บทที่ 234 ช่วยเหลือตัวเอง
โม่หนานและป้าหลิวนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น
โม่หนานหงุดหงิดเล็กน้อย เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่า จิ่งหนิงวางแผนกับเธอเองทั้งหมด แต่สุดท้ายจิ่งหนิงกลับทิ้งเธอไว้ข้างหลังเสียดื้อๆ
ป้าหลิวแค่ไม่คาดคิดว่า จะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับจิ่งหนิง?
ประตูห้องนั่งเล่นถูกผลักเปิดออก พร้อมกับชายหนุ่มรูปหล่อที่ปรากฏตัวขึ้น
“ท่านประธาน!”
“นายท่าน!”
ทั้งสองผุดลุกขึ้นพร้อมกัน
ดวงตาอันเฉียบคมของลู่จิ่งเซินกวาดมองพวกเขาอย่างเย็นชา จากนั้นจึงเดินผ่านหน้าพวกเขาไป
“ผลของการติดตามเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ท่านประธาน! นี่คือผลการติดตามที่ตรวจสอบเมื่อสิบนาทีที่แล้ว นายหญิงน่าจะถูกแท็กซี่สีเทาลักพาตัวไป
ตอนนี้ฉันเจาะเข้าระบบเฝ้าระวังของเมืองได้แล้ว แต่ยังไม่พบแม้แต่เงาของรถคันนั้น”
ลู่จิ่งเซินหยิบไอแพทขึ้นมาดู นัยน์ตาของเขาเย็นชา
โม่หนานอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นเขาลุกขึ้นและเดินออกไปด้านนอก
เปลือกตาของเธอกระตุก และรีบตามเขาออกไปทันที
“ท่านประธาน ฉันไปด้วยค่ะ”
ผ่านไปเพียงไม่กี่นาที
รถยนต์ของลู่จิ่งเซินขับเข้าสู่ถนนอานซานด้วยความเร็วสูง
ในรถ ลู่จิ่งเซินหยิบแผนที่ขึ้นมา พยายามหาเส้นทางในรัศมีใกล้เคียงที่รถคันนั้นจะสามารถขับไปได้
“โม่หนาน ถ้าคุณพาคนไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างทางสังเกตอาคารที่ถูกทิ้งร้างไว้ให้ดี อีกฝ่ายไม่สามารถลักพาตัวจิ่งหนิงเข้าไปซ่อนในพื้นที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านได้ มันจะโจ่งแจ้งเกินไป ดังนั้นอีกฝ่ายจึงต้องใช้สถานที่ส่วนตัวและเงียบสงบ
แล้วก็ อย่าลืม! อีกฝ่ายมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนรถกลางคัน อย่าสนใจเพียงแค่รถคันนั้น ต้องสังเกตรถคันอื่นๆ ระหว่างทางด้วย
นอกจากนี้ให้โทรหาหมอหลินด้วย ให้เขาเตรียมตัวไว้ ตอนนี้จิ่งหนิงหายตัวไปเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว เธออาจจะได้รับบาดเจ็บ
ฉันจะไปทางตะวันตกเฉียงใต้!มีอะไรก็ติดต่อมาได้ทุกเมื่อ”
ลู่จิ่งเซินออกคำสั่งอย่างใจเย็นและรวดเร็ว โม่หนานพยักหน้ารับ จากนั้นจึงรีบลงจากรถ ย้ายไปขับรถอีกคัน และมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
โทรศัพท์ดังขึ้น ป้าหลิวโทรมา
ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว ทันใดนั้นความอดทนของเขาก็หมดลง
“มีอะไร?”
“นายท่าน… พวกเราต้องแจ้งตำรวจไหมคะ!”
ลู่จิ่งเซินชะงัก
“ยังไม่ได้แจ้งตำรวจอีกหรือ?”
“ยัง ยังค่ะ!”
“งั้นก็แจ้งเสีย!”
“อา?ค่ะ”
สายโทรศัพท์ถูกตัด ชายคนนั้นที่นั่งอยู่บนเบาะรถ ทอดตามองไปด้านหน้า พร้อมกับยกมุมปากขึ้นอย่างโหดเหี้ยม
จิ่งเสี่ยวหย่า เธอควรภาวนาขอให้อย่าเป็นเธอ!
ไม่อย่างนั้น ฉันจะทำให้เธอเข้าใจว่า ตายทั้งเป็นคืออะไร!
…
เมื่อจิ่งหนิงตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเธอเองยังไม่ตาย
ภายในใจเกิดความรู้สึกโชคดีขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ แต่วินาทีถัดมา เมื่อเธอมองไปรอบๆ เธอแทบอยากจะถอดคำพูดนั้นทิ้ง
นี่มันบ้าอะไรกัน! ที่นี่คือที่ไหน?
เธอเห็นเพียงหน้าผาสูงชันอยู่รายรอบ ตัวเธอถูกแขวนอยู่บนกิ่งไม้ที่ดูราวกับจะหักในไม่ช้านี้ ร่างของเธอห้อยอยู่ในอากาศ ด้านล่างเป็นคลื่นทะเลลูกใหญ่
เห็นได้ชัดว่า แม้ว่าเธอจะไม่ได้ตายจากการกระโดดลงจากที่สูง แต่สภาพเธอตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกันเลย
กิ่งไม้ที่เล็กเช่นนี้ เพียงแค่น้ำหนักของเธอก็จะทำให้มันหักแล้ว หากเธอขยับตัวแม้แต่นิดเดียว คงได้ตกลงไปในคลื่นทะเลด้านล่างเป็นแน่
คลื่นน้ำด้านล่าง สาดกระเซ็นจนเปียกปอนขากางเกงของเธอ ใกล้จนได้กลิ่นชื้นของน้ำทะเลลอยเข้ากระทบกับจมูกของเธอ
โอ๊ย!
ไม่รู้ว่านี่ควรเรียกว่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนหรือเปล่า
ถ้าเธอรู้ว่าจิ่งเสี่ยวหย่าจะรีบลงมือเร็วแบบนี้ เธอคงจะให้โม่หนานอยู่ใกล้ๆ
มันคงจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
จิ่งหนิงถอนหายใจ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับความล้มเหลวของเธอ
เธอมองไปทางซ้ายและขวา มองไม่เห็นพื้นที่เธอสามารถวางเท้าลงไปได้
โชคดีที่มีโขดหินขนาดใหญ่ยื่นออกมาจากด้านบน เธอลองเอื้อมมือออกไป หินนั้นค่อนข้างมั่นคง ไม่น่าจะมีปัญหาในการแบกน้ำหนักของเธอ
ดังนั้น เธอจึงขยับเข้าใกล้อย่างระมัดระวัง เธอคว้าหินก้อนนั้นแน่น และแล้วเธอก็หลุดออกจากกิ่งไม้ที่ใช้ห้อยเธออยู่กลางอากาศ
แขนของเธอกระทบเข้ากับหินอย่างแรง รู้สึกเจ็บเล็กน้อย
เธอขบฟันแน่น โชคดีที่เธอเคยเรียนปีนหน้าผาที่ต่างประเทศมาก่อน ยังพอมีกำลังแขนอยู่บ้าง
เพียงแต่ว่าในจุดที่เธออยู่ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปีนขึ้นไป และยิ่งไปกว่านั้น พละกำลังของเธอในตอนนี้ ก็ไม่เหมาะที่จะปีนขึ้นไป
เมื่อนึกได้ดังนี้ เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอด และกวาดมองไปรอบๆ อีกครั้ง และพบก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากซ้ายมือของเธอมาก
ดูเหมือนจะทำให้เธอได้หยุดพักช่วงสั้น ๆ
แต่จะว่าไป หินก้อนนั้นก็อยู่ไกลพอสมควร เธอคงเอื้อมไปไม่ถึง
หลังจากขบคิดสักพัก เธอจึงเอื้อมไปคว้าก้อนหินด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างใช้ปลดเข็มขัดของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว
โชคยังดีที่เสื้อผ้าที่เธอใส่ในวันนี้ มีเข็มขัดหนังอยู่ด้วย
เข็มขัดเส้นนี้ไม่เพียงแต่คุณภาพดี ขาดยาก แต่ยังยาวพอที่จะพันรอบหินก้อนนั้นได้
จิ่งหนิงสูดหายใจเข้าเต็มปอด พร้อมกับกระพริบตาขับไล่ความกังวลและความตื่นตระหนกภายในใจ
จากนั้น เธอจับสายเข็มขัดแน่น ใช้แรงเหวี่ยงตัวเองไปด้านหน้า
เกิดแรงกระชากอย่างแรงจนแทบจะฉีกแขนทั้งสองข้างของเธอออก แต่เธอยังคงรั้งร่างของเธอไว้ได้ โดยที่ตัวของเธอแกว่งไปมากลางอากาศ
จิ่งหนิงมองดูระยะห่างระหว่างเธอกับหน้าผา แรงของเธอมีไม่มากพอที่จะพาตัวเองไปยังหน้าผาได้
วิธีเดียวของเธอในตอนนี้ คือใช้แรงเหวี่ยงจากเอวของเธอ เหวี่ยงตัวเองไปบนหน้าผา
ขอแค่เท้าของเธอตกลงสู่พื้น เธอยังพอที่จะมีวิธีแก้มัดนี้ได้ จากนั้นก็หนีออกจากสถานที่แห่งนี้ เพียงเท่านี้เธอก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
แต่ในขณะนี้ เธอรู้สึกเจ็บฝ่ามืออย่างบอกไม่ถูก
ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างขาดออกจากกัน เจ็บจนแทบจะทนไม่ได้
ใบหน้าของจิ่งหนิงซีดเผือด เธอเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบนด้วยความยากลำบาก
เห็นเพียงท้องฟ้าสีครามเหนือศีรษะ ตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรู่ มีหมอกบางๆ ลอยอยู่ในอากาศ
บนฝ่ามือของเธอมีรอยเลือดที่เกิดจากรอยตัดสองขีด คิดว่าคงเป็นผลจากการที่เธอออกแรงไปเมื่อครู่นี้
เธอผงะไปเล็กน้อย เพิ่งจะสังเกตเห็นหัวเข็มขัดที่อยู่ในมือของเธอ ซึ่งขอบของหัวเข็มขัดนั้นคมมาก เนื่องจากมีการออกแบบสไตล์พังค์ จึงใช้วัสดุที่ทำจากโลหะ ซึ่งเกิดแสงสะท้อนสีเงินออกมาเมื่ออยู่ภายใต้แสงของดวงอาทิตย์
เธอกัดฟันแน่น พยายามที่ดึงหัวเข็มขัดนั้นออกมา
แต่ด้วยแรงของเธอ ไม่ทางที่จะดึงหัวเข็มขัดออกมาได้แน่
ในตอนนี้ เธออดไม่ได้ที่จะก่นด่าถึงคุณภาพชั้นยอดของแบรนด์ดังเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่ามันถูกเย็บติดเข้ากับด้านบนของเข็มขัด ไม่ว่าจะทำอย่างไรเธอก็แกะไม่ออก
เธอถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง ไม่เคยคิดเลยว่า วันหนึ่งเธอจะตกอยู่ในสถานการณ์อันยากลำบากเช่นนี้
สุดท้ายแล้วเธอควรเลือกที่จะพาตัวเองออกไปจากที่นี่ หรือหยุดรอให้คนมาพบ?
อุปกรณ์สื่อสารทั้งหมดของเธอ ทั้งโทรศัพท์มือถือและนาฬิกาได้หายไปหมดแล้ว รอให้ใครมาช่วย คงไม่ต่างอะไรกับปล่อยให้เป็นไปตามเวรตามกรรม
ตอนนี้เธอยังมีแรงอยู่เล็กน้อย แม้ว่าการช่วยตัวเองจะค่อนข้างอันตราย แต่ขอเพียงแค่โชคอยู่ข้างเธอ และได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เธออาจจะไม่ต้องเสียเลือดจนเสียชีวิต
แต่ถ้าเธอเลือกที่จะรออยู่ที่นี่ต่อไป ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอจะมีแรงพอที่จะรอให้ใครมาพบได้หรือไม่ เธออยู่ใต้หน้าผาลึกกว่าสิบเมตร ใครจะคิดว่าเธอถูกมัดอยู่ที่นี่?
ดังนั้น แทนที่จะปล่อยให้เป็นไปตามเวรตามกรรม ลองเสี่ยงดูสักหน่อยก็ไม่เสียหาย
พระเจ้าไม่ปล่อยให้เธอตายในห้องลับนั้น และเขาก็คงจะไม่ปล่อยให้เธอตายที่นี่อย่างแน่นอน
เดิมทีจิ่งหนิงเป็นคนที่ไม่ชอบนั่งรอนอนรอ ไม่มีทางที่เธอจะนั่งรอความตายอยู่ตรงนี้แน่
พอคิดได้แล้ว เธอก็ออกแรงขึ้นอีกครั้ง และเหวี่ยงตัวเองขึ้นไปยังปลายหน้าผา