“ไอ้คนโรคจิต!. ไอ้บ้า! “มู่เวยเวยด่าเขาพร้อมกับมองแรงใส่เขาไปหนึ่งที
เธอมีความรู้สึกว่าไม่สามารถพูดกับเขาต่อได้ เย่ฉ่าวเฉินเนี่เป็นคนที่มีอารมณ์อยู่ตลอดเวลา วันๆก็เอาแต่คิดเรื่องจำพวกนั้น เขานี่มันโรคจิตจริงๆเลย
“ถ้าต้องการละก็คืนนี้รอฉันบนเตียงนะ ฉันจะทำให้เธอพอใจอย่างแน่นอน ” เย่ฉ่าวเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็ก้มอ่านเอกสารต่อแล้วตอบกลับอย่างนิ่งๆว่า ” ตอนนี้เธอออกไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน อย่าลืมปิดประตูให้ฉีนด้วยหล่ะ ”
เย่ฉ่าวเฉินบอกให้เธอออกไป ถ้าเป็นวันอื่นเธอคงจะเดินออกไปทันที แต่ตอนนี้เขากำลังลังเล เธอคิดถึงเรื่องที่คุณลุงบอกเธอเกี่ยวกับเงินหนึ่งล้าน เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของพี่ชายเธอ เขาจะยอมแพ้ไม่ได้ แต่ว่าด้วยนิสัยของเย่ฉ่าวเฉินแล้วเขาคงไม่ให้เงินเธอง่ายๆหรอก เธอจะพูดกับเขาอย่างไงดี?
เขาเห็นเธอยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ใบหน้าของเย่ฉ่าวเฉินยิ้มด้วยความพอใจ “นี่ฉันลืมไปได้ยังไงกันเนี่ย เธอยืนอยู่นิ่งอยู่ที่เดิมอยากให้ฉันทำมันตอนนี้เลยใช่มั้ย? ”
เย่ฉ่าวเฉินพูดแทรกขึ้นมา ทำให้เธอตอบกลับเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า” ฝันไปเถอะ! วันๆก็คิดแต่เรื่องนั้น คุณนี่มันบ้ากามจริงๆเลย! ”
ดวงตาสีน้ำเงินของเย่ฉ่าวเฉินจ้องมองไปที่เธอ
มู่เวยเวยปิดประตูอย่างแรง แล้วนั่งลงบนพื้นอย่างสิ้นหวัง เย่ฉ่าวเฉินไม่ได้ใจดีขนาดนั้น ให้เธอขอยืมเงินจากเขาก็เปล่าประโยชน์ เธอคงต้องคิดหาวิธีอื่นแล้วหล่ะ
หลังจากกอาบน้ำ เธอนอนกลิ้งไปกลิ้งมาและเอาแต่คิดเรื่องเงินหนึ่งล้านนั่น และในตอนนั้นเอง โทรศัพท์เธอก็มีสายเรียกเข้า
” ฮัลโหล? ”
” เวยเวย นอนรึยัง?”
ปลายสายเป็นเสียงของเฉียวซินโยว มู่เวยเวยพลิกตัวกลับมาแล้วพูดอย่างนิ่ๆงว่า ” ยังเลย ซินโยว โทรมาดึกขนาดนี้มีเรื่องอะไรรึเปล่า?”
” พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ โรงเรียนก็หยุดตามปกติ ฉันเองก็ว่างๆไม่มีไรทำ ขอไปเที่ยวหาเธอที่วิลล่าตระกูลเย่ เธอจะสะดวกมั้ย? ”
มู่เวยเวยได้ยินเช่นนั้น เธอยิ้มออกมาอย่างเต็มใจและตอบกลับอย่างมีความสุขว่า “ได้สิ ฉันอยู่ที่นี่ก็เบื่อจะตายอยู่แล้ว พรุ่งนี้เธอมาหาฉันไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านี้แล้ว”
เมื่อเธอตอบตกลง เฉียวซินโยวก็ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยและพูดนิ่งๆว่า “โอเคพรุ่งนี้เธอรอฉันอยู่ที่บ้านได้เลย
” โอเค ”
เฉียวซินโยวอารมณ์ดีมาก ในขณะที่เธอมาสก์หน้าอยู่ปากของเธอก็ฮึมฮัมเพลงไปด้วยอย่างมีความสุข แค่เธอคิดว่าจะได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเย่ฉ่าวเฉิน ก็แทบจะอยากให้ฟ้าสว่างเร็วๆ ในหัวสมองของเธอคิดแค่ว่าพรุ่งนี้จะใส่อะไรดี เธอต้องแต่งตัวให้สวยที่สุด เธอต้องทำให้เย่ฉ่าวเกิดเฉินเกิดความประทับใจในตัวเธอให้ได้
หลังจากวางสาย คิดถึงเรื่องที่เฉียวซินโยวจะมาหาเธอพรุ่งนี้ มู่เวยเวย็รู้สึกผ่อนคลายมากเธอเอาตัวซุกเข้าไปในผ้าห่มแล้วหลับไปอย่างสบายใจ
……
วันถัดมา
“คุณชายหนานกง ”
ชายในชุดสูทสีดำพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมข้างๆหนานกงเฮ่า
” มีอะไร ”
หนานกงเฮ่าที่กำลังนั่งเฉยๆอยู่บนโซฟา มือของเขาจับแก้วคริสทัลแกว่งไปมาราวกับคนที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาเหลือบตาไปมองคนที่กำลังมาแล้วพูดอย่างนิ่งๆ
” ผมสืบรู้แล้วครับว่าเจ้าของงานออกแบบชิ้นนั้นเป็นใคร วันนี้ผมมาเพื่อรายงานให้คุณทราบครับ ”
หลังจากได้ยินเขาพูดแบบนั้น หนานกงเฮ่าที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที และจ้องมองไปที่เขาอย่างเคร่งขรึมพร้อมกับถามว่า ” เธอชื่ออะไร ”
“เฉียวซินโยว ”
หนานกงเฮ่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ดีใจและพูดขึ้นอย่างสบายใจว่า “โอเคฉันรู้แล้ว นายไปเตรียมรถ ฉันจะไปที่วิลล่าตะกูลเย่ ”
” ครับ ”
เมื่อเขารู้ว่าไม่ใช่มู่เวยเวยเขาก็สบายใจขึ้นมากๆ เขาคิดถึงเรื่องที่เย่ฉ่าวเฉินสนใจผู้หญิงคนนั้นมาก ในใจของเขาก็คิดว่าแค่บอกชื่อผู้หญิงคนนั้นกับเย่ฉ่าวเฉิน เย่ฉ่าวเฉินอาจจะหย่ากับมู่เวยเวยเพื่อเธอคนนั้นก็ได้ ถ้าถึงเวลานั้นมู่เวยเวยก็ต้องเป็นของเขา ขนาดฟ้ายังเข้าข้างฉัน ดูเหมือนว่ามู่เวยเวยคงถูกกำหนดมาแล้วว่าต้องเป็นผู้หญิงของเขา!