เพราะฉะนั้นในใจเธอเกิดความสงสารขึ้นมา
แต่ก็รู้ดีว่าผู้หญิงตรงหน้าคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตของเขา ดังนั้นจึงไม่กล้าปล่อยเธอไป
แต่ก็ไม่สามารถให้เธอไม่กินอะไรเลย พอเป็นแบบนี้แล้ว เธอจึงคิดวิธีนี้ที่ยังถือว่าพอใช้ได้
เปลี่ยนหน้าแกล้งเธอ เพื่อให้เธอได้ยิ้มได้อารมณ์ดีหน่อย
ดีใจแล้ว อารมณ์ก็ดีแล้ว อารมณ์ดีแล้ว ไม่แน่ก็อยากจะกินข้าวแล้ว
ยังไงเฉียนเฉียนก็ขาดอารมณ์ความรู้สึกความปรารถนาแบบปุถุชนทั่วไป ฉะนั้นความคิดของเธอก็ง่ายกว่าด้วย
ถึงแม้เนื่องจากเวลาอยู่ที่นี่นานมากแล้ว เธอค่อยๆ เข้าใจความรู้สึกของมนุษย์ได้แล้ว
แต่พูดตามตรงก็ไม่ได้เข้าใจทั้งหมด
ตอนที่เธอลองเปลี่ยนรูปร่างครั้งแรกก็ตกใจเหมือนกับหนานจิ่น ยิ่งกว่านั้นยังคิดว่าตัวเองเจอเห็นปีศาจ
แต่หลังจากนั้นเห็นเธอเปลี่ยนกลับมาเป็นใบหน้าน้อยๆ ที่ใจดีไม่มีความอันตราย ใสๆ นุ่มๆ นั้น ทำให้คนชอบใจและสบายใจมากเลยจริงๆ
บวกกับระยะเวลาอันยาวนานที่น้องสาวของพระราชินีถูกจับมาถึงที่นี่ นอกจากครั้งแรกสุดเจอหนานจิ่นครั้งหนึ่ง วันหลังๆ ตัวเองก็เห็นแค่หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เพียงคนเดียว
ตกลงเธอเป็นคนในวังจริงหรือไม่ ถึงแม้รู้แล้วว่าตัวเองเป็นใคร ในใจก็แอบมีความคิดจะเข้าวังแก้แค้นให้พี่สาว
แต่เธอยังไงก็ร่อนเร่อยู่ในพื้นบ้าน ยังไม่เข้าใจพวกกลอุบายในท้องพระโรงเหล่านั้นอย่างลึกซึ้ง
ดังนั้นไม่นานเธอก็ชอบสาวน้อยที่หาทางทำให้ตัวเองอารมณ์ดีทุกวันคนนี้แล้ว
เฉียนเฉียนก็ชอบเธอมากเช่นกัน แม้เธอจะไม่เข้าใจเรื่องในท้องพระโรง และไม่ชัดเจนทำไมหนานจิ่นถึงต้องจับเธอไว้ไม่ปล่อย แต่เธอกลับรู้สึกว่าสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร เธอไม่ชอบคนไม่ดี ชอบคนดี ดังนั้นเธอก็ชอบน้องสาวของพระราชินี
แบบนี้เธอถึงยอมทำให้เธออารมณ์ดีอย่างเต็มใจ
หลังจากฟังคำอธิบายของเธอจนจบ หนานจิ่นเงียบกริบไปเลย
เขาไม่ได้โทษเฉียนเฉียน และไม่ได้พูดอะไร หลังจากเงียบไปแล้วช่วงหนึ่งก็ให้เธอลงไปพักผ่อน
ถึงแม้เฉียนเฉียนจะรู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากกลับถึงห้องนอนก็นอนหลับแล้ว
แต่ในคืนนั้น บ้านรองที่ขังน้องสาวของพระราชินีกลับอยู่ๆ ก็ไฟไหม้ขึ้นมา ไฟไหม้ใหญ่ครั้งหนึ่งไม่เพียงเผาทั้งบ้านรองเสียหายหมดแล้ว และยังเผาน้องสาวของพระราชินีกลายเป็นขี้เถ้ากองหนึ่ง
เธอตกใจจนตื่นขึ้นมาในกลางดึก เมื่อเห็นสถานการณ์หลังจากดับไฟแล้ว เห็นน้องสาวของพระราชินีถูกเผาเป็นขี้เถ้ากองหนึ่ง ใจเธอแตกสลายในขณะนั้นทันที
เธอไม่กล้าเชื่อ และไม่ยอมเชื่อ คนตัวเป็นๆ ที่ยังหัวเราะพูดคุยกับตัวเองเมื่อวินาทีที่แล้วอยู่ ขณะนี้เสียชีวิตไปแล้ว
เธอตามถามหนานจิ่นไม่หยุดว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมเธอถึงตาย
หนานจิ่นแค่พูดประโยคอย่างเฉยชา เขาก็คาดคิดไม่เหมือนกัน แต่คืนนั้นที่นี่ไม่มีคนอื่นอยู่ ในบ้านมีแค่น้องสาวของพระราชินีเพียงคนเดียว และไม่มีคนอื่นรู้ว่าเธอถูกขังไว้ที่นี่ด้วย ดังนั้นทุกอย่างชี้ไปได้เพียงเหตุผลเดียว นั่นก็คือ เธอฆ่าตัวตาย
เธอเห็นไม่มีความหวังที่จะหนีออกไปพ้น ดังนั้นตัวเองทำตะเกียงน้ำมันก๊าดตกลงไปเองและฆ่าตัวตายแล้ว
ขณะนั้นเฉียนเฉียนพูดไม่ออกว่าเป็นอารมณ์อะไร แม้ในใจจะยังคงเสียใจอยู่ และยังมีความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ยอมรับคำอธิบายของเขาแล้ว
เพราะยังไงแล้ว เธอไม่เข้าใจพวกกลอุบายเหล่านั้นเลย
แต่เวลาต่อมา ความเห็นที่หนานจิ่นเสนอออกมากลับทำให้เธอหัวเสียมาก
เขาบอกว่าให้เธอปลอมตัวเป็นน้องสาวของพระราชินี เข้าวังไปเป็นกษัตริย์
พระราชินีราชวงศ์ที่แล้วก็คนหนึ่งที่ฉลาดมาก อำนาจที่นอกวังของตัวเองอ่อนมากอยู่แล้ว ดังนั้นเธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองยังมีน้องสาวอีกหนึ่งคน และวางแผนไว้เรื่องที่จะเรียกน้องสาวคนนี้กลับเข้าวังสืบราชบัลลังก์สามารถปิดบังหนานจิ่นไว้ได้
ดังนั้น ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ก็ได้ปูทางข้างหลังให้ตัวเองกับน้องสาวไว้แล้ว
นั่นหมายถึงประกาศให้โลกรู้ว่าน้องสาวของเธอยังมีชีวิตอยู่ และปล่อยข่าวที่จะสืบราชบัลลังก์ให้เธอ และยังประกาศภาพวาดของเธอก่อนที่หนานจิ่นจะหาเจอน้องสาวของเธออีกด้วย
เพราะฉะนั้น ถึงแม้เหล่าอำมาตย์ยังไม่เคยเห็นพระราชินีในอนาคตคนนี้ แต่อันที่จริงรู้หน้าตาของเธอเป็นยังไงก่อนแล้ว
ทำแบบนี้เพื่อกันหนานจิ่นจับน้องสาวของเธอได้ ให้อีกคนไปปลอมตัวเป็นน้องสาวของเธอ เพื่อแทนตำแหน่งในการสืบราชบัลลังก์ในอนาคต
ถึงอย่างไรถ้าเปลี่ยนเป็นอีกคน ยังไม่ต้องพูดถึงเหล่าอำมาตย์ต้องจับผิดที่หน้าตาของคนนั้นไม่เหมือนน้องสาวของเธอ
แม้กระทั่งหนานจิ่นเองยังไม่สามารถอธิบายได้สมบูรณ์มากเช่นกัน
แม้อำนาจของหนานจิ่นจะใหญ่หลวงแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถปิดปากทุกคนไว้ได้ ดังนั้นสุดท้ายแล้วเขาก็จำเป็นต้องปล่อยน้องสาวของตนออกมา
แต่เธอคิดยังไงก็คิดไม่ถึงเลยว่าบนโลกใบนี้จะมีคนแบบนี้อย่างเฉียนเฉียน
เป็นคนหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนหน้าตาเป็นคนไหนก็ได้บนโลกใบนี้ตามอารมณ์ของตัวเอง นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวเกินไปจริงๆ
ไม่เพียงแค่พระราชินีที่คิดไม่ถึงคนเดียว ไม่มีใครคนไหนเลยที่คิดถึงเรื่องแบบนี้ได้
แม้กระทั่งหนานจิ่นก่อนหน้านี้ก็คิดไม่ถึงเลยจริงๆ
แต่ตอนนี้เขาคิดได้แล้ว และยังเสนอเรื่องนี้ให้กับเฉียนเฉียนอีกด้วย
ตอนแรกสุดเฉียนเฉียนปฏิเสธ ยิ่งกว่านั้นยังโมโห โกรธเคืองมาก
เพราะไม่ว่าเธอจะใสซื่อแค่ไหน งมงายแค่ไหน ไร้ความรู้แค่ไหน แต่ในจิตใต้สำนึกก็รู้ดีว่าเรื่องที่หนานจิ่นเสนอให้เธอในตอนนี้เป็นเรื่องที่ไม่ดีมาก
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผิด ถ้าเป็นสิ่งที่ผิดเธอก็ไม่ควรทำ
แต่หนานจิ่นเป็นคนแบบไหนล่ะ
ต่อสู้ด้วยอุบายจิต อำมาตย์คนสำคัญในท้องพระโรงที่ถนัดด้านการวางแผนและกลอุบาย ราชครูแห่งประเทศ
ความคิดเล็กๆ น้อยๆ ของเฉียนเฉียนนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาแล้วไม่ถือเป็นเรื่องอะไรเลย
ดังนั้น ไม่นานเขาก็โน้มน้าวเฉียนเฉียนได้แล้ว ถ้าเฉียนเฉียนไม่ยอมออกไปช่วยเขา งั้นทุกสิ่งทุกอย่างก่อนหน้านี้ก็จะถูกเปิดเผย และเขาก็จะตาย เฉียนเฉียนสามารถเห็นเขาตายไปอย่างนี้เลยเหรอ
ตอนนี้พระราชินีกับน้องสาวของพระราชินีเสียชีวิตแล้ว ไม่มีกษัตริย์ใหม่ปรากฏตัวออกมา ประเทศก็จะวุ่นวาย พอประเทศวุ่นวายปุ๊บ ประชาชนก็จะตกอยู่ในความเดือดร้อน
ถ้าเฉียนเฉียนรู้สึกผิดต่อน้องสาวของพระราชินีจริงๆ คิดว่าตัวเองไม่ได้ดูแลเธอให้ดี ถึงทำให้เธอฆ่าตัวตายได้
งั้นเธอก็ยิ่งสมควรออกมาแบกรับหน้าที่ที่น้องสาวของพระราชินีควรแบกรับอย่างกล้าหาญ
ก็มีแค่เธอออกมาถึงสามารถช่วยเหลือประชาชนจากความเดือดร้อนและช่วยเหลือเขาได้
ในที่สุดเฉียนเฉียนก็ถูกโน้มน้าวจนยอมทำแล้ว แม้ลึกๆ ในใจของเธอจะยังคงรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกๆ เหมือนจะมีเหตุมีผล แต่ความเป็นจริงแล้วมีบางจุดไม่ปกติ
แต่ความคิดของเธอยังคงใสซื่อเกินไปแล้ว แม้สัญชาตญาณรู้สึกไม่ถูก แต่ก็อธิบายออกมาไม่ถูก สุดท้ายแล้วก็ได้แต่ยอมรับแล้ว
ดังนั้นเธอเปลี่ยนเป็นหน้าตาเป็นน้องสาวของพระราชินี เข้าวังสืบราชบัลลังก์เป็นกษัตริย์ และยังประกาศพระราชินีราชวงศ์ที่แล้วเสียชีวิตจากการป่วยหนัก ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับราชครูใหญ่ต่อหน้าอำมาตย์ทุกคน
ทีนี้เหล่าอำมาตย์ถึงโล่งใจให้หมด คุกเข่าลงด้านล่างท้องพระโรงและตะโกนอายุมั่นขวัญยืน
ต่อจากนั้นไป เฉียนเฉียนก็กลายเป็นพระราชินีที่อยู่บนหมื่นคน
ส่วนหนานจิ่นยืนอยู่ด้านล่างท้องพระโรงมองขึ้นไปที่เธอ มุมปากโค้งขึ้น