้ว ”

” ไม่ มันยังไม่พอ สิ่งที่เราต้องเรียนรู้ยังมีอีกมากมาย ” หญิงสาวพูดอย่างแน่วแน่

ชายหนุ่มหันหน้ามามองเธอแวบหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้……ช่างกล้าหาญจริงๆ ถึงแม้ว่าเธอจะหน้าตาสวยมาก แต่ว่าเขาไม่สามารถควบคุมเธอได้

” ช่างเถอะ อย่าพูดถึงเรื่องพวกนี้เลย ครั้งนี้เธอได้รับชัยชนะ และได้หยุดห้าวัน เธอเตรียมการจะไปไหน? ” ชายหนุ่มถามขึ้นด้วยความสงสัย

หญิงสาวเอนไปข้างหลัง แล้วนั่งไขว้ขาจากนั้นก็พูดขึ้นอย่างเกียจคร้าน ” ฉันจะไปไหนได้ ก็ต้องนอนอยู่ที่ห้องนั้นแหละ ”

” เธอไม่กลับบ้านหน่อยหรอ? ”

” ไม่กลับ ฉันพึ่งกลับไปเจอพ่อก่อนที่จะออกศึก ครั้งนี้เสียคนไปหลายคน กลับบ้านโดนศึกหนักแน่ ”

ชายหนุ่มนึกภาพเธอที่หงุดหงิดออก เละแนะนำไปว่า ” ถ้าอย่างนั้นก็ออกไปเดินเที่ยวข้างนอกสิ เธอเป็นผู้หญิงจะเอาแต่อยู่ในค่ายทหารตลอดเวลาได้ไง ออกไปเจอเพื่อนสักหน่อย ไปซื้อเสื้อผ้าสวยๆแล้วก็พวกเครื่องสำอาง ”

หญิงสาวไม่เข้าใจ ” ซื้อเสื้อผ้าสวยๆจะได้ใส่หรอ? ”

” แต่ยังไงก็จะปล่อยให้วันหยุดห้าวันนี้ผ่านไปเฉยๆไม่ได้ ผู้คนอยากได้มันมากมายแต่ก็กลับไม่ได้ แล้วอีกเรื่อง เธอเอาแต่อยู่ในค่ายทหาร จะหาแฟนได้ยังไง? ”

” แฟน? ฮ่าๆๆๆ……” หญิงสาวหัวเราะออกมาเสียงดัง ” อยู่ในค่ายมาหลายปีจนฉันลืมไปแล้วว่าผู้หญิงต้องหาแฟนด้วย ”

” ดังนั้น ก็ใช้เวลาวันหยุดนี้แบบหญิงสาวธรรมดาสะนะ เผื่อว่าจะเจอคนที่เหมาะสมไง ยังดีกว่าต้องอยู่ตัวคนเดียวแบบไม่มีใครเอาไปจนแก่ ”

หญิงสาวต่อยเขาไปหนึ่งที ” ฉันหน้าตาสวยขนาดนี้ทำไมจะไม่มีคนเอาละ? ”

ชายหนุ่มหัวเราะ ” ฮ่าๆ ใช่ๆๆ เธอเป็นเหมือนดอกไม้ในกองทัพ C ขอแค่เธออยากแต่งงาน ก็มีคนต่อคิวจนเป็นวงกลมรอบโลกแล้ว ”

” เวิร์เกินไปแล้ว ครึ่งวงกลมรอบโลกก็พอ ” หญิงสาวมองพระจันทร์ ก็นึกถึงคนหนึ่งที่เธอจำได้เป็นอย่างดี เธอเคยพูดไว้ว่า ถ้าเธอโตแล้วจะกลับไปหาเขา

ใช่สิ ทำไมไม่ใช้ช่วงวันหยุดนี้กลับไปหาเขาที่เมือง A ละ ไม่รู้ว่าเด็กผู้ชายที่คอยเดินตามหลังเธอจะโตมาหน้าตาเป็นยังไงบ้าง

พอคิดได้แบบนี้ หญิงสาวก็ลุกขึ้นปักฝุ่น แล้วเดินตรงไปที่ห้องพักของตัวเอง

” เธอจะไปไหน? ” ชายหนุ่มถาม

” กลับไปนอน ” หญิงสาวหันหลังและโบกมือลาชายคนนั้น

ชายคนนั้นมองตามเงาของเธอที่ค่อยๆหายไป จากนั้นก็ละสายตาจากเธอ นอนตอนนี้? เชื่อก็บ้าแล้ว

พอหลับถึงห้องพัก หญิงสาวก็เปิดลิ้นชักออก หากล่องเล็กๆออกจากในลิ้นชักนั้น เปิดออก ด้านในเป็นแผ่นหยกที่ร้อยเชือดสีแดงปักเป็นชื่อของคน เย่จิงเหยียน

และคนที่ครอบครองหยกนั่นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคนที่กองทัพ C ชื่นชม เป็นเสมอนดาบคมในกองทัพ หัวหน้าของหัวหน้าอีกทีอย่าง ต้วนอีเหยา

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

“ผู้หญิงคนนี้ ฉันต้องการแล้ว” มู่เวยเวยซึ่งถูกแฟนหนุ่มขายตัวเธอไป จนเธอต้องกลายเป็นภรรยาของเย่ฉ่าวเฉิน ภายในห้อง ความดุของเขาทำให้เธอทรุดลง “คุณแต่งงานกับฉันด้วยเหตุผลอะไร” ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย “แต่งงานกับคุณ แน่นอนว่าเพื่อที่จะได้รังแกคุณไง” หลังจากนั้น…………. “คุณห้ามคิดถึงผู้ชายคนนั้น ไม่อย่างนั้นผมจะจัดการเขา” “ผู้หญิงของผมมีแค่ผมเท่านั้นที่จะรังแกได้ ใครกล้ามาแตะต้องคุณแม้แต่ปลายผม มันต้องตาย” “ใครบอกให้คุณไม่กลับบ้านตอนค่ำ ได้บอกผมรึยัง” ความทรมานที่ฉันพูดถึงมันเปลี่ยนรสชาติไปได้อย่างไร …………. เขาช่วยเธอ และปกป้องเธอเหมือนขุมทรัพย์ จนกระทั่งเธอพบว่าสามีที่เพิ่งแต่งงานคนนี้มีความลับที่เธอไม่รู้ … ห้องที่ห้ามเข้าใกล้ … ผู้ชายที่มีม่านตาสีม่วงและดวงตาเป็นประกาย … ทั้งสองหน้าเหมือนกันมาก … ใครคือสามีที่แท้จริงของเธอ?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset