วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 153 ใช้แผนสกปรกอีกครั้ง

บทที่153 ใช้แผนสกปรกอีกครั้ง

เวลานี้ถงซูเพิ่งจะคุยโทรศัพท์กับลู่หยั่นจือเสร็จพอดี และเพิ่งจะวางสายไปได้ไม่นาน จิ่งเสี่ยวหย่าก็โทรเข้ามาแล้ว

เธอยังรู้สึกลังเลว่าจะบอกข่าวนี้กับเธออย่างไร! และตอนนี้ที่ได้ยินเธอเอ่ยถามขึ้นมา จึงอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้

“นักแสดงนำหญิงเรื่อง《กลยุทธ์พลิกชีวิต》ได้กำหนดตัวไว้แล้วนะ ไม่ใช่เธอ”

“อะไรนะ?”

จิ่งเสี่ยหย่าตกใจจนหน้าถอดสี

ไม่โทษเธอที่รู้สึกประหลาดใจ ถึงอย่างไรเธอก็เป็นนักแสดงหญิงที่ยังมีความนิยมอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีข่าวอื้อฉาว แต่ฐานแฟนคลับก็ยังคงอยู่ เรทติ้งในการรับชมจะต้องไม่เลวอย่างแน่นอน

ตอนนี้เธอลดเกียรติของตัวเองลงมา แม้แต่ยอมแสดงเว็บซีรีส์ที่ไม่เป็นที่รู้จักเสียด้วยซ้ำ ถ้าหากฝ่ายนั้นจะเล่นตัว ลดค่าตัวลงก็คงไม่เป็นไร

แต่ไม่คิดว่าจะไม่รับเธอจริงๆเสียอย่างนั้น?

ใครกัน? ที่กล้ามาแย่งบทบาทสำคัญของเธอไป?

จิ่งเสี่ยวหย่าโมโหมาก ถงซูเอ่ยพูดต่อ : “จริงๆแล้วไม่มีอะไรเลยนะ ก็เป็นเพียงแค่เว็บซีรีส์เรื่องนึงแค่นั้นเอง แย่งมาไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ พวกเราค่อยหาเรื่องใหม่ดูก็ได้”

“พูดง่ายนี่!” จิ่งเสี่ยวหย่าโมโห : “ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงพี่เองก็ใช่ว่าจะไม่รู้! พอจะมีผลงานผลิตออกมาได้บ้างก็ดันไม่เลือกฉัน ผลงานที่ไม่มีรสนิยมพวกนั้น ไม่ใช่สงครามลูกสะใภ้กับแม่สามีก็เป็นพวกละครน้ำเน่า พี่อยากจะให้ฉันไปรับเล่นบทพวกนั้นรึไง? แล้วเส้นทางต่อไปของฉันจะกำหนดต่อไปได้ยังไง?”

ก่อนหน้านี้จิ่งเสี่ยวหย่าเดินมาในเส้นทางที่ออกแบบไว้สำหรับเทพธิดาที่งดงามและสูงส่ง ละครโทรทัศน์ที่แสดง ส่วนมากก็เป็นนักแสดงนำหญิงที่มีคุณภาพค่อนข้างสูง

ถ้าหากจะต้องลดสถานะของตัวเองลงจริงๆ ไปรับแบบแสดงในละครน้ำเน่า ลูกสะใภ้แม่สามีแบบนั้น คิดดูก็รู้แล้วว่าต่อไปอยากจะกลับเป็นเป็นนักแสดงนำหญิงเช่นเดิมอีกจะยากขนาดไหนกัน!

ถงซูเองก็รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดมานั้นก็มีเหตุผล จริงๆแล้วถ้าหากไม่ใช่เพราะไม่มีวิธีอื่น ใครก็คงจะไม่อยากพลาดบทบาทดีๆแบบนี้ไปเช่นกัน

“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เธอจะทำอย่างไร?”

จิ่งเสี่ยวหย่าหายใจเข้า แล้วครู่หนึ่งเธอก็เอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม : “วางตัวใครเป็นนางเอก?”

“ฉันไม่รู้ ลู่หยั่นจือไม่ยอมบอก แต่ดูเหมือนกับว่าจะเป็นคนที่หลินซูฝานเลือกเองนะ”

“ไม่ว่าจะเป็นใคร ไปสืบมาให้ฉัน ฉันต้องการรู้ว่าใครที่กล้ามาแย่งบทนี้ไปจากฉัน”

ถงซูเงียบไปพักหนึ่ง

แล้วก็รับปากในที่สุด “ก็ได้ ฉันสืบได้แล้วค่อยมาบอกเธอแล้วกัน”

หลังจากที่วางสายไปแล้ว จิ่งเสี่ยวหย่าก็ทำลายข้าวของภายในห้องนั้นด้วยความโมโห

สมควรตาย!

นี่มันดูถูกกันชัดๆ!

ใครๆก็มาเป็นศัตรูกับเธอ!

จนกระทั่งทำลายข้าวของทั้งหมดเสร็จแล้วนั้น เธอถึงได้รู้สึกว่าความโมโหนี้ได้ถูกระบายออกมาบ้างแล้ว

ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง ไม่นานถงซูก็สืบเรื่องนักแสดงนำหญิงคนที่หลินซูฝานเลือกได้แล้ว และตอนที่ได้รู้ผลลัพธ์นี้แล้ว ก็อดที่จะรู้สึกตกใจไปไม่ได้ รู้สึกไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยเสียอย่างนั้น

จิ่งหนิง?

เป็นเธอได้อย่างไร?

เธอไม่ได้ทำฝ่ายประชาสัมพันธ์หรอกหรือ? แล้วจะมาแสดงละครได้อย่างไร?

ได้รับคำตอบนี้แล้ว ถงซูที่ก่อนหน้านี้รู้ว่าพลาดบทบาทนี้ไปแล้วยังคงนิ่งไว้ได้ก็ไม่สามารถสงบนิ่งได้อีกต่อไปแล้วเช่นกัน

เธอรีบโทรหาจิ่งเสี่ยวหย่าทันที

จิ่งเสี่ยวหย่าที่รู้ว่าคนที่แย่งบทนี้ของเธอไปนั้นก็คือจิ่งหนิง จะอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะเชื่อเรื่องนี้ได้เลยเช่นกัน

เธอคนที่ไม่เคยแสดงละครมาก่อน จะมาสร้างความยุ่งยากอะไรอีก?

หลินซูฝานตาบอดไปแล้วอย่างนั้นรึไง?

ยอมที่จะให้คนที่ไม่เคยผ่านงานแสดงมาก่อนมาแสดง แต่ไม่ยอมให้เธอแสดงอย่างนั้นสินะ?

ความโมโหและความรู้สึกที่ตัวเองต้องมาเจอกับอุปสรรคเช่นนี้ ทำให้จิ่งเสี่ยวหย่าแทบบ้า

แล้วก็ทำลายข้าวของภายในบ้านไปอีกหลายอย่าง จนหยูซิ่วเหลียนได้ยินเสียงแล้วเดินเข้ามาจากทางด้านนอก เธอถึงได้หยุดลง

“เสี่ยวหย่า นี่แกทำอะไรน่ะ? อยู่ดีๆทำไมถึงทำลายข้าวของแบบนี้?”

จิ่งเสี่ยวหย่าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่โมโห “จิ่งหนิงคนชั้นต่ำนั่น! เล่นงานหนูครั้งแล้วครั้งเล่าก็ว่าแล้วกับเรื่องทรัพยากรของเรื่อง《ตามหาฝัน》ก่อนหน้านี้ หนูไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเธอได้ แต่ตอนนี้เธอกลับมาแย่งบทหนู? แม่รู้ไหม? หนูอ่านบทใหม่ แล้วเตรียมตัวมานานขนาดนี้ แต่ผู้กำกับนั่นกลับเลือกเธอไม่ได้ได้เลือกหนู? แม่ว่ามันตลกไหมคะ!”

หยูซิ่วเหลียนขมวดคิ้วขึ้น “เป็นแบบนี้ได้อย่างไร? เรื่องนี้ถงซูไม่ได้บอกว่ามั่นใจมากว่าจะได้ไม่ใช่หรือ?”

“ได้ที่ไหนล่ะ! ตอนนี้บทบาทได้ถูกกำหนดไปเรียบร้อยแล้ว เธอถึงได้มาบอกหนูว่าไม่ได้ หนูดูแล้วถงซูนี่ก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน ในเวลาสำคัญๆไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียว”

“เสี่ยวหย่า แกอย่าพูดแบบนี้” หยูซิ่วเหลียนพยายามพูดเกลี้ยกล่อม : “จิ่งหนิงนั่นก็ไม่เคยผ่านงานแสดงมาก่อน จะมีความสามารถอะไรกัน? ที่เธอได้รับบทบาทนี้มาได้ 80%ก็คงจะต้องใช้วิธีอื่นแน่! เหอะๆ คิดจะมาแย่งงานแก แต่ไม่ได้ดูตัวเองเลย บทบาทนี้ถึงแม้ว่าเธอแย่งไปแล้ว ถึงตอนนั้นแสดงออกมาได้ไม่ดี ก็จะไม่ถูกด่าหรอกหรือ? ถึงเวลานั้นก็จะกลายเป็นเป้าให้ทุกคนได้โจมตี เธอถึงจะได้รู้สึก!”

หยูซิ่วเหลียนเอ่ยพูดมาแบบนี้แล้ว จิ่งเสี่ยวหย่าถึงได้มีการตอบสนองขึ้นมา

ดูเหมือนจะใช่

หากว่ากันตามหลักแล้ว คงไม่มีใครโง่ ที่จะยอมปล่อยนักแสดงที่มีความนิยมจากแฟนคลับและเคยได้รับรางวัลราชินีแห่งภาพยนตร์อย่างเธอให้หลุดมือไป แล้วไปคว้าเอาคนใหม่มาแสดงแทนหรอก

จิ่งหนิงจะต้องมีการเล่นลูกไม้อะไรแน่ๆ!

ใช่ ต้องเป็นแบบนี้อย่างแน่นอน!

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว ดวงตาของจิ่งเสี่ยวหย่านั้นจึงฉายความชั่วร้ายออกมา

อา! จิ่งหนิง เธอคิดอยากจะมีชื่อเสียงใช่ไหม?

ได้ ฉันจะทำให้เธอดังให้พอ!

ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้นเอง จู่ๆหยูซิ่วเหลียนก็เอ่ยพูดขึ้นมา : “ใช่สิ ในเรื่องนี้ยังมีบทนางรองด้วยไม่ใช่หรือ? แม่เคยเห็นบทอยู่ บทบาทนั้นก็นับว่าไม่เลวเลยนี่ ในเมื่อไม่ได้แสดงเป็นนางเองก็แย่งบทนางรองมาก็ได้!”

จิ่งเสี่ยวหย่าได้ยินแล้วจึงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที

“บ้าไปแล้ว! แม่จะให้หนูไปเล่นคู่กับเธอเนี่ยนะ เธอเองก็เหมาะอย่างนั้นหรือคะ?”

หยูซิ่วเหลียนส่ายหน้า “แกจะคิดแบบนี้ไม่ได้นะ แกลองคิดดู! เป็นเพราะเรื่องราวก่อนหน้านี้ ทุกคนคิดว่าแกเป็นคนเห็นแก่ตัว เป็นคนที่ร้ายกาจที่ทำร้ายข่มเหงพี่สาวเพื่อจะให้ได้ตามเป้าหมายของตัวเอง แต่ถ้าหากแกได้ร่วมแสดงเป็นนางรองเรื่องนี้ด้วย ส่วนจิ่งหนิงกลับได้เป็นนางเอก ถึงตอนนั้นแล้วก็จะได้บอกกับทุกคนได้ว่า จิ่งหนิงอยากจะเข้าวงการบันเทิง ส่วนเธอที่เป็นน้องสาว ก็เพื่อยกยอพี่สาวคนนี้ เลยยอมลดตัวเองมาแสดงเป็นนักแสดงสมทบแทน ถึงตอนนั้นทุกคนก็จะรู้สึกว่าแกให้ความสำคัญกับความรัก รู้ผิดแล้วก็สามารถแก้ไขตัวเองได้ อีกทั้งทักษะการแสดงของแกก็ดีกว่าจิ่งหนิง ถึงตอนนั้นที่แกสองคนแสดงด้วยกัน ทั้งๆที่แกแสดงได้ดีกว่า แต่กลับได้รับบทเป็นแค่นางรอง ส่วนจิ่งหนิงแสดงออกมาไม่ดีแต่กลับได้เป็นนางเอก แกเดาดูสิว่าคนพวกนั้นจะพูดกันอย่างไร?”

ดวงตาของจิ่งเสี่ยวหย่าเป็นประกายขึ้นมา

“พวกเขาจะต้องรู้สึกว่าหนทางที่จิ่งหนิงได้บทนี้มาจะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน!”

“ใช่ แบบนี้แหล่ะ เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราก็แค่คอยผสมโรงอยู่ข้างหลัง เหอะ! รอรับชื่อเสียงที่เหม็นโฉ่ไปชั่วลูกชั่วหลานได้เลย!”

จิ่งเสี่ยวหย่าได้ยินที่หยูซิ่วเหลียนพูดแล้วนั้น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

ราวกับว่าเห็นถึงท่าทางที่ทุกคนต่างพากันมองจิ่งหนิงด้วยความน่าสมเพชเวทนา

“แม่ แม่ฉลาดจัง คิดวิธีแบบนี้ได้ด้วย! ถ้าอย่างนั้นตอนนี้หนูให้ถงซูโทรไปหาลู่หยั่นจือ เพื่อขอบทนางรองมาแล้วกันนะคะ?”

“อืม แกวางใจได้ แม่อ่านบทอย่างละเอียดแล้ว ถึงแม้จะเป็นบทนางรอง แต่เวลาแสดงก็แทบไม่ต่างกับนางเองเลย แกก็ถือซะว่าแสดงเป็นนางเอกคู่แล้วกัน”

“อืม เข้าใจแล้วค่ะ”

หลังจากที่ตัดสินใจแล้วนั้น จิ่งเสี่ยวหย่าจึงรีบโทรหาถงซูทันที

เมื่อรู้ว่าเธอต้องการบทของนางรองนั้น ถงซูเองก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

เพราะถึงอย่างไรนิสัยของจิ่งเสี่ยวหย่าเป็นแบบไหนนั้นเธอเองย่อมรู้ดี ไม่เหมือนกับคนที่จะยอมทำให้ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมแบบนั้นจริงๆอยู่แล้ว

และยิ่งไปกว่านั้นมารับบทสมทบคู่กับจิ่งหนิงด้วยแล้ว?

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset