จู่ๆก็คิดถึงเย่จิงเหยีนนที่อยู่ห่างไกลในเมือง A ถ้าเขารู้ว่าตัวเธอหูหยวก เขาจะรังเกียจเธอรึเปล่า?
คนที่ถูกกล่าวถึงก็จามใหญ่ เลาขาหวังรีบถามว่า ” ประธานเย่ ท่านไม่สบายรึเปล่า? ”
” เปล่า ” เย่จิงเหยียนเงยหน้ามองท้องฟ้าสีคราม เขาคิดในใจ อีเหยา เธอคิดถึงฉันอยู่ใช่ไหม
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เย่จิงเหยียนส่งเอกสารที่ตรวจและเซ็นเรียบร้อยแล้วให้กับเลขาหวัง จากนั้นก็รับสาย ” เจ้านาย เจอผู้ชายที่ที่คุณให้ตามหาแล้ว ”
“เย่จิงเหยียนตกตะลึง ” ส่งรูปภาพ เบอร์โทรศัพท์และสถานที่บริษัทของเขามาให้ฉัน ”
” ได้ ”
ชำเลืองดูข้อความที่ส่งเข้ามาในโทรศัพท์ แล้วทำงานต่อ
ในเมืองมีคำถามในใจ เขาก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับคำตอบให้ได้ ไม่อย่างนั้นเขาต้องกินไม่ได้นอนไม่หลับแน่
เวลาเลิกงาน เย่จิงเหยียนขับรถไปตามสถานที่ที่ส่งมา
ที่นี่เป็นบริษัทซอฟแวร์ขนาดกลาง ส่วนใหญ่เป็นพนักงานไอทีผู้ชาย ผู้ชายที่ชื่อซวีเจี้ยนเป็นหัวแหน้าแผนกวิชัยและพัฒนา ตอนนี้ยังไม่มีแฟน
รถแลนด์โรเวอร์คันสีดำจอดลงตรงหน้าประตูบริษัท มันดึงดูดความสนใจของผู้คนได้มากมาย หลังจากที่เย่จิงเหยียนเห็นคนที่ตัวเองตามหาแล้ว เขาก็บีบแตรหนึ่งที
ซวีเจี้ยนหยุดแล้วมองไปที่รถคันนั้นแต่นั่นไม่ใช่รถที่เขารู้จัก เขาเลยเดินต่อไป แต่พอเขาก้าวขาเดินเพียงก้าวเดียว เสียงแตรรถก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ซวีเจี้ยนรู้สึกว่ามันแปลกๆ เพื่อนร่วมงานพูดหยอกล้อเขา ” ผู้จัดการซวี รถคันนี้ของเพื่อนคุณไม่เลวเลยนะ ”
” ไม่ใช่เพื่อนฉัน ฉันไม่รู้จัก ” ซวีเจี้ยนหัวเราะแล้วตอบ
” อ้อ ฉันก็คิดว่าคุณ……” คำว่าเพื่อนยังไม่ทันได้พูดออกมา ก็มีเสียงแตรรถดังขึ้นอีกครั้ง เพื่อนร่วมงานเขาเลยเปลี่ยนมาพูดว่า ” นี่เป็นเพื่อนของคุณรึเปล่า ดูสิ เขาลดกระจกรถลงแล้ว ”
ซวีเจียนรู้สึกมึนงง ด้านในมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ ดูโครงร่างแล้วก็เป็นคนที่เขาไม่รู้จัก มาหาเขาจริงๆหรอ? หลังจากที่สงสัยอยู่นาน ซวีเจี้ยนก็เดินเข้าไปหาเขา ตอนที่เขาเห็นใบหน้าของผู้ชายบนรถ เขาตะลึงเขาไปเลย
” สวัสดี เหมือนว่านายจะรู้จักฉันนะ อย่างนั้นฉันก็ขอไม่แนะนำตัวแล้วนะ เชิญขึ้นมาบนรถก่อน “เย่จิงเหยียนพูดนิ่งๆ
ทันทีที่ดึงสติกลับมาได้ เขาก็รู้เลยว่าที่เขามาหาเธอเพราะใคร แต่ว่าเขามาหาตัวเองทำไม? เขาเลิกกับจ้าวเสวียนไปแล้วนิ
” นายไม่ต้องระวังตัวมาดขนาดนั้นหรอก ฉันแค่อยากมาคุยด้วยเฉยๆ กินข้าวด้วยกันสักพี่ ขึ้นรถเถอะ ”
คำเชิญซ้ำๆของเย่จิงเหยียนทำให้ซวีเจี้ยนไม่สามารถปฏิเสธได้ เขาหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดเจน และเขาก็เปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง
” อยากกินอะไร?” เย่จิงเหยียนถามเขาราวกับเป็นเพื่อนสนิทโดยไม่ถือตัวหรือมีนะยะห่างเลย
” แล้วแต่ ” นี่เป็นครั้งแรกที่ซวีเจี้ยนได้เจอกับคนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือมานาน เขาเลยประหม่าเล็กน้อย
เย่จิงเหยียนยิ้มอย่างสบายๆ ” ใกล้ๆนี้มีร้านซาซิมิที่อร่อยๆมาก ไปที่นั่นไหม? ”
” ได้ ” ซวีเจี้ยนสับสนในใจ คนๆนี้มาหาเขาทำไมกัน? แต่ว่าดูท่าทีแล้วเหมือนจะมาดี
ระหว่างทางทั้งสองเงียบไม่คุยอะไรกันเลย เย่จิงเหยียนขับมาจนถึงร้านอาหารทะเลที่หรูหรา หลังจากที่เข้าไปนั่งในห้องอาหารส่วนตัวแล้ว เย่จิงเหยียนก็สั่งเมนูแนะนำของร้านมาหลายอย่างมาก
ซวีเจี้ยนรอให้พนักงานออกไปก่อน แล้วถามออกไปตามตรง ” ประธานเย่มาหาผมมีอะไรรึเปล่า? ”
ใบหน้าของเย่จิงเหยียนมีรอยยิ้มนิ่งๆอยู่ ” ถ้าอย่างนั้นฉันขอพูดตรงๆเลยนะ ในสายตานาย นายคิดว่าจ้าวเสวียนเป็นคนแบบไหน? ”
ท่าทีของซวีเจี้ยนตริงจังขึ้นมาก ” ประธานเย่ ฉันกับจ้าวเสวียนเราเลิกกันแล้ว แต่ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ผมไม่ชอบพูดถึงเรื่องไม่ดีของแฟนเก่า ”
” นายเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้ให้นายพูดเรื่องแย่ๆของจ้าวเสวียนสักหน่อย ฉันแค่อยากเข้าใจเธอในมุมอื่นๆ ”
” จากที่ผมรู้มา ประธานเย่ประกาศว่าจะไม่มีวันแต่งงานกับจ้าวเสวียนไม่ใช่หรอ? และจะเข้าใจเธอไปทำไม? ” ถึงแม้ว่าจะเลิกกันไปนานมากแล้ว แต่ความรู้สึกมันยังคงหลงเหลืออยู่ วันนั้นที่เย่จิงเหยียนพูดแบบนั้น เขาก็ก็รู้สึกโกรธแทนจ้าวเสวียนเหมือนกัน
เย่จิงเหยียนไม่สนใจว่าเขาจะมีท่าทียังไง เขาพูดเพียงว่า ” มีบางเรื่องที่ฉันรู้สึกสงสัย ดังนั้นเลยอยากรู้ ในเมื่อนายไม่อยากวิจารณ์เธอ ก็เล่าเรื่องของนายสองคนให้ฟังหน่อยได้ไหม? ”
ซวีเจี้ยนจองตาเขา แต่ก็ดูไม่ออกว่าผู้ชายคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่ แต่ว่าเล่าเรื่องแต่ก่อน คงไม่ได้มีอะไรเสียหาย
” ฉันกับจ้าวเสวียนรู้จักกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย ปีนั้นเราอยู่ปีสามแล้ว ฉันปั่นจักรยานกำลังไปหอสมุด แต่ชนเธอเข้า หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็รู้จักกัน ผมรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนดี เลยตามจีบเธอ เธอเองก็ตอบตกลง ” ซวีเจี้ยนรำลึกความหลังของพวกเขา เขาเองคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่นานมากแต่คิดไม่ถึงว่าเพียงไม่กี่คำก็เล่าจบแล้ว
ในขณะนั้นเอง พนักงานก็นำอาหารรสชาติเยี่ยมมาเสริฟ์ กุ้งมังกรตัวใหญ่ ปลาแซลมอนสดๆ และแกงจืดปลิงทะเลแสนอร่อย……
เย่จิงเหยียนคีบกุ้งและพูดว่า ” เป็นการเจอกันที่งดงามมาก แล้วทำไมสุดท้ายถึงเลิกรากัน? ”
ซวีเจี้ยนยิ้มอย่างขมขื่น ” ตอนที่เรียนไม่ได้มีความกังวลใดๆ นอกจากเรียนก็มีความรัก ความสัมพันธ์ของเราสองคนถือว่าดีมาก แต่พอเข้าสู่สังคมอย่างเต็มตัว มุมมองและทัศนคติของเราสองคนก็ขัดแย้งกัน เธอดูถูกงานของผมว่ามันธรรมดาเกินไป เงินเดือนน้อย ทะเลาะกันเรื่อยๆสุดท้ายเลยทนไม่ไหวแล้วเลิกรากันไป แต่ว่าถึงยังไงก็ยังมีความรู้สึกที่ดีอู่ ทุกครั้งที่เธอร้องไห้มาหาผม เธอบอกกับผมว่าเธอโดนคนรังแกมา ผมก็ทนไม่ได้ ในที่สุดเราก็คืนดีกัน……พอคืนดีกันก็ทะเลาะกันอีก……”
” เฮ้อ ” ซวีเจี้ยนถอนหายใจแล้วส่ายหัว ” ก็ผู้หญิงอะนะ ก็เป็นแบบนี้แหละ ก่อนหน้านั้นเธอยังมาหาฉันอยู่เลย หลังจากนั้นก็หายไปเลย ผมเองก็พึ่งเคยเธอจากข่างคราวที่แล้ว เธอกลับ……”
คำพวกนั้นขึ้นมาถึงลำขอแล้ว แต่ซวีเจี้ยนก็ต้องกลืนมันลงไป เจ้าตัวนั่งอยู่ตรงหน้า ถ้าพูดออกมามันจะเป็นการไม่ให้เกียริตเขาเกินไป
เย่จิงเหยียนคิดถึงสิ่งที่เขาไม่ได้พูดออกมาในใจ จะเป็นอะไรไปได้นอกจากอยากเป็นหนูตกถังข้าวสาร
แต่ว่า……
” นายบอกว่าก่อนหน้านั้นเธอยังมาหานายอยู่ ประมาณเมื่อไหร่? ” เย่จิงเหยียนถาม
ซวีเจี้ยนขมวดคิ้วแล้วพูดว่า ” น่าจะเป็นสองเดือนก่อน ทำไม ตอนนั้นเขาคบกับคุณแล้วหรอ? ”
ใจของเย่จิงเหยียนตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ในมือก็กำตะเกียบเงินไว้แน่น แต่ท่าทีเขากลับสบายๆ ราวกับว่าแค่ถามเฉยๆไม่ได้มีอะไรอะไร ” เธอมาหานายปกติแล้วจะทำอะไรกัน? ”
ซวีเจี้ยนเงยหน้ามองเขาอย่างประหลาดใจ หัวเราะแล้วพูดว่า ” ประธานเย่คุณเองก็เป็นผู้ชาย ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกันสองต่อสองคุณคิดว่าจะทำอะไรกัน? ”
เย่จิงเหยียนหยุดนิ่ง ชายกับหญิงอยู่ด้วยกันจะทำอะไรกันได้? เขาเป็นผู้ชายที่บรรลุนิติภาวะแล้ว แน่นอนว่าเขารู้ว่าชายกับหญิงอยู่ด้วยกันแล้วจะทำอะไร แต่ว่า……บอกว่าเธอเป็นสาวบริสุทธิ์ อีกทั้งคืนนั้นบนเตียงมันมี……
หรือว่า เธอโกหกมาโดยตลอด?
” ครั้งแรกของพวกคุณคือเมืองไหร่? ” จู่ๆเย่จิงเหยียนก็ถามขึ้นมา เขารู้ว่าคำถามนี้มันไม่เหมาะสมและดูโง่ แต่เขาจำเป็นต้องถามจริงๆ
เป็นไปตามคาด ท่าทีของซวีเจี้ยนตะลึงและหยุดนิ่งไป ” ประธานเย่ ไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนประเภทนี้? แต่ว่าต้องขออภัย เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของผม ผมขอไม่ตอบ ”
เย่จิงเหยีนนอธิบายอย่างเขินอาย ” ก่อนอื่นฉันขออธิบายก่อน ฉันไม่ได้เป็นคนประเภทนั้น ที่ฉันถามแบบนี้ก็เพราะ…..จ้าวเสวียนบอกกับฉันว่าเธอเป็นสาวบริสุทธิ์ ”
” หะ? ” ซวีเจี้ยนตกใจและอุทานออกมาเสียงสูง ” เธอบอกว่าเธอเป็นสาวบริสุทธิ์?……ไม่ๆๆ คุณเคยขึ้นเตียงกับเธอแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมคุณถึงไม่รู้ว่าเธอใช่รึเปล่า? ”
เย่จิงเหยียนที่แทนที่จะรู้ความจริงนี้ แต่เขายิ้มแล้วพูดว่า ” คืนนั้นฉันดื่มจนเมา พอตื่นมาตอนเช้าเธอก็นอนอยู่บนเตียงแล้ว ฉันจำอะไรไม่ได้เลย……”
ซวีเจี้ยนที่ยิ่งฟังตาก็ยิ่งเบิกกว้าง ” ประธานเย่ คุณหลอกง่ายไปรึเปล่า แค่นี้ก็เชื่อ? ”
” บนเตียงมีคราบเลือดอยู่ เธอบอกเองว่าเธอ……”
” ฮ่าๆๆๆ……” ซวีเจียนหัวเราะออกมาเสียงดัง ” วิธีการของจ้าวเสวียนก็ไม่เลวเลยนะ บอกคุณตามตรงนะ เราคบกันสามเดือนเราก็ขึ้นเตียงกันแล้ว แต่ว่าตอนนั้นมันก็ถูกเวลาแล้ว ”
” แบบนี้ก็หมายความว่า คืนนั้นก็เป็นไปได้ว่าฉันไม่ได้แตะต้องตัวเธอ? ” เย่จิงเหยียนพูดเองเออเอง
ซวีเจี้ยนพยักหน้า ” มีความเป็นไปได้มาก ถ้าทำไปแล้วจริงๆ เธอก็ไม่ต้องทำวิธีแบบนั้นจริงไหม? สังคมในตอนนี้ช่าง……”
เย่จิงเหยียนขัดจังหวะเขา “ฉันไม่ได้แตะต้องตัวเธอเลยหลังจากคืนนั้น แต่เธอก็ท้อง … ”
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีรอยยิ้มบนใบหน้าของซวีเจี้ยนก็หายไปและหัวใจของเขาก็เต้นแรง“ เธอท้องนานแค่ไหนแล้ว?”
“ นับจากวันที่เธอแท้งลูก เธอท้องได้ห้าสิบหกวัน”
ซวีเจี้ยนนับวันในใจใบหน้าของเขาดูกังวลผิดปกติ โยนตะเกียบในมือลงบนโต๊ะ แล้วมองตรงไปที่ดวงตาของเย่จิงเหยียนและพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า“ ช่วงนั้นแหละที่เป็นช่วงที่เธอมาหาผมติดกันเป็นอาทิตย์ ”
คำตอบเดียวกันปรากฏขึ้นในความคิดของทั้งสองคนอันที่จริงเด็กที่จ้าวเสวียนท้องอยู่นั้นเป็นของซวีเจี้ยน
“ปั๊ง!” เย่จิงเหยียนกำหมัดแน่นและทุบมันลงบนโต๊ะ เขากัดฟันและพูดว่า “เธอช่างร้ายกาจมาก”
ซวีเจี้ยนก็โกรธเช่นกัน “แม่งเอ้ย แม้ว่าฉันจะจน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถเลี้ยงเด็กคนหนึ่งได้ เธอมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้? ”
“นายลองนึกถึงช่วงเวลาก่อนและหลังให้ดี” เย่จิงเหยียนเตือนเขา ” ที่เธอท้องเธอวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว เธออยากใช้ลูกของคุณมาจับผม ไม่ใช่เพราะว่าท้องโดยไม่ได้ตั้งใจและมาโทษฉัน ”
ซวีเจี้ยนยิ่งฟังก็ยิ่งโกรธ เขากัดฟันพูด ” เธออยู่ไหน? ผมจะไปหาคุยกับเธอให้ชัดเจน ”
” อยู่ที่บ้านฉัน นายใจเย็นๆแล้วฟังฉันก่อน ” เย่จิงเหยียนให้เขาสงบสติอารมณ์ ” พรุ่งนี้ฉันจะให้ทนายเจรจาชดใช้ค่าเสียหายให้เธอ ให้โอกาสเธออีกสักครั้งเถอะ ถึงอย่างไรเธอก็เสียลูกไปแล้ว ”
” ต้องการให้ผมไปเป็นพยานไหม? ” ซวีเจี้ยนถาม
” ถ้ามีคุณจะดีมาก ”
” ได้ ผมจะไป ”
ในตอนนี้ซวีเจี้ยนแทบจะอยากฆ่าจ้าวเสวียนให้ตาย ความรู้สึกตอนนี้ของเย่จิงเหยียนมีความสุขมาก ถ้าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความจริงก็หมายความว่าระหว่างเขากับจ้าวเสวียนไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เขาไม่ได้หักหลงอีเหยา เขาเป็นผู้บริสุทธิ์
เขาอยากบอกความจริงนี้กับเธอมาก แต่กลับไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน
เย่จิงเหยียนมองซวีเจี้ยนที่หน้าแดงสุดๆตรงหน้า ผู้ชายคนนี้ไม่เลวเลยนะ และเขาพูดว่า ” ขอบคุณนายมากที่บอกความจริงกับฉัน นี่เป็นประโยชน์กับฉันมาก ”
” ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ทำให้ผมได้เห็นธาตุแท้ของจ้าวเสวียน จากนี้ผมจะตัดขาดกับเธอจริงๆแล้ว ซวีเจี้ยนก้มหน้าก้มตากินกุ้งอย่างรุนแรง ราวกับว่าเห็นกุ้งเป็นหน้าจ้าวเสวียน ใช้ม้าห้าตัวแยกร่างเธออกเป็นส่วนๆ
เย่จิงเหยียนหัวเราอย่างมีความสุข ” ตอนนี้บริษัทของฉันกำลังรับสมัครหัวหน้าแผนกวิชัยและพัฒนาอยู่ ที่ผ่านมายังไม่เจอคนที่เหมาะสม ไม่รู้ว่านายสนใจรึเปล่า? ”
ซวีเจี้ยงหยุดนิ่ง แล้วมองหน้าเขาอย่างตะลึง ” คุณทำเพื่อตอบแทนผมหรอ? ”
” นี่เป็นเพียงเหตุผลหนึ่งเท่านั้น อีกอย่างฉันคิดว่าคุณเป็นคนนิสัยใช้ได้ บริษัทเย่ฮวางของเราสรรหาคนที่มีความสามารถและต้องเป็นคนซื่อสัตย์ด้วย จะเอายังไง? ” เย่จิงเหยียนถาม
ซวีเจี้ยนตอบโดยไม่ต้องไม่คิด ” ตกลง ”
เย่จิงเหยียนยิ้ม ” นายจัดการกับบริษัททางนี้ให้เรียบร้อย แล้วมารายงาตัวที่บริษัทเย่ฮวางได้เลย ”
” ขอบคุณครับประธานเย่ ” ซวีเจี้ยนพูดอย่างจริงใจ
” หวังว่าเราจะทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข ”
ในชีวิตนี้คน ๆ หนึ่งจะต้องเจอกับโอกาสครั้งใหญ่หนึ่งหรือสองครั้งเสมอหากเขาคว้ามันได้เขาจะเปลี่ยนโชคชะตาของเขาไปอย่างสิ้นเชิง. ซวีเจี้ยนเป็นคนฉลาดเขาต้องการโอกาสนี้แม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าแผนก R&D แต่ บริษัทเย่ฮวางเป็นแพลตฟอร์มที่ต่างจากที่ที่ฉันเคยทำงาน
ถ้าเขาคว้าโอกาสนี้มาได้ เขาก็จะไม่ใช่ผู้ชายจนๆที่จ้าวเสวียนดูถูกอีกต่อไป หน้าที่การงานเขาในอนาคตมีโอกาสก้าวหน้าสูงมาก เขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปล่อยให้งานนี้หลุดมือไป
พอกินข้าวเสร็จเย่จิงเหยียนก็ส่งเขากลับบ้าน และรวดแลกเบอร์เบอร์โทรศัพท์และนัดเวลาให้เสร็จ
เตรียมการเรียนร้อย รอคอยการมาถึงของวันพรุ่งนี้
ตอนกลางคืน เย่จิงเหยียนนอนพลิกไปพลิกมา เขามองดูกรอบรูปต้วนอีเหยา ดวงตาเขามีแต่ความอ่อนโยน หอมคนทีอยู่บนกรอบรูป และถอนหายใจยาวๆ
อีเหยา ถ้าเธอรู้เรื่องนี้เธอจะต้องดีใจมากเลยใช่ไหม?
ระหว่างเราก็ไม่มีอะไรมาขวางกั้นอีกแล้ว ฉันจะรักเธอสุดหัวใจ
ถ้าเธอทำภารกิจสำเร็จแล้ว ส่งข้อความมาให้ฉันหน่อยได้ไหม?
คืนนั้น เย่จิงเหยียนกอดกรอบรูปจนหลับไป อาจจะเป็นเพราะคิดถึงเธอมากไป คืนนั้นเขาฝันถึงต้วนอีเหยา เธอมีบาดแผลเต็มตัวไปหมด ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่เลือด
เธอยืนอยู่ในกองเลือดแล้วมองมาที่เขาอย่างอ่อนโยน เธอยิ้ม ” จิงเหยียน ลาก่อน ” จากนั้นก็ค่อยๆลอยหายไป
เย่จิงเหยียนรู้สึกหลัวมาก วิ่งตามเธอไปอย่างสุดชีวิต แล้วกอดเธอไว้ จากนั้นก็เรียกเธอ ” อีเหยา ” ร่างกายที่เยือกเย็นของเธอในอ้อมแขนเขาค่อยๆหายไปเหลือไว้แต่ความว่างเปล่า……”
” อีเหยา ” เย่จิงเหยียนตะโกนเรียกในฝันอย่างเสียงดัง ถึงได้รู้ว่าเขาฝันไป เขาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก
เย่จิงเหยียนหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง ฟ้าค่อยๆสว่าง
หัวใจเต้นรัวๆ ภาพที่บนร่างการต้วนอีเหยาเต็มไปด้วยเลือดราวกับอยู่ตรงหน้า เย่จิงเหยียนสงบสติอารมณ์ตัวเองอยู่สักพักแล้วค่อยลุกลงไปข้างล่าง
ตอนเช้าตรู่ของฤดูร้อนอากาศดีมาก ดอกไม้และใบหน้ามีน้ำค้างเกาะติดอยู่
ในหัวสมองของเย่จิงเหยียนมีแต่ต้วนอีเหยา คิดอยู่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเธอจริงรึเปล่า เธอจะล้มลงเหมือนในฝันไหม……
” ผิงอัน วันนี้คุณตื่นเช้าขนาดนี้เลยหรอ ” จางเห่อยืนถามเขาอย่างมีความสุขอยู่หน้าประตูคฤหาสน์
เย่จิงเหยียนหยุดเดิน ใช้ผ้าขนหนูในมือเช็ดเหงื่อ ” คุณลุงจา ลุงว่าฝันของคนจะเป็นจริงไหม? ”
” คุณฝันถึงอะไร? ”
” เป็นความฝันที่ดีมากเรื่องหนึ่ง ” เย่จิงเหยียนขมวดคิ้ว
จางเห่อให้ความกระจ่างแก่เขา ” การฝันของคนเขามักจะตรงกันข้ามกัน เช่น ถ้าฝันว่าใครคนนั้นตาย แสดงว่าเลื่อนขั้นเพื่มเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองและอายุยืนยาว ”
” จริงหรอ? ” เย่จิงเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย
” แน่นอนสิ ไม่เชื่อก็ลองไปเช็คในตำราทำนายฝันได้เลย ” จางเห่อดูความคิดของเขาออก ได้ยินมาว่าต้สนอีเหยาออกไปปฏิบัติภารกิจ เด็กคนนี้น่าจะเป็นห่วงเธอมากเลยฝันว่ามีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับเธอแน่ๆ
ในที่สุดเย่จิงเหยียนก็ยิ้มออมา ในขณะที่วิ่งอยู่ก็พูดว่า ” ดีแล้ว ดีแล้ว ดีแล้ว ”