บทที่ 243 พลิกสถานการณ์
บนอินเทอร์เน็ตข่าวเกี่ยวกับจิ่งเสี่ยวหย่าจ้างคนลักพาตัวจิ่งหนิงยังคงดุเดือด
ด้วยคลิปเสียงก่อนหน้านี้กับคำให้การของเสี่ยวขุยเลยยิ่งทำให้เป็นประเด็นร้อน
ในตอนนี้สามารถพูดได้เลยว่าจิ่งเสี่ยวหย่ามีชื่อเสียงเสื่อมเสียมากที่สุดในวงการ ถึงแม้มีคนยืนเคียงข้างเชื่อว่าเธอเป็นคนบริสุทธิ์ แต่หลักฐานสอดคล้อง คนส่วนใหญ่จึงเชื่อสิ่งที่ตัวเองเห็นมากกว่า
ด้วยเหตุนี้คำด่าทอต่อจิ่งเสี่ยวหย่าบนอินเทอร์เน็ตเลยยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนบ่ายจิ่งหนิงกำลังนอนพักผ่อนอยู่ในบ้าน และกำลังรับสายจากโม่หนาน
บอกว่ามีคนไปที่สถานีตำรวจ ต้องการพบกับคนขับรถแซ่หลิว ฝ่ายตรงข้ามเป็นทนายความอาวุโสที่มีชื่อเสียงในวงการทนาย
ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินคดี คนขับรถมีสิทธิ์พบกับทนาย ด้วยเหตุนี้พวกเขาเลยไม่ห้ามปราม
เรื่องนี้มีความเกี่ยวพันหลายอย่างมาก เมื่อเหล่าสื่อมวลชนทราบก็รีบมาเฝ้าอยู่ข้างนอกสถานีตำรวจ คิดอยากขุดคุ้ยเบื้องหลังของข่าวนี้
ดังนั้นในตอนนี้จิ่งหนิงไม่สามารถออกหน้า แม้แต่ลู่จิ่งเซินทางที่ดีที่สุดอย่าออกหน้าเหมือนกัน
เธอครุ่นคิดอยู่สักพัก และพูดว่า : “ให้พวกเขาพบกันเถอะ ไม่เป็นไร”
โม่หนานรู้สึกกังวลเล็กน้อย
“ถ้าหากคนขับรถเปลี่ยนคำพูด ในตอนนั้นคงส่งผลกระทบด้านลบต่อคุณแน่”
จิ่งหนิงยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“เธอวางใจเถอะ ในเมื่อฉันตัดสินใจอยากทำลายจิ่งเสี่ยวหย่าถึงที่สุดแล้ว แน่นอนว่าฉันไม่ปล่อยเธอไว้หรอก”
เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้ โม่หนานก็วางใจเล็กน้อย
ส่วนด้านนี้ ถงซูหาคนช่วยจัดการคนขับรถคนนั้นได้สักที เขาถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
คิดไม่ถึงตอนกลางคืน ทางสถานีตำรวจประกาศข่าวสารขึ้น
ประกาศว่าทางตำรวจจับกุมคนที่ลักพาตัวจิ่งหนิงในตอนนั้นคนหนึ่งได้แล้ว อีกอย่างยังแนบรูปภาพและที่อยู่ของห้องใต้ดินนั้นด้วย
ในใบประกาศเขียนไว้อย่างชัดเจน ถึงแม้พวกเขาพยายามอย่างสุดความสามารถตามหาสถานที่นี้พบ แต่เหมือนกับฝ่ายตรงข้ามไหวตัวทันล่วงหน้า จึงพากันหลบหนีหมดแล้ว
กล่าวโดยสรุป ยังไม่พบตัวจิ่งหนิง
เมื่อถงซูเห็นรูปภาพเหล่านั้นก็ตกใจจนเกือบวิญญาณหลุดหาย
และรีบไปหาจิ่งเสี่ยวหย่าเพื่อซักถามความจริง
ตอนที่เสี่ยวจิ่งหย่าเห็นรูปภาพที่ประกาศบนอินเทอร์เน็ตก็ถึงกับตกใจนิ่งอึ้ง
เป็นไปไม่ได้!
ทั้งที่เธอได้ทำลายสถานที่ และร่องรอยทั้งหมดของการปรากฏตัวของเธอกับจิ่งหนิงเรียบร้อยแล้ว
แล้วพวกเขาถ่ายได้ยังไงกัน?
ภายในรูปสามารถเห็นห้องใต้ดินและห้องกักขังจิ่งหนิง ซึ่งเหมือนกันมาก
บนเตียงผ่าตัดที่อยู่ตรงกลางสามารถเห็นร่องรอยของคนตะเกียกตะกายอยู่
และรูปภาพสุดท้ายคือเป็นรูปแหวนวงหนึ่ง
ทางสถานีตำรวจบอกว่า แหวนวงนี้พบเจอที่สถานที่เกิดเหตุ เมื่อผ่านการซักถามคนใกล้ตัวของจิ่งหนิงพบว่า ไม่ใช่แหวนของเธอ
นั้นก็หมายความว่า แหวนวงนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นของคนที่ลักพาตัว
รูปภาพของแหวนชัดเจนมาก ข้างบนมีเพชรเม็ดหนึ่งประกายแวววับอยู่
จิ่งเสี่ยวหย่ารู้สึกเสียวสันหลังวูบ เหมือนกับถูกคนเอาน้ำแข็งราดบนหัว รู้สึกหนาวจนตัวสั่นเทา
เป็น เป็นไปได้ยังไง?
แหวนวงนี้ไม่ใช่พังตั้งนานแล้วหรอกหรอ?
เสี่ยวขุยยังบอกจะช่วยเอาไปซ่อม แล้วไปปรากฏที่ตรงนั้นได้ยังไง?
เสี่ยวขุยหรอ?
เธอนึกถึงบางอย่างขึ้น พร้อมเบิกตากว้าง
นังสารเลวที่สมควรตาย! คิดไม่ถึงว่าพวกเธอจะร่วมมือกันมาทำลายเธอ!
จิ่งเสี่ยวหย่าเกือบจะเป็นบ้าแล้ว แล้วแบบนี้จะเอาอะไรยืนยันว่าเธอเป็นคนบริสุทธิ์ บนอินเทอร์เน็ตมีใครบางคนเอารูปภาพตอนที่เธอเข้าร่วมงานเลี้ยงของเมื่อก่อนขึ้น
อีกอย่างยังขยายรูปภาพ จนสามารถเห็นแหวนเพชรวงนั้นอย่างชัดเจนด้วย
“สวรรค์! ผู้หญิงคนนี้เป็นบ้าแล้วหรอ เธอเป็นคนลักพาตัวจิ่งหนิงจริงๆหรอ!
“แหวนวงนี้เหมือนเป็นของขวัญพยานความรักของเธอกับคุณชายมู่?”
คงใช่แหละมั้ง ฉันจำได้ว่ามีการสัมภาษณ์หนึ่งเมื่อก่อน เธอยอมรับด้วยตัวเอง เดียวฉันจะลองหาวิดีโอให้ดู”
ไม่นาน วิดีโอนั้นก็ถูกชาวเน็ตเผยแพร่ออกมา
นั้นเป็นตอนที่หลังจากจิ่งหนิ่งจับได้ว่าเธอกับมู่ยั่นเจ๋อแอบคบกันไม่นาน ในงานหมั้นมู่ยั่นเจ๋อมอบแหวนวงนี้กับเธอ
ตอนที่จิ่งเสี่ยวหย่าสัมภาษณ์ ถูกนักข่าวที่มีสายตาแหลมคมจับแหวนวงนั้นได้ เลยซักถามเธอ
เธอก็พูดโอ้อวดต่อพวกเขาด้วยความภาคภูมิใจขึ้น
ในตอนนั้นเพื่อให้ทุกคนเห็นความประณีตงดงามของเพชร เธอถึงกับยกมือต่อหน้ากล้อง จนกล้องสามารถถ่ายแหวนวงนั้นอย่างชัดเจน
คิดไม่ถึงกลับกลายเป็นหลักฐานเล่นงานเธอในวันนี้
จิ่งเสี่ยวหย่าถึงกับสีหน้าขาวซีด พร้อมเดินโซซัดโซเซไปนั่งบนโซฟา
ถงซูไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรแล้ว เธอกุมหัว พร้อมถอนหายใจออกมา
“ไม่ใช่ว่าเธอบอกว่า ได้ทำลายหลักฐานทั้งหมดแล้วหรอ? แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
จิ่งเสี่ยวหย่าส่ายหน้าเล็กน้อย
ความรู้สึกหวาดกลัวและสิ้นหวังทำให้ดวงตาของเธอแดงก่ำขึ้น
“ฉันไม่รู้ ฉันส่งคนไปทำลายห้องใต้ดินแล้ว สิ่งของที่อยู่ภายใน รวมถึงเตียงผ่าตัดนั้นด้วย ฉันสั่งให้คนเอาไปทิ้งแล้ว แต่ทำไมถึงยังปรากฏอยู่ตรงนั้น?”
เธอหยุดนิ่งชั่วขณะ แล้วหันหน้าที่มีสีหน้าขาวซีดมองถงซู
“พี่สาวถง เธอต้องวางแผนทุกอย่างล่วงหน้าอย่างดีแล้วแน่เลย ทุกอย่างอยู่ในความคาดการณ์ของเธอ ดังนั้นเธอจึงสามารถถ่ายรูปเหล่านี้ได้!
รูปภาพเหล่านี้ต้องถ่ายตอนหลังเกิดเหตุแน่เลย ไม่เช่นนั้นเป็นไปไม่ได้ที่แหวนวงนั้นจะปรากฏขึ้น และไม่มีทางพบเจอที่สถานที่เกิดเหตุ!
พวกเธอต้องร่วมมือกันวางแผนเล่นงานฉัน ครั้งนี้จิ่งหนิงต้องการวางกับดักรอให้ฉันกระโดดลงไป!”
ถงซูเผยสีหน้าโกรธเคืองขึ้น
“ต่อให้เป็นกับดัก คุณก็ไม่ควรกระโดดลงไปอย่างง่ายดาย?’
จิ่งเสี่ยวหย่า : “……”
เมื่อสังเกตเห็นถงซูมีน้ำเสียงไม่พอใจ เธอก็เผยสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น
“ตอนนี้แม้แต่เธอก็ยังจะตำหนิฉันอีกหรอ? หรือว่าแม้แต่เธอก็ผิดหวังต่อตัวฉัน อยากไปจากฉันใช่ไหม?”
ถงซูนิ่งอึ้งชั่วขณะ
พูดตามความจริง ตอนนี้เธอไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ถึงแม้อยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปี มีประสบการณ์
แต่คนรุ่นใหม่ที่ความสามารถมากกว่า สดใหม่กว่า เข้ามาแทนที่คนรุ่นเก่าที่แก่ตัว และโรยราไปเสมอ ความสามารถของเธอไม่สามารถเทียบผู้จัดการที่เพิ่งมาใหม่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์หรือความคิดก็ตาม ล้วนถูกคัดออกในยุคนี้แล้ว
ในตอนนี้จิ่งเสี่ยวหย่าถือว่าเป็นนักแสดงคนเดียวที่เธอสามารถร่วมงานด้วยความสบายใจมากที่สุด ถึงแม้ทำเพื่ออนาคตของตัวเอง แต่เธอก็ไม่อยากเห็นจิ่งเสี่ยวหย่าล่มจมอย่างนี้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ถงซูก็ถอนหายใจออก
“เธออย่าคิดมากสิ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น”
เธอหยุดนิ่ง และพูดว่า : “สถานการณ์ในตอนนี้ส่งผลกระทบไม่ดีต่อเรา คุณมีวิธีการบ้างไหม?”
จิ่งเสี่ยวหย่าส่ายหน้าเล็กน้อย
“ฉันไม่รู้ ตอนนี้สมองของฉันมึนตึ้บหมดแล้ว”
ถงซูพยายามคิด พร้อมกับขมวดคิ้วขึ้น
“ถ้าหากเป็นอย่างที่คุณพูด นับตั้งแต่ตอนนี้ไปทุกอย่างจะเป็นแผนการของจิ่งหนิง เช่นนั้นวิธีทางเดียวในตอนนี้ก็คือตามหาเธอ ขอเพียงสามารถยืนยันว่าเธอไม่เป็นไร แถมยังอยู่สุขสบาย ข่าวลือทั้งหมดก่อนหน้านี้ก็จะไม่สามารถเล่นงานเราได้ อีกอย่าง…..”
เธอเผยสายตาเจ้าเล่ห์เป็นประกายขึ้น
“ถ้าหากพวกเราเป็นคุมเกม ไม่แน่สามารถพลิกสถานการณ์ได้”
จิ่งเสี่ยวหย่าจ้องมองเธออย่างนิ่งอึ้ง “เลิกสถานการณ์ยังไง?”
“อืม! เธอคิดว่า ถ้าหากทำให้คนภายนอกรู้ว่า จิ่งหนิงไม่เป็นไร และเรื่องทั้งหมดเธอเป็นคนจัดฉาก อีกอย่างทางตำรวจยังร่วมมือแสดงกับเธอด้วย เพื่อทำร้ายคุณให้ออกจากวงการบันเทิง และยึดทุกอย่างที่เป็นของคุณให้กับตัวเอง คุณคิดว่าทุกคนจะคิดยังไงหรอ?”