วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ – ตอนที่ 93 ความสามารถพิเศษของเย่ฉ่าวเฉิน

ลู่จื่อหางมองใบหน้าเล็กที่ขมวดของเธอ ใจเต้นทันที เดินไปข้างหน้าสองก้าวโอบเอวเธอ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเล้าโลม “เวยเวย เธอเมาแล้ว ให้ฉันไปส่งเธอที่บ้านไหม? ”

มู่เวยเวยขมวดคิ้วเล็กน้อย กำลังจะคัดค้าน แต่ไม่รู้จะพูดอย่างไรสักพัก สุดท้ายนึกอะไรขึ้นได้ ก็พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “ฉันไม่อยากให้นาย……สนใจ ตอนนี้นายไม่ต้องมาสนใจฉัน!”

เธอไม่รู้ว่าประโยคนี้ของเธอไม่ใช่การตำหนิ เหมือนกำลังหึงมากกว่า

มุมปากลู่จื่อหางยกยิ้มอ่อนโยน ไม่สนใจการดิ้นรนของเธอ มือที่โอบเอวเธอแน่นขึ้น เสียงเจือปนไปด้วยความตื่นเต้น “เวยเวยเป็นเด็กดีนะ เธอเมาแล้ว เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่บ้าน……”

มู่เวยเวยอยากดิ้นหลุดออกจากตัวเขา อย่างไรก็ตามเพราะทั้งร่างมีแต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ ไม่สามารถหาเรี่ยวแรงได้สักนิด ทำได้แค่ปล่อยให้เขาลากตัวเองไปข้างนอก

“อย่า……ลู่จื่อหางปล่อยฉัน……ปล่อยฉัน……”

มู่เวยเวยโดนบังคับร่างกายเดินไปข้างหน้า ขณะที่มาถึงหน้าประตูห้องน้ำ เธอดึงที่จับประตูสุดชีวิต เพื่อไม่ให้ถูกเขาดึงไป

ลู่จื่อหางขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาพยายามสงบสติอารมณ์ น้ำเสียงมีความทุ้มต่ำ “เวยเวย เธอต้องเชื่อฟังฉัน ตอนนี้เธอเมาแล้ว เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่บ้าน……”

มู่เวยเวยส่ายหน้า น้ำเสียงคลุมเครือเล็กน้อย “อย่า……ฉันไม่อยากไปกับนาย……นายมันคนขี้โกหก……”

มักพูดกันว่าเมาแล้วจะพูดความจริง ลู่จื่อหางไม่คิดเลยว่าตัวเองภายในใจมู่เวยเวย จะมีสภาพแบบนี้

ชักเย่อนี้กินเวลาไม่กี่นาที สุดท้ายความอดทนลู่จื่อหางก็หมดไป

เขาปล่อยมือ มู่เวยเวยคิดว่าได้อิสระแล้วก็เดินไปข้างหน้า ไม่คิดว่าจะถูกเขาดึงไว้

ลู่จื่อหางมองริมฝีปากแดงอิ่มของเธอ ก้มหน้าลงจูบเธอ

มู่เวยเวยยื่นมือไปผลักเขา แต่ต้านทานกำลังดุร้ายเขาไม่ได้ เธออดไม่ได้ที่จะกังวลเล็กน้อย ถ้าเขาปฏิบัติกับเธอ……

มู่เวยเวยวิตกกังวลและกระวนกระวาย เทียบกับเย่ฉ่าวเฉิน เป็นบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์และความกลมกลืน

เย่ฉ่าวเฉินมีความเมาเล็กน้อยบนใบหน้า ดื่มติดต่อกันไปสิบกว่าแก้ว พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่านิดหน่อย “อย่าดื่มแล้ว ทุกคนเริ่มกินกันเถอะ”

ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาอาหารเย็น แต่ความเคารพนับถือที่มีต่อเขาที่ฝังในกระดูก ไม่น้อยเลยสักนิด เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ พนักงานก็ไม่กล้าดื่มกันโดยธรรมชาติ

หลังจากทุกคนวางแก้วเหล้าลงแล้วก็เริ่มทานอาหาร ทานไปด้วยคุยไปด้วย เฉียวซินโยวทานอาหารเงียบๆ ตามพวกเขา รู้สึกว่าเวลาผ่านไปสักพักแล้ว ทันใดนั้นก็พูดขึ้น “ทำไมเวยเวยไปนานจัง ยังไม่กลับมาอีก? ”

เมื่อเธอพูดออกมา ก็ดึงดูดความสนใจทุกคนที่อยู่ที่นั่น แน่นอนว่ารวมถึงเย่ฉ่าวเฉินด้วย

เหอเหม่ยหลิงมองนาฬิกา พบว่าออกไปยี่สิบกว่านาทีแล้ว ในใจคิดว่าประมาทจริงๆ สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย แล้วรีบพูดขึ้น “ฉันจะไปดูที่ห้องน้ำสักหน่อย”

ในขณะนี้ เย่ฉ่าวเฉินก็ค่อยๆ ยืนขึ้น พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “ให้ฉันไปดีกว่า พวกนายกินกันต่อเถอะ”

มองร่างเย่ฉ่าวเฉิน หายไปจากประตู มุมปากเฉียวซินโยวก็ยกยิ้มยินดีขึ้นมา

“วันนี้ประธานเย่มีมนุษยธรรมซะด้วย!” หญิงสาวคนหนึ่งข้างๆ กระซิบกับหญิงสาวข้างกาย

หญิงสาวคนนั้นเบ้ปาก พูดขึ้น “แน่นอนสิ ยังไงมู่เวยเวยก็เป็นเมียประธานเย่นี่หน่า!”

หญิงสาวเมื่อครู่นั้นพอได้ยินก็เผยสีหน้าประหลาดใจ พูดขึ้นด้วยใบหน้าอิจฉา “มู่เวยเวยเก็บสมบัติมาจริงๆ ประธานเย่ของเราทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมยังมีสไตล์ด้วย!”

“เธอมันบ้าผู้ชายจริง……” ผู้หญิงอีกคนกลอกตา พูดขึ้น “ไม่ต้องอิจฉา อิจฉาให้ตายยังไง ทองอันนี้ก็ไม่ตกอยู่ที่เรา!”

“นี่!”

ได้ยินบทสนทนาทั้งสองคน เฉียวซินโยวก็โกรธจนอยากจะต่อต้าน ยัยงี่เงาพวกนี้จะรู้อะไร? ! ฉ่าวเฉินกับมู่เวยเวยแต่งงานกันไม่ใช่เพราะความรัก ก็แค่ผลประโยชน์!

ไม่รู้อะไรก็ยังพูดจาไร้สาระ! พวกเขาไม่เคยเห็นว่าฉ่าวเฉินอ่อนโยนกับเธอมากแค่ไหน!

ภายในใจเฉียวซินโยวรู้สึกแย่จนจะตายแล้ว แต่ไม่ว่าเธอจะคัดค้านอย่างไรก็เปลี่ยนความจริงที่ว่ามู่เวยเวยเป็นภรรยาของเย่ฉ่าวเฉินไม่ได้! เธอเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอาย!

ยิ่งคิดในใจเธอก็ยิ่งเกลียด เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงฉากที่กำลังเกิดในคืนนั้น มุมปากยิ้มประชดประชัน

มู่เวยเวยควรถูกลู่จื่อหางเอาตัวไปนานแล้วมั้ง ต่อไปเธอก็ควรไปที่นั่นแล้ว……

“ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ” เฉียวซินโยวบอกเพื่อนร่วมงานข้างกาย

“ไปเถอะ”

เย่ฉ่าวเฉินเดินตรงมาที่ห้องน้ำ เห็นมู่เวยเวยโดนคนคนหนึ่งกดกับกำแพงจากไกลๆ สีหน้ามืดมนทันที เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

มาถึงตรงหน้าเธอ เย่ฉ่าวเฉินก็ยื่นมือออกไปทันที คว้าคอเสื้อชายคนนั้นแล้วเหวี่ยงไปข้างๆ ผู้ชายคนนั้นไม่สามารถป้องกันได้ ร่างล้มลงพื้นทันที

“ลู่จื่อหาง! ไม่คิดว่าเป็นนาย!” เมื่อเห็นใบหน้าผู้ชายคนนั้นชัดๆ ดวงตาสีฟ้าน้ำแข็งของเย่ฉ่าวเฉินก็หดตัว ยื่นหมัดออกไปต่อยหน้าลู่จื่อหาง

ลู่จื่อหางโดนต่อยหนึ่งหมัดอย่างแรง ความเจ็บที่แก้มทำให้เขาขมวดคิ้วแน่น สีหน้าที่มองเย่ฉ่าวเฉินนั้นน่าเหลือเชื่อ

เย่ฉ่าวเฉินสีหน้าเต็มไปด้วยความรุนแรง เจือด้วยความสั่นไหวแปลกๆ เขาก้าวไปข้างหน้าคว้าคอเย่ฉ่าวเฉินไว้ ถามขึ้นอย่างโหดเหี้ยม “นายมาอยู่ที่นี่ได้ไง? !”

ลู่จื่อหางตกใจความเป็นศัตรูของเขา ในใจเกิดความเสียใจขึ้นมาทันที เขาลืมสถานะของมู่เวยเวยในตอนนี้ไปได้อย่างไร! จริงๆ แล้วเย่ฉ่าวเฉินเขาสามารถยั่วโมโหได้เหรอ!

“นี่มันเรื่องเข้าใจผิด……ฉันแค่ผ่านมาพอดี……บังเอิญเจอเวยเวยเข้า……” ลู่จื่อหางถูกบีบรัดลมหายใจ หายใจไม่ค่อยมั่นคงในชั่วขณะ

เย่ฉ่าวเฉินทำเสียงฮึดฮัด พูดขึ้นอย่างเฉยเมย “บังเอิญจังนะ? นายคิดว่าฉันโง่เหรอ? !”

ในใจลู่จื่อหางเต็มไปด้วยความร้อนใจ เมื่อเห็นว่าออกซิเจนในช่องอกน้อยลงเรื่อยๆ เขาสงสัยว่าเย่ฉ่าวเฉินจะฆ่าเขา ในใจคิดว่าสารภาพเกี่ยวกับเฉียวซินโยวไปดีไหม

ในขณะนี้ ข้างกายก็เกิดเสียงดัง ‘ตุ๊บ——’ ก็เห็นมู่เวยเวยล้มลงกับพื้นโดยไม่รู้ตัว

เย่ฉ่าวเฉินสบถด่า ปล่อยลู่จื่อหางในพริบตาเดียว เดินไปข้างหน้าจับแขนมู่เวยเวยไว้ ตำหนิอย่างหนัก “มู่เวยเวย เธอมันสุดยอดจริง! ดื่มไม่ได้ก็ยังดื่มอีก เธอมันโง่! ที่หัวมีเท้าโผล่หรือไง? !”

ถึงจะพูดจาไม่น่าฟัง แต่ไม่ปล่อยมือเลยสักนิด เขาอุ้มเธอขึ้นมา มองลู่จื่อหางด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นก็รีบออกไป

ลู่จื่อหางอดไม่ได้ที่จะโล่งอก รีบลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ก็เห็นเฉียวซินโยวเดินมาทางนี้ ในใจก็เกิดไฟลุก

ยัยบ้านี่ เกือบโดนเย่ฉ่าวเฉินมันบีบคอตายแล้ว!

เฉียวซินโยวรีบเดินไปที่ห้องน้ำ ไม่คิดว่าจะเห็นลู่จื่อหาง ในใจเกิดความไม่สบายใจทันที ถามขึ้นอย่างเย็นชา “มู่เวยเวยล่ะ? ”

ลู่จื่อหางเหลือบมองเธออย่างเย็นชา พูดขึ้น “เย่ฉ่าวเฉินมันพาออกไปแล้ว”

“ว่าไงนะ!” เฉียวซินโยวเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ ในใจเกิดเปลวไฟโกรธเกรี้ยว ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ดี “ฉันให้นายพามู่เวยเวยออกไปไม่ใช่เหรอ? ! ทำไมนายยังอยู่ที่นี่!”

ลู่จื่อหางเห็นใบหน้าเธอ อาการหายใจไม่ออกเมื่อครู่นี้ก่อให้เกิดกองไฟขนาดใหญ่ พูดขึ้นอย่างเย็นชา “เธอพูดง่ายดีนะ! เธอคิดว่ามู่เวยเวยตายแล้วเหรอ? ! ฉันให้เธอกลับไปกับฉันแล้วเธอจะกลับน่ะ!”

เมื่อเผชิญกับลู่จื่อหางที่สะเทือนอารมณ์ เฉียวซินโยวก็กลับมามีสติอีกครั้ง สังเกตเห็นมุมปากห้อเลือดของลู่จื่อหาง ก็เข้าใจมากขึ้นทันที ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เมื่อกี้นายไม่ได้พูดถึงฉันใช่ไหม? ”

ลู่จื่อหางยกยิ้มประชดประชัน พูดขึ้นอย่างเย็นชา “เมื่อกี้ฉันก็เกิดความคิดนั้นจริงๆ ”

“นายห้ามนะ! ห้ามพูดเด็ดขาด!” ใบหน้าเฉียวซินโยวมีความตื่นตระหนก

ลู่จื่อหางใจเต้น เช็ดเลือดที่มุมปากเบาๆ พูดขึ้นอย่างเย็นชา “เพื่อช่วยเธอ ร่างกายฉันบาดเจ็บสาหัส เธอควรชดใช้ความสูญเสียทางจิตใจให้ฉันหน่อยไหม? ”

ลู่จื่อหาง แกมันวายร้ายได้ทีขี่แพะไล่!

เฉียวซินโยวหายใจเข้าลึกๆ หยุดคำตำหนิที่กำลังจะตะโกน ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายต้องการเท่าไร? ”

ลู่จื่อหางนับนิ้ว ค่อยๆ พูดขึ้น “สองแสน”

“สองแสน! ทำไมนายไม่ไปปล้นธนาคารล่ะ? !”

เฉียวซินโยวโกรธจนจะตายแล้ว เป้าหมายเธอไม่สำเร็จ ไม่คิดว่าจะโดนลู่จื่อหางแบล็กเมล์ด้วย!

ลู่จื่อหางบิดขี้เกียจ แสร้งพูดอย่างเฉยเมย “ไม่ยอมก็ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ฉันจะไปหาประธานเย่……”

เมื่อได้ยินคำขู่ของเขา เฉียวซินโยวก็ตื่นตระหนกและรีบพูดขึ้น “อย่าไป! ฉันให้เงินนายได้ แต่นายต้องทำตามข้อตกลง!”

ลู่จื่อหางเผยยิ้มภูมิใจ พูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี “แน่นอน”

แก้ปัญหาลู่จื่อหางแล้ว เฉียวซินโยวก็รีบวิ่งลงไปข้างล่าง รีบโทรแล้วรีบกลับบ้าน

……

รถเย่ฉ่าวเฉินจอดอยู่ประตูทางเข้าบ้านตอนนี้ เขาลงจากรถแล้วดึงมู่เวยเวยลงจากรถ เพราะใช้แรงมากเกินไป จึงทำให้เข่ามู่เวยเวยถลอก

ความเจ็บปวดตรงเข่าทำให้มู่เวยเวยตื่นทันที เธอพยายามลืมตา ก็เห็นแผ่นหลังสูงใหญ่กำยำของเย่ฉ่าวเฉิน

เย่ฉ่าวเฉินพาเธอไปที่ห้องนอนชั้นสองทันที โยนเธอลงบนเตียงอย่างแรง มองใบหน้าเล็กสวยไร้เดียงสาของเธอ ยกมือขึ้นแล้วตบเธอ!

แก้มเธอรู้สึกปวดแสบปวดร้อน แรงมหาศาลเหวี่ยงเธอไปที่เตียง ทำให้อาการบาดเจ็บที่หัวเข่าเมื่อครู่นี้ย่ำแย่ลง

เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างดุเดือด ถามขึ้นด้วยเสียงแหบพร่าเล็กน้อย “เฮ้! นายบ้าไปแล้วหรือไง!”

เย่ฉ่าวเฉินเดินไปข้างหน้าดึงเธอกลับมาที่เตียง จับคางเธอขึ้นมาอย่างแรง ถามอย่างโกรธเกรี้ยว “ฉันว่าเธอต่างหากที่บ้า! เมื่อกี้เล่นกับลู่จื่อหางซะบ้าเลยนะ! มู่เวยเวย ตอนนี้เธอเก่งขึ้นเรื่อยๆ แล้วสินะ!”

มู่เวยเวยส่ายหน้าอย่างปวดหัว โต้กลับด้วยความเหนื่อยล้า “ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมลู่จื่อหางอยู่ที่นั่น! รบกวนนายไปหาความจริงด้วยนะ!”

เย่ฉ่าวเฉินพ่นหัวเราะ ดวงตาสีน้ำฟ้าน้ำแข็งอยากฆ่าเธอมาก น้ำเสียงราวกับมาจากนรก “ปากเธอคมคายที่สุดเลยนะ! ดูเหมือนเธอยังไม่ได้รับบทเรียน!”

ได้ยินคำว่าบทเรียนสองคำ ร่างกายมู่เวยเวยก็แข็งทื่อโดยสัญชาตญาณ มองเขาด้วยสีหน้าเย็นชา ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “บทเรียน? ต้องให้ฉันเต้นก่อนหรือเปล่า? ”

เมื่อได้ยินคำพูดเหน็บแนมของเธอ เย่ฉ่าวเฉินก็ทำหน้าชะงัก ความโกรธในใจถูกดับลงด้วยคำพูดของเธอ

สติกลับมาอย่างรวดเร็ว เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงอาการหมดสติครั้งล่าสุดของเธอ และที่คุณหมอหานพูดว่า ‘หมดสติโดยเจตนา’ ……

เย่ฉ่าวเฉินหายใจเข้าลึกๆ มุมปากยกยิ้มรังเกียจ พูดขึ้นอย่างเฉยเมย “คืนนี้ฉันมาด้วยตัวเอง!”

เมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายจบ ทั้งร่างก็แข็งทื่ออีกครั้ง มู่เวยเวยรีบวิ่งลงจากเตียงแล้วไปที่ประตูทางเข้า

แต่ยังก้าวไม่ถึงสองก้าว ก็ถูกเย่ฉ่าวเฉินเหวี่ยงลงเตียงใหญ่อีกครั้ง มู่เวยเวยโดนเขาทำจนกระดูกแทบหลุด และในตอนนี้ จู่ๆ เขาก็ทับลงมา

ห้องที่ละมุนละไม

……

เฉียวซินโยวลงจากรถ เดินเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลเย่ เดินตามทางที่ปูด้วยหิน ข้ามน้ำพุหรูหรา เดินเข้าไปในประตูทางเข้าคฤหาสน์และขึ้นบันไดไปชั้นสอง ได้ยินเสียงแปลกๆ และคลุมเครือดังรางๆ ข้างหู

เฉียวซินโยวขมวดคิ้วเป็นเชือก ค่อยๆ ก้าวไปที่หน้าประตูห้องเย่ฉ่าวเฉิน เสียงแหลมแสบหูก็ดังขึ้นมาอย่างชัดเจน

เสียงเหมือนร้องไห้ของมู่เวยเวยดังขึ้นมา

“ฝันไปเถอะ!” ตามด้วยเสียงทุ้มแหบพร่าของเย่ฉ่าวเฉิน เต็มไปด้วยเสน่ห์และความดึงดูดเล็กน้อย

……

เสียงนี้เหมือนเข็มแทงทะลุเข้าไปในหัวใจเฉียวซินโยว เธอถึงขั้นได้ยินเสียงโศกเศร้าของเลือดที่ไหลเวียน

เล็บจิกลงไปในเนื้อ อยากจะจิกให้เนื้อและเลือดออกมา กัดปากอย่างแรง เลือดสีแดงทำให้ปากเธอเปล่งประกายด้วยเลือดน่ากลัว

มู่เวยเวย! นังชั้นต่ำ!!

มู่เวยเวยแกต้องไม่ตายดี!!

เฉียวซินโยวจ้องไปที่บานประตูนี้ อยากจะทุบเธอแรงๆ หลายครั้ง แต่สุดท้ายสติก็ดึงเธอไว้

เธอทำไม่ได้! ถ้าเธอทำแบบนี้ฉ่าวเฉินอาจจะรู้ได้! ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน เฉียวซินโยวเธอก็ต้องอดทน! อย่าลืมนะ เธอยังไม่แพ้! เธอจะเป็นผู้ชนะในที่สุด!

ทนไม่ไหวจริงๆ กับเสียงที่อยู่ด้านใน เฉียวซินโยวหันร่างแข็งทื่อกลับไปที่ประตูของตนเหมือนเป็นเครื่องจักร หมดแรงที่จะปิดประตู

แค่ได้ยินเสียงดัง ‘ปัง——’ ประตูห้องก็ส่งเสียงสั่นเล็กน้อย เหมือนร้องไห้ให้กับชะตากรรมที่โชคร้ายของตัวเอง……

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

“ผู้หญิงคนนี้ ฉันต้องการแล้ว” มู่เวยเวยซึ่งถูกแฟนหนุ่มขายตัวเธอไป จนเธอต้องกลายเป็นภรรยาของเย่ฉ่าวเฉิน ภายในห้อง ความดุของเขาทำให้เธอทรุดลง “คุณแต่งงานกับฉันด้วยเหตุผลอะไร” ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย “แต่งงานกับคุณ แน่นอนว่าเพื่อที่จะได้รังแกคุณไง” หลังจากนั้น…………. “คุณห้ามคิดถึงผู้ชายคนนั้น ไม่อย่างนั้นผมจะจัดการเขา” “ผู้หญิงของผมมีแค่ผมเท่านั้นที่จะรังแกได้ ใครกล้ามาแตะต้องคุณแม้แต่ปลายผม มันต้องตาย” “ใครบอกให้คุณไม่กลับบ้านตอนค่ำ ได้บอกผมรึยัง” ความทรมานที่ฉันพูดถึงมันเปลี่ยนรสชาติไปได้อย่างไร …………. เขาช่วยเธอ และปกป้องเธอเหมือนขุมทรัพย์ จนกระทั่งเธอพบว่าสามีที่เพิ่งแต่งงานคนนี้มีความลับที่เธอไม่รู้ … ห้องที่ห้ามเข้าใกล้ … ผู้ชายที่มีม่านตาสีม่วงและดวงตาเป็นประกาย … ทั้งสองหน้าเหมือนกันมาก … ใครคือสามีที่แท้จริงของเธอ?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset