“ซินโยว ในที่สุดเธอก็มาสักที ฉันรอเธอนานมากฉันก็คิดว่าเธอจะไม่มาแล้วสะอีก “เมื่อเห็นเฉียวซินโยวเดินเข้ามา มู่เวยเวยก็พูดอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส
เฉียวซินโยวมองไปรอบๆวิลล่าของตระกูลเย่ที่หรูหราราวกับพระราชวัง ในใจเธออิจฉามู่เวยเวยมาก แล้วเอาแต่โทษว่าฟ้าไม่มีความยุติธรรม
แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอกลับทำหน้านิ่ง และยิ้มออกมาด้วยความเกรงใจ ” พอดีเป็นช่วงเวลารถติด ขอโทษทีนะที่ทำให้ต้องรอนาน ”
” ไม่เป็นไรหรอก! เธอเป็นเพื่อนสนิทฉันนะ ฉันไม่เอาเรื่องพวกนี้เก็บมาใส่ใจหรอก ”
เหอะ! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอได้แต่งงานกับเย่ฉ่าวเฉิน เธอก็คงไม่มีทางมาหาเธอไกลถึงขนาดนี้หรอก!
สำหรับเฉียวซินโยวแล้ว มู่เวยเวยก็แค่ใบไม้ใบหนึ่งที่มีไว้ประดับดอกไม้สีแดงสดสวยอย่างเธอก็เท่านั้นเอง!
“ซินโยว วันนี้เธอแต่งตัวสวยมากเลยนะ ” มู่เวยเวยรีบออกมาชมเธอ
ได้ยินคำชมของเธอแล้ว ในใจของเฉียวซินโยวก็ดีใจยิ่งขึ้นไปอีก แต่ต่อหน้าเธอก็ยังคงทำเป็นนิ่งเฉยเหมือนเดิม เธอแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจและพูดขึ้นว่า ” ไม่หรอก ก็ธรรมดานะ ”
มู่เวยเวยจูงมือเฉียวซินโยวไปนั่งที่โซฟา แล้วสั่งให้ฉินหม่าเอาของว่างมาเสริฟ์ เธอสังเกตเห็นเฉียวซินโยวมองไปรอบๆเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง เธอจึงถามอย่างสงสัยว่า
“ซินโยว เธอหาอะไรอยู่หรอ? ”
เฉียวซินโยวผงะไปชั่วขณะ พอเห็นหน้าเธอนิ่งๆ เขาจึงถามอย่างสบายๆว่า ” เวยเวย คุณชายเย่ไม่อยู่บ้านหรอ? ”
“มองหาฉันมีอะไรรึป่าว? ” มู่เวยเวยยังไม่ทันได้ตอบ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเย็นชาดังมาจากข้างหลังเธอ และเมื่อเธอหันไปมองก็ได้เจอกับใบหน้าอันหล่อเหลาของเย่ฉ่าวเฉิน
เย่ฉ่าวเฉินเดินลงบันไดมาอย่างสง่างาม และค่อยๆเดินไปหาเธอทั้งสอง และเหลือบไปมองเฉียวซินโยวแวบๆแล้วเลื่อนสายตาไปที่มู่เวยๆพร้อมกับถามขึ้นว่า “เธอเป็นใคร”
เฉียวซินโยวทำหน้าไม่ถูก จริงๆแล้วเธอกับเขาเคยเจอกัน ก็ตอนงานแต่งของพวกเขาที่ห้องรับรองไง แต่ว่าเธอคิดไม่ถึงเลยที่เย่ฉ่าวเฉินกลับจำเธอไม่ได้
มู่เวยเวยรีบตอบทันที ” เธอชื่อเฉียวซินโยว เป็น้พื่อนสนิทของฉันเอง ”
” คุณชายเย่ ปกติเห็นคุณแค่ในหนังสือพิมพ์ แต่วันนี้ได้มาเป็นแขกที่บ้านคุณ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมาก ” เฉียวซิยโยวพูดกับเขาอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับลุกขึ้นและยื่นมือขวาออกไป
เย่ฉ่าวเฉินหันหลังให้กับเธอ แน่นอนว่ามือของเธอยื่นไปตรงหน้ามู่เวยๆ
มู่เวยเวยเห็นว่าเย่ฉ่าวเฉินไม่สนใจ ใบหน้าของเฉียวซินโยวเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ และมองไปที่มือที่ยื่นออกมาของเฉียวซินโยวเธอก็รู็สึกโกรธขึ้นมาทันที เธอพูดพร้อมมองจ้องไปที่เขา ” เย่ฉ่าวเฉิน ทำไมคุณถึงไม่มีมารยาทเลย อย่างน้อยซินโยวก็ถือเป็นแขกของฉัน คุณนี่ช่างน่ารังเกียจจริงๆ! ”
เมื่อได้ยินคำเปรียบเที่ยบของมู่เวยเวย ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมมากขึ้นกว่าเดิม ดวงตาสีน้ำเงินสุดแสนเย็นชาของเขาจ้องไปที่เธอแล้วพูดว่า ” มู่เวยเวย เธอคงลืมไปแล้วว่าเธออยู่ในสถานะอะไร กล้าดียังไงมาขึ้นเสียงใส่ฉัน? แล้วอีกอย่างนะเป็นแขกของเธอแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน! ”
” คุณ! ” มู่เวยเวยโกรธจนตัวสั่น กำลังจะลุกขึ้นตอบโต้ แต่เฉียวซินโยวก็ห้ามเธอไว้ ในดวงตาของเธอมีน้ำตาซ่อนอยู่ แต่ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเมฆตาและพูดขึ้นอย่างใจเย็น ” เวยเวย อย่าไปโกรธฉ่าวเฉินเลย ฉันไม่ถือสาหรอก ”
เมื่อเธอหันไปมองหน้าเพื่อนรัก มู่เวยเวยรู้สึกโกรธยิ่งกว่าเดิมและพูดกับเย่ฉ่าวเฉินอย่างเยือกเย็นว่า ” เย่ฉ่าวเฉิน คุณนี่มันหยิ่งยโสโอหังจริงๆ! ”