บทที่ 183 ติดอันดับค้นหายอดนิยมอีกแล้ว
เสี่ยวเหอได้ยินน้ำเสียงของเธอราวกับมีท่าทางเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ก็ค่อยเบาใจขึ้นมาหน่อย จากนั้นก็วางสายไป
หลังจากวางสายแล้ว จิ่งหนิงก็ไปหาหลินซูฝานที่กองถ่าย
ช่วงบ่ายยังมีฉากที่ต้องถ่ายทำอีก ในฐานะผู้กำกับ หลินซูฝานจึงไม่สามารถกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมได้
เมื่อทานข้าวกล่องเสร็จแล้วได้พักผ่อนสักครู่หนึ่ง ก็เริ่มทำงานกันต่อ
ตอนที่จิ่งหนิงมาหาเขา เขากำลังดูฉากที่ถ่ายทำไปเมื่อช่วงเช้าของวันนี้อยู่ตรงนั้น เมื่อเธอมา ก็รู้สึกประหลาดใจ
“เอ๊ะ? ไม่ใช่บอกให้เธอกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมสักครู่เหรอ? ตอนบ่ายเป็นฉากที่เธอต้องใช้พละกำลัง ถึงเวลาอย่าถ่ายไม่ไหวขึ้นมานะ”
จิ่งหนิงยิ้มออกมา “ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ผู้กำกับหลิน ฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณสักหน่อย”
หลินซูฝานมองเธอ แล้วสังเกตเห็นสายตาของเธอ จึงพยักหน้าตอบตกลง
“ได้ งั้นพวกเราไปคุยกันด้านนั้น”
พูดจบ ก็นำเธอไปยังห้องพักที่ทางทีมงานสร้างเอาไว้ชั่วคราว
หลังจากเข้าไปในห้องพักแล้ว หลินซูฝานก็เอ่ยถาม : “พูดมาเถอะ มีเรื่องอะไรจะคุยกับฉัน?”
จิ่งหนิงไม่พูดพร่ำทำเพลง หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดเข้าเวยโป๋ เปิดหัวข้อประเด็นร้อนให้เขาดู
หลินซูฝานรู้สึกอึ้ง รับโทรศัพท์มาดูอย่างละเอียด ตอนที่เห็นหัวข้อด้านบนและรูปภาพนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที โกรธจัดจนหน้าเขียว
“สารเลว!”
เขาวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ แล้วพูดด้วยความโมโหว่า : “ใครเป็นคนถ่ายรูปนี้? ใครเป็นคนเขียนอะไรมั่วซั่วแบบนี้? ตาบอดไปแล้วหรือว่าเป็นเพราะจิตใจระยำต่ำช้า? ดื่มเมาแล้วโดนพยุงแค่นี้ก็สามารถทำเป็นเรื่องอื้อฉาวไปได้? เจตนาชั่วร้ายอะไรกัน?”
จิ่งหนิงหัวเราะออกมา แล้วพูดแนะนำว่า : “ผู้กำกับหลิน คุณไม่ต้องโกรธหรอก คนที่ถ่ายรูปอย่างนี้น่ะ ก็ต้องหวังทำลายชื่อเสียงของฉันอยู่แล้ว แต่น่าเสียดาย ที่เธอน่าจะคิดผิดไป”
หลินซูฝานตะลึงงันไปชั่วขณะ มองเธออย่างไม่เข้าใจ
“ใครอยากทำลายชื่อเสียงของเธอ? ฉันไม่เข้าใจ เธอเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการ จะไปขวางทางใครได้ล่ะ? อุตส่าห์ลงทุนลงแรงใช้แผนร้ายจัดการเธอแล้วมันจะได้ประโยชน์อะไร?”
จิ่งหนิงเลิกคิ้วขึ้น “อาจจะ……แค่อิจฉาริษยามั้งคะ?”
หลินซูฝานนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น
จิ่งหนิงเก็บโทรศัพท์กลับมา แล้วพูดอย่างนิ่งเฉยว่า : “ที่ฉันเอาเรื่องนี้มาบอกให้คุณทราบ เพราะอยากให้คุณเตรียมใจเอาไว้หน่อย เกรงว่าอยู่ ๆ พวกนักข่าวบันเทิงจะถามขึ้นมา แล้วคุณกลับไม่รู้อะไรเลย ฉันรู้ว่าปกติคุณไม่เล่นเวยโป๋”
ทันใดนั้นหลินซูฝานก็ตั้งสติขึ้นมาได้ แล้วขมวดคิ้ว
“เธอหมายความว่า……ไม่ได้อยากให้ฉันเข้าไปยุ่ง?”
จิ่งหนิงพยักหน้า
“คุณวางใจเถอะค่ะ เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง รับรองว่าไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นแน่นอน”
หลินซูฝานส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย
“ไม่ได้ เรื่องนี้ดู ๆ ไปเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ถ้าหากจัดการไม่ดี ก็จะส่งผลกระทบกับเธอมากนะ เธอวางใจเถอะ ฉันจะแถลงข่าวชี้แจง และจะแอบสืบหาว่าใครเป็นคนทำเรื่องแบบนี้ เธออย่าเอาตัวเองเข้ามาพัวพันมากไปกว่านี้”
จิ่งหนิงมองเขา แล้วกระพริบตา
“ทำไมต้องแถลงข่าวชี้แจง?”
หลินซูฝานรู้สึกงงงวย “แล้วทำไมถึงไม่แถลง?”
จิ่งหนิงยิ้มแล้วพูด : “โอกาสที่จะทำให้กองถ่ายได้รับความนิยมอย่างนี้ มีคนซื้ออันดับค้นหายอดนิยมให้พวกเราเรียบร้อยแล้ว ทำไมพวกเราต้องทิ้งโอกาสนี้ไปล่ะคะ? ปล่อยประเด็นร้อนนี้ไว้อย่างนั้นดีจะตาย ไม่จำเป็นต้องแถลงข่าวอะไร พอดีเลย ได้ช่วยโปรโมทละครเรื่องใหม่ให้พวกเรา”
หลินซูฝานยิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่
“แล้วเธอไม่กลัวเหรอ ว่าทุกคนจะเชื่ออย่างที่ในนั้นพูดกัน คิดว่าเธออยากได้บทบาทนี้จนใช้เต้าไต่ขึ้นมา?”
จิ่งหนิงมองเขา แล้วค่อย ๆ ยิ้มออกมา
“ฉันได้ยินมาว่า ปลายเดือนนี้ จะมีการโปรโมทตัวอย่างละครเป็นครั้งแรกใช่ไหมคะ?”
หลินซูฝานยังคงรู้สึกมึนงง แล้วพยักหน้า “ใช่ แล้วนี่เกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง”
จิ่งหนิงเอ่ยพูด : “วิธีพิสูจน์ที่ดีที่สุด ไม่ใช่คำแถลงข่าว แต่ใช้ความสามารถ ตบหน้าคนพวกนั้นให้แรง ๆ”
ขณะที่เธอพูด ดวงตาดำลึกนั้นก็เปล่งประกายออกมาอย่างแรงกล้า เอ่ยพูดขึ้นทีละคำ ทีละประโยค : “ก่อนที่จะถึงตอนนั้น ฉันอยากให้คนบางคน ปีนขึ้นไปให้สูงที่สุด ตอนที่ตกลงมาก็จะได้อนาถสุด ๆ!”
……
ตอนที่จิ่งหนิงออกไปจากกองถ่าย เสี่ยวขุยกำลังกดน้ำแล้วผ่านมาพอดี
เธอเข้าไปในห้องแต่งตัว จิ่งเสี่ยวหย่าเพิ่งทานข้าวเสร็จ กำลังนั่งพักผ่อนอยู่ที่นั่น
เมื่อเห็นเธอเข้ามา ก็เปิดตาขึ้น แล้วเอ่ยพูดด้วยเสียงเย็นชา : “เป็นยังไงบ้าง? เห็นอะไรมาบ้างล่ะ?”
เสี่ยวขุยก้มหน้าเล็กน้อย พูดด้วยเสียงเบา ๆ เล็ก ๆ ท่าทางหวาดกลัว
“ฉันเห็นจิ่งหนิงออกมาจากห้องพักผ่อนของผู้กำกับหลิน”
จิ่งเสี่ยวหย่าแสยะยิ้มออกมา
“ดูท่ามันน่าจะเห็นรูปพวกนั้นแล้ว คิดว่าไปหาหลินซูฝานแล้วจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างนั้นเหรอ? เหอะ! ช่างไร้เดียงสาจริง ๆ!”
เสี่ยวขุยเงยหน้ามองเธอ แล้วรีบก้มหน้าหลุบสายตาลงต่ำทันที เธอเม้มปากเล็กน้อย ไม่ได้เปล่งเสียงใด ๆ ออกมา
จิ่งเสี่ยวหย่าคิดอยู่สักครู่ ก็สั่งออกไปว่า : “เธอไปติดต่อพวกเน็ตไอดอลมาให้ฉันหลาย ๆ คนหน่อย ให้พวกเขาขุดคุ้ยเรื่องนี้อีก อย่าให้ประเด็นร้อนนี้จางหายไป ให้ติดอันดับอยู่อย่างนั้นหลาย ๆ วันหน่อย รวมถึงเรื่องเมื่อวานด้วย ขุดคุ้ยมารวมกันให้หมด!”
เสี่ยวขุยจับปลายนิ้วเอาไว้ ลังเลเล็กน้อย
จิ่งเสี่ยวหย่าเห็นเธอยืนไม่ขยับไปไหน ก็โมโหขึ้นมาทันที ปัดแก้วกระดาษจนน้ำและแก้วหกใส่ขาเธอ
“หูหนวกหรือยังไง? ใช้ให้เธอไปจัดการธุระ ได้ยินหรือเปล่า? คงไม่ต้องให้ฉันสอนใช่ไหมว่าจะต้องติดต่อคนยังไง?”
เสี่ยวขุยจึงรีบตอบตกลง “ค่ะ รู้แล้วค่ะ”
พูดจบ ก็รีบออกไปทันที
บ่ายวันนั้น
ชาวเน็ตทุกคนแทบจะรู้เรื่องกันหมดแล้ว ว่ามีละครเรื่องหนึ่งชื่อ《กลยุทธ์พลิกชีวิต》มีนางเอกชื่อจิ่งหนิง ผู้กำกับชื่อหลินซูฝาน ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์คลุมเครือไม่เหมาะสม
ปีนี้ วงการบันเทิงเน่าเฟะฉาวโฉ่ไปหมดแล้ว ระหว่างนางเอกกับผู้กำกับ ก็ไม่ถือว่าเป็นข่าวใหม่อะไร
ที่สำคัญที่สุดก็คือ สองชื่อนี้ ช่างไม่คุ้นหูเอาเสียเลย นอกจากจิ่งหนิงที่พอจะมีคนรู้จักอยู่บ้าง ในฐานะที่เป็นพี่สาวของจิ่งเสี่ยวหย่า แต่ข้อมูลเรื่องอื่นนั้นมีน้อยมากจนน่าสงสาร
แม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างจิ่งหนิงและจิ่งเสี่ยวหย่า ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวฉาวออกมา แต่ก็เป็นเพราะชาวโซเชียลที่อยู่ในแวดวงแฟนคลับแชร์ข่าวกันมากมาย
ชาวโซเชียลทั่ว ๆ ไปไม่ค่อยมีใครสนใจเรื่องพวกนี้นัก ถึงแม้จะอ่านข่าว อ่านเสร็จก็จบกันไป
ยิ่งรวมกับข่าวไม่ดีของจิ่งเสี่ยวหย่าที่มีมาก่อนหน้านี้หลายครั้ง ทำให้คนที่ผ่านไปมาเห็นข่าวแล้วรู้สึกไม่ดีนัก เลยไม่ค่อยจะไปสนใจข่าวของเธอ
แต่สองวันมานี้ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ชื่อของจิ่งหนิง ติดอันดับการค้นหายอดนิยมไม่หยุดไม่หย่อน
ตอนแรกก็เมื่อวาน จิ่งเสี่ยวหย่ากับจิ่งหนิงปรองดองกัน พี่น้องสนิทกลมเกลียว
วันนี้ก็โผล่มาอีก จิ่งหนิงหลับนอนกับผู้กำกับบางคน จนได้รับบทนางเอกละครเรื่องใหม่
ผู้คนต่างพากันสับสน ว่าจิ่งหนิงคนนี้ ตกลงเป็นใครกันแน่? ทำไมถึงมีเรื่องอะไรเยอะจัง?
คนที่อยากรู้อยากเห็น ก็เริ่มไปค้นหาข่าวเกี่ยวกับจิ่งหนิง
จิ่งหนิงไม่ได้ใช้ชื่อในฐานะนักแสดงเปิดใช้งานเวยโป๋ ชื่อบัญชีก่อนหน้านี้ เป็นเลขพนักงานตอนที่เธอทำงานประชาสัมพันธ์
Title ที่แนะนำด้านบนก็เป็นตำแหน่งประธานของบริษัทบันเทิงซิงฮุย ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์อานหนิงกั๋วจี้
บัญชีนี้มีคนที่รู้ไม่มากนัก แต่เพราะกองถ่ายปล่อยภาพโปสเตอร์รูปนักแสดงออกมา เธอจึงได้แชร์รูปนั้นไว้ ดังนั้นทุกคนก็ยังสามารถสืบหามาจนถึงบัญชีเธอได้
เมื่อสืบค้นขึ้นมาถึงได้พบว่า เป็นเลขพนักงานจริง ๆ
นอกจากข้อมูลเรื่องงาน ก็ไม่มีอะไรอีก
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชีวิตส่วนตัวของจิ่งหนิง
ชาวโซเชียลต่างรู้สึกไม่มีอะไรน่าสนุกเลย ดูลึกลับ จึงทำให้ยิ่งอยากรู้อยากเห็นในตัวคนคนนี้มากขึ้นไปอีก
ถึงยังไง มองเพียงภาพถ่ายโปสเตอร์ดูแล้ว ถือว่ารูปร่างหน้าตาของจิ่งหนิงสามารถชนะคนอื่นได้อยู่หมัดเลย
ก่อนหน้านี้ในโซเชียลถูกบรรดาแฟนคลับเอาแต่พูดถึงจิ่งเสี่ยวหย่าที่เป็นนางฟ้า ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ เหมือนสาวใช้ยังไงยังงั้น ดูไม่มีราศีเหมาะกับการขึ้นเวทีเลย