บทที่ 211 ยิ่งดำยิ่งแดง
มู่ยั่นเจ๋อไม่หยุดอยู่โรงพยาบาลนานเท่าไหร่ ไม่นานก็ออกไปแล้ว
จิ่งเสี่ยวหย่าย่อมได้กลับบ้านก่อนโดยมีถงซูกับอานเฉียวเป็นเพื่อนอยู่แล้ว หลบหนีสถานการณ์ก่อนค่อยว่ากัน
วิดีโอบนอินเทอร์เน็ตยังฮอตฮิตอยู่ คนที่ถงซูส่งออกไปลบการค้นหายอดนิยมกับวิดีโอแทบจะไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ต้องพูดถึงว่าใช้เงินก้อนใหญ่ไปเท่าไหร่ เรื่องยังจัดการได้ไม่ดี กลับมาย่อมถูกด่าอย่างแน่นอน
ถ้าเป็นอย่างนี้ คนที่ในใจเกิดคำตัดพ้อต่อจิ่งเสี่ยวหย่าก็ยิ่งมากขึ้นแล้ว
“ตนเองเอะอะก่อกวนเรื่องอย่างนี้ออกมา ตอนนี้ยังโทษอยู่บนหัวของเรา ก็เมาแล้วจริงๆด้วย!”
“ก็ใช่สิ ตนเองเป็นศิลปินหญิง ก็ระวังหน่อยไม่ได้หรือ? ที่ตีคนก็แล้วไป ตีไม่ชนะยังถูกคนถ่ายแล้วโพสต์ขึ้นบนอินเทอร์เน็ต โง่เหมือนหมูจริงๆ!”
“พวกเราซวยแปดชาติด้วยจริงๆแล้ว จะทำการประชาสัมพันธ์ให้เธอในเดือนนี้เพราะว่าเรื่องอื้อฉาวต่างๆของเธอขึ้นเป็นการค้นหายอดนิยมสามสี่ครั้งแล้วมั้ง? ตัวเธอเองก็ไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวสักหน่อยหรือ?”
“ใช่สิ ตนเองทำงานไม่ระวัง มีเรื่องปุ้บก็ผลักความกดดันลงบนหัวเรา พวกเราเป็นคนก็ไม่ใช่เทพเทวดา การค้นหายอดนิยมที่ใช้เงินล้วนลบออกไม่ได้ พวกเราจะทำยังไงได้ล่ะ?”
“ก็ใช่……..”
ไม่เพียงแค่พวกเธอ พวกเพื่อนบนเน็ตต่อจิ่งเสี่ยวหย่าสองสามวันก็ขึ้นการค้นหายอดนิยมแบบนี้ ก็เริ่มตั้งแต่อยากรู้อยากเห็น ตอนนี้ค่อยๆกลายเป็นเหนื่อยหน่ายเล็กน้อยแล้ว
แฟนคลับรักแท้ของจิ่งเสี่ยวหย่ากลับยังดี แต่ความประทับใจของแฟนคลับสัญจรที่มีต่อเธอก็ลดลงต่ำมากเลย
“จิ่งเสี่ยวหย่านี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? เดือนนี้ขึ้นการค้นหายอดนิยมหลายครั้งแล้ว? weibo กลายเป็นลานหลังบ้านของเธอแล้วล่ะ?”
“จะออกตัวใหม่สร้างกระแสแน่นอน! ก่อนหน้านั้นเป็นฝีมือในการแสดง ตอนนี้ก็เป็นตีคนอีก ไม่รู้ว่าคราวหน้าจะออกข่าวอะไรอีก”
“สร้างกระแสหรือ? ไม่ใช่มั้ง! ใครจะสร้างกระแสโดยใช้เรื่องอื้อฉาวของตนเองมาสร้างล่ะ?”
“ไม่เคยได้ยินคำคำหนึ่งที่เรียกว่าดำแดงหรือ? ยิ่งดำยิ่งแดง สุดท้ายค่อยล้างให้ขาวสักรอบก็ได้แล้ว”
“พูดตามตรง ก่อนหน้านั้นฉันต่อจิ่งเสี่ยวหย่าแม้ว่าไม่มีความรู้สึกชอบพอ แต่อย่างน้อยก็เป็นคนสัญจร แม้ว่าต้นปีเธอเปิดโปงข่าวฉาวแบบนั้นล้วนไม่เคยเกลียดเธอ แต่ว่าผ่านปฏิบัติการครั้งนี้ในวันนี้ ฉันซูฮกแล้วจริงๆ เริ่มจากวันนี้เป็นต้นไป หมุนไปทางดำ”
“เช่นกัน หมุนไปทางดำ”
“พวกคุณจะรู้อะไรล่ะ? เสี่ยวหย่าของเราคือถูกคนใส่ร้าย! สถานที่ถ่ายทำคนมากมายขนาดนั้น ขอเพียงแค่ไม่ใช่คนโง่ล้วนจะไม่ตีคนอยู่ที่นั่น ตกลงว่าพวกคุณมีสมองหน่อยหรือไม่?”
“อิ ยังมีแฟนคลับปัญญาอ่อนมาล้างล่ะ? ฉันเห็นว่าไม่ใช่พวกเราไม่มีสมอง คือคุณไม่มีตา”
“ก็ใช่ วิดีโอล้วนถูกถ่ายแล้ว ยังจะมาช่วยล้างคราบสกปรกหรือ!”
“……”
เอะอะโวยวายบนอินเทอร์เน็ต เริ่มแรกพวกแฟนคลับของจิ่งเสี่ยวหย่ายังยืนหยัดจะต้านดำ แต่เวลานานไป ก็ค่อยๆดูแลไม่ไหวเล็กน้อยแล้วเช่นกัน
ยังไงก็ตาม ทันทีที่พวกเพื่อนบนเน็ตคนสัญจรเข้าร่วมสถานการณ์การรบด้วย พลังการโจมตีจะสูงมาก แฟนคลับเล็กน้อยของเธอนั้นไม่พอใช้เลยสักนิด
มีผู้นำแฟนคลับของเธอเริ่มกังวลใจแล้ว ทักข้อความส่วนตัวหาจิ่งเสี่ยวหย่า ขอคำอธิบาย
แต่ว่าจิ่งเสี่ยวหย่าไม่ได้ตอบ
ความเงียบของเธอ ทำให้แฟนคลับที่เข้าปกป้องเธอสุดชีวิตกลุ่มนี้ยิ่งเพิ่มความกังวลใจมากขึ้น แค่เวลาสั้นๆหลายวัน ก็มีคนมากมาย เริ่มสั่นไหว สุดท้ายเปลี่ยนสนามรบ
ผ่านไปสองวัน weibo ทางราชการของ 《กลยุทธ์พลิกชีวิต》โพสต์สปอยล์หนังเรื่องแรกของละครนี้แล้ว
เวลาสปอยล์หนังหนึ่งนาที กลับเป็นยอดหัวกะทิที่รวบรวมทั้งหมดในหนังเรื่องนี้ ทั้งหมดทั้งสะใจทั้งร้อนแรง จิ่งหนิงเป็นนักแสดงหลัก การแสดงที่อยู่ในนั้นอย่างดีน่าชมเชย
ไม่เพียงแค่ด้านการแต่งหน้าออกแบบเครื่องแต่งกายอุปกรณ์ประกอบฉากสมบูรณ์แบบมาก แม้แต่ฝีมือในการแสดง ก็โหดเหี้ยมหนาวเหน็บ ควักลูกตาคนด้วย
ทันทีที่สปอยล์หนังฉายออกไป ก็ดึงดูดคนมากมายมามุงดูทันที
เป็นผู้มีบทบาทหลัก จิ่งหนิงกับสวี่เจียมู่ย่อมส่งต่อ weibo นี้ด้วยอยู่ดี
ความร้อนของละครนี้เดิมทีไม่สูง แต่โชคดีที่เวลาช่วงนี้ จิ่งหนิงกับจิ่งเสี่ยวหย่าเปลี่ยนกันถูกเปิดโปง เปลี่ยนการขึ้นการค้นหายอดนิยม ด้วยเหตุนี้ เดิมทีเพียงแค่เว็บซีรีส์ไร้ตัวตนที่ต้นทุนน้อยถ่ายทำน้อยเรื่องหนึ่ง ตอนเวลาสปอยล์หนังฉายออกไป คาดไม่ถึงปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ก็บรรลุถึงร้อยล้าน
ผลคะแนนนี้ ถึงแม้ว่าเป็นหลินซูฝาน ก็เป็นเหตุสุดวิสัยเช่นกัน
ในที่สุดตอนนี้เขาก็รู้ ทำไมในตอนต้นจิ่งหนิงไม่ยอมลบล้างความผิดที่ถูกใส่ร้ายกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรมให้ตนเองเร็วขนาดนั้น ยืนหยัดจะรอจนถึงหลังละครฉายแล้ว
เพราะว่าเรื่องเรื่องหนึ่งถ้าพูดออกมาก็ตัดสินลักษณะของโทษ ทุกคนก็จะไม่สนใจอีก ความร้อนย่อมค่อยๆลดลงมาอย่างแน่นอน
ถึงเวลานั้น แม้ว่าสปอยล์หนังของ《กลยุทธ์พลิกชีวิต》ฉายออกมาอีก ก็จะไม่มีระดับความสนใจที่สูงขนาดนี้แล้ว
แม้ว่าวิธีแบบนี้ในตอนนี้ อาจไม่มีคุณธรรมเล็กน้อยขนาดนั้น แต่วงการนี้เดิมทีก็เป็นเช่นนี้ บางทีมีเพียงแค่ฝีมือยังไม่พอ ยังต้องมีความโชคดีกับกลอุบาย
ผ่านการฝึกฝนพื้นฐานมาสิบกว่าปี หลินซูฝานเข้าใจหลักธรรมนี้มากกว่าใคร
ตอนนี้ ด้านความร้อนของละคร เขาไม่เป็นห่วงแล้ว
เพียงแค่ยังมีความรู้สึกผิดเล็กน้อยต่อจิ่งหนิง ที่จริงแล้ว นี่ก็ถือว่าเหยียบความร้อนของจิ่งหนิงโฆษณาชวนเชื่อละครเรื่องนี้
คิดแบบนี้ หลินซูฝานก็โทรหาจิ่งหนิงเลย
วันนี้จิ่งหนิงยากที่จะมีวันหยุด พักผ่อนหนึ่งวัน อยู่ภายใต้การร้องขอของบางคน ไม่ได้อยู่กองถ่ายเลย แต่คือกลับไปคฤหาสน์บ้านลู่
ในเวลานี้ เธอกำลังนอนอยู่เก้าอี้นอนเอนที่อยู่ในสวนดอกไม้หลังบ้าน ทั้งกินผลไม้ ทั้งอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอย่างไม่สนใจไยดี
วันนี้ลู่จิ่งเซินก็ตั้งใจไม่ไปทำงานด้วยเช่นกัน หยุดอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนเธอ
เห็นมือถือของเธอดังขึ้นแล้ว สายตากวาดไป ก็กวาดเห็นชื่ออยู่ข้างบน
ไม่รอจิ่งหนิงรับสาย ก็คว้ามือถือเข้ามา กดปุ่มรับสาย
เสียงหัวเราะของหลินซูฝานส่งเข้ามา “หนิงหนิงเหรอ ทำอะไรอยู่ล่ะ?”
ลู่จิ่งเซิน “????”
หนิงหนิงหรือ?
เหอะ! เรียกอย่างสนิทสนมเหลือเกินนะ!
ในใจของคนบางคนหึงขึ้นมาเล็กน้อยโดยไม่รู้สาเหตุ เสียงเข้มพูดว่า “มีธุระอะไรหรือ?”
ตรงกันข้าม หลินซูฝานคาดไม่ถึงว่าคนที่รับสายไม่ใช่จิ่งหนิง ทันใดนั้นได้ยินเสียงผู้ชายที่เสียงต่ำเข้มข้นเสียงหนึ่ง ตกกะใจหนึ่งที
ผ่านไปหลายวินาที จึงมีปฏิกิริยากลับมาว่าคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นใคร
สีหน้าล้วนเปลี่ยนแล้ว รีบเปลี่ยนน้ำเสียง “ประ ประธานลู่หรือ?”
“อืม มีธุระอะไรล่ะ?”
ลู่จิ่งเซินไม่อยากพูดกับเขามากกว่านี้แม้แต่ครึ่งคำจริงๆ
เสียเวลาเปล่าๆ!
นี่ก็สองเดือนแล้ว เขายากที่จะมีโอกาสอยู่กับจิ่งหนิงเพียงลำพัง ผ่านโลกทั้งสองที่โรแมนติกสักหน่อย ผู้ชายคนนี้ตกลงไม่มีตาขนาดไหนจึงจะโทรมาในเวลานี้ล่ะ?
หลินซูฝานที่ไม่มีตารู้สึกถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงเขา ทันทีก็มีตาขึ้นมาเลย
“ไม่มี ไม่มีธุระ แค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทักทายเท่านั้น ท่าน พวกท่านตามสบายเถอะ”
พูดจบ วางสายอย่างเร่งด่วน
ลู่จิ่งเซินนี่จึงเก็บมือถือขึ้นมาอย่างพอใจ ส่งให้จิ่งหนิง
จากนั้นปรากฏสีหน้าที่ยิ้มตายี๋ออกมา “ภรรยาจ๋า หลินซูฝานโทรมา ไม่มีเรื่องสำคัญอะไร ผมก็ฉวยโอกาสรับแทนคุณแล้ว”
จิ่งหนิงพลิกตาขาว พูดไม่ออกเล็กน้อย
“คุณรับก็รับไปสิ ทำให้เขาตกใจทำไมล่ะ?”
เธอก็ไม่ได้โง่ คิดว่าเธอดูไม่ออกจริงๆหรือ เมื่อกี้ลู่จิ่งเซินตั้งใจหน้าบึ้งเสียงเข้มพูดอยู่ล่ะ?
ลู่จิ่งเซินคำพูดติดคอ ไม่ได้อธิบาย เห็นเวลาสายแล้ว ก็พูดว่า “ใกล้จะกินข้าวแล้ว พวกเราเข้าไปกินอาหารเที่ยงเถอะ”
จิ่งหนิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก ทั้งสองคนจึงลุกขึ้นไปยังห้องอาหารด้วยกัน
กินข้าวเสร็จ จิ่งหนิงได้รับสายเสี่ยวเหอ พูดว่า weibo ของเธอล้วนถูกทักข้อความส่วนตัวจนระเบิดแล้ว
จิ่งหนิงอึ้งชะงัก ประหลาดใจเล็กน้อย
เพราะว่าบัญชีหลัก Weibo ของเธอโดยปกติก็คือใช้จัดการเรื่องงาน ดังนั้นโดยทั่วไปเธอไม่อยู่ ล้วนส่งให้เสี่ยวเหอจัดการ