บทที่ 250 โจมตีอย่างเกินคาด
เธอมีน้ำเสียงเศร้าโศก แต่จิ่งเซี่ยวเต๋อกลับพูดด้วยน้ำเสียงโมโหว่า : “หรือว่าต้องวิ่งไปบอกความจริงเมื่อห้าปีก่อนกับเธอหรอ?”
หวังเสว่เหมยพูดขึ้นว่า : “จิ่งหนิงพูดแบบนี้ ฉันเองก็คิดอยู่เหมือนกันว่า ในเมื่อเธอไม่เป็นอะไรก็ไม่น่าจะซ่อนตัวไปตลอดชีวิต ตอนนี้เธอแค่ต้องการหลอกพวกเราให้พูดความจริง ไม่แน่เธออาจจะยังไม่รู้เรื่องทั้งหมด
ขอเพียงพวกเรามั่นคงไม่หวั่นไหว เธอก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก ส่วนเรื่องของเสี่ยวหย่า ฉันจะส่งคนไปให้สินบน
ตอนนี้คงต้องปล่อยให้เธอลำบากไปก่อน เธอมีฐานะพิเศษ คงไม่ได้รับโทษหนักอะไรหรอก ขอเพียงเธอสามารถอดทนกับแรงกดดันครั้งนี้ได้ ไม่ว่าอย่างไรไม่ยอมรับ คงไม่มีปัญหาแน่”
เมื่อหยูซิ่วเหลียนได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกเหมือนกำลังฟังเรื่องตลก จนไม่อยากจะเชื่อ
“แม่ค่ะ แม่บอกว่าน่าจะ! ซึ่งน่าจะมีความเป็นไปได้ที่เธอจะทนแรงกดดันไม่ไหวจนยอมรับผิด ตั้งแต่เด็กจนโตมาเสี่ยวหย่าไม่เคยได้รับความลำบากเลย แล้วยิ่งสถานที่แบบนั้น เธอจะสามารถทนอยู่ได้ยังไงค่ะ?”
หวังเสว่เหมยจ้องมองเธอแวบหนึ่งด้วยสีหน้ารำคาญใจ
“ฉันไม่ใช่ส่งคนไปให้สินบนตำรวจหรอกหรอ? เธอเป็นคนหาเรื่องใส่ตัวเอง ตอนนี้ได้รับบทเรียนบ้างก็ดี ต่อไปจะได้เลี่ยงไม่ให้ไปก่อเรื่องอีก!”
ขณะที่พูดก็ร้องอุทานด้วยความไม่พอใจขึ้น
หยูซิ่วเหลียนนิ่งเงียบสักพัก เธอพูดอะไรไม่ออก ไม่นานก็ซักถามขึ้นว่า : “ครั้งก่อนไม่ใช่คุณบอกว่า ทางเมืองหลวง….”
หวังเสว่เหมยขมวดคิ้วขึ้น
“ฉันได้ติดต่อกับทางนั้นแล้ว คงอีกไม่กี่วันได้การตอบรับกลับมา ตอนนี้เธออย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับเสี่ยวหย่า หลีกเลี่ยงไม่ให้เธอก่อเรื่องอีก
เธอวางใจเถอะ ขอเพียงสามารถติดต่อได้ เสี่ยวหย่าไม่มีทางเกิดอะไรขึ้นได้หรอก ถึงตอนนั้นต่อให้ตระกูลมู่แบกหน้ากลับมาคืนดี พวกเราก็ไม่เอาแล้ว”
เมื่อหยูซิ่วเหลียนได้ยินแบบนี้ก็วางใจ พร้อมพยักหน้าเล็กน้อย
“ค่ะ งั้นเอาตามที่คุณแม่วางแผนเลยค่ะ”
……
ทางด้านนี้ จิ่งหนิงคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะพบกับคนๆนั้นที่ไม่ควรพบกันที่เกาะซีหนิง
เมื่อกวนเสว่เฟยมาถึงโรงแรมก็พบปะกับเธอทันที
เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว และสวมกางเกงยีน เธอหมัดผมหางม้า ซึ่งดูแล้วสบายตาและสะอาดมาก
เมื่อพบกับจิ่งหนิง เธอเหมือนกับมีอาการแปลกใจเล็กน้อย
“คุณจิ่ง บังเอิญจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะพบคุณที่นี้”
จิ่งหนิงยิ้มจางๆ “คุณหนูกวน ฉันก็รู้สึกบังเอิญเหมือนกัน”
กวนเสว่เฟยกะพริบตาเล็กน้อย
“ตอนนี้ข้างนอกเกิดเรื่องใหญ่โตมโหฬารมาก บอกว่าคุณหายตัวไป ถูกคนลักพาตัว ฉันนึกว่าเป็นเรื่องจริง ที่แท้….”
เธอไม่ได้พูดประโยคสุดท้ายออกมา แต่สามารถเข้าใจได้
จิ่งหนิงรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
ชีวิตคนเราก็เป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สวรรค์จะโจมตีอย่างเกินคาดกับคุณ
เธอนิ่งเงียบ แต่ยิ้มแย้มต่อเธออย่างใจกว้าง
“คุณหนูกวนมาหาคุณย่าหรอค่ะ?”
บางเรื่อง ในเมื่อถูกจับได้ เช่นนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องหลบซ่อนแล้ว
และเธอก็ไม่มีอารมณ์อยากพูดอธิบายกับเธอด้วย
โชคดีที่กวนเสว่เฟยเป็นคนฉลาด เมื่อเห็นเธอไม่ซักถามก็ยิ้มและพูดว่า : “ค่ะ ฉันได้ยินคนบอกว่าคุณย่ามาที่นี้ เลยอยากมาเยี่ยมสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าจะพบคุณ”
“คุณย่าอยู่ในห้องค่ะ ต้องการให้ฉันพาไปไหมค่ะ?”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณหนูจิ่ง เดียวฉันไปถามที่เคาน์เตอร์บริการเองได้ค่ะ ไม่อยากรบกวนเวลาของคุณ”
จิ่งหนิงพยักหน้าเล็กน้อย เธอไม่ได้อำลามาก แต่หันหลังเดินจากไปทันที
ส่วนกวนเสว่เฟยก็จ้องมองร่างเงาของเธอจากไป โดยที่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย พร้อมกับเผยสายตาเจ้าเล่ห์ขึ้น
คุณหญิงเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่า กวนเสว่เหมยจะมาที่เกาะแห่งนี้
เธอซื้อเกาะแห่งนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว และมีเพียงคนในครอบครัวไม่กี่คนเท่านั้นที่ทราบ แต่ปกติทุกคนยุ่ง เลยไม่ค่อยมีคนมาสักเท่าไหร่ อีกอย่าง ต่อจะมาก็จะแจ้งเธอล่วงหน้าก่อนเสมอ ด้วยเหตุนี้เธอเลยไม่ได้สนใจ
แค่คิดไม่ถึงว่าเพราะความประมาทอันเล็กน้อย ทำให้แผนการของจิ่งหนิงผิดพลาด
คุณหญิงในใจรู้สึกผิดมาก แต่กวนเสว่เหมยกลับทำเหมือนไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
เมื่อเห็นคุณหญิงก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า : “คุณย่าลู่ค่ะ หนูถ่ายละครบริเวณนี้พอดี เมื่อทราบว่าคุณมาพักอยู่ที่นี้ เลยแวะมาเยี่ยมสักหน่อย คุณคงไม่โทษที่ฉันไม่ได้แจ้งกับคุณล่วงหน้าหรอกใช่ไหมค่ะ?”
คุณหญิงฉีกปากยิ้มเก้อเขินเล็กน้อย
“ไม่หรอก! เธอมาเยี่ยมฉัน ฉันก็ต้องดีใจสิ ไม่โทษเธอหรอก”
ถึงแม้ปากจะพูดแบบนี้ แต่สีหน้าแปลกเล็กน้อย
กวนเสว่เฟยแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น แล้วหันหน้ามองอานอาน แล้วรีบหยิบของขวัญที่เตรียมมาล่วงหน้าให้อานอานเพื่อเอาอกเอาใจ
เมื่อกี้อานอานเพิ่งตื่นนอนตอนเที่ยงเป็นเพื่อนคุณหญิง และเพิ่งนึกนัดล่วงหน้ากับจิ่งหนิงจะไปว่ายน้ำขึ้น
แต่ในตอนนี้เธอกลับไม่เห็นจิ่งหนิงเลย เลยรู้สึกรีบร้อนใจ แต่เมื่อเห็นกวนเสว่เฟยก็หมดความอดทนแล้ว
เธอยื่นมือรับของขวัญ พูดขอบคุณ แล้วรีบสวมรองเท้าวิ่งออกไปข้างนอก
คุณหญิงไม่วางใจเธอ เลยรีบเดินตามออกไปด้วย
“อานอาน หนูจะไปไหน?”
“หนูจะไปหาหม่ามี๊ หม่ามี๊รับปากจะไปว่ายน้ำเป็นเพื่อนหนูแล้ว”
คุณหญิงรีบเดินเข้าไปจับตัวเธอไว้
“เชื่อฟัง หม่ามี๊ออกไปทำธุระสักครู่ เดียวรอเธอกลับมา ค่อยให้เธอสอนหนูว่ายน้ำ โอเคไหม?”
อานอานเผยสายตาน้อยใจขึ้น พร้อมกับตาแดงก่ำ
“ไม่ ตอนที่หม่ามี๊กล่อนหนูนอนรับปากกับหนูแล้วว่า หลังจากหนูตื่นจะเห็นเธอ และจะพาหนูไปว่ายน้ำที่ทะเลด้วย หม่ามี๊ไม่ใช่คนโกหก!”
เมื่อคุณหญิงเห็นเด็กน้อยมีท่าทางน้อยอกน้อยใจก็นิ่งเงียบ
จิ่งหนิงรับปากเธอแล้วว่า หลังจากเธอตื่นนอนจะพาเธอไปว่ายน้ำ
แต่เธอตื่นนอนก่อนเวลา แถมมีกวนเสว่เหมยมารบกวนด้วย ดังนั้นตอนนี้จิ่งหนิงเลยยังไม่มา
เพราะหากยึดตามเวลาปกติ อย่างน้อยเธอจะตื่นนอนตอนเวลาประมาณบ่ายสองครึ่ง ซึ่งเวลานั้นจิ่งหนิงกลับจากทำธุระเสร็จพอดี
คุณหญิงไม่รู้จะพูดอธิบายยังไง
เมื่อกวนเสว่เฟยเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ก็เดินมานั่งยอง และจ้องมองเธอด้วยสีหน้าอ่อนโยน
“อายอาย ตอนนี้พี่จิ่งมีธุระอื่นต้องทำ เอาแบบนี้เดียวน้าเสว่เฟยไปว่ายน้ำเป็นเพื่อนนะคะ?”
หลายปีมานี้ ลู่จิ่งเซินแทบไม่มีผู้หญิงคนอื่นเลย ประการแรกเขาไม่มีความสนใจต่อผู้หญิงสักเท่าไหร่ ประการที่สองเพราะนิสัยแปลกประหลาดของเด็กน้อยด้วย ที่ไม่ชอบให้เขามีผู้หญิงอยู่เคียงข้าง
แต่กวนเสว่เฟยเป็นข้อยกเว้น
ถึงแม้จะไม่ค่อยสนิทสนมกับเธอมาก แต่อย่างน้อยกวนเสว่เฟยก็ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่เด็กน้อยเห็นเป็นศัตรูที่อยากจะสลัดทิ้ง
ด้วยเหตุนี้เธอนึกว่า ในใจของเด็กน้อยแล้ว เธอไม่เหมือนกับคนอื่น
อีกอย่างเมื่อก่อนคุณหญิงเคยอยากให้กวนเสว่เฟยกับลู่จิ่งเซินคบกันด้วย เลยให้เธอกับอานอานทำความรู้จักกันอยู่สักพักใหญ่
กวนเสว่เฟยเลยมีความมั่นใจคิดว่า อานอานชอบตัวเอง
แต่คิดไม่ถึงว่า ครั้งนี้ อานอานกลับจ้องมองเธอด้วยสายตารังเกียจ
“หนูไม่เอา คุณน้ารูปร่างสู้หม่ามี๊ไม่ได้ และดูไม่มีความอดทนเหมือนกับหม่ามี๊ด้วย อีกอย่างสวยสู้หม่ามี๊ไม่ได้ด้วย! หนูไม่ต้องการให้คุณย่ามาสอน หนูต้องการหม่ามี๊คนเดียว!”
กวนเสว่เฟย : “……”