บทที่ 121 เกิดเรื่องขึ้นกับเธอแล้ว
มีเสียงเท้าที่เดินมาอย่างเบาๆจากด้านนอก
เธอส่ายหัวเล็กน้อย นึกว่าอานหยุนเป็นคนเข้ามา จึงตะโกนออกไปว่า “อานหยุน! ฉันยังไม่เสร็จเลย รอด้านนอกก่อน”
เมื่อพูดเสร็จแล้ว ก็รีบประคับประคองตัวเองลุกขึ้นยืน
แต่จู่ๆเธอกลับรู้สึกว่าทั่วร่างกายรู้สึกชาไปหมดเลย จนเกือบทำให้เธอหกล้ม
จิ่งหนิงเปลี่ยนสีหน้าทันที พร้อมดึงสติกลับมาอย่างกะทันหัน
ความรู้สึกที่คุ้นเคยแบบนั้น เธอจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
สมควรตายจริงๆ?
เป็นไปได้ยังไง!
เธอจำได้ว่าอาหารทุกอย่างที่ตัวเองกินในคืนนี้ล้วนเป็นอาหารที่คนอื่นก็กินเหมือนกัน อีกอย่างเหล้าแก้วนั้นก็คงไม่มีปัญหาเหมือนกัน
หรือว่า…
ทันใดนั้นเธอก็เบิกตากว้างขึ้น แล้วนึกถึงน้ำอุ่นแก้วใบนั้นที่ อานหยุนให้กับเธอ
เธอเผยสายตาแหลมคมขึ้น ขณะเดียวเดียวกันความรู้สึกโมโหที่คับเต็มอกเกือบจะระเบิดออกมา
คนพวกนี้…เมื่อเสือยอมอ่อนข้อ คงได้ใจทำเหมือนกับเธอเป็นแมวป่วยหรอ?
การใช้วิธีจัดการกับเธอครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้ เป็นวิธีการของอันธพาลจริงๆ!
จิ่งหนิงออกแรงกัดปลายลิ้นของตัวเอง จากนั้นกลิ่นคาวเลือดก็อบอวลเต็มไปด้วยปาก ทำให้เธอสามารถเรียกสติกลับมาได้ชั่วคราว
จากนั้นเธอก็พยายามออกแรงมือแรงเท้าตะเกียกตะกายลุกขึ้นออกจากอ่างน้ำ
……
เสียงฝีเท้าจากด้านนอกยิ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ วินาทีต่อมา ประตูห้องน้ำก็ได้เปิดมาจากด้านนอก
สวี่เทียนหงเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาเปิดประตูพลาง กวาดตามองรอบบริเวณอย่างตื่นเต้นพลาง
ในห้องน้ำกลับว่างเปล่า และในอ่างน้ำยังคงมีละอองไอน้ำอบอวลเต็มไปทั่วห้อง จนทำให้เขาไม่สามารถเห็นร่างเงาของคนที่ควรอยู่ในนี้
เขานิ่งอึ้งชั่วขณะ แล้วอุทานร้อง”หึ”ออกมา
จากนั้นเขาก็กวาดตามองที่มุมห้องหนึ่งในห้องน้ำ ข้างล่างหน้าต่างมีรองเท้าคู่หนึ่งวางอยู่ อีกทั้งม่านหน้าต่างก็พลิ้วไหวเล็กน้อยด้วย
เขาเข้าใจในทันที เขาหัวเราะอย่างตื่นเต้น พร้อมเอามือทั้งสองข้างเสียดสีกันแล้วเดินเข้าไป
“ที่รักของพี่ แอบไปทำอะไรอยู่หลังผ้าม่านเอ่ย? ออกมาเถอะ มาให้พี่อาบน้ำให้มา! เดียวอาบให้ตัวหอมๆเลย จากนั้นเดียวพี่จะนอนเป็นเพื่อน ดีไหม”
น้ำเสียงที่ฟังดูน่าขยะแขยงนั้น ทำให้ผู้ฟังรู้สึกอยากอาเจียนออกมา
ไม่นานสวี่เทียนหงก็เดินมาถึงเบื้องหน้าของผ้าม่าน เมื่อจินตนาการว่ามีสาวสวยรูปร่างอ่อนช้อยยืนหลบหันหลังอยู่ข้างหลังผ้าม่าน หัวใจของเขาก็เต้นแรงมากขึ้นจนเกือบระเบิดออกมา
เขายื่นมือจับผ้าม่านด้วยท่าทางตื่นเต้น แล้วพูดว่า : “ที่รัก” ผมมาแล้ว!”
จากนั้นเขาก็เปิดม่านดัง “ฟึบ”
วินาทีต่อมา เขาถึงกับตกตะลึง
ข้างหลังของผ้าม่านว่างเปล่า มีเพียงหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้กับลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามาเบาๆ
สวี่เทียนหงเปลี่ยนสีหน้าทันที
“แม่ง! กล้าลองดีกันฉันหรอ”
เขาคิดว่าหวังเสว่เหมยกำลังปั่นหัวเขาเล่นอยู่ ขณะที่เตรียมตัวหันหลังไปหาเธอเพื่อคิดบัญชีนั้น ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดัง“ปัง”ขึ้น
“นี่เธอ––!”
สวี่เทียนหงจ้องมองผู้หญิงเบื้องหน้าด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อขึ้น ขณะเดียวกันก็ยกมือจับหลังหัว จากนั้นเขาก็ล้มลงไปอย่างหมดสติ
จิ่งหนิงจ้องมองผู้ชายที่นอนพิงอยู่บนพื้น แล้วถอนหายใจอย่างโล่งใจออกมา
เธอออกแรงลากเขาไปไว้ที่ด้านหลังม่าน แล้วหยิบเชือกมามัดเขาไว้ จากนั้นก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไป
ประตูห้องน้ำถูกคนล็อกจากด้านนอกแล้ว จิ่งหนิงพยายามบิดอยู่สองครั้ง แต่ก็เปิดประตูไม่ได้
คิดไม่ถึงว่าหวังเสว่เหมยจะทำถึงขนาดนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เธอหนีออกไป
จิ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้นด้วยสีหน้าเคียดแค้น
ในตอนนี้หนีก็หนีไปไม่ได้ เธอครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์โทรหาลู่จิ่งเซินขึ้น
ในตอนนี้ลู่จิ่งเซินกำลังทานข้าวอยู่ข้างนอก
ภายในห้องที่หรูหรา ล้วนโอบล้อมเต็มไปด้วยเหล่าคุณหนูคุณชายของเหล่าตระกูลมีชื่อเสียง
บางคนมาจากตระกูลนักการเมือง บางคนมาจากตระกูลทหาร บางคนมาจากตระกูลนักธุรกิจ ทุกๆล้วนเหมือนเป็นมังกรกับหงส์ที่ดูสง่ามีราศี
พวกเขาเป็นเหล่าพี่น้องคนสนิทของลู่จิ่งเซิน ซึ่งคนเหล่านี้เป็นเพื่อนสนิทที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก
ในตอนนี้ทุกคนกำลังหัวเราะ และพูดคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่
ลู่จิ่งเซินนั่งตรงด้านข้างมุมหนึ่งของโต๊ะกลม และไม่เข้าร่วมในการสนทนาคนอื่นๆ
เพราะดื่มเหล้า บนใบหน้าของเขามีรอยฝาดแดงเล็กน้อย แต่ถึงอย่างก็ตามก็ไม่สามารถบดบังความหล่อของเขาได้เลย
ตรงกันข้ามเป็นเพราะแอลกอฮอล์ เขานั่งพิงบนเก้าอี้ด้วยร่างกายโน้มเอียงเล็กน้อย ซึ่งทำให้เขามีท่าทางผ่อนคลายเป็นธรรมชาติ ราวกับเป็นขุนนางสูงส่งในสมัยก่อน
ชายคนหนึ่งรินเหล้าลงแก้วที่อยู่เบื้องหน้าของเขา ยิ้มและพูดว่า : “พี่เซิน ครั้งนี้พี่เป็นเจ้าภาพ พวกเราอุตส่าห์มา ดังนั้นพี่ต้องดื่มเป็นเพื่อนพวกเรานานๆหน่อย”
ผู้ชายที่รินเหล้ามีชื่อว่าเซ่เฟย เป็นคุณชายรองของตระกูลเซ่ของเมืองหลวง เขาเป็นคนร่าเริง สนุกสนาน ซึ่งการมางานเลี้ยงที่เมืองจิ้นครั้งเป็นความคิดของเขา
ลู่จิ่งเซินไม่ปฏิเสธ แต่หัวเราะเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบเหล้าที่อยู่เบื้องหน้าขึ้นมาดื่ม
และคนหนึ่งจากอีกฝั่งเห็นก็เดินเข้ามารินเหล้าให้กับเขาอีก
เขาคนนี้ชื่อว่าฟู่หย่วนหาง เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลฟู่ เนื่องครอบครัวทำธุรกิจ ดังนั้นเลยมีความสัมพันธ์สนิทกับลู่จิ่งเซินเป็นธรรมดา
ในตอนนี้เขารินเหล้าพลาง และเผยสายตาเจ้าเล่ห์และหัวเราะพลาง : “พี่เซิน ได้ยินเซ่เซียวบอกว่าพี่หาพี่สะใภ้ที่เมืองจิ้นให้พวกเราหรอ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า? ทำไมไม่พามาเจอกันบ้างละ?”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ทุกคนก็พากันตกใจ
อะไรนะ? พี่เซินแต่งงานแล้วเหรอ?”
“เป็นไปได้ยังไง? ผมไม่อยากจะเชื่อเลย!”
ผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน ปกติพี่เซินไม่ค่อยสนใจผู้หญิงเลย แล้วเป็นไปได้ยังไงที่พี่เซินมีผู้หญิงแล้ว?
“ฮ่าฮ่าฮ่า…พวกนายนี่นะ! ข่าวคงรั่วไหลแน่เลย! ผมมีหลักฐานนะครับ แต่ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามพี่เซินเองเลยก็ได้”
สิ้นสุดเสียง ทุกคนหันหน้าจ้องมองลู่จิ่งเซินด้วยสีหน้าสงสัยขึ้น
ลู่จิ่งเซินหัวเราะเล็กน้อย ในดวงตาที่มีเพียงแค่สายตาเย็นชาในปกติ ในตอนนี้เผยสายตาอ่อนโยนขึ้นแล้ว
เขาถือแก้วเหล้าด้วยมือข้างหนึ่ง ยิ้มและพูดว่า : “วันนี้เธอมีธุระที่ต้องจัดการ ไว้วันหลังเดียวพามาเจอพวกแล้วกันนะ”
“คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องจริง?”
“ช่วยหยิกฉันหน่อย ดูสิว่าฉันกำลังฝันอยู่รึเปล่า?”
“โอ๊ย––เบาๆหน่อยสิ! อยากหยิกฉันให้ตายเลยเหรอ!”
“แย่แล้ว แย่แล้ว แย่แล้ว บ้านฉันคงไฟไหม้แน่เลย ต้องตายแน่”
บรรยากาศภายในห้องคึกคักทันที ทุกคนต่างรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
ลู่จิ่งเซินในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เขาเป็นคนที่มีเชื่อเสียงในเรื่องไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร
มีชีวิตมาเกือบสามสิบปีแล้ว ไม่เคยเห็นว่าเขาจะมีผู้หญิงคนไหนเลย
แม้แต่ในด้านการทำงานเองก็ตาม เขามีการติดต่อกับผู้หญิงน้อยมาก
เพื่อไม่ให้เกิดความสัมพันธ์คลุมเครือ แม้แต่เลขาและผู้ช่วยล้วนเป็นผู้ชายหมดเลย
เดิมทีทุกคนเข้าใจว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีความรักหรือเปล่า ดังนั้นเลยพยายามที่หลีกหนีจากคนเหล่านั้น
หลังจากสังเกตดูมาหลายปีก็พบว่าเขาไม่ใช่คนที่ไม่มีความรัก แต่เขาไม่สนใจผู้หญิงจริงๆ
จากนั้นก็ค่อยๆมีข่าวลือขึ้น บอกว่าถึงแม้คุณชายลู่จะเป็นคนหน้าตาดีและสูงส่ง แต่น่าเสียดายที่เขาเป็นเกย์
เหมือนกับได้ทำลายหัวใจของผู้หญิงทั้งประเทศแหลกสลาย
และยังบอกว่าคุณชายลู่สมกับการเป็นผู้ชายจริงๆ!
ผู้ชายแท้จะกล้าลงมือกับผู้หญิงได้ยังไง? เพราะผู้ชายแท้ควรลงมือกับผู้ชาย!
ด้วยเหตุนี้เรื่องนี้เลยกลายเป็นเรื่องตลกขบขัน จนถึงตอนนี้เลย
หลังจากผ่านการทดสอบบางอย่าง ทุกคนเลยยิ่งรู้สึกว่าลู่จิ่งเซินไม่ชอบผู้หญิง จนขั้นเกลียดผู้หญิงเลย และเกรงว่าคงไม่มีลูก เลยทำการมีลูกด้วยเทคโนโลยีเด็กหลอดแก้ว
แต่ในตอนนี้ คุณชายลู่ที่เกลียดผู้หญิงกลับแต่งงานแล้วหรอ?