วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 178 คีย์บอร์ดทุเรียน

บทที่ 178 คีย์บอร์ดทุเรียน

กระจกเป็นกระจกกันเสียงถึงสองชั้น เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในห้องจากอากาศที่เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ดังนั้นจึงไม่ได้เปิดหน้าต่าง

เสียงของลู่จิ่งเซินถูกขวางกั้นด้วยกระจกหน้าต่าง เมื่อผ่านเข้าหูจึงทำให้ฟังไม่ชัดเจนนัก ทำได้เพียงเดาจากการขยับปากเท่านั้น ว่าเขาให้เธอเลือก

คีย์บอร์ดหรือว่าทุเรียน

เขาต้องทำอย่างนี้!

เขาผิดไปแล้วจริง ๆ!

จิ่งหนิงมองผู้ชายคนนั้นที่หยิ่งทะนงสูงส่งมาแต่ไหนแต่ไร ตอนนี้กลับเหมือนเด็กที่ทำผิด เฝ้าคอยคำตอบจากเธออย่างตุ้ม ๆ ต่อม ๆ อยู่ตรงนั้น

ในใจรู้สึกเจ็บแปลบแปลก ๆ แยกไม่ออกว่ารู้สึกยังไงกันแน่ สับสนจนไม่รู้จะพูดยังไง แต่กลับมีความรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก

ความรู้สึกเจ็บแปลบจากหัวใจได้แผ่ซ่านไปถึงเบ้าตา เธอเงยหน้ากระพริบตา เพื่ออยากเก็บกลั้นความเจ็บปวดนั้นกลับไป

แต่กลับไม่สำเร็จ น้ำตายังคงไหลออกมาไม่หยุด

คงเป็นเพราะน้อยใจเสียใจจริง ๆ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะคิดแบบนั้นไหม แต่มันก็ได้กระทบต่อความรู้สึกที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีของเธอ ดังนั้นน้ำตาจึงได้ไหลออกมาโดยอัตโนมัติ

เธอร้องไห้ออกมาอย่างนี้ ทำให้ลู่จิ่งเซินร้อนรนใจขึ้นมาทันที

ทำไมถึงง้อแล้วไม่ดีขึ้น ง้อไปง้อมากลับทำให้ร้องไห้เสียล่ะ?

มองเห็นท่าทางที่เสียใจของหญิงสาว เขาก็ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก รู้สึกเหมือนหัวใจจะแตกสลาย

ประตูก็ล็อคอยู่ เขาเข้าไปไม่ได้ หน้าต่างก็ล็อคจากด้านใน ไม่มีทางเปิดได้เลย

มีเพียงวิธีเดียวคือให้ป้าหลิวเอากุญแจมาเปิดประตูให้ แต่กลัวว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้ว จิ่งหนิงจะยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่

ลู่จิ่งเซินทำอะไรไม่ถูกแล้ว สุดท้าย ได้แต่กัดฟัน แล้วเขียนตัวอักษรลงบนกระดานดำหนึ่งบรรทัด

“ที่รัก อย่าร้องไห้นะ ฉันคุกเข่าให้เธอดูทั้งสองแบบแล้วยังไม่หายโกรธอีกเหรอ?”

จิ่งหนิง : “……”

กลั้นไม่ไหวแล้วจริง ๆ เลยหลุดหัวเราะออกมา

ลู่จิ่งเซินเห็นเธอหัวเราะทั้งน้ำตา ในใจก็รู้สึกโล่งขึ้นมาหน่อย เลยรีบทำดีเอาใจขอความเมตตา

จิ่งหนิงใจแข็งต่อไปไม่ไหว ผ่านไปไม่นาน ก็เปิดหน้าต่างออก

“พอได้แล้ว ตอนนี้เพิ่งมารู้ตัวว่าทำผิดเหรอ ก่อนหน้านี้มัวทำอะไรอยู่ล่ะ?”

ลู่จิ่งเซินถอนหายใจ มือข้างหนึ่งจับขอบหน้าต่างไว้ แล้วปีนเข้ามาจากระเบียง

จิ่งหนิงตกใจจนก้าวถอยไปข้างหลัง ทันใดนั้น ร่างกายเธอก็ถูกชายหนุ่มดึงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด

“ขอโทษนะ ฉันรู้ตัวว่าผิดไปแล้วจริง ๆ ต่อไปนี้จะไม่ปิดบังอะไรเธออีก ให้อภัยฉันได้ไหม?”

น้ำเสียงของเขาฟังดูจริงใจ สายตามองดูท่าที จากนั้นมือใหญ่ที่เอวก็รั้งเธอไว้แน่นในอ้อมแขน จิ่งหนิงดิ้นไปมาอยู่สักครู่ แต่ก็ผละตัวออกไปไม่ได้

เธออดไม่ได้ที่จะโกรธเคืองอยู่บ้าง

“นายปล่อยก่อนสิ!”

“ไม่ปล่อย ปล่อยไปเธอก็วิ่งสิ”

จิ่งหนิง : “……”

ตรรกะอะไรของเขา?

ดึกดื่นป่านนี้ เธอจะวิ่งไปไหนได้?

ลู่จิ่งเซินก้มหน้า นัยน์ตาลึกคู่นั้นได้สังเกตท่าทางของเธอ แล้วเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน : “คุณปู่สุขภาพไม่ดี คุณย่าเลยเป็นห่วงฉันมากเกินไปมาตั้งแต่เด็ก ฉันทำใจให้ไม่เชื่อฟังเธอไม่ได้ แต่ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแค่มีความเห็นแก่ตัวต่อหลานชายสักหน่อย ฉันรู้ดีว่าเรื่องนี้ฉันทำไม่ถูกต้อง ไม่ได้รีบบอกฐานะที่แท้จริงของพวกเขาให้เธอรับรู้

แต่ความรู้สึกที่ฉันมีให้เธอ ไม่มีหลอกลวงแม้แต่นิด หนิงหนิง เธอเต็มใจที่จะเชื่อฉันไหม?”

จิ่งหนิงเงยหน้ามองเขา ภายใต้สายตาที่จริงใจของเขา สุดท้ายเธอก็พ่ายแพ้

ผ่านไปสักครู่ ก็เอ่ยพูดเสียงอู้อี้ “งั้นต่อไปนี้……ห้ามทำผิดอีกนะ”

ลู่จิ่งเซินดวงตาสดใสขึ้นทันที

รีบรับปาก พร้อมยกมือขึ้นข้างหนึ่ง “ฉันสัญญา”

จิ่งหนิงพยักหน้า ในตอนนี้เอง ป้าหลิวได้เรียกพวกเขาให้ไปทานข้าวอยู่ด้านนอก ทั้งสองคนถึงได้รู้สึกตัวว่าถึงเวลาทานข้าวแล้ว

วิ่งเต้นกันทั้งวัน ตอนนี้ก็หิวแล้ว จึงได้ลงไปชั้นล่างด้วยกัน

วันถัดมา

จิ่งหนิงได้เข้ากองถ่ายอย่างเป็นทางการ หลินซูฝานได้พาทุกคนในกองถ่ายมาจัดงานเปิดกล้องอย่างยิ่งใหญ่ เรื่อง《กลยุทธ์พลิกชีวิต》ก็ได้ประกาศเปิดกล้องอย่างเป็นทางการ

ละครเรื่องนี้แค่ฟังชื่อก็รู้ได้ว่า เป็นเรื่องที่ฉายในเว็บซีรี่ย์ที่มีความบันเทิงมาก

แต่ในความเป็นจริง เป็นละครดราม่าเข้มข้นที่มีสไตล์ตลกขบขัน

ซูชีที่เป็นนางเอกได้ถูกคนทำร้ายจนเสียชีวิตเมื่อชาติก่อน หลังจากเกิดใหม่ก็ได้เข้าพระราชวังอีกครั้ง แล้วคอยสืบหาจนในที่สุดก็รู้ตัวฆาตกร และเรื่องราวที่ช่วยกอบกู้ประเทศชาติจากวิกฤต

สวี่เจียมู่รับบทเป็นพระเอก และเป็นจักรพรรดิของประเทศนี้

ส่วนจิ่งเสี่ยวหย่ารับบทเป็นนางรอง เป็นสนมอันเป็นที่รักของจักรพรรดิ และเป็นคนที่มีจิตใจชั่วร้าย ร่วมมือกับฆาตกรทำร้ายนางเอกเมื่อชาติก่อน

ความสัมพันธ์นั้นเรียบง่ายมาก พล็อตเรื่องไม่ได้ซับซ้อนเท่าไหร่นัก เพราะเป็นยุคที่ความบันเทิงต้องมาก่อน ภายใต้การแย่งชิงอำนาจที่มีแผนชั่วร้ายหลายชั้น และมีการผสมความตลกขบขันเข้าไปด้วย

การเปิดกล้องวันแรก ภายใต้การจัดการของลู่หยั่นจือ ทำให้มีสื่อบันเทิงมากันไม่น้อยเลยทีเดียว

ถึงแม้ไม่ได้คาดหวังว่าละครเรื่องนี้จะดังพลุแตก แต่ยังไงก็ควรต้องสร้างกระแสอย่างที่ควรจะทำ

ในฐานะที่เป็นนางเอก จิ่งหนิงจึงยืนอยู่ในตำแหน่งที่เกือบจะอยู่ตรงกลาง

ถึงแม้เพราะมีผู้กำกับยืนอยู่ จุดที่ยืนจึงไม่ใช่ตำแหน่ง C แต่ก็อยู่ใกล้กับผู้กำกับมากที่สุด

ที่จริงการสัมภาษณ์ในวันนี้ บรรดานักข่าวไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไหร่นัก

เพราะทั้งผู้กำกับหน้าใหม่ กลุ่มนักแสดงหน้าใหม่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ควรค่าให้พวกเขาสนใจเลย

เพียงแค่เห็นแก่หน้าของลู่หยั่นจือเท่านั้น อีกทั้งมีข่าวก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย เผื่อวันข้างหน้าดังขึ้นมาก็ถือว่าโชคดีโดยบังเอิญ

ฉะนั้น การสัมภาษณ์ทั้งหมด จึงเป็นไปแบบขอผ่านไปที ไม่ได้จริงจังอะไร

หลินซูฝานรู้ดีว่ากระแสสังคมในวงการนี้ชอบยกย่องเยินยอคนที่อยู่สูงกว่า เหยียบย่ำคนที่อยู่ต่ำกว่า แต่เขาเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ ดังนั้นถึงแม้ในใจจะรู้สึกไม่ดี แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ผ่านไปไม่นาน เดิมทีช่วงสัมภาษณ์ที่จัดเวลาไว้ครึ่งชั่วโมง ก็สิ้นสุดลงแล้ว

แต่ทว่าบรรดานักข่าวที่อยู่ในงานยังไม่กลับไป

สายตาที่ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ต่างเหลือบมองไปทางด้านหลัง

ในช่วงสัมภาษณ์นักแสดงหลัก จิ่งเสี่ยวหย่าที่รับบทนางรอง กลับไม่ได้มาเข้าร่วมด้วย

เธอให้เหตุผลกับหลินซูฝานว่า ระหว่างทางรถติดมาก เลยมาไม่ทันเวลา

ใกล้ถึงเวลาเปิดกล้องแล้ว ต่อให้หลินซูฝานรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ไม่อาจเอาเรื่องเล็กอย่างนี้มาทำให้ทุกคนไม่สบายใจได้ ดังนั้นเลยไม่ได้ต่อว่าอะไร

แต่ต่างกับพวกนักข่าว วันนี้ในเมื่อมาแล้ว ยังไงก็ไม่มีทางกลับไปมือเปล่าแน่

ในบรรดากลุ่มนักแสดงไม่มีเรื่องอะไรให้พูดถึง แต่สำหรับชื่อเสียงของจิ่งเสี่ยวหย่า และข่าวฉาวของเธอช่วงก่อนหน้านี้ ถ้าหากสามารถขุดคุ้ยอะไรออกมาได้ ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับวันนี้แล้ว

ฉะนั้น ถึงแม้ว่าการสัมภาษณ์จะสิ้นสุดลง แต่พวกเขากลับยังรออยู่ที่เดิม

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง รถยนต์อเนกประสงค์สีดำคันหนึ่งค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามาต่อหน้าสายตาของผู้คน

มีคนรู้จักรถคันนั้นว่าเป็นของจิ่งเสี่ยวหย่า กลุ่มคนก็รีบกรูกันเข้าไปหาทันที

“คุณจิ่ง ในที่สุดก็มาสักที ขอถามหน่อยครับวันนี้การเปิดกล้องอย่างเป็นทางการเดิมทีจัดตอนสิบโมงครึ่ง ในฐานะที่เป็นหนึ่งในนักแสดงหลัก ทำไมถึงได้มาสายล่ะครับ?”

“คุณจิ่ง ได้ยินมาว่าละครเรื่องนี้ล้วนเป็นนักแสดงหน้าใหม่ทั้งหมด ได้ร่วมแสดงละครเรื่องนี้ คุณมีอะไรอยากจะพูดไหมคะ?”

“ในฐานะนักแสดงยอดนิยมที่มีผลงานมากว่าสิบเรื่อง กลับได้แสดงในบทบาทสำรองของละครที่ฉายในเว็บซีรี่ย์ ขอถามหน่อยค่ะว่าอะไรที่ทำให้คุณหรือทีมของคุณตัดสินใจอย่างนี้?”

“ขอถามหน่อยครับ เป็นเพราะข่าวฉาวก่อนหน้านี้หรือเปล่าที่ตอนนี้ทำให้คุณไม่ได้รับเล่นละครเรื่องอื่นเลย ดังนั้นจึงได้แค่เป็นตัวประกอบให้คนอื่น?”

“สำหรับข่าวฉาวก่อนหน้านี้ คุณก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไร วันนี้จะพูดอะไรสักหน่อยไหมกับสิ่งที่เกิดขึ้น?”

“คุณจิ่ง…..”

จิ่งเสี่ยวหย่าถูกฝูงชนห้อมล้อม ราวกับดวงจันทร์ที่ถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มดาว ค่อย ๆ เดินเข้ามาด้านใน

เธอสวมชุดเดรสสีชมพูนู้ด ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอยิ้มเล็กน้อยวางตัวอย่างเหมาะสมโดยตลอด

รอบตัวมีผู้จัดการและพนักงานรักษาความปลอดภัยคอยกันเธอออกจากพวกนักข่าวและผู้ชม ที่ต่างห้อมล้อมเธอเดินไปยังด้านหน้า จนเดินมาถึงหน้ากำแพงสีแดงสำหรับเซ็นชื่อ

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset