บทที่ 194 เธอคือราชินีเก๊
แน่นอนว่าพวกเขาไม่อยากปล่อยเธอไปแบบนี้และคิดจะตามเธอไปต่อ แต่กลับถูกหยุดไว้โดยเจ้าหน้าที่
เมื่อพวกเขาเห็นว่าสัมภาษณ์จิ่งหนิงไม่ได้ ก็หันไปสนใจจิ่งเสี่ยวหย่าแทน
“จิ่งเสี่ยวหย่า คุณและจิ่งหนิงอยู่ในกองถ่ายเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นพี่น้องกันด้วย คุณรู้ไหมว่ามีคนวางยาเธอ?”
สีหน้าของจิ่งเสี่ยวหย่าในเวลานี้แปรเปลี่ยนไปขั้นสุด
เธอพยายามฝืนยิ้มออกมา ไม่กล้าบอกว่าไม่รู้ เพราะไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งสองคนเพิ่งจะมีข่าวสงบศึกกันไป ตอนนี้จิ่งหนิงเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้น ถ้าเธอบอกว่าไม่รู้ ย่อมต้องถูกคนเข้าใจไปว่าข่าวที่ออกไปก่อนหน้าล้วนเป็นข่าวลือ
ในที่สุดเธอจึงยิ้มอย่างแข็งทื่อและเอ่ย “แน่นอนว่าฉันก็รู้เรื่องนี้ แต่พี่สาวไม่ได้บอกอะไรมาก ดังนั้นรายละเอียดฉันเองก็ยังไม่ทราบมากนัก”
“แล้วคุณคิดว่าใครเป็นคนทำร้ายเธอ? ในใจมีคนที่สงสัยหรือไม่?”
“ใช่! อยู่ในกองเดียวกันทั้งหมด ควรจะรู้จักกันเป็นอย่างดีใช่ไหม?”
จิ่งเสี่ยวหย่าแอบกุมมืออย่างลับๆ เมื่อเผชิญหน้ากับกล้อง สายตาของเธอหลบเลี่ยงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
แต่รายล้อมไปด้วยสื่อแบบนี้ เธอเองก็ไม่เหมือนจิ่งหนิง ที่มีบอดี้การ์ดหญิงอย่าง โม่หนานคอยช่วยเธอเปิดทางดังนั้นจึงได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างอึดอัด
ในใจของเธอรำคาญอย่างยิ่ง เสี่ยวขุยคนนี้ ไม่รู้ไปตายอยู่ที่ไหน! เวลานี้แล้วยังไม่มาอีก
สุดท้าย ด้วยความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กองถ่ายจ้างมา เธอถึงค่อยหลบหลีกจากพวกผู้สื่อข่าวออกมาได้
ผู้สื่อข่าวเห็นจากตนไม่สามารถสอบถามอะไรได้จากจิ่งเสี่ยวหย่า ดังนั้นย่อมเป็นธรรมชาติที่จะต้องเปลี่ยนไปพุ่งเป้าใส่ หลินซูฝานพระเอกของเรื่องอื้อฉาวนี้
แต่หลินซูฝานมีชื่อเสียงในเรื่องอารมณ์ร้าย เมื่อเผชิญกับคำถามของผู้สื่อข่าวบันเทิง เขาก็ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนอะไรออกมา
เขาแค่เอ่ยว่าหากอยากรู้อะไรก็รอให้คดีคลี่คลายแล้วไปถามตำรวจดู มาถามเขาทำไม?
เขาในฐานะเหยื่อ ยังต้องมารับผิดชอบในการตอบคำถามให้นักข่าวอีกหรือ?
พูดจบ เขาก็จากไปด้วยใบหน้าที่เย็นชา
แม้ว่าผู้สื่อข่าวจะไม่ได้คำตอบที่ต้องการ แต่ก็ไม่นับว่าเปล่าประโยชน์
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน บนอินเทอร์เน็ตมีการเผยแพร่ ภาพ NG หลายต่อหลายครั้งของจิ่งเสี่ยวหย่าในฉาก จากนั้น ก็มีการเผยแพร่การสัมภาษณ์ของจิ่งหนิงและจิ่งเสี่ยวหย่าเมื่อคืนนี้
เนื่องจากเวลาที่เผยแพร่ต่างกัน ดังนั้นเมื่อชาวเน็ตหลายคนได้เห็นภาพการถ่ายทำของจิ่งเสี่ยวหย่าก่อน ก็ทั้งประหลาดใจและผิดหวังต่อการแสดงของจิ่งเสี่ยวหย่า
“จิ่งเสี่ยวหย่าไม่ใช่เคยได้รางวัลร้อยดอกไม้มาก่อนหรือ? ทำไมฝีมือการแสดงถึงแย่ขนาดนี้? ได้ยินมาว่าแต่เดิมบทนี้ก็เป็นคนแข็งกร้าว แต่ว่าหลังจากที่ถูกปลดจากฮองเฮาและตำต่ำลง เพื่อที่จะปกป้องตัวเองจึงไม่อาจทำตัวแข็งกร้าวไปได้ แต่ก็ไม่ควรแสดงออกอย่างขี้ขลาดขนาดนั้นนี่หน่า!”
“นั่นสิ เมื่อตัวละครนี้ออกมา ฉันก็เคยดูมาก่อน อีกทั้งตอนเธอร้องไห้ก็ปลอมเกินไปหน่อยแล้วมั้ง! น้ำตาสักหยดก็ไม่มี”
“ตอนนี้ระดับราชินีภาพยนตร์มีความสามารถแค่นี้เองหรือ? ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันว่าฉันก็สามารถเป็นราชินีภาพยนต์ได้เหมือนกัน”
“เว่อร์ไปแล้วมั้ง! ราชินีภาพยนตร์อะไรกัน? ราชินีเก๊ ต่างหากถึงค่อยไล่เลี่ย”
“ด้านบนคุยอะไรกัน? เสี่ยวหย่าของพวกเราอาศัยความสามารถชนะรางวัลมา พวกคุณพูดแบบนี้เพราะกินองุ่นไม่ถึง แล้วเที่ยวพูดว่าองุ่นนั้นเปรี้ยวต่างหาก! ”
“ใช่ ใครไม่รู้บ้าง ว่าตอนที่กรรมการงานร้อยดอกไม้เลือกราชินีภาพยนตร์ มีเสียงถกเถียงกันมากมาย เห็นชัดๆ ว่า
ว่า 30 วินาทีแรกยังคงทิ้งห่างจากที่หนึ่งกว่า 100000 โหวต แต่พอ30วินาทีถัดมา100000 โหวตกลับถูกตีตื้นขึ้นมา หึ รู้ว่าเป็นระบบนับคะแนนที่นับโหวต ถ้าไม่รู้มาก่อนยังคิดไปเสียอีกว่าจำนวนโหวตทั้งหมดถูกเขียนด้วยลายมืออย่างลอย ๆ! ”
“ข้างบน อย่าพูดเรื่องไร้สาระโดยไม่มีหลักฐาน! เสี่ยวหย่าของพวกเราได้รับรางวัลอย่างถูกต้องยุติธรรมที่สุด หากคุณไม่พอใจก็ไปหาผู้จัดงานสิ มาอิจฉาอะไรตรงนี้?”
“นั่นสิ พวกคุณไม่เห็นว่าเสี่ยวหย่าของเรามีดี ก็เลยใส่ร้ายเธอแบบนี้!”
“ไม่เห็นว่าเธอมีดี? น่าหัวเราะ! ตอนนี้ดอกบัวขาวตัวน้อยของพวกคุณถูกลดบทบาทไปเป็นนางรอง มีอะไรให้เราคุ้มค่ากับการใส่ร้ายมิทราบ?”
“คิดจริง ๆ หรือไงว่าตัวเองเป็นดาราใหญ่แนวหน้า! ก็มีแต่แฟนคลับสมองกลวงอย่างพวกเธอนั่นแหละที่คอยช่วยเธอแก้ตัว ไม่ดูบ้างหรือไงว่าในแวดวงภาพยนตร์และทีวีเธอเลอะเลือนไปขนาดไหนแล้ว! ”
“พวกคุณอย่ามาพูดเรื่องไร้สาระ สาเหตุที่เสี่ยวหย่าเล่นในละครเรื่องนี้ ไม่ใช่เพื่อช่วยประคองพี่สาวไร้ประโยชน์ของเธอหรือไง?”
“ถูกต้อง เสี่ยวหย่าของพวกเราให้ความสำคัญกับความรักและความชอบธรรม ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการช่วยพี่สาวเธอ ทำไมเธอจะต้องมารับละครออนไลน์เรื่องเล็ก ๆ แบบนี้ด้วย?”
“พวกปากอุจจาระด้านบนหุบลงได้แล้ว! เสี่ยวหย่าของพวกเราใสซื่อบริสุทธิ์ อ่อนโยนใจดี ไม่จำเป็นต้องให้พวกคุณยอมรับ และก็ไม่จำเป็นต้องให้พวกคุณมาชอบ! ”
“ถ้าพวกคุณไม่รู้จริง ๆ ล่ะก็ ทำไมไม่ไปดูสัมภาษณ์เมื่อครั้งก่อน คนเขายอมรับเองว่าเป็นเพราะพี่สาวถึงได้ยอมรับละครเรื่องนี้!”
“คนที่ให้ความสำคัญกับความรักและความชอบธรรมแบบนี้มาถูกพวกคุณพูดแบบนี้ พอได้แล้ว! ”
ยังมีคนโต้กลับ “ที่พูดไปก็มาจากดอกบัวตัวน้อยของพวกเธอพูดเอาเอง พวกเธอเห็นคนเขาออกมาเอ่ยอะไรบ้างหรือยัง?”
“ถูกต้อง เธอบอกว่าเธอรับเรื่องนี้เพราะเห็นแก่พี่สาว จริงแน่หรือ? ลืมเรื่องอื้อฉาวเมื่อหลายปีก่อนของเธอไปแล้วหรือไง?”
“ใช่! แฟนคลับสมองกลวงพวกนี้สุดยอดจริง ๆ ความจำก็เสื่อมอย่างร้ายแรงไปด้วย ฉันว่าถ้าพวกเธอมีเวลามาตาบอดอยู่ที่ BB มากนัก เอาเวลากลับไปตรวจสมองบ้างยังจะดีเสียกว่า!”
มีข้อโต้แย้งมากมายบนอินเทอร์เน็ต ในวิดีโอที่ผู้สื่อข่าวบันเทิงเผยแพร่ออกไปไม่ได้มีแค่ภาพของจิ่งเสี่ยวหย่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาพของจิ่งหนิงด้วย
ฉันไม่รู้ว่าจู่ๆ ใครก็พูดขึ้นว่า “อันที่จริงก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยสังเกตมาก่อน ตอนนี้ดูเหมือนว่า นางเอกจะหน้าตาดีมาก ทักษะการแสดงก็ไม่เลวเลย ดวงตาคู่นั้นมีพลังครอบงำ จนแทบจะเรียกเธอว่าฮองเฮาอยู่แล้ว”
คำพูดนนี้ดึงดูดให้หลายๆ คนเห็นด้วยขึ้นมา
“ใช่ ดีกว่าการแสดงของราชินีเก๊ นั่นตั้งเยอะ โดยเฉพาะดวงตาของเธอ พระเจ้า ดุดันมาก ฉันแทบรับไม่ไหว จนอยากจะคุกเข่าลงใต้กระโปรงขององค์ฮองเฮาแล้ว”
“ใส่ชุดในวังแบบนี้ก็ดูดีเหมือนกัน ดูโดดเด่นน่าเกรงขาม รักเลย”
“ใช่ ไม่ได้เห็นคนที่มีความโดนเด่นดุดันแบบนี้มานานแล้ว พี่สาวสุดสวยสุดเซ็กซี่”
“เป็นแฟนเธอแล้ว!”
ความคิดเห็นของชาวเน็ตเริ่มตั้งแต่การพูดคุยเกี่ยวกับทักษะการแสดงของจิ่งเสี่ยวหย่าไปจนถึงการพูดคุยเกี่ยวกับความงามของจิ่งหนิง
ทันใดนั้นก็มีคนโพล่งออกมา “พอเถอะ รักอะไร หรือว่าพวกเธอไม่ได้เห็นข่าวเมื่อวาน?”
มีคนที่ไม่รู้ถามขึ้น “เรื่องอะไร?”
วินาทีถัดมา มีคนโยนภาพหน้าแคปเจอร์หน้าจอลงใบหลายภาพ
“ทักษะการแสดงแข็งแกร่งบ้าบออะไร แข็งแกร่งเรื่องการเปลี่ยนคู่นอนล่ะสิไม่ว่า พวกคุณยังชอบอีกไหม?”
“อุ๊บ ตบหน้าเข้าอย่างเร็วแรงจริง ๆ”
“เคาะประตูห้องผู้กำกับกลางดึก แรดขนาดนี้พวกคุณยังชอบอยู่รึเปล่าล่ะ?”
มีบางคนที่เห็นภาพถ่ายเหล่านั้น และดูเรื่องซุบซิบเมื่อคืน ในใจที่เกิดความรู้สึกดีๆ ต่อจิ่งหนิงก็ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“พระเจ้า นี่อะไรกัน? หน้าตาดีขนาดนี้ ทักษะการแสดงก็ดีขนาดนี้ ยังคิดไปอยู่เลยว่านิสัยก็น่าจะดีมากเหมือนกัน!”
“เฮ้อ วงการนี้ซับซ้อนจริง ๆ”
แต่ก็ยังมีคนที่ยังภักดีและยืนกรานว่าจิ่งหนิงไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้น
