“เธอออกมารอฉันหน้าประตูมหาวิทยาลัยเดี๋ยวนี้ อีก10 นาทีถึง” เสี่ยวอวี้หลินสั่งเธอ
ถ้าเซี่ยอันน่ากล้าไม่ออกมา คอยดูเลยว่าเขาจะจัดการอย่างไร
พูดจบ เขาก็รีบขับรถออกไป
………………………
เซี่ยอันน่ารู้สึกงงกับตัวเอง เสี่ยวอวี้หลินบอกให้เธอออกมารอ เธอก็เชื่อฟังออกมารอง่ายๆแบบนี้หรือ
ไม่ได้ เธอต้องกลับไป จะปล่อยให้เสี่ยวอวี้หลินรังแกอีกไม่ได้
“เฮ้? นี่มันเซี่ยอันน่าไม่ใช่หรือ? คนที่มีข่าวว่าหว่านเสน่ห์ใส่ท่านประธาน และกำลังเหยียบเรือสองแคมอยู่อีกด้วย”
เซี่ยอันน่าเงยหน้ามอง เห็นสาวรูปร่างดีคนหนึ่งใส่เสื้อผ้าที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ตอนนี้ เธอคือดาวเด่นของมหาวิทยาลัย เธอคือซู่เฉียวเฉี่ยว
ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆซู่เฉียวเฉี่ยวเห็นว่าเซี่ยอันน่าไม่ได้สนใจเธอ แต่กลับมองข้ามเธอไปมองซู่เฉียวเฉี่ยวแทน ก็รู้สึกโมโห
เซี่ยอันน่ามีสิทธิอะไรมาทำกับเธอแบบนี้ “ฉันคุยกับเธออยู่ ยัยร่าน!”
เซี่ยอันน่าไม่ได้สนใจเธอ และยืนเล่นมือถือต่อ
“เฮ้ยัยร่าน” หญิงคนนั้นรู้สึกขายหน้าที่เซี่ยอันน่าเมินเธอ จึงเดินเข้าไปข้างหน้า และผลักเธอ
ถึงแม้เซี่ยอันน่าจะอ่อนแอ จะซื่อบื้อมากแค่ไหน แต่เธอก็รู้ว่าตอนนี้ควรจะทำอย่างไร “เธอทำอะไร อู๋จิง” เซี่ยอันน่าจ้องไปที่เธอตาเขม็ง
อู๋จิงก้มหน้ามองเหยียดเซี่ยอันน่าที่ตัวเล็กกว่า และบอกว่า “ฉันอยากจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับเธอ ยัยร่าน”
“เธอน่ะซิร่าน วันวันเอาแต่อยู่ตามตูดซู่เฉียวเฉี่ยว เกาะเธออยู่นั่นแหละ” เซี่ยอันน่าด่า
“เธอ…” อู๋จิงเดือดมาก เธอรู้ดีว่าคนในมหาวิทยาลัยมองว่าเธอเอาแต่เกาะซู่เฉียวเฉี่ยว
อู๋จิงเตรียมจะตบเซี่ยอันน่า แต่ก็ถูกจับมือและสะบัดออกไป
“เธอไม่เป็นไรนะ?” จริงๆเลยยัยบื้อนี่ เขาเพิ่งมาถึงก็เห็นเธอที่กำลังจะโดนตบซะแล้ว
แถมเซี่ยอันน่ายังอยู่นิ่งๆไม่ขยับ รอให้คนมาตบหรือไงนะ?
“ฉันไม่เป็นอะไร” เซี่ยอันน่าเห็นเสี่ยวอวี้หลิน ขอบตาก็ร้อนผ่าว รู้สึกน้อยใจในโชคชะตาชีวิต
เซี่ยอันน่ากอดเสี่ยวอวี้หลินแน่น
“เสี่ยวอวี้หลิน ทำไมนายเพิ่งมา” ไหนบอกแค่สิบนาที ทำไมเพิ่งมาเอาตอนนี้
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว” เสี่ยวอวี้หลินตกใจเล็กน้อยที่ถูกเธอกอด
แต่เขาก็รู้สึกดีใจไม่น้อย ที่เธอกอดเขาแบบนี้
“ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่นี่แล้ว” พูดจบ เขาก็หันไปมองทางผู้หญิงสามคนที่ยืนอยู่ข้างหน้า จากนั้นหันไปตวาดใส่พวกนั้นลั่นว่า “ไสหัวไป!”
อู๋จิงตกใจ พอตั้งสติได้ก็พูดอย่างอวดดีว่า “หึ อย่าคิดนะว่ามีคนปกป้องแล้วเธอจะทำอะไรก็ได้”
“ขอโทษด้วยนะคะ พอดีเพื่อนของฉันโดนแย่งผู้ชายที่รักไป เลยเสียสติแบบนี้” ซู่เฉียวเฉี่ยวพูดไปยิ้มไป
เสี่ยวอวี้หลินมองไปทางเธอ และหันกลับมามองเซี่ยอันน่า จากนั้นพูดขึ้นว่า
“ไปซะ”
เสี่ยวอวี้หลินได้ยินที่ซู่เฉียวเฉี่ยวพูดก็รู้สึกไม่ชอบใจ
และเขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ ช่วงนี้ขอแค่เป็นเรื่องของเซี่ยอันน่า เขามักจะตั้งใจฟังตั้งใจดูมาก
เหมือนคำที่ซู่เฉียวเฉี่ยวพูดขอโทษแทนเพื่อนเมื่อกี้ ที่บอกว่าเพื่อนของเธอโดนแย่งผู้ชายที่รักไป ใครเป็นคนแย่ง? เซี่ยอันน่า?
ถ้าเธอไม่ใช่คนปากร้าย ปากไม่ดี แล้วทำไมต้องเหน็บหรือใส่ร้ายเซี่ยอันน่าด้วย แถมยังบอกอีกว่า เซี่ยอันน่าชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่ว?
ยิ่งเสี่ยวอวี้หลินเอานึกถึงคำพูดลอยๆของซู่เฉียวเฉี่ยว ยิ่งทำให้โมโหแปลกๆ
เซี่ยวอันน่าเงยหน้ามองเขาและกระแอมเบาๆ “ขอโทษนะ ฉัน…”
เซี่ยอันน่าหน้าแดงเล็กน้อย และพูดว่า “ฉัน…จมูกฉันเหมือนโดนเสื้อนายเลย…”
เขาคิดในใจและรู้สึกโกรธเซี่ยอันน่ามาก แต่พอได้ยินที่เซี่ยอันน่าพูดเมื่อครู่ ความโกรธก็เหมือนจะเบาลง
อ่า เขาลืมไปซะสนิทเลยว่ายัยนี่บ๊องแค่ไหน จะเป็นไปได้อย่างไรที่ไปแย่งแฟนคนอื่น?
ยิ่งเรื่องอย่างว่า…
“ไป ไปซื้อเสื้อผ้าให้ฉัน” เสี่ยวอวี้หลินแอบยิ้ม ตอนพูดกับเธอ
เอ่อ เสื้อของเสี่ยวอวี้หลินคงจะแพงมากแน่ๆ เซี่ยอันน่ามองเขาแล้วขมวดคิ้วด้วยความกังวล
“ไปซิ ยืนอึ้งอะไรอยู่”
“อ่อ โอเค” เซี่ยอันน่ามองที่รถคันใหม่ของเซียวอวี้หลิน แล้วรู้สึกว่าเขานี่มันลูกคนรวยจริงๆ
“ทำไมนายเปลี่ยนรถอีกแล้วล่ะ?”เหอะ ทำไมถึงเปลี่ยน? ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ “ฉันอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยน ฉันมีเงิน” เสี่ยวอวี้หลินพูดอย่างอวดดี
“ชึ” มีก็มีไปซิ
แต่จะว่าไปรถคันนี้ก็สวยมากๆ ดูสะดุดตาผู้คนมากเหมือนกัน
……………
“ว้าว ฉัน…ฉันไม่เคยมาที่นี่เลย” เซี่ยอันน่ากล่าวกับเสี่ยวอวี้หลิน ที่พาเธอมาย่านหรูหราหมาเห่าขนาดนี้
เคยมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเซี่ยอันน่าคนหนึ่ง มาทำงานพิเศษที่นี่ และกลับไปโม้กับเพื่อนๆว่า กาแฟของที่นี่เป็นกาแฟที่ดีๆทั้งนั้น อีกอย่างยังฟรีอีกด้วย เพราะคนที่ใช้จ่ายอยู่ที่นี่ ต่างก็เป็นคนมีเงินของเืองนี้
ราคาเสื้อโหลๆสักตัวที่นี่ คงพอจ่ายค่าเทอม ค่ากินอยู่ของเธอทั้งปีแล้ว
เป็นครั้งแรกที่เซี่ยอันน่ามาที่นี่ ความรู้สึกเธอคือที่นี่ใหญ่ ยิ่งใหญ่มาก ตื่นตาตื่นใจที่สุด ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่แสงสีเสียง
“ตามฉันมา” ยัยบ๊องเอ้ย ทำเหมือนไม่เคยเจอโลกมาก่อนอย่างงั้นแหละ แต่ทว่าเสี่ยวอวี้หลินไม่ได้รู้สึกอายหรือขายหน้าอย่างใด แต่กลับรู้สึกว่าน่ารัก? นี่เขาบ้าไปแล้วหรือเนี้ย
“โอเคค่า” เซี่ยอันน่ามองดูรอบๆ ด้วยความตื่นเต้น ที่นี่ซินะที่เพื่อนเธอคุยโวไว้ตั้งเยอะ
เสี่ยวอวี้หลินเดินนำหน้าเธอและแอบยิ้มอยู่คนเดียว
บริเวณเสื้อผ้าบุรุษ
เมื่อถึงหน้าร้าน พนักงานสาวมองเสี่ยวอวี้หลินปานจะกลินกิน เพราะเขารูปร่างสูง หน้าตาหล่อเหลา มีออร่ามากๆ
เขาเดินเข้าไปในร้านและเลือกเสื้อเชิ้ตมาหนึ่งตัว ยังไม่ทันพูดอะไร พนักงานสาวที่ยืนอยู่ข้างๆก็พูดขึ้นว่า “คุณผู้ชายคะ นี่เป็นแบบใหม่ล่าสุดเลย ต้องการให้ดิฉันห่อให้ไหมคะ?”
การบริการได้มาตราฐาน รอยยิ้มก็เป็นมาตราฐาน แต่ที่เซี่ยอันน่าดูยังไงก็ไม่เข้าตา ยิ่งยิ้มยิ่งขี้เหร่ มองแล้วขัดตา
ยิ่งไม่ชอบที่เธอใช้สายตาแบบนั้นมองเซียวอวี้หลิน
“ไม่ต้อง” เซี่ยอันน่าเดินไปทางเสี่ยวอวี้หลิน ถลึงตาใส่เขาและหยิบเสื้อวางกลับที่เดิม
เอ่อ พนักงานสาวอึ้งไปพักหนึ่ง ผู้หญิงที่ใส่เสื้อผ้าดูโลคลาสคนนี้คือใคร?
เสี่ยวอวี้หลินขำ “ไม่โอเคหรือ?”
“ไม่ ทุเรศจะตาย… พวกเราไปกันเถอะ ไปดูทางนั้นดีกว่า” พูดจบก็ดึงมือเซียวอวี้หลินออกห่างพนักงานสาวคนนั้น
เซี่อยันน่าหน้าบูดหน้าบึ้ง เสี่ยวอวี้หลินจึงถามว่า “เป็นอะไร?” พูดจบก็ยีหัวเธอเบาๆ
“เปล่า ก็แค่คิดว่าฉันเป็นคนทำเสื้อนายสกปรก ฉันน่าจะเป็นคนเลือกให้นายเองมากกว่า” เซี่ยอันน่าแก้ตัว
“โอเค งั้นฉันรอเธอซื้อให้ฉันแล้วกัน” เสี่ยวอวี้หลินพูดไปขำไปป
“เมื่อกี้เห็นทางนั้นมีเสื้อสวยมากๆอยู่ ไปดูทางนั้นกัน” เซี่ยอันน่าชี้ไปทางร้านที่อยู่ซ้ายมือ
เมื่อเดินถึงร้านเธอก็หยิบเสื้อขึ้นมาดู…
ห๊า!? นี่…นี่…มันเสื้ออะไรกัน?
แค่ตัวเดียวตั้งหมื่นกว่า….
เซี่ยอันน่ายืนอึ้งอยู่กับราคา ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ
เมื่อกี้เธอบอกจะซื้อเสื้อให้เขาแท้ๆ แต่พอเห็นราคาแล้วก็….
เธอหันหลังไปมองทางเสี่ยวอวี้หลิน และยิ้มแหยๆ รู้สึกขายขี้หน้ามาก
“เอ่อ…เอ่อคือว่า เสื้อผ้าของที่นี่ทำไมแปลกๆ? ไม่เห็นจะสวยเลย” เซี่ยอันน่าพูดจบก็ดึงมือเซียวอวี้หลินเดินออกมา
พนักงานสาวถึงกับงง เมื่อกี้ยัยนั่นที่แต่งตัวซ่อมซ่อคนนั้นพูดว่าเสื้อผ้าที่ร้านไม่สวยหรือ? บ้าไปแล้วจริงๆเลย
“เมื่อกี้ผู้หญิงที่อยู่กับคุณชายเสี่ยวคือใครกัน?” พนักงานสาวถามขึ้น
“เธออะหรอ ไม่รู้เหมือนกัน เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก” พนักวานที่ยืนข้างไตอบ
ยัยเด็กนี่เป็นใคร ไม่เคยเจอมาก่อนเลย และดูเหมือนคุณชายเสี่ยวจะให้ท้ายเธอมาก สงสัยเธอคงสำคัญกับคุณชายมากซินะ
……………
เสี่ยวอวี้หลินไม่เคยเจอที่ไหนแบบนี้มาก่อน คนเยอะแยะแน่นขนัด แผงลอยที่ข้างๆอยู่ข้างทางมีทุกอย่างๆ ทั้งมันเผา ทั้งเครป ทั้งผลไม้ เรียกได้ว่าอยากได้อะไรก็มีหมดก็ว่าได้
แต่ที่ขัดอยู่อย่างหนึ่งคือ มันดูไม่ถูกสุขลักษณะอนามัยมาก?
เสี่ยวอวี้หลินทำท่าทีรังเกียจเล็กน้อย มันดูไม่สะอาดจริงๆ
“เฮ้ เธอจะไปไหน?” เสี่ยวอวี้หลินถามเมื่อเห็นเซี่ยอันน่ากำลังจะเดินไปอีกทาง “ฉันจะไปซื้อเครปมากิน นายเอาไหม?” เสี่ยวอวี้หลินมองไปทางร้านขายเครป สภาพดูไม่จืดเลย….
“ไม่กิน” เสี่ยวอวี้หลินตอบกลับ
“งั้นฉันกิน” พูดจบ เธอก็เดินไปสั่งเครป “พ่อค้า เอาใส่ไข่สองฟอง ไส้กรอก1 ใส่พริกไทยเยอะๆนะคะ ผักอย่างอื่นใส่ได้หมดเลย”
“โอเคจ้า”
เสี่ยวอวี้หลินสงสัยอย่างแรง เขาไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว
คนฐานะอย่างเขา จะเคยมาที่ๆแออัดเบียดเสียด และน่ารำคาญแบบนี้ได้อย่างไร
แต่กลับกัน เซี่ยอันน่าชอบที่นี่ และเธอเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ เธอรู้จักที่ดีมากๆ เสี่ยวอวี้หลินมองไปที่มือของเธอ ไม่รู้ว่าเธอกำลังกินอะไรอยู่ เพราะเขาไม่เคยเห็นของแบบนี้เลย
“พวกเรามาที่นี่ทำไม?” เสี่ยวอวี้หลินถามด้วยความสงสัย
“ซื้อเสื้อผ้าไง” เซี่ยอันน่าพูดไปกินไป
“ที่นี่? ขายเสื้อผ้าหรือ? ใส่ได้หรือ?” เสี่ยวอวี้หลินถามต่อ
เซี่ยอันน่านึกขึ้นได้ ว่าเขาคงไม่เคยมาสถานที่แบบนี้แน่ๆ ถึงได้เอาแต่ถาม
“อืมๆๆๆ มีซิ ไป เดี๋ยวฉันพานายไปเอง” เซี่ยอันน่าพูดจบก็เดินนำไป
เซี่ยอันน่าคิดอะไรดีๆออก เธอหยุดเดินและหันไปพูดว่า “ตามฉันมาดีๆนะ เดี๋ยวหลง ที่นี่ใหญ่มากด้วย”
และที่นี่ก็กว้างมากจริงๆ ถ้าคนที่ไม่ค่อยได้มาที่นี่ ต้องหลงทางแน่ๆ
เธอกลัวว่าคุณชายคนนี้จะหลงไป
เสี่ยวอวี้หลินอึ้งไปเล็กน้อย เพราะมีแต่เขาที่เคยพูดประโยคนี้กับคนอื่น ไม่เคยมีใครเคยพูดแบบนี้กับเขาเลย แต่จะว่าไปก็รู้สึกไม่เลวเลยนะ
เขายิ้มออกมาที่ได้ยินเธอพูด เซี่ยอันน่าหันมาพูดต่อว่า “เร็วๆหน่อยซิ”
ถึงหน้าตึกใหญ่ตึกหนึ่ง ชั้นล่างขายพวกกระเป๋าหนังสือ ส่วนชั้นที่สองขายเสื้อผ้า
“ถึงแล้ว ที่นี่แหละ นายไปเลือกชุดที่นายมาสักชุด เดี๋ยวฉันซื้อให้” เซี่ยอันน่าพูดกับเขา
เสี่ยวอวี้หลินเดินเข้าไปอย่างว่านอนสอนง่าย และค่อยๆตั้งใจเลือกเสื้อผ้าที่ตัวเองชอบ
เป็นเขาที่พูดแบบนี้กับคนอื่นมาตลอด ไม่เคยมีใครพูดกับเขาแบบนี้เลยจริงๆ
นึกถึงผู้หญิงคนก่อนๆที่เขาเคยคบ ก็มีแต่เขาที่เป็นบอกพวกเธอให้เลือก
แต่หญิงสาวที่ยืนตั้งอกตั้งใจกินเครปอยู่ข้างหลังกลับต่างออกไป เธอพูดขึ้น “นายค่อยๆเลือก เลือกได้แล้วบอกฉัน เดี๋ยวฉันซื้อให้”
ความรู้สึกแบบนี้ ไม่เลวจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่ายัยบีองนี่ จะทำให้เขารู้สึกที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“อ่า? ฉันว่าอันนี้ก็ไม่เลวนะ” เซี่ยอันน่าพูดและหยิบเสื้อเชิ้ตสีฟ้าขึ้นมาให้เขาดู
เสี่ยวอวี้หลินยืนมองเสื้อที่เธอถืออยู่ครู่หนึ่ง และพูดว่า “จริงๆมันก็…ดูโดดเด่นมาก”