“โอว…..แค่กแค่ก…..”มู่เวยเวยตาเหลือกและรู้สึกเพียงว่ากำลังจะถูกเขาบีบคอจนตาย เธอจึงรีบแกะมือเขาออกอย่าวรวดเร็ว
เย่ฉ่าวเฉินมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เวลาผ่านไปนานพอสมควรกว่าเขาจะเอามืออกจากคอเธอ แต่กลับมีสิ่งที่คิดไม่ถึงเกิดขึ้น หลังจากที่มู่เวยเวยไอ แค่กแค่ก ไปสองที เธอก็สลบไปและไม่มีการตอบสนองใดๆอีกเลย
เขาทำการเช็คชีพจรของเธอทันที และได้ใช้มือสัมผัสที่หน้าผากของเธอ เย่ฉ่าวเฉินรีบหันหลังออกจากห้องและเรียกคุณอาหวังให้โทรหาคุณหมอหานทันที
สิบนาทีต่อมา คุณหมอหานก็มาถึง
“เธอเป็นยังไงบ้าง? ” เย่ฉ่าวเฉินถามพร้อมขมวดคิ้ว
คุณหมอหานผู้ที่พึ่งตรวจอาการของมู่เวยเวยเสร็จพูดขึ้นว่า “ร่างกายของคุณหนูไม่ค่อยดี และมีอาการตกใจ จึงทำให้เธอเป็นลม แต่อาการไม่น่าเป็นห่วง ใช้ยาที่ผมให้สองสามวันอาการก็คงดีขึ้น ”
“อือ! ” เย่ฉ่าวเฉินพยักหน้า คุณหมอหานตรวจดูอาการเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่กลับไม่มีทีท่าจะลุกออกไป เขาจึงถามขึ้นว่า “ยังมีอะไรอีกรึป่าว”
“คือว่า…..” คุณหมอหานนิ่งไปสักพัก เขาเขินจนหน้าแดงและไม่รู้จะพูดยังไง
“พูดมาตามตรงได้เลย! ” เย่ฉ่าวเฉินพูดพร้อมขมวดคิ้วอีกครั้ง
เมื่อคุณหมอหานได้ยินเช่นนี้จึงพูดได้พูดออกไปตามตรงว่า “คุณชายเย่
ร่างกายของคุณหนูไม่ดีนัก เรื่องอย่างว่า อยากให้เพลาๆลงบ้าง…..”
ทันใดนั้นใบหน้าของเย่ฉ่าวเฉินก็นิ่งไป หลังจากที่คนรับใช้ที่อยู่รอบข้างได้ยินสิ่งที่คุณหมอหานพึ่งพูดไปต่างก็พากันก้มหน้าโดยไม่ได้นัดหมาย
“ฉันรู้แล้วหน่า! “เย่ฉ่าวเฉินทำเป็นโบกมือส่งแขกอย่างไม่สบอารมณ์ คุณหมอหานคนนี้นี่ยุ่งไม่เข้าเรื่องเลยจริงๆ
แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่คาดคิดก็คือ คุณหมอหานหยิบยาหลอดหนึ่งจากกล่องยามาวางไว้บนโต๊ะ แล้วค่อยๆพูดขึ้นว่า ” คุณชาย ของสิ่งนี้คุณหนูจำเป็นต้องได้ใช้แน่ๆ! ”
หลังจากพูดจบ เขาเก็บของและเดินออกไปทันที
เย่ฉ่าวเฉินกระตุกยิ้มมุมปาก เขาแทบจะอยากจับคุณหมอหานโยนลงไปจากชั้นบน
หลังจากที่คุณหมอหานออกไปแล้ว เย่ฉ่าวเฉินก็รีบไล่ให้ทุกคนออกไปทันที ในห้องเหลือเพียงเขาและมู่เวยเวยที่นอนไม่ได้สติอยู่
เย่ฉ่าวเฉินหยิบยาหลอดนั้นที่คุณหมอหานวางไว้ให้ขึ้นมา คงจะเป็นยาที่เขาผลิตขึ้นเอง เพราะบนบรรจุภัณฑ์ไม่มีฉลากและวิธีการใช้ใดๆเลย แต่ตัวเขานั้นรู้ดีว่ายานี้มีไว้ทำอะไร
เขามองมู่เวยเวยพร้อมกับขมวดคิ้ว เย่ฉ่าวเฉินเดินเข้าไปเปิดผ้าห่มของเธอออก ดูรอยบวมแดงในร่างกายของเธอ หลังจากนั้นก็เทยาลงบนมือแล้วค่อยๆทาให้เธอ
มู่เวยเวยที่ยังสลบอยู่รู้สึกร้อนๆหนาวตรงบริเวณที่เธอบาดเจ็บ เธอลืมตาขึ้นมาอย่างสลืมสลือ ทำให้ดวงตาของเธอมองเห็นแค่เพดานและ…..หัวของเย่ฉ่าวเฉิน !
เธอสะดุ้งตกใจอย่างแรง และรีบลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมกับตะโกนว่า “เย่ฉ่าวเฉิน คุณทำอะไรเนี่ย? อย่ามาแตะต้องตัวฉัน! ”
ทางด้านของเย่ฉ่าวเฉินที่กำลังทายาให้เธออยู่พอได้ยินเสียงของเธอเข้า ก็ขมวดคิ้วทันที น่าตายจริงๆเลย ผู้หญิงคนนี้ช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เขาทำเรื่องแบบนี้ให้กับคนอื่น
“หุบปากหน่า! ” เขาได้พูดแทรกขึ้นมา เย่ฉ่าวเฉินจับขาของเธอไว้แล้วดึงเธอให้กลับมาอยู่ที่เดิม จากนั้นก็ทายาให้เธอต่อไปโดยไม่สนใจว่าเธอจะพูดอะไร
มู่เวยเวยเขินจนหน้าแดง
และในตอนนั้นเองเธอก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางสิ่งที่ร้อนๆหนาวๆ มู่เวยเวยก็รู้ทันทีเลยว่าความรู้สึกนี้มันมาจากยาที่เย่ฉ่าวเฉินกำลังทาให้เธอ แต่ว่า ถูกเขาจ้องมองด้วยสายตาแบบนั้น เธอรู้สึกเขินๆอย่างบอกไม่ถูก
” คือว่า…… เย่ฉ่าวเฉิน…..” มู่เวยๆอดไม่ได้ที่จะพูด ใบหน้าของเธอแดงไปหมด ” เอายามาให้ฉัน ฉันทาเองได้ คุณไม่ต้อง……”
แต่ว่าเธอยังไม่ทันพูดจบ เขาก็ได้พูดอย่างเย็นชาว่า ” หุบปาก! ”
มู่เวยเวยทำตัวไม่ถูก ทำได้เพียงกัดปากตัวเองไว้และหยิบผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมศีรษะเพื่อปกปิดความเขินอายของเธอและไม่กล้าพูดอะไรอีก