บทที่ 13 เซนต์สัญญากับบันเทิงเฟิงหัว
วันรุ่งขึ้น จิ่งหนิง มาถึงบริษัทแต่เช้าตรู่
เพิ่งเข้าไปในออฟฟิศ ก็รู้สึกถึงบรรยากาศในวันนี้ไม่เหมือนเดิมเล็กน้อย
ทุกคนล้วนเอนเอียงเข้ากันกระซิบกระซาบเสียงเบาๆวิพากษ์วิจารณ์อะไรอยู่ มองเห็นเธอเข้ามา สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทั้งยังหุบปากพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เอาสายตาที่แปลกประหลาดอย่างหนึ่งแอบมองเธอ
จิ่งหนิง ขมวดคิ้ว เดินเข้าไปในออฟฟิศของตนเองอย่างไม่กะพริบตา
ทันทีที่นั่งลง ก็กดสายภายในเรียก เสี่ยวเหอ เข้ามา
ตอนที่ เสี่ยวเหอ เข้ามาระมัดระวังจนเกินตัว สายตาที่จ้องมองไปยังเธอยังแฝงด้วยความเห็นใจเล็กน้อย
จิ่งหนิง รู้สึกตลกเล็กน้อย พิงลงอยู่หลังเก้าอี้จ้องมองพิจารณาเธอ “เกิดอะไรขึ้นหรือ? สองวันไม่ได้เจอกัน ใช้สายตาแบบนี้มองฉันหรือ?”
เสี่ยวเหอ อึดอัดใจจนยิ้มแล้วยิ้มอีก ลำบากใจเล็กน้อยพูดว่า “ผู้จัดการจิ่ง วันนี้คุณ…….ไม่ได้รับข่าวอะไรล่วงหน้าหรือ?”
จิ่งหนิง ยักคิ้ว ยักแล้วยักอีก ยกแก้วน้ำที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาลุกขึ้นไปเอาน้ำให้กับตัวเอง ดื่มไปด้วยเอ่ยปากตอบด้วยว่า “ไม่มีนะ! เป็นยังไงแล้วล่ะ?”
“เอ้อ……ไม่เป็นยังไงหรอกค่ะ ก็คือฉันได้ยินว่าวันนี้บริษัทจะมีพนักงานใหม่มาคนหนึ่ง ดูเหมือนก็เป็นกรมประชาสัมพันธ์ของพวกเรา”
“ใช่หรือ? พวกคุณล้วนได้รับข่าวแล้วหรือ?”
“ฉันก็ได้ยินคนของฝ่ายบุคคลพูดคุยขึ้นมาในตอนที่คุยเรื่อยเปื่อย คนที่มาคนนั้นคืออาวุโสคนหนึ่งขององค์กรประชาสัมพันธ์ ดูเหมือนยังมีประวัติประสบการณ์อย่างมาก เคยทำเคสให้กับศิลปินแนวหน้าหลายคน”
เธอชะงักไปหนึ่งที เมื่อกี้ลังเลมองไปยัง จิ่งหนิง นัยน์ตาแฝงไว้ด้วยสายตาที่ลำบากใจเล็กน้อย
“ผู้จัดการจิ่ง คุณคิดว่า ประธานมู่ เชิญคนแบบนี้เข้ามา…….ตกลงหมายความว่าอะไรกันแน่?” คนในบริษัทล้วนรู้ว่ากรมประชาสัมพันธ์ของบันเทิงเฟิงหัว ในตอนนี้ จิ่งหนิง เป็นผู้บริหาร จิ่งหนิง มีภูมิหลังอะไรทุกคนไม่รู้ เพราะว่าเธอไม่ได้โอ้อวดเรียบง่ายเกินไปแล้วจริงๆ อยู่ในบริษัทแทบจะไม่พูดอย่างอื่นนอกจากเรื่องงาน
แต่ไม่ว่าเป็นภูมิหลังอะไร ยังไงก็ตามอายุอย่างเธอวางไว้อยู่ที่นั่น สาวน้อยยี่สิบกว่าปี มีประวัติประสบการณ์มากเท่าไหร่ล่ะ?
อยู่ในอาชีพที่วิจารณ์ถึงประวัติประสบการณ์จัดตามอันดับอาวุโสนี้ จะให้คนเชื่อว่า มู่ยั่นเจ๋อ เชิญเทพองค์ใหญ่ขนาดนี้เข้ามาเป็นลูกน้องของ จิ่งหนิง ใครจะเชื่อล่ะ?
ถ้าหากไม่ใช่ลูกน้อง งั้นก็ได้แค่เป็น…….
ในที่สุด จิ่งหนิง ก็เข้าใจแล้ว ทำไมวันนี้สายตาของทุกคนจ้องมองเธออย่างประหลาดขนาดนี้ล่ะ
เธอหลับตาเล็กน้อย ปกปิดอารมณ์ที่อยู่นัยน์ตา ยิ้มราบเรียบพูดว่า “ฉันรู้แล้ว คุณออกไปก่อนเถอะ!”
เสี่ยวเหอ เห็นลักษณะที่ใจเย็นของเธอนี้ แม้ว่าในใจเป็นห่วงเล็กน้อย แต่ก็รู้ว่าเรื่องนี้ตนเองไม่มีสิทธิที่จะพูด ได้แค่มีความกลัดกลุ้มเต็มใบหน้าออกไป
หลังจาก เสี่ยวเหอ ออกไป จิ่งหนิง ครุ่นคิดไปสักพัก จากนั้นยิ้มเยาะเย้ยหนึ่งที
เก็บของให้ดีๆอย่างง่ายๆ จากนั้นหยิบซองจดหมายที่เตรียมไว้ตั้งแต่แรกออกมา เดินไปยังห้องประชุม
ช่วงเช้าเก้าโมง
ผู้บริหารระดับสูงแต่ละคนของบันเทิงเฟิงหัว นั่งจนเต็มอยู่ในห้องประชุมแล้ว
มองเห็นเธอเข้ามา ทุกคนต่างคนต่างทักทายกับเธอ มีคนที่จริงใจ และก็มีคนเสแสร้งเช่นกัน
ที่จริงแล้วฝีมือความสามารถและกำลังที่เธอแสดงออกมาในสองปีนี้ แม้ว่าทำให้คนส่วนมากล้วนยอมรับทั้งปากและใจ และก็จะมีคนส่วนน้อยรู้สึกถึงว่าเธอเป็นสาวอายุน้อยคนหนึ่ง นั่งอยู่บนตำแหน่งที่สำคัญขนาดนี้ ยังไงก็มีประวัติประสบการณ์ไม่คู่ควรกับตำแหน่งสักหน่อยเหมือนเดิมเช่นกัน
จิ่งหนิง ไม่มีเวลาไปคิดถึงความคิดของคนเหล่านี้ เดินไปนั่งลงยังที่นั่งของตนเอง
ก็อยู่ในเวลานี้ ประตูของห้องประชุมถูกคนผลักออกอีกครั้ง เงยหน้าขึ้นก็มองเห็น มู่ยั่นเจ๋อ พาคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาเลย
ลูกตาของ จิ่งหนิง หลุบลง สีหน้าเย็นชาลงทันที
ที่ติดตามมาอยู่ข้างหลัง มู่ยั่นเจ๋อ นอกจากเลขาของเขาสองคน ยังมี จิ่งเสี่ยวหย่า กับ ถงซู ผู้จัดการของเธอ
ถงซู อยู่ในวงการทุกคนล้วนรู้ว่า แต่ก่อนเคยเป็นนักประชาสัมพันธ์ รุ่นก่อนมีศิลปินชื่อดังแนวหน้าส่วนใหญ่ล้วนเป็นเธอปั้นขึ้นมา นับได้ว่าผลงานยอดเยี่ยม
แต่ว่าหลังๆเปลี่ยนอาชีพเป็นผู้จัดการแล้ว ก็ไม่รู้ว่าทิศทางของอาชีพเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหรือว่าผิดดินฟ้าอากาศกันแน่ อยู่ในมือแม้ว่านำศิลปินหลายคนออกมาต่อๆกัน กลับล้วนไม่อุ่นไม่ร้อนมาโดยตลอด ในปัจจุบันนี้สามารถเอาออกมาโชว์ได้ ถึงขนาดก็มีแค่ จิ่งเสี่ยวหย่า คนเดียว
ที่แท้เทพใหญ่นักประชาสัมพันธ์ที่ มู่ยั่นเจ๋อ เชิญมาก็คือเธอ?
จิ่งหนิง งอริมฝีปากขึ้นอย่างเยาะเย้ยเล็กน้อย
ผู้บริหารระดับสูงอื่นๆมองเห็น จิ่งเสี่ยวหย่า กับ ถงซู ล้วนงงไปเล็กน้อย
จิ่งเสี่ยวหย่า ทุกคนย่อมรู้จักอยู่ดี ศิลปินหญิงแนวหน้าในวงการบันเทิง แม้ว่าระยะเวลาการเข้าวงการบันเทิงมีแค่สี่ปี แต่ความนิยมยังคงสูงมาโดยตลอด
ได้ยินว่าเธอคือคุณหนูผู้สูงศักดิ์ของตระกูลจิ่ง หลังพิงภูเขาใหญ่ของตระกูลจิ่ง ลูกนี้ ปัจจุบันนี้แม้ว่าไม่ได้เซนต์สัญญากับบริษัทผู้จัดการ แต่สร้างออฟฟิศของตนเองขึ้นมา เพียงแค่ยอมฟาดเงิน ทรัพยากรย่อมไม่ขาดมืออยู่ดี
ถงซู อีกคนหนึ่ง ก็ไม่ใช่ทุกคนล้วนจะรู้จัก
ยังไงก็ตามตอนที่ ถงซู เจริญรุ่งเรืองอย่างสุดขีดเสมือนดวงตะวันอยู่กลางฟ้า เป็นเรื่องของเมื่อสิบปีก่อนแล้ว
อาชีพบุคลากรด้านความบันเทิงเปลี่ยนใหม่แทนกันอย่างรวดเร็ว คนที่อยู่ในนี้ประวัติประสบการณ์ส่วนใหญ่มีแค่ห้าหกปีหรือเจ็ดแปดปีเท่านั้น มีแค่จำนวนน้อยไม่กี่คนที่มีสิบปีขึ้นไป
ด้วยเหตุนี้ ก็มีแค่ไม่กี่คนนั้นที่มีประวัติประสบการณ์สิบปีขึ้นไป ตอนที่เห็น ถงซู และได้นึกถึงข่าวลือของช่วงเช้าวันนี้อีก นี่จึงรู้ตัวว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น
สายตาที่จ้องมองไปยัง จิ่งหนิง อดไม่ได้แฝงไว้ด้วยความเห็นใจเล็กน้อย
ไม่ว่าใครก็ดูออก ต่อบริษัท จิ่งหนิง ทุ่มสุดใจอย่างแท้จริง
สองปีก่อน ตอนเวลาที่บริษัทลำบากที่สุดเธอเข้ามาร่วมด้วย พลิกเปลี่ยนสถานการณ์ ช่วยบริษัทรักษาศิลปินที่มีค่ามากหลายคนสุดท้ายไว้
ในสองปีนี้ เธอสุขุมรอบคอบและมีความระมัดระวัง คนที่ทำงานทุ่มชีวิตที่สุดก็คือเธอ คนที่มีเครสที่ผ่านมือมากที่สุดก็คือเธอ ศิลปินในบริษัทถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาคนไหนล่ะที่จะไม่นึกถึงและไปหาผู้จัดการจิ่ง มาจัดการล่ะ?
ก็อย่างคนแบบนี้ หลังจากบริษัทเจริญรุ่งเรืองแล้วกลับพูดว่าจะสับเปลี่ยนก็ถูกสับเปลี่ยนเลย คิดแล้วไม่ว่าใครล้วนจะรู้สึกใจเหน็บหนาว
แต่ว่ามีคนที่ไม่พอใจ ก็ย่อมมีคนที่มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นอยู่ดี
ในยามปกติหลายคนที่ไม่ถูกกับ จิ่งหนิง หลังจากรู้ตัวแล้วก็รีบขึ้นไปยิ้มทักทายกับ ถงซู และ จิ่งเสี่ยวหย่า ทักทายตามธรรมเนียมต่างๆ อย่างเช่น เลื่อมใสในชื่อเสียงมานานแล้ว ในที่สุดวันนี้ก็ได้เจอแล้ว เป็นต้น
จิ่งเสี่ยวหย่า ยิ้มตอบรับทีละข้อด้วยความอ่อนโยน มองดูแล้วเป็นลักษณะที่ยังอ่อนโยนใจกว้างอย่างนั้น มีเพียงเวลาที่มองไปยัง จิ่งหนิง นัยน์ตาลึกๆจึงรินหลั่งความภูมิใจเล็กน้อยออกมาโดยไม่รู้ตัว
จิ่งหนิง หนังตาหย่อนลงเล็กน้อย แค่แกล้งทำเป็นว่ามองไม่เห็น
เธอไร้สีหน้าจ้องมองนาฬิกาข้อมือบนแขน ผ่านไปสักพัก ในที่สุดก็ได้ยิน มู่ยั่นเจ๋อ กระแอมเสียงหนึ่ง
“เอาล่ะ เวลาถึงแล้ว ประชุมก่อนเถอะ!”
นี่ทุกคนจึงกลับไปนั่งที่นั่งของตนเอง
มู่ยั่นเจ๋อ จ้องมอง จิ่งหนิง หนึ่งที ในสายตากวาดผ่านด้วยความสลับซับซ้อนเล็กน้อย
แต่ในที่สุดเขาก็ยังซ่อนความรู้สึกผิดที่เห็นไม่ได้ชัดเล็กน้อยนั้นลงเลย พูดเสียงเข้มว่า “แนะนำให้กับทุกคนสักหน่อย คนนี้คือ จิ่งเสี่ยวหย่า คิดว่าทุกคนน่าจะรู้จักหมด”
คนทั้งหลายคล้อยตามว่า “แน่นอน แน่นอน คุณหนูจิ่ง ดังขนาดนี้ ใครจะไม่รู้จักล่ะ?”
“แต่ก่อนเห็นอยู่ในโทรทัศน์มาโดยตลอด คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอตัวจริง สวยกว่าที่อยู่ในโทรทัศน์”
“สมดั่งเป็น ศิลปินหญิงยอดนิยมสูงสุดในปัจจุบันนี้!”
คนทั้งหลายเปลี่ยนกันประจบ มู่ยั่นเจ๋อ พอใจจนพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก
“วันนี้เรียกทุกคนเข้ามา คืออยากจะประกาศสองเรื่อง เรื่องแรก เริ่มจากวันนี้เป็นต้นไป จิ่งเสี่ยวหย่า จะเซนต์สัญญากับบันเทิงเฟิงหัว กลายเป็นพี่สาวคนใหม่คนหนึ่งของบันเทิงเฟิงหัว”
คนทั้งหลายอึ้งชะงักไปก่อน ต่อจากนั้นเสียงปรบมือดังสนั่น
“จริงหรือ? นั่นดีมากเลย!”
“คุณหนูจิ่ง เซนต์สัญญากับบันเทิงเฟิงหัว นั่นก็คือเก่งกับเก่งร่วมมือกัน วันหลังทุกคนร่วมมือกันอย่างมีความสุข ล้วนสามารถยิ่งขึ้นไปได้อีกก้าวหนึ่ง!”