บทที่ 238 คลิปเสียงถูกเปิดเผย
จิ่งหนิงไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีใดในการเกลี้ยกล่อมคนเหล่านั้น ไม่ให้พวกเขาเปิดเผยข่าวเรื่องการพบตัวเธอ
แต่เนื่องจากการเจรจาเป็นไปอย่างเรียบร้อย เธอจึงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว
ดังนั้น ในคืนนั้น จิ่งหนิงใช้โอกาสที่ไม่มีใครอยู่ ขอให้โม่หนานปลอมตัวเป็นเธอ และหลบหนีออกมาจากโรงพยาบาลอย่างเงียบๆ โดยใช้ประโยชน์จากความมืดของตอนกลางคืน เธอกลับไปยังคฤหาสน์บ้านลู่
ลู่จิ่งเซินไม่ได้คัดค้านอะไร อาการบาดเจ็บของจิ่งหนิงไม่ได้ร้ายแรงแล้ว ที่บ้านก็มีแพทย์อยู่ประจำแล้ว ซึ่งแพทย์ที่บ้านก็มีฝีมือไม่ได้น้อยไปกว่าที่โรงพยาบาลเลย
หลังจากกลับบ้าน เขาก็มีคำสั่งให้คนรับใช้ส่วนใหญ่หยุดงานหนึ่งสัปดาห์ เหลือเพียงป้าหลิวและคนรับใช้อีกคนที่ดูแลครัวมานาน
ป้าหลิวไม่รู้แผนของพวกเขา แต่เธอไม่ใช่คนช่างซัก ลู่จิ่งเซินไม่พูด เธอก็ไม่กล้าถาม
ด้านนอกมีข่าวลือเกี่ยวกับจิ่งหนิงถูกลักพาตัว
ทุกคนกำลังคาดเดาว่าผู้ลักพาตัวคือใคร และมีจุดประสงค์อะไร?
บางคนก็บอกว่าเป็นคนในที่ทำงาน บางคนก็บอกว่าเป็นคนที่ไม่พอใจกับการเปิดตัวอันยิ่งใหญ่ของจิ่งหนิง
ยังมีคนบอกอีกว่า เรื่องนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของเธอ
ท้ายที่สุดแล้ว ในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่เดือน มีการค้นหามากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของจิ่งหนิง ซึ่งสร้างความสับสน และไม่ชัดเจนเป็นอย่างมาก
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคนภายนอกจะพูดอย่างไร ทุกคนต่างก็มีท่าทีที่เหมือนกันอยู่
นั่นก็คืออยากรู้อยากเห็นและเห็นใจเธอ
เพราะไม่ว่าจะเป็นใคร ที่ต้องมาพบเจอกับเรื่องแบบนี้ หลังจากมีชื่อเสียงได้ไม่นาน
ก็ต้องเกิดความรู้สึกเห็นใจเป็นเรื่องธรรมดา?
แต่น่าแปลก จากการสันนิษฐานมากมายบนโลกอินเทอร์เน็ต กลับไม่มีใครคาดเดาได้เลยว่าเหตุการณ์นี้เป็นฝีมือของจิ่งเสี่ยวหย่า
เป็นไปได้ว่าภาพลักษณ์ที่ใสซื่อและเปราะบางของจิ่งเสี่ยวหย่าได้ติดตาของผู้คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะเธอจะมีเรื่องอื้อฉาวมากมาย คนส่วนใหญ่เพียงแค่คิดว่าเธออาจไม่ได้เปราะบางและใสซื่ออย่างหน้ากล้องก็เท่านั้น เรื่องการลักพาตัว? ไม่มีทางเป็นฝีมือของเธออย่างแน่นอน
ในคืนถัดมา ผู้ใช้ชื่อดังในเวยป๋อก็ปล่อยคลิปเสียงช่วงหนึ่งออกมา
คลิปเสียงยาวมาก มีความยาวเกือบสิบนาที แม้ว่าเสียงจะถูกดัดแปลงแล้ว แต่ก็ยังฟังออกว่า น่าจะเป็นเสียงของหญิงสาวตัวเล็ก
เธอให้รายละเอียดว่า เธอถูกจิ่งเสี่ยวหย่าชักจูง ให้ทำร้ายจิ่งหนิง
ไม่เพียงแต่แอบถ่ายเธอเท่านั้น แต่ยังวางยาในอาหารและเครื่องดื่มของเธอและผู้กำกับหลินซูฝาน ตั้งใจที่จะทำให้ทั้งสองได้เสียกัน
ไม่เพียงเท่านั้น การบันทึกยังพูดถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในกองถ่าย
ตัวอย่างเช่น พนักงานที่ซื้ออาหารกล่อง จงใจจัดอาหารกล่องที่แย่ที่สุดให้กับจิ่งหนิง
และเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ในช่วงมีประจำเดือน ก็เตรียมแค่เครื่องดื่มเย็นๆ เท่านั้น และเมื่อเธอถามถึงเครื่องดื่มร้อนก็บอกว่าไม่มีน้ำร้อนเป็นต้น
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อรวมๆ กันแล้ว ก็พาให้ผู้คนจำนวนมากเกิดความไม่พอใจขึ้น
ทันทีที่การบันทึกนี้ถูกเผยแพร่ออกไป แฟนคลับทั้งหมดต่างก็ตกตะลึง
ชาวเน็ตไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า ผู้หญิงที่ต่อหน้าดูสุภาพและอ่อนโยนอย่างจิ่งเสี่ยวหย่า จะกลั่นแกล้งคนอื่น และทำเรื่องเลวร้ายได้มากมายขนาดนี้
โดยเฉพาะเรื่องการวางยา จิ่งหนิงเคยออกมาให้สัมภาษณ์และให้คำชี้แจงเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว แต่กลับไม่มีใครเชื่อเธอ
แต่เมื่อถูกบุคคลที่ยามยกเรื่องนี้ขึ้นมา ความน่าเชื่อถือของเธอก็เพิ่มมากขึ้น
แต่ในกรณีนี้ หลายคนก็ยังคงตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของคลิปเสียงนั้น
เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คลิปเสียงก็ไม่ได้น่าเชื่อถือเท่าวิดีโอ เนื่องจากไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูด อีกอย่างถ้ามีคนอยากออกมาให้ร้ายคนอื่น เพียงแค่ออกมาไม่กี่ประโยคไม่ง่ายไปหรือ?
คำถามแบบนี้เริ่มต้นจากคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น และค่อยๆขยายออกไป จากนั้นก็มีคนตั้งคำถามมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะแฟนคลับของจิ่งเสี่ยวหย่าที่ออกมาเรียกร้องให้คนที่อยู่ในคลิปเสียงออกมาเปิดเผยตัว
ผลก็คือ บ่ายวันนั้น หญิงสาวที่ชื่อเสี่ยวขุยออกมายอมรับว่า เธอเป็นเจ้าของคลิปเสียงนั้น
เสี่ยวขุยเป็นผู้ช่วยจิ่งเสี่ยวหย่า เธออยู่กับจิ่งเสี่ยวหย่ามาหลายปี แฟนคลับของจิ่งเสี่ยวหย่าทุกคนทราบเรื่องนี้ดี
เพราะก่อนหน้านี้ ทุกครั้งที่มีการประชุมหรือการรับส่งที่สนามบิน มักจะเห็นเธออยู่กับจิ่งเสี่ยวหย่าทุกครั้ง
ดังนั้น เสี่ยวขุยจึงเป็นที่รู้จักของใครหลายคน
เมื่อเห็นว่าเธอออกมาเปิดเผยตัว ทุกคนจึงรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ไม่เพียงแค่ชาวเน็ตเท่านั้นที่รู้สึกประหลาดใจ แต่แม้แต่จิ่งหนิงที่พักผ่อนอยู่ที่บ้านในช่วงสองวันที่ผ่านมาก็ยังรู้สึกประหลาดใจ
ก่อนหน้านี้เธอได้ขอให้โม่หนานพาตัวเสี่ยวขุยมา เพียงเพื่อต้องการที่จะเค้นหลักฐานที่จิ่งเสี่ยวหย่าทำร้ายเธอออกมาจากปากของเสี่ยวขุย ส่วนเรื่องอื่นเธอก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
เธอรู้ว่า เสี่ยวขุยภักดีต่อจิ่งเสี่ยวหย่ามาก เพราะแม่ของเธอป่วย
ดังนั้น ตามเงื่อนไขของสัญญา จึงถูกระบุไว้ว่าจิ่งเสี่ยวหย่าจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการรักษาของแม่เธอ
แต่นอกเหนือจากนั้น ทั้งสองก็ไม่ได้มีอะไรข้องเกี่ยวกัน
เพื่อป้องกันการถูกโยงเข้ากับเรื่องนี้ จิ่งหนิงจึงให้คนดัดแปลงเสียงของเสี่ยวขุย
เธอกลัวว่าเมื่อคลิปเสียงถูกเผยแพร่ไปแล้ว เสี่ยวขุยจะถูกคนจับได้ และส่งผลกระทบต่อชีวิตของเธอ
ไม่คาดคิดเลยว่า เสี่ยวขุยจะออกมายอมรับด้วยตัวเองแบบนี้!
จิ่งหนิงตกใจ และวิ่งไปดูวิดีโอที่เสี่ยวขุยให้สัมภาษณ์
เด็กหญิงตัวเล็กที่มีใบแบบตุ๊กตา แม้ว่าเธอจะไม่ได้สวยมาก แต่ก็ยังถือว่าหน้าตาดีในระดับหนึ่ง ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นหญิงงามของตำบลเลยทีเดียว
เธอมองไปที่กล้อง และพูดทีละคำอย่างจริงจัง: “ในช่วงแรกเนื่องจากแม่ของฉันป่วย ฉันยอมให้จิ่งเสี่ยวหย่าชักนำ ฉันทำผิดพลาดมากมาย ฉันอยากใช้พื้นที่ในส่วนนี้กล่าวคำขอโทษ ที่หลอกลวงจิ่งหนิงและชาวเน็ตทั้งหมดค่ะ
ที่ฉันออกมาวันนี้ เพราะในช่วงเวลาที่วิกฤตที่สุด จิ่งเสี่ยวหย่าทอดทิ้งฉัน ตรงกันข้ามจิ่งหนิงที่ถูกฉันทำร้าย กลับหยิบยื่นเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ฉันรักษาแม่
ดังนั้น หลังจากวันนี้ หลายคนอาจด่าว่าฉัน และอาจต้องรับโทษทางอาญา แต่ฉันก็ขอยืนหยัดด้วยความเต็มใจ
แม่ฉันเคยบอกว่า แม้ว่าเราจะยากจน แต่เราก็อย่าติดหนี้บุญคุณใคร แต่ถ้าหากเราคิดหนี้บุญคุณแล้ว เราจำเป็นต้องชดใช้ แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าคดีลักพาตัวนี้เป็นฝีมือของจิ่งเสี่ยวหย่าหรือไม่ แต่อย่างน้อยเรื่องก่อนหน้านี้ ฉันสามารถอธิบายให้ทุกคนฟังได้”
เด็กหญิงตัวเล็กๆ ในวิดีโอมีดวงตาที่แน่วแน่ ใบหน้าเธอจริงจัง ไม่แสดงความขลาดกลัวแม้แต่น้อย ต่างจากเสี่ยวขุยคนก่อนอย่างสิ้นเชิง
จิ่งหนิงเอนกายบนโซฟา และถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
ลู่จิ่งเซินเพิ่งหยิบจานผลไม้ขึ้นมา และเห็นเธอถอนหายใจกับคอมพิวเตอร์ จึงเดินเข้าไปหา และคีบแคนตาลูปชิ้นหนึ่ง ยื่นเข้าปากเธอ
“ดูอะไรอยู่?ทำไมถึงถอนหายใจ?”
จิ่งหนิงเอียงหน้าจอ และเล่นวิดีโอให้เขาดูอีกครั้ง
หลังจากที่ลู่จิ่งเซินดูจบ เขาก็เงียบไปชั่วขณะ
ผ่านไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นว่า “เธออายุยังน้อย แต่กล้าหาญไม่เบา”
จิ่งหนิงพยักหน้า และถอนหายใจอีกครั้ง:“น่าเสียดาย ที่เธอประเมินอำนาจและพลังของมหาชนต่ำไป”
คนอย่างจิ่งเสี่ยวหย่า เป็นได้เพียงแค่มดตัวน้อยสำหรับลู่จิ่งเซิน
แต่สำหรับเสี่ยวขุยแล้ว เธอกลับเป็นภูเขาลูกใหญ่ทีเดียว
เพียงแค่จิ่งเสี่ยวหย่าต้องการ เสี่ยวขุยก็แทบจะสามารถตายแทนเธอได้
บางครั้งชีวิตก็ไม่เป็นธรรม โลกของผู้ใหญ่ มักจะโหดร้ายเสมอ