บทที่198 ยังไม่ถึงเวลา
จิ่งหนิงเผยอปากยิ้ม
“ไม่ต้องแปลกใจไป ในเมื่อจิ่งเสี่ยวหย่าสามารถสืบค้นคนในครอบครัวของเธอได้ ฉันก็ทำได้เหมือนกัน อีกทั้งนี่ไม่ใช่ความลับอะไร แค่ถามคนที่สนิทสนมกับเธอก็รู้เรื่องแล้ว”
เสี่ยวขุยยังคงตกใจ
สิ่งที่เธอตกใจไม่ใช่เรื่องที่จิ่งหนิงรู้ว่าแม่ของเธอป่วยแต่ว่าเป็น……
เรื่องที่จิ่งหนิงนำเงินมากมายขนาดนี้มารักษาแม่ของเธอ!
เดิมทีจิ่งหนิงมีตัวเลือกมากมาย! ไม่ว่าจะเป็นเรียกตำรวจเพื่อจับเธอเข้าคุก หรือใช้วิธีอื่นบังคับให้เธอสารภาพความผิดออกมา!
ไม่ว่าวิธีใดจิ่งหนิงก็ไม่ต้องสูญเสียอะไร
แล้วทำไมกัน?
เสี่ยวขุยจ้องมองไปที่จิ่งหนิง จิ่งหนิงยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ เธอคิดจะอธิบายอะไรให้ฟัง
เพียงแค่พูดออกมาว่า “ตอนนี้เธอควรจะบอกฉันทุกสิ่งทุกอย่างที่จิ่งเสี่ยวหย่าสั่งให้ทำโดยไม่ต้องกังวลแล้วใช่ไหม?”
จิ่งหนิงนั่งอยู่ที่เดิม เธอลังเลอยู่พักใหญ่ก่อนจะพยักหน้า
“ค่ะ ฉันจะบอก”
หลังจากนั้นเธอก็กำลังจะเล่าเรื่องจากต้นจนจบ
คาดไม่ถึงว่าจะถูกจิ่งหนิงขัดจังหวะขึ้น
“เดี๋ยวก่อนนะ!”
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดไปที่หน้าจอ จากนั้นวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะแล้วพูดว่า “ถ้าไม่รังเกียจฉันจะขออัดเสียงเอาไว้นะ แต่สบายใจได้ฉันจะดัดแปลงเสียงไม่ให้เกี่ยวข้องกับเธอหรอก”
สีหน้าของเสี่ยวขุยเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่เธอก็เข้าใจวิธีการของจิ่งหนิงดี จึงไม่ได้คัดค้านและเริ่มพูดตั้งแต่ต้น
ที่จริงก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ก็แค่จิ่งเสี่ยวหย่าส่งคนคอยสะกดรอยตามจิ่งหนิง และมองหาโอกาสที่จะจัดการเธออยู่
ในวันนั้นเมื่อเธอเข้าไปในห้องของหลินซูฝาน ก็สั่งให้คนถ่ายรูปเอาไว้ทันที
หลังจากนั้นให้เสี่ยวขุยหาคนขึ้นไปส่งอาหารที่วางยาเอาไว้ ส่งไปในห้องของเขา
เดิมทีเสี่ยวขุยก็ไม่อยากทำ แต่จิ่งเสี่ยวหย่าข่มขู่เธอบอกว่าถ้าไม่ทำจะไล่เธอออก
เสี่ยวขุยเรียนจบแค่ม.6 เธอไม่มีความรู้ด้านอื่นมากนัก ทำได้เพียงเป็นผู้ช่วยเท่านั้น ตอนนี้แม่ของเธอก็นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลและต้องใช้เงินจำนวนมากสำหรับการฟอกไตในแต่ละวัน ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกจริงๆ
หากเธอมาตกงานเข้าตอนนี้ชีวิตคงจบสิ้นแล้ว
จิ่งเสี่ยวหย่ามองเห็นเธอมีท่าทางเปลี่ยนไป จึงได้ให้สัญญากับเธอว่าหากเธอทำหน้าที่ที่มอบหมายให้จนสำเร็จก็จะไม่ไล่เธอออก อีกทั้งยังจะช่วยค่าผ่าตัดของแม่จำนวนสองแสนแก่เธอด้วย
พ่อของเสี่ยวขุยจากไปตั้งแต่เธอยังเล็ก หลายปีมานี้แม่เธอทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเธอ ข้อเสนอดีๆเช่นนี้เธอจะปล่อยให้หลุดไปได้อย่างไร?
อีกทั้งเธอยังมีเพื่อนทำงานอยู่ที่นี่ ดังนั้นจึงวอนขอให้เขาช่วยเหลือและวางยาพวกเขาสำเร็จ
คาดไม่ถึงว่าจิ่งหนิง1ไม่เพียงแต่ไม่ให้เงินเธอ อีกทั้งยังด่าเธอบังคับให้เธอมาขโมยรายงานตัวยาของจิ่งหนิงอีก
รายงานฉบับนั้นแม้จะถูกเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต แต่เนื่องจากทุกคนไม่ทันได้เห็นข้อความอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงตราประทับ
เพียงแค่เธอสามารถขโมยรายงานไปได้จากนั้นสลับรายงานฉบับปลอมเอาไว้ในห้อง ก็สามารถพูดได้ว่าจิ่งหนิงทำรายงานปลอมขึ้นมาเพื่อลบล้างความผิดของตัวเอง เธอหลอกลวงเพื่อนร่วมงานให้คนอื่นเห็นใจ
หากเป็นเช่นนี้ จิ่งหนิงไม่เพียงแต่ไม่สามารถลบล้างความผิดให้ตัวเองได้ อีกทั้งยังจะถูกชาวเน็ตต่อว่าเธออย่างสิ้นเชิง
เมื่อโม่หนานฟังเรื่องที่เธอพูดออกมาจบแล้วก็โกรธมาก
เธอแทบจะทนไม่ได้อยากจะออกไปจากห้องนี้แล้วฆ่าคนสาระเลวนั่นจริงๆ!
แต่ว่าจิ่งหนิงยังคงนิ่งสงบตามเดิม เธอเอื้อมมือมาจับเสี่ยวขุยแล้วพูดว่า “เอาล่ะฉันรู้แล้ว นำเงินไปเถอะรหัสคือ 000000”
เสี่ยวขุยเหลือบมองเธอแล้วกำมือแน่น ในที่สุดเธอก็รีบคว้าบัตรธนาคารใบนั้นกลับมาแล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะพี่หนิง”
จิ่งหนิงพยักหน้าเป็นความหมายว่าเธอไปได้แล้ว
เสี่ยวขุยจึงได้จากไปอย่างไม่รีบร้อน
แต่ว่าโม่หนานยังคงโกรธมาก
“ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าพวกคุณสองคน ต่อให้คนละแม่กันแต่ก็พ่อเดียวกัน ทำไมถึงแตกต่างกันมากขนาดนี้นะ?
“สมองยัยนั่นมีปัญหาหรือไง จะต้องจัดการเธอให้ได้เลยหรือไง แต่ละครั้งทำคุณแทบตาย!
ในครั้งนี้ยังดีที่คุณฉลาดและไหวตัวทัน ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกจัดการได้ง่ายๆ หากตกหลุมพรางไปแล้วต่อให้เป็นคุณผู้ชายออกหน้าเองก็ไม่อาจจะพลิกสถานการณ์ได้ 100%”
จิ่งหนิงนั่งเอนกายไปที่โซฟา เธอก้มลงเล็กน้อยก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า
“บางทีเราอาจจะเป็นศัตรูกันตั้งแต่ชาติที่แล้ว”
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วมองดูเสียงที่บันทึกไว้เมื่อสักครู่ เธอครุ่นคิดแล้วพูดว่า “โม่หนานคัดลอกคลิปเสียงเอาอันนี้ไว้ที่โทรศัพท์เธอด้วยนะ เก็บรักษาไว้ให้ดีอย่าให้รั่วไหลออกไป”
โม่หนานเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“เราจะไม่ประกาศตอนนี้เหรอ?”
จิ่งหนิงส่ายหน้า
“ไม่”
“ทำไม?”
จิ่งหนิงมองไปทางเธอ
ดวงตาที่เยือกเย็นและแหลมคม
“จะตีงูต้องตีให้แม่น ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ยังไม่เหมาะสมที่จะประกาศ”
……
โม่หนานรู้สึกว่าเธอยิ่งวันยิ่งไม่เข้าใจจริงๆว่าจิ่งหนิงคิดอะไรอยู่
แต่ในเมื่อจิ่งหนิงสั่งดังนั้นเธอก็ไม่กล้าขัดขืน
เธอคัดลอกคลิปเสียงนั้นไว้ในมือถือจากนั้นเพิ่มรหัสเข้าไปเพื่อเป็นการป้องกัน อีกทั้งยังเจ็บสำเนาสำรองเอาไว้ในคอมพิวเตอร์และล็อคไว้เช่นกัน ทำแบบนี้เธอถึงจะโล่งใจ
หลังจากที่จิ่งหนิงจัดการทุกสิ่งเรียบร้อยแล้วเธอก็ผ่อนคลายลง
ตอนกลางคืนเธอขอให้โม่หนานบีบนวดไหล่ให้เธอ เนื่องจากเมื่อกลางวันการถ่ายทำ ทำให้เธอค่อนข้างปวดเมื่อย จากนั้นจึงกลับห้องไปพักผ่อน
เช้าวันต่อมา
เนื่องจากจิ่งหนิงไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอะไร ดังนั้นชาวเน็ตจึงได้ยังแสดงความคิดเห็นต่อเนื่อง
จากวิดีโอโต้ตอบกลับ ทำให้ชาวเน็ตบางคนเชื่อว่าจิ่งหนิงถูกคนใส่ร้ายจริงๆ
แต่ก็มีคนจำนวนมากเช่นกันที่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอแสดงออกมาตบตาคนอื่น
การที่ออกมาบอกว่าตนถูกใส่ร้าย ใครทำไม่เป็นบ้างล่ะ แน่จริงก็เอาหลักฐานออกมาโชว์สิ!
และมีบางคนพูดว่า ถ้าคืนนั้นเธอไม่ได้ไปหาผู้กำกับก็คงไม่ถูกเอาเปรียบแบบนี้ สุดท้ายแล้วจะโทษก็โทษที่ตัวเธอเอง
ทันทีที่คำพูดนี้ปรากฏขึ้น ผู้คนมากมายบนอินเทอร์เน็ตก็เริ่มตอบโต้
นี่ปาเข้าไปปี9102แล้ว ราชวงศ์ชิงได้สิ้นสุดไปตั้งนานแล้ว ยังจะมีใครเชื่อเรื่องหลักสี่คุณธรรมสามคล้อยตามในโบราณอีกหรือ?
ทำไมความผิดทุกครั้งจะต้องมาโทษที่ผู้หญิง ผู้หญิงไม่สามารถออกจากบ้านในตอนกลางคืนได้หรือไง?
ในอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยการทะเลาะวิวาท แม้แต่weiboสำหรับทำงานของจิ่งหนิงก็ยังมีผู้คนนับไม่ถ้วนเข้ามาแสดงความคิดเห็น
ไม่ว่าจะเป็นพวกสนับสนุนหรือต่อต้าน รวมๆแล้วพวกต่อต้านและด่าทอเธอค่อนข้างจะเยอะทีเดียว
จิ่งหนิงจัดการเก็บของตั้งแต่เช้าและกำลังจะไปที่สตูดิโอ
ระหว่างทางเธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูและกำลังจะเปิดweiboแต่โม่หนานกลับห้ามเอาไว้
โม่หนานมองมาทางเธอแล้วพูดอย่างลำบากใจด้วยแววตาอึดอัดว่า “จิ่งหนิง อย่าดูเลยเดี๋ยวจะทำให้อารมณ์เสียต่อเปล่าๆ”
จิ่งหนิงเลิกคิ้วขึ้นหัวเราะแล้วถามว่า “ทำไมเหรอ?ทุกคนกำลังด่าฉันหรือไง?”
โม่หนานยิ้มเยาะแล้วพูดว่า
“ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะ แต่ก็เยอะมากทีเดียว”
เมื่อจิ่งหนิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเปิดweibo
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันดูเฉยๆ”
แม้ว่าเธอจะเป็นมือใหม่ในวงการบันทึก แต่ก็ไม่ใช่วันแรกที่เธอเพิ่งจะก้าวเข้าสู่วงการนี้
ดังนั้นการดูถูกและคำสาปแช่งทางอินเทอร์เน็ตเธอเห็นมามาก แล้วก็เฉยชากับมัน เธอไม่สนใจมันด้วยซ้ำ
เธอยืนยันที่จะดู อยากรู้ว่ากระแสความคิดเห็นของผู้คนในอินเทอร์เน็ตเป็นอย่างไรบ้าง หลังปล่อยคลิปออกไปแน่นอนว่าจิ่งเสี่ยวหย่าจะต้องจัดการเรื่องนี้ หากเธอรู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งทำอะไรลงไปบ้าง เธอก็สามารถจัดการขั้นต่อไปได้อย่างง่ายๆ