บทที่256 หลอกลวงศัตรู
ลู่จิ่งเซินก็ได้เห็นเข้า คิ้วได้เลิกเล็กน้อย ก็ได้วางวิดีโอคอลที่โทรประชุมไป แล้วถาม “ทำอะไรครับ?”
จิ่งหนิงมองเขาสักพัก “อ้อ ไม่มีอะไรค่ะ ฉันก็แค่มาดูๆ”
พูดจบ เธอก็ได้เม้นปาก คิดไปสักพัก สุดท้ายก็ได้เอาเรื่องที่จิ่งเสี่ยวหย่าหายตัวไปบอกเขา
ลู่จิ่งเซินได้ยิน ก็รู้สึกแปลกๆ
เขานั้นไม่ได้สนว่าจิ่งเสี่ยวหย่าเป็นหรือตาย แต่แค่รู้สึกว่าเรื่องมันแปลกๆ มันง่ายมากเลยที่จะลากจิ่งหนิงเข้าไปเกี่ยวด้วย
ยังไงซะ ตอนนี้จิ่งหนิงแกล้งว่าเกิดเรื่องกับตัวเอง ไม่ได้เกิดเรื่องจริงๆ หลังจากนี้ต้องแสดงตัวแน่นอน ถึงตอนนั้นถ้าจิ่งเสี่ยวหย่าเป็นอะไรไป ง่ายมากที่จะเอามาโทษเธอ
คิดถึงตรงนี้ เขาก็ได้ลุกขึ้นไปข้างๆ เธอ มองแผนที่ที่มือในมือไปสักพัก
“คุณเอาอันนี้เพื่อดูว่าเธอนั้นอาจจะเกิดเรื่องขึ้นได้ที่ไหน?”
“ค่ะ” จิ่งหนิงพยักหน้า แล้วก็เปิดภาพ ชี้ไปที่ที่หนึ่งแล้วก็พูดว่า “เดิมเมืองจิ้นก็เป็นชายฝั่ง ห่างกับเกาะซีหนิงไม่ถือว่าไกล จิ่งเสี่ยวหย่าน่าจะไม่กล้าที่จะนั่งเครื่องบิน ทำได้แค่นั่งเรือ ฉันอยากจะรู้ว่าเรือนั้นน่าจะจอดที่ไหนได้บ้าง เธอสามารถที่จะออกไปจากทางไหน”
ลู่จิ่งเซินได้เอาอัลบั้มภาพไป
“ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้น!”
เขาพูดจบ เอาโทรศัพท์ออกมา โทรออกไป แล้วก็สั่งงานปลายสายไปไม่กี่คำ
จิ่งหนิงฟังสิ่งที่เขาสั่งออกไป ก็ได้เข้าใจทันที
โทรคุยเสร็จ ลู่จิ่งเซินได้ยิ้มแล้วพูดว่า “เขานั้นหนีออกมา แน่นอนว่าไม่สามารถที่จะซื้อตั๋วอย่างเปิดเผยได้ ถ้าจะนั่งเรือก็เป็นเรือผิดกฎหมาย ก็แค่สั่งให้คนไปสืบว่าคืนนั้นมีใครบ้างที่ขึ้นเรือ ก็สามารถรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น”
จิ่งหนิงก็ได้ดีใจมากๆ
“จริงด้วย ฉันทำไมคิดไม่ถึง? ที่รัก คุณเก่งจริงๆ!”
คำชมที่ง่ายๆ ก็ได้ทำให้สายตาของชายหนุ่มลึกซึ้งขึ้น
“ผมยังที่อะไรที่เก่งกว่านี้อีก คุณจะลองดูไหม?”
จิ่งหนิงได้ยินแบบนั้น ก็ได้อึ้ง จากนั้นหน้าก็ได้แดงขึ้นเล็กน้อย
ช่วงนี้ เพราะว่าอานอานอยู่ กลางคืนนั้นก็ได้ชอบวิ่งมาตัวติดกับจิ่งหนิง เพราะงั้นลู่จิ่งเซินก็ไม่ค่อยกล้าที่จะทำอะไรเธอ กลัวว่าเด็กจะเข้ามาเจอเข้า
อีกอย่างตอนนี้เด็กคนนี้ฉลาดเอามากๆ ขนาดล็อกประตูก็ไม่มีประโยชน์ เธอไม่รู้ว่าเขาเอากุญแจของโรงแรมมาจากไหน ขอแค่ล็อก เขาก็เปิดได้ง่ายๆ
ลู่จิ่งเซินก็กับเรื่องนี้ก็ไม่ได้ที่จะเปลี่ยนที่ล็อกประตู เพราะงั้น ตั้งแต่มาที่เกาะ คนบางคนก็เหมือนถือศีล เกือบอาทิตย์หนึ่งแล้วที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
วันนี้พอดีเลยที่คุณหญิงได้พาอานอานออกไปเล่นข้างนอก ไม่อยู่ที่บ้าน และสองคนก็ได้อยู่ในห้องด้วยกัน……
ใบหน้าเล็กๆ ของจิ่งหนิงก็ได้แดงเหมือนกับมะเขือเทศ บิดไปบิดมา ไม่รู้เลยว่าจะเอามือไปวางไว้ที่ไหน
“คือว่า เดี๋ยวพวกอานอานเขาก็กลับมา……”
“พวกเขาไม่เร็วขนาดนั้น”
ชายหนุ่มพูดไป ก็ได้ขยับเข้ามาใกล้ จิ่งหนิงรู้สึกว่าเอวได้ถูกรัดแน่น ได้ถูกชายหนุ่มนั้นอุ้มเธอวางไว้บนโต๊ะ
เธอได้มึนงง ตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อย
จนกระทั่งบางคนได้เอาคอมกับเอกสารที่ขว้างตาดันออก แล้วก็ทาบเข้ามา
“หื้อ…… ลู่จิ่งเซิน ไอ่คนผีทะเล!”
……
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
บางคนได้ทานจนอิ่ม ในที่สุดก็ได้หยุดพักยก
ส่วนจิ่งหนิงก็ได้เหนื่อยจนหอบ ร่างกายได้เมื่อยไปหมด
ลู่จิ่งเซินก็ได้ไปจูบที่คิ้วของเธอ อดขำไม่ได้
จิ่งหนิงได้จ้องเขาเขม็งด้วยความเขินอาย ก็ได้มองเวลาบนโทรศัพท์ พูดอย่างโมโห “เพราะคุณเลย! ตกลงไว้แล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่นานก็เสร็จ สุดท้ายก็ได้ทำจนถึงตอนนี้! เดี๋ยวพวกอานอานเขาก็กลับมาแล้ว ถ้าเกิดมาเจอเข้าจริงๆ ฉันล่ะอยากจะรู้ว่าคุณจะอธิบายยังไง!”
ลู่จิ่งเซินก็ยังหัวเราะ แล้วก็ไปจับมือของเธอมาจูบ
“ผู้ชายจะเร็วได้ยังไง? อีกอย่าง เมื่อกี้คุณก็มีความสุขมากไม่ใช่เหรอ?”
จิ่งหนิง “……”
ผู้ชายคนนี้นี่มัน……
อยากจะกัดเขาให้ตายๆ ไปเลยจริงๆ!
แหย่เล่นคือแหย่เล่น ลู่จิ่งเซินก็รู้ ว่าสองคนนั้นจะกลับมาที่บ้านแล้ว
เขาก็ได้อุ้มจิ่งหนิงขึ้น แล้วก็เดินไปที่ห้องนอน
“คุณจะทำอะไรอีก?”
“ไม่ทำอะไรครับ อุ้มคุณไปอาบน้ำ หรือว่าคุณอยากจะเจอกับพวกเขาด้วยสภาพแบบนี้?”
จิ่งหนิงก็ได้นิ่งทันที
เธอไม่ได้ต่อต้าน ให้ชายหนุ่มอุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จถึงออกมา
เป็นไปอย่างที่คิด เธอพึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ สักพัก อานอานกับนายหญิงก็ได้กลับมา
พอเข้าประตู อานอานก็ได้ตะโกนเรียกหม่ามี๊
จิ่งหนิงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ลงไป เห็นว่าเด็กน้อยได้ถือของอะไรหลายอย่าง เป็น ของเล็กทั้งหมด ได้วิ่งเข้ามาลากเธอไปเล่นกับเธอด้วยความดีใจ
จิ่งหนิงก็ได้ขำออกมา ก็ได้พูดกับนายหญิงว่า “ท่านของเล่นให้เธออีกแล้วเหรอคะ?”
ท่านหญิงหัวเราะแล้วพูด “รีบร้อนออกมาจากบ้านเกินไป ของหลายอย่างในบ้านไม่ได้เอามาด้วย อานอานรู้สึกน่าเบื่อ ฉันก็เลยให้คนนั้นส่งมาส่วนหนึ่ง”
จิ่งหนิงพยักหน้า เห็นว่าท่านหญิงเหนื่อยเล็กน้อย ก็ได้พูด “ท่านรีบไปพักผ่อนเถอะค่ะ ฉันมาดูแลเธอก็พอ”
ท่านหญิงก็ได้มีความคิดนี้เหมือนกัน ก็ได้เอาอานอานให้จิ่งหนิงดูแล แล้วกลับไปพักผ่อนที่ห้อง
จิ่งหนิงก็เล่นกับอานอานไปสักพัก ทางลู่จิ่งเซินก็ได้รับข่าว
ลูกน้องได้มารายงาน ว่าไม่กี่คืนก่อน ได้มีผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าเป็นใครได้ซื้อตั๋วของเรือผิดกฎหมายมาที่เกาะซีหนิง
แล้วว่ามาถึงครึ่งทาง เธอก็ได้ถูกผู้หญิงอีกคนพาตัวไป
เพราะว่าตอนนั้นพวกเขาได้เห็นผู้หญิงคนนั้นเขาไปในห้องเธอ ก็คิดว่าทั้งสองรู้จักกัน เพราะงั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
จิ่งหนิงฟังจบ ก็ได้ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
ผู้หญิง?
เธอได้รีบคิดผู้หญิงที่จิ่งเสี่ยวหย่ารู้จักในหัว แล้วก็มีท่าทางที่อยากจะลักพาตัวเธอไป พบว่าเป็นไปไม่ได้
เรื่องนี้มันประหลาดมาก!
ลู่จิ่งเซินก็รู้สึกแปลกๆ แต่สำหรับเขาแล้ว จิ่งเสี่ยวหย่าจะเป็นจะตายไม่เกี่ยวกับเขา
ขอแค่จิ่งหนิงไม่เป็นอะไร เขาก็ไม่ว่าไง
แต่ว่า เขาได้พูดเสียงเข้ม “ไหนๆ บ้านนั้นได้คิดว่าคุณเป็นคนเอาตัวจิ่งเสี่ยวหย่าไป จากความร้อนรนที่จะหาตัวเธอของพวกเขา ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ คุณไม่ลองทำไปตามน้ำดูล่ะ ให้พวกเขายอมรับความผิดของพวกเขาก่อนค่อยว่ากัน?”
จิ่งหนิงก็ได้มองเขาอย่างเจ้าเล่ห์
“แบบนั้นมันเจ้าเล่ห์เกินไปหรือเปล่า?”
“หึ! ล้อหลวงศัตรูไง”
จิ่งหนิง “……”
สุดท้าย เพราะว่าได้คิดรอบด้าน เธอก็ได้เห็นด้วยกับความคิดของลู่จิ่งเซิน
ตอนที่เตรียมโทรไปหาหวังเสว่เหมย คิดไม่ถึงว่า โทรศัพท์ยังไม่โทรไป ก็ได้มีสายของเสี่ยวเหอโทรเข้ามา
“พี่หนิงหนิง เกิดเรื่องแล้ว! พี่รีบไปดูในเน็ต จิ่งเสี่ยวหย่ากำลังไลฟ์สด!”
จิ่งหนิงอึ้งไป ตกใจมากๆ
เธอไม่ได้ถามอะไรเสี่ยวเหอ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ ได้วางสายไปแล้วก็ใช้โทรศัพท์เข้าไปในเว่ยป๋อ หาช่องที่จิ่งเสี่ยวหย่ากำลังไลฟ์สด
พอกดเข้าไป ก็พบว่าเป็นเธอจริงๆ
เห็นแค่จิ่งเสี่ยวหย่ามองมาที่กล้อง คนนั้นได้ดูซีดแล้วอ่อนแอมากๆ ภาพพื้นหลังนั้นเป็นห้องของโรงแรมแห่งหนึ่ง
เธอก็ได้พูดด้วยความหวาดกลัวพร้อมน้ำตาม “ไม่กี่วันนี้ คนในครอบครัวของฉันเพื่อที่จะหาตัวฉันก็ได้เหนื่อยล้าไปหมด แต่ฉันก็ได้ถูกขังไปที่เรือเล็กๆ กลางทะเล! ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าฉันฉลาด ก็ไม่สามารถที่จะหนีออกมาได้ นี่ไม่ใช่การลักพาตัว นี่เป็นการฆาตกรรม!”