วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ – ตอนที่ 523 หนามยอกเอาหนามบ่ง

ให้ตายเถอะ น้ำของหัวหอมกระเด็นเข้าตา!

เย่ชวูเสวียโง่ทำตัวเองร้องไห้แล้ว เธอรีบลุกขึ้นและวิ่งไปล้างตา

ขณะที่กำลังก้าวเท้า เธอก็สะดุดกับตระกร้าที่วางอยู่บนพื้น

ช่วงที่เธอกำลังใช้มือดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ก็บังเอิญโดนมีดบาดเข้า

“โอ๊ยเจ็บ!”

มือของเธอเต็มไปด้วยเลือด แต่ตาของเธอก็แสบมาก จนเธอไม่รู้ว่าควรทำอะไรก่อน เลยทำได้แค่ยืนร้องอยู่แบบนั้น

ทางมู่ยู่วฉีกลับอพาร์ตเมนท์มาหยิบเอกสาร เมื่อเข้ามาก้ได้ยินเสียงร้องของเย่ชวูเสวีย จึงรีบวิ่งไป

ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป มู่ยู่วฉีก็ได้กลิ่นเลือด เมื่อหันไปมองทางเย่ชวูเสวีย เขาก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

ยัยนี่ เป็นควายเหรอ?

มู่ยู่วฉีคว้ามือเธอมาดู และเตรียมจะเดินไปหยิบยา

แต่เธอก็ร้องขึ้นมาว่า “ตาฉันเจ็บมาก นายช่วยที”

ตาของเธอบวมขึ้นมามาก และน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด

มู่ยู่วฉีหมดคำจะพูดจริงๆ เขาพาเธอเดินไปที่ห้องน้ำ และช่วยเธอล้างตาออก จากนั้นไปหยิบยามาทำแผลให้เธอ

“โอ๊ย เจ็บอ่า!”

เมื่อทายาเสร็จ เขาก็พันแผลให้เธอ

แต่ทุกครั้งที่พันเสร็จ เขามักจะพันออกมาได้ไม่ดี ทำให้เลือดออกจากแผลเร็วมาก

เย่ชวูเสวียถามว่า “นายทำเป็นไหมเนี่ย ทำไมเลือดไหลเยอะกว่าเดิมอีก?”

มู่ยู่วฉีขมวดคิ้วและตอบกลับว่า “ฉันไม่เคยเรียน จะเอาไปเปรียบกับมืออาชีพไม่ได้”

“ถึงนายจะไม่ใช่มืออาขีพ แต่นายก็ไม่ควรทำร้ายคนอื่น ฉันเห็นนายตั้งใจแกล้งฉัน ไล่ฉันออกไป แบบนี้นายจะทำอะไรกับซีซีก็ได้ใช่ไหม!”

มู่ยู่วฉียังคงพันแผลต่อ จนเหงื่อเริ่มไหล “ผ้าาก๊อตไม่พอ ฉันไปหยิบก่อน”

ก็ได้ ดูเหมือนเขาจะทำไม่เป็นจริงๆ รอเขากลับมาทำให้ เธอคงตายก่อนพอดี

เย่ชวูเสวียเสียใจหนักมาก นี่ชีวิตเธอต้องมาจบตรงนี้แล้วหรือเนี่ย

ขณะที่เธอกำลังโอดครวญอยู่นั้น ก็มีมือเย็นๆมาจับมือเธอไว้ จากนั้นค่อยๆช่วยเธอพันแผลอย่างคล่องมือ

เย่ชวูเสวียช็อก

“ซีซี….”

พันแผลเสร็จ ซีซีก็กลับไปนิ่งอยู่ทีเดิม

เย่ชวูเสวียมองซีซี จากนั้นหันมามองมือตัวเอง หรือเมื่อกี้เธอตาฝาด?

ขณะที่เธอกำลังช็อกอยู่นั้น มู่ยู่วฉีก็เปิดปรปะตูเข้ามา

เห็นแผลของเธอทำเสร็จแล้ว จึงพูดว่า “ทำเองก็เป็นนี่ ทำไมให้ฉันวิ่งงไปวิ่งมา นี่เธอจะแกล้งฉันเหรอ?”

เย่ชวูเสวียค่อยๆหันหน้ามาพูดกับเขา “นายโง่หรือเปล่า ถ้าฉันทำเป็น คงไม่ปล่อยให้นายปู้ยี่ปู้ยำแผลฉันหรอก!”

“นี่เธอหมายความว่าไง?”

เย่ชวูเสวียพเยิดหน้าไปที่ซีซีด้วยสายตาเปล่งประกาย

จากนั้น เขาก็วิ่งไปจับมือซีซี และพูดว่า “ซีซีๆ เธอเห็นฉันแล้วใช่ไหม? เธอหายเป็นปกติแล้วใช่ไหม? พูดอะไรกับฉันหน่อยได้ไหม”

“จะหายเป็นปกติเร็วขนาดนั้นได้ไง ฉันเดาว่าเมื่อกี้ที่ฉันร้องไห้ คงไปกวนเธอเข้า เธอเลยเข้ามาช่วย เพื่อให้ฉันหุบปาก”

คำพูดของเย่ชวูเสวีย ทำให้เขาไม่อยากเชื่อ

เขาโบกมือไปมาข้างหน้าซีซี แต่เหมือนเดิมซีซีไม่ตอบสนองอะไร

เห้อ

มู่ยู่วฉีถอนหายใจอีกครั้ง

จากนั้นเย่ชวูเสวียก็พูดต่อว่า “ทำไมฉันรู้สึกว่าตอนนายไม่อยู่ ซีซีจะมีอะไรบางอยอ่างพัฒนาบ้าง”

เขาที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว ยิ่งได้ฟังที่เย่ชวูเสวียพูดยิ่งขึ้น

“ก็แค่เรื่องบังเอิญ จะเอามาวัดอะไรได้”

เย่ชวูเสวียจ้องหน้าเขาอย่างใช้ความคิด จากนั้นพูดขึ้นว่า “หรือว่านายเป็นสิ่งที่ทำให้ซีซีฝังใจและสนใจมากที่สุด ฉันเป็นอย่างนั้น อาจจะใช้นายมาเปลี่ยนเครื่องมือกระตุ้นเธอ ไมแน่อาจจะมีผลลัพธ์ดีๆเกิดขึ้น”

“เครื่องมืออะไร เธอกำลังพูดอะไรกันแน่?”

“ไอหยา ก็ลองให้นายบาดเจ็บดู เพื่อให้เธอเป็นห่วง พอถึงตอนนั้นเธอก็ร้อนรนและออกมาจากห้องนั้น และกลับกลายเป็นปกติ!”

เย่ชวูเสวียยิ่งคิดยิ่งมีความสุข จากนั้นเธอก็เดินไปหยิบมีดเดินมาาทางเขา

ท่าทางบ้าบอของเย่ชวูเสวีย ทำเอามู่ยู่วฉีถึงกับงงและถามว่า “เธอจะทำอะไร?”

เย่ชวูเสวียแกว่งงมีดไปมา และยิ้มอย่างชั่วร้าย “มาเถอะ ฉันจะทำเบาๆ จะไม่ทำให้นายเจ็บ”

“เย่ชวูเสวีย เธอบ้าไปแล้ว!”

พูดจบ มู่ยู่วฉีก็วิ่งหนี

เย่ชวูเสวียววิ่งตามหลัง “อย่าพูดแบบนี้ ขอแค่แผลเล็กๆพอ ที่เหลือใช้การแสดงของนายล้วนๆ ”

“ท่าทางของเธอ จะเป็นแค่แผลเล็กๆได้อย่างไรกัน น่าจะเจ็บเจียนตายแน่ๆ!”

“นายเอาแต่บอกว่าชอบๆๆๆซีซี แต่ทำไมไม่เห็นทำอะไรเลย แค่เลือดออกจะกลัวอะไร ขอแค่ซีซีกลับเป็นปกติได้ก็โอเคแล้วไม่ใช่เหรอ”

“งั้นเธอวางไอ้นั่นลงก่อน จะเจ็บยังไงฉันขอทำเอง ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมตกอยู่ในกำมือเธอแน่”

“นายไม่เชื่อฝีมือฉันเหรอ?​ไอหยา วางใจเถอะ จากประสบการณ์เมื่อกี้ฉันรู้ว่าควรทำอย่างไรหน่า”

พูดจบ เธอก็แกว่งมีดไปมาอีก

“พวกเธอเสียงดัง!”

ในระหว่างที่เขาทั้งสองเถียงกันไปมาอยู่นัน้น ก็มีเสียงหนึ่งงดังขึ้น

พวกเขาทั้งสองมองหน้าากัน จากนั้นค่อยๆหันไปหาซีซี

เย่ชวูเสวียยรีบเดินเข้าไปข้างๆซีซี และถามว่า “ซีซี ในที่สุดเธอก็พูดแล้ว! เธอรู้ไหมสองวันมานี้พวกเราเป็นห่วงเธอมาก เธอ…”

เย่ชวูเสวียกำลังจะพูดต่อ แต่มู่ยู่วฉีห้ามไว้ก่อน

“ซีซี เธอมองเห็นฉันไหม? รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”

ลูกกะตาดำของเธอขยับ นับว่ามีการตตอบสนอง

ซีซีมองที่มู่ยู่วฉี แต่ก็เหมือนมองผ่านเข้าไป เหมือนกำลังมมองแผ่นฟ้าที่ว่างเปล่า

“นายรู้ไหมว่าฉันเกลียดนายมากแค่ไหน?”

เพราะเธอไม่ได้พูดมานาน ทำให้เสียงของเธอแหบพร่า

มู่ยู่วฉีเตรียมจะพูดอะไรต่อ แต่ก็ถูกเย่ชวูเสวียห้ามไว้

ทั้งสองตั้งใจฟังที่ซีซีกำลังพูด

“ทั้งๆที่ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนายเลย แต่ทำไมกลับถูกทุกคนเข้าใจผิด ถูกคนทำให้อับอายขายขี้หน้า แม้กระทั่งรางวัลที่ฉันควรจะได้ ก็ยังถูกยกเลิก ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย!”

“ฉันตั้งใจเรียนอย่างหนัก ตั้งใจทำงาน เพราะอยากให้อนาคตสดใส แต่ทำไมฉันกลับถูกหัวเราะเยาะเย้ยและโดนด่าตลอด!?”

“และยังมีพวกที่เอาแต่คอยเหน็บแนม หัวเราะเยาะฉัน พวกนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องแท้จริงเป็นอย่างไร ก็เอาแต่โทษฉัน พวกเขามีสิทธิอะไร!”

“ฉันเหนื่อย ฉันเหนื่อยมากจริงๆ! ฉันคนเดียวจะทนมันต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ทำอย่างไรดี…..”

ซีซีพูดไปน้ำตาไหลไป เธอร้องไห้สะอึ้กสะอื้นหนักมาก

เมื่อมู่ยู่วฉีได้ยินความในใจของเธอ ก็รู้สึกเจ็บที่หัวใจมาก เขาดึงเธอเข้ามากอดปลอบเงียบๆ

เย่ชวูเสวียที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ขอบตาแดง รู้สึกเป็นซีซีนี่ไม่ง่ายเลย ผู้หญิงคนเดียวต้องเจอเรื่องมากมายขนาดนี้ แถมคนที่คอยปลอบใจอยู่ข้างๆเธอก็ไม่มีสักคน

เธอร้องไห้อยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ เธอก็ค่อยๆเงียบลง และปาดน้ำตา ท่าทางนี้เหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด

มู่ยู่วฉีค่อยๆคลายอ้อมกอด และเช็ดน้ำตาบนในหน้าเธอ

เพราะสัมผัสที่อบอุ่นและอ่อนโยนของเขา ทำให้ซีซีค่อยๆก้าวออกมาจากโลกของตัวเอง และออกมาเผชิญโลกภายนอกอีกครั้ง

ซีซีจ้องไปที่มู่ยู่วฉีอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดลั่นว่า

“มู่ยู่วฉี!”

เป็นอีกครั้งที่ซีซีได้ยินเสียงของตัวเอง มู่ยู่วฉีรู้สึกโชคดีมาก มากกว่าครั้งไหนๆ

เขากำมือซีซีแน่น และพูดกับเธออย่างแผ่วเบา

“อืมฉันเอง”

เมื่อซีซีเงยหน้า ก็เห็นเย่ชวูเสวียที่ยืนตาแดงก่ำอยู่ “ชวูเสวียเธอร้องไห้ทำไม มีคนรังแกเธอเหรอ?”

เย่ชวูเสวียส่ายหน้า ขำไปน้ำตาไหลไป “ไม่มี กลิ่นที่นี่แรงไปหน่อย”

ได้ยินดังนั้น ซีซีก็หายใจเข้าแรงๆ ขมวดคิ้วพูดว่า “อ่าใช่ ฉันได้กลิ่นหัวหอม ฉันไม่ชอบ”

จากนั้นมู่ยู่ฉีก็ดึงเธอเข้ามากอดแน่น

ตอนนั้นเองที่ทำให้มู่ยู่วฉีเชื่อว่า ซีซีกลับมาแล้วจริงๆ

แต่ท่าทางของมู่ยู่วฉีทำเอาซีซีไม่ทันตั้งตัว เธอหน้าแดงมาก และรีบผลักเขาออก

“มู่ยู่วฉี นายทำอะไรน่ะ ทำไมแบบนี้ซีซีจะตกใจนะ”

เย่ชวูเสวียใช้แรงแยกเขาทั้งสองออก ถ้าซีซีตกใจแล้วกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกจะทำอย่างไร?

ซีซีอึดอัดเล็กน้อย รู้สึกว่าวันนี้มู่ยู่วฉีกับเย่ชวูเสวียแปลกๆ

เธอเงยหน้ามองดูรอบๆ และสงสัย

“เอ๊ะ ที่นี่มันบ้านของคุณมู่นี่นา ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ล่ะ?”

เย่ชวูเสวียมองตาซีซี และถามว่า “ซีซี เรื่องก่อนหน้านี้ เธอจำไม่ได้เลยเหรอ?”

“เรื่องก่อนหน้านี้เหรอ…เหมือนฝันเลย ฉันก็ไม่รู้ว่าจริงไหม”

“งั้นเธอลองพูดมา ฉันช่วยเธอวิเคราะห์”

ซีซีพยายามนึกย้อนไป “ประกาศของโรงเรียนติดไว้ว่าจะยกเลิกคุณสมบัติที่ได้รับรางวัลของฉัน แถมยังตำหนิออกสื่ออีก…”

ซีซียิ่งพูด ภาพยิ่งชัดเจนขึ้น

เธอหันไปมองเย่ชวูเสวีย และถามว่า “นี่คือเรื่องจริงไม่ใช่ฝันใช่ไหม?”

เย่ชวูเสวียรีบพูดต่อว่า “ฉันรู้ว่ามันไม่ยุติธรรมกับเธอ แต่มันผ่านมาแล้ว ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าเธอไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น ทั้งหมดเป็นฝีมือของเพื่อนเธอ อีกอย่างตอนนี้ก็หาหลักฐานออกมาได้แล้ว ว่าพวกเขาทำให้เธอเสียหาย ไม่เพียงแค่โดนไล่ออกนะ แต่พวกเขายังคุมตัวอีกด้วย พวกเขาได้รับผลกรรมแล้วล่ะ”

“หัวหน้าห้องกับชายใส่แว่นโดนกักตัว?”

มู่ยู่วฉีตอบว่า “ใช่ แค่นี้ยังไม่พอหรอก ฉันจะให้พวกนั้นเจ็บปวดยิ่งกว่านี้อีก ชดใช้สิ่งที่พวกเขาทำ”

“ไอหยา ตอนนี้ไม่ต้องพูดคำอะไรพวกนี้แล้ว ไหนๆซีซีก็กลับมาปกติแล้ว งั้นพวกเรากินอะไรอร่อยๆกัน ฉลองหน่อย!”

ซีซีรู้สึกว่าตัวเองควรพูดอะไรซะหน่อย

แต่เธอก็ไม่อยากขอร้องอะไรแทนสองคนนั้น ทำอะไรไว้ก็ควรได้รับสิ่งนั้นตอบก็ถูกต้องแล้ว

ในที่สุดก็มีคนจัดการเรื่องนี้แทนเธอแล้ว เธอก็โล่งใจได้ เธอโดนคนเข้าใจผิดมานานมาก ตอนนี้เธออยากกลับมาใช้ชีวิตปกติแล้ว

เย่ชวูเสวียเทน้ำให้ซีซีดื่ม เมื่อเธอดื่มเสร็จก็ถามว่า “งั้นแล้วทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ได้?”

เย่ชวูเสวียรู้สึกว่าควรบอกให้เธอรู้

“เรื่องไม่สบายใจพวกนี้ส่งผลกระทบกับจิตใจเธอหนักมาก ทำให้เธอปิดตัวเอง ไม่พูดไม่จา ช่วงที่ผ่านนมาเธอทำพวกฉันเป็นห่วงแทบตาย ยังดีตอนนี้เธอกลับมาเป็นปกติแล้ว ไม่งั้นนะพวกเราไม่รู้เลยว่าวรทำอย่างไรต่อ”

“ห๊า?”

ซีซีคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะเป็นแบบนี้

“ตอนนั้น พวกเธอคงเป็นคนดูแลฉันซินะ”

“อื้ม ดูแลด้วยตัวเองเลย”

“รบกวนพวกคุณจริงๆเลย”

“เกรงใจอะไรกัน เธอแข็งแรงดีก็ดีแล้ว เห้อ เพราะต้องดูแลเธอ ฉันเลยขุดกระบวนยุทธ์มาฝึกหลายต่อหลายขนานเลย เรื่องทำอาหารก็พัฒนาไปเยอะเลย”

เมื่อมู่ยู่วฉีได้ยินดังนั้น ก็หันควับ กล้าพูดออกมาได้ไง ไม่อายปากเหรอ?

เย่ชวูเสวียไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านใดๆ เพราะถ้าไม่ได้อาหารฝีมือเธอช่วยไว้ ป่านนี้ก็คงยังไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนช่วยซีซี

เธอภาคภูมิใจจนยิ้มไม่หุบ

ในขณะที่เย่ชวูเเสวียกำลังชื่นชมความสำเร็จอยู่นั้น ซีซีก็พูดขึ้นว่า

“ฉันจำได้ ตอนที่สติฉันไม่โอเค มีคนป้อนอะไรแปลกๆให้ฉันกิน”

เย่ชวูเสวียหุบยิ้มทันที

“เอ่อ ของแปลกเหรอ?”

“ไม่รู้ว่าเขาป้อนขี้หมาให้ฉันกินหรือเปล่า?”

หลังจากได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเย่ชวูเสวียก็บูดราวกับเป็นคนกินขี้หมานั่นซะเอง

กลับกัน มู่ยู่วฉีกลับกลั้นไม่ไหวขำออกมาไม่หยุด

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

“ผู้หญิงคนนี้ ฉันต้องการแล้ว” มู่เวยเวยซึ่งถูกแฟนหนุ่มขายตัวเธอไป จนเธอต้องกลายเป็นภรรยาของเย่ฉ่าวเฉิน ภายในห้อง ความดุของเขาทำให้เธอทรุดลง “คุณแต่งงานกับฉันด้วยเหตุผลอะไร” ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย “แต่งงานกับคุณ แน่นอนว่าเพื่อที่จะได้รังแกคุณไง” หลังจากนั้น…………. “คุณห้ามคิดถึงผู้ชายคนนั้น ไม่อย่างนั้นผมจะจัดการเขา” “ผู้หญิงของผมมีแค่ผมเท่านั้นที่จะรังแกได้ ใครกล้ามาแตะต้องคุณแม้แต่ปลายผม มันต้องตาย” “ใครบอกให้คุณไม่กลับบ้านตอนค่ำ ได้บอกผมรึยัง” ความทรมานที่ฉันพูดถึงมันเปลี่ยนรสชาติไปได้อย่างไร …………. เขาช่วยเธอ และปกป้องเธอเหมือนขุมทรัพย์ จนกระทั่งเธอพบว่าสามีที่เพิ่งแต่งงานคนนี้มีความลับที่เธอไม่รู้ … ห้องที่ห้ามเข้าใกล้ … ผู้ชายที่มีม่านตาสีม่วงและดวงตาเป็นประกาย … ทั้งสองหน้าเหมือนกันมาก … ใครคือสามีที่แท้จริงของเธอ?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset