วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 22 ขนาดเธอยังโกหก

บทที่ 22 ขนาดเธอยังโกหก

คุณนายยู่ อึ้ง สีหน้าของหวังเสว่เหมยได้เปลี่ยนไป

“เธอพูดบ้าอะไร? ฉันไม่……”

จิ่งหนิง ได้ขัดคำพูดของเธอทันที “คุณยายบุญธรรม หนูกับมู่ยั่นเจ๋อ นิสัยนั้นเข้ากันไม่ได้ ได้เลิกกันไปแล้ว เพราะงั้นยายไม่ต้องมาคิดมาเพราะเรื่องของพวกเราแล้วนะคะ”

คุณนายยู่ ได้ขมวดคิ้ว ได้มองไปที่หวังเสว่เหมยสักพัก

“ยัยหนิงน้อย คำพูดพวกนี้เขาสอนให้เธอพูด?”

จิ่งหนิง ยิ้ม ไม่พูดอะไร ทำเป็นว่าไม่ปฏิเสธอะไร

หวังเสว่เหมยได้โมโหเลยทันที “จิ่งหนิง! เธอพูดอะไรบ้าๆ ออกมา? ฉันไปสอนเธอพูดพวกนี้ออกมาเมื่อไหร่? เป็นเธอที่อยากจะมาอธิบายกับคุณหญิงเอง ยังพูดอีกว่าถ้าพูดแบบนี้ท่านหญิงถึงจะให้อภัยเธอ เธอลืมไปแล้วเหรอ?”

จิ่งหนิงได้ยกมุมปากขึ้นอย่างน่าสมเพช “อ้อ? หนูนั้นไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นทำอะไรผิด ทำไมต้องให้คุณยายบุญธรรมให้อภัยหนู?”

เวลานี้ จิ่งเสี่ยวหย่าก็ได้ควงมู่ยั่นเจ๋อเดินเข้ามา

เธอได้ยืนข้างๆ หยูซิ่วเหลียน ได้มองจิ่งหนิง แล้วทำตัวน่าสงสาร

“พี่สาว เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว พี่ยังจะปากแข็งอีก เรื่องของพี่กับคุณชายเฉิน ใครในบ้านคนไหนที่ไม่รู้? คิดแต่ว่าพูดออกไปแล้วไม่น่าฟังเลยได้ปิดบังให้ แต่ว่าคุณนายยู่ ดีกับพี่แบบนี้ พี่ทำไมยังต้องโกหกท่านด้วย?”

จิ่งหนิงเลิกคิ้ว จู่ๆ ก็เริ่มรู้สึกถึงลางไม่ดีขึ้น

“คุณชายเฉิน? คุณชายเฉินไหน?”

“ยังแกล้งโง่อีก? คุณชายรองของเซิ่งต๋ากรุ๊ป ดังเพราะเป็นตัวที่ทำให้ล่มจมคนนั้นไง! ยี้! แต่ก็โทษฉัน ช่วงเวลานั้นไม่ได้สั่งสอนเธอดีๆ ถึงได้เลี้ยงเธอออกมาแบบไร้ยางอายขนาดนี้ คุณชายมู่ดีๆ ไม่เอา จะต้องไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายพันนั้นให้ได้”

สีหน้าจิ่งหนิง เปลี่ยนไปเล็กน้อย

คุณชายรองของเซิ่งต๋ากรุ๊ปเฉินหย่งต๋า ใครๆ ก็รู้จัก เป็นนักรักของเมืองจิ้น ที่มีชื่อเสียง

มอมเมาอยู่กับเหล้าทั้งวันไม่พอ ข่าวลือบอกว่ายังเสพยา ไม่กี่ปีก่อนได้แต่งงานไปครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นได้ยินมาว่าภรรยาของเขาถูกเขาทุบตีจนพิการ

ตระกูลเฉิน อาศัยในอำนาจเงินและชื่อเสียงของตัวเอง ทำให้เฉินหย่งต๋า ไม่ได้เข้าคุก แต่เป็นการออกค่าชดเชยให้ฝ่ายหญิงไปก้อนหนึ่ง แล้วก็หย่าเพื่อจบปัญหา

เรื่องนี้ได้ดังมากในเมืองจิ้น เพราะงั้นจิ่งหนิง ก็เลยรับรู้มาบ้าง

แต่คิดไม่ถึงว่า หวังเสว่เหมย จะจับเธอไปเกี่ยวพันกับเขา

เธอได้หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “คุณนายจิ่ง พูดอะไรออกมาต้องมีหลักฐานด้วย! คุณเอาตาข้างไหนมาดูว่าฉันนั้นไปอยู่กับเฉินหย่งต๋า?”

“วันนี้เธอนั้นจะเถียงกับฉันให้ถึงที่สุดใช่ไหม? ได้ๆๆ ฉันว่าเธอนั้นไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เซี่ยวเต๋อ ไปเรียกคุณชายเฉิน มา”

พูดจบ ก็ได้ถอนหายใจอีกครั้ง “ไหนๆ เธอก็ไม่ยอมรับ พวกเราก็มาพูดยืนยันกันต่อหน้า จิ่งหนิง เธอบังคับให้ฉันทำแบบนี้เองนะ ถึงตอนนี้ถ้าเธอเสียชื่อเสียง ก็อย่ามาโทษฉัน”

สีหน้าจิ่งหนิงได้เปลี่ยน สายตานั้นได้มองไปยังมู่ยั่นเจ๋อที่อยู่ข้างหลังหวังเสว่เหมย อีกฝ่ายได้หันหน้าเล็กน้อย ได้หลบตาเธออย่างมีพิรุธ

เธอได้หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “ดี ดีมาก ฉันนั้นคิดมาตลอดว่าที่พวกคุณเรียกฉันมาวันนี้ ก็แค่เพื่อที่จะให้พวกคุณนั้นมีทางให้ลง ตอนนี้ดูแล้ว พวกคุณนั้นได้น่ารังเกียจกว่าที่ฉันคิดไว้มาก เพื่อพวกเขาถึงขั้นมาใส่ร้ายฉัน!”

หวังเสว่เหมย ไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา “จะใช่ใส่ร้ายหรือเปล่า คุณชายเฉิน มาแล้วเดียวก็รู้”

ไม่นานเฉินหย่งต๋า ก็ได้มาพร้อมกับจิ่งเซี่ยวเต๋อ

พอเห็นหญิงสายที่ยืนอยู่ตรงหน้า สายตาก็ได้เป็นประกายขึ้นมา

เมื่อก่อนเขาก็ไม่เคยเจอกับจิ่งหนิง แต่เพราะเรื่องเมื่อห้าปีก่อน ก็เคยได้ยินชื่อเสียงของเธอ

ตอนแรกที่จิ่งเซี่ยวเต๋อได้มาเจรจาเรื่องนี้กับเขานั้น เขานั้นไม่ค่อยที่จะพอใจเท่าไหร่ จนกระทั่งได้เห็น รูปถ่ายของเธอ ถึงได้ใจเต้น

และเวลานี้ได้เห็นตัวจริงของเธอ ถึงได้พบว่าสวยกว่าภาพถ่ายเสียอีก ก็ได้ดีใจอย่างห้ามไม่อยู่

แค่รู้สึกว่าวันนี้ดวงโคตรดี เก็บของมาได้ฟรีๆ

หวังเสว่เหมยมองเขา พูดเสียงเข้มว่า “คุณชายเฉิน ฉันขอถามหน่อย คุณนั้นรู้จักคนผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าฉันไหม?”

เฉินหย่งต๋ามองไปยังใบหน้าที่สะอาดสดใสของจิ่งหนิง ใบหน้าก็ได้มีรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ออกมา

“รู้จัก รู้จักอยู่แล้ว ไม่เพียงรู้จัก พวกเรานั้นยังสนิทกันมากๆ หนิงหนิงเธอว่าจริงไหม?”

ถูกเรียก “หนิงหนิง” จิ่งหนิงฟังแล้วก็ขนลุกขึ้นมา

เธอมองเฉินหย่งต๋าด้วยความโกรธ พูดออกไปอย่างเย็นชาว่า “คุณเฉิน ฉันกับคุณนั้นไม่เคยที่จะเจอกันมาก่อน ไม่ทราบว่าเรานั้นสนิทกันตอนไหน?”

เฉินหย่งต๋าได้ถูมือของตัวเอง หัวเราะแล้วพูดว่า “แน่นอนก็ต้องจากข้างนอกจนข้างใน ตั้งแต่หัวจรดเท้าที่ได้คุ้นเคย……”

หวังเสว่เหมยกระแอมออกมาเบาๆ

สีหน้าของคุณนายยู่ได้เปลี่ยนไป ใบหน้านั้นได้ดูไม่ดีมากๆ

เฉินหย่งต๋าถึงได้รู้สึกตัวว่าตนนั้นได้ทำตัวเสียมารยาท ก็ได้รีบเก็บใบหน้าที่หื่นกามไป หัวเราะแล้วพูดว่า “พูดเล่น ก็แค่ล้อเล่น ทุกคนอย่าถือสาอะไร”

พูดจบ ก็ได้มองจิ่งหนิงแบบออดอ้อน “หนิงหนิง พอได้แล้ว ฉันรู้เพราะว่าฉันนั้นงานยุ่งถึงได้ไม่มีเวลามาใส่ใจเธอ เธอนั้นก็เลยโมโห แต่ว่าที่คนอื่นเขาพูดต่อกันมานั้นถูก สามีภรรยาทะเลาะกันที่หัวเตียงดีกันที่ปลายเตียง เธอนั้นก็งอนมาหลายวันแล้ว เลิกงอนแล้วได้ไหม? กลับไปกับฉันเถอะ!”

จิ่งหนิงโมโหจนถึงขั้นยิ้มอย่างเย็นชาก็ยิ้มไม่ออก ใบหน้าได้มีความรังเกียจแล้วมองเขา

“เฉินหย่งต๋า พูดแบบนี้ออกมา ต้องรับผิดชอบที่พูดด้วยนะ! ฉันนั้นยังไม่รู้เลยว่าพวกเรานั้นได้อยู่ด้วยกันตั้งแต่ตอนไหน? แล้วก็ไปเป็นสามีภรรยาตั้งแต่ตอนไหน?”

เฉินหย่งต๋าได้ยินก็ขมวดคิ้ว

“หนิงหนิง เธอจะทะเลาะกับฉันงอนฉันยังไงก็ได้ แต่พูดคำนี้ออกมาไม่ได้นะ พอเรานั้นได้อยู่ด้วยกันมาสองปีแล้ว ตอนแรกเธอกลับประเทศก็เพื่อฉันไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ถึงได้พูดคำพูดที่ทำร้ายความรู้สึกออกมาแบบนี้?”

“โกหก! พวกเราไม่เคยที่จะเจอหน้ากันเลย!”

“เห้ย เธอพูดออกมาแบบนี้ฉันอารมณ์ไม่ดีแล้วนะ! ก็ได้ ไหนๆ ถ้าเธอไม่ยอมรับ งั้นฉันก็คงต้องเอาหลักฐานออกมาแล้ว”

เขาพูดจบ ก็ได้เอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า เลื่อนไปไม่กี่ครั้ง ก็ได้โชว์จอไปทางคุณนายยู่

“คุณนาย คุณดูให้ชัดๆ ในนี้เป็นรูปของผมกับจิ่งหนิงทั้งหมด ที่ผ่านมานั้นพวกไม่นอนด้วยกันไม่สามสี่ร้อยครั้ง ก็น่าจะมีร้อยสองร้อยครั้งแล้ว ทุกครั้งเธอนั้นชอบถ่ายรูปบนเตียง เห้อ! ผมนั้นก็ไม่มีข้อดีอะไร แต่ก็ชอบเอาอกเอาใจผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่ผมชอบ นี่ไง ถ้าคุณนั้นดูไม่พอ ต่อจากนี้ก็มีต่อ อ้อ จริงด้วย ที่โปรไฟล์ของผมก็มี คุณจะดูไหม?”

เขาพูดไป แล้วก็เลื่อนหน้าจอไป

คุณนายยู่จะทนต่อไปได้ยังไงไหว สีหน้านั้นได้ดูไม่ได้มากๆ

จิ่งหนิงรีบอธิบาย “คุณยายบุญธรรม ยายอย่าไปฟังที่เขาโกหก หนูไม่ได้……”

“พอได้แล้ว!”

คุณนายยู่ก็ได้พูดออกมาอย่างน่ากลัว แล้วหันหน้าไปมองจิ่งหนิง

“หนิงหนิง หนูพูดความจริงกับยาย! หนูได้ไปเกี่ยวข้องกับคนสาระเลวพันธุ์นี้ไหม?”

แววตาของจิ่งหนิงได้หดหู่ลง ก็ได้พูดอย่างหนักแน่นว่า “ไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน”

“จิ่งหนิง! บนอกซ้ายของเธอมีไฝสีแดง ใต้เท้าก็มีปานรูปดวงจันทร์ ถ้าพวกเราไม่เป็นอะไรกัน ฉันจะรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง?”

เฉินหย่งต๋าได้รีบพูดออกมาเสียงดัง

สีหน้าของจิ่งหนิงได้เปลี่ยนไป

หันไปดู เป็นไปอย่างที่คิดคุณนายยู่อึ้งอยู่ตรงนั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง

สำหรับคุณยายบุญธรรมที่เห็นเธอตั้งแต่เล็กยัดโตแล้ว ตอนที่เธอยังเด็กคนที่ไปอาบน้ำให้เธอกับพยาบาลนั้นก็เป็นเขา

เพราะงั้นร่างกายเธอมีรอยปานอะไร เขาจะไม่รู้ได้ยังไง?

แล้วก็รอยปานที่อยู่ที่ลับแบบนั้น นอกจากคนใกล้ชิดที่รู้แล้ว คนของตระกูลจิ่งนั้นก็ไม่ได้รู้อะไรมากนัก

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset