วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 25 ช่วยเธอ

บทที่ 25 ช่วยเธอ

คนของตระกูลจิ่ง แล้วก็มีคนที่อยากจะหนีอย่างเฉินหย่งต๋ารวมด้วย สุดท้ายก็ถูกกักตัวไว้

งานเลี้ยงก็ได้จบไปอย่างช่วยไม่ได้ คนในงานเลี้ยงนั้นได้ถูกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะหันทันทำเอางงไปหมด แต่ละคนเต็มไปด้วยความสงสัย

แต่ว่ามีลู่จิ่งเซินอยู่ในงาน ทุกคนนั้นไม่กล้าที่จะถามอะไรมาก

ทำได้แค่คาดเดากันไปเอง

ลู่จิ่งเซินเป็นใคร?

นั้นเป็นคนที่จะสานต่อลู่ซื่อกรุ๊ป เป็นชายที่ในมือได้กำความเป็นอยู่ของการตลาดหวาเซี่ย

พูดออกไปได้อย่างเว่อร์ๆได้เลยว่า ผู้ชายแบบนี้ ถ้าอยากจะแต่งกับเจ้าหญิงก็เป็นไปได้

อีกอย่างตระกูลลู่ กับ กู้、กวน、เฟิงสามตระกูลนี้ได้ถูกเรียกว่าเป็นตระกูลใหญ่ ตระกูลแบบนี้นั้นการแต่งงานน้อยมากที่จะตัดสินใจกันเอง ส่วนมากนั้นเป็นการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์

ตระกูลลู่จะยอมให้คนที่เก่งของตระกูลตัวเอง มาแต่งงานกับผู้หญิงธรรมดาได้ยังไง?

ทุกคนนั้นได้เริ่มพูดคุยกันขึ้น

คนที่ทำธุรกิจมานาน ได้ตกใจกับเรื่องเมื่อกี้เสร็จ ในใจนั้นก็ได้มีความคิดของตัวเอง

ปัจจุบันนั้น ผู้ชายต้องมีเจ้าชู้อะไรกันบ้าง ต่อให้เป็นฐานะอย่างลู่จิ่งเซินก็ไม่มีข้อยกเว้น

เขาไม่เคยมีเรื่องอื้อฉาวมาก่อน ส่วนเรื่องที่บอกว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงนั้น

ความเป็นจริงแล้ว เขาก็แค่ไม่เจอคนที่ชอบเท่านั้น

เมื่อได้เจอคนที่ชอบแล้ว แน่นอนว่าถ้าเอาไว้บนมือก็กลัวที่จะตก อมอยู่ในปากก็กลัวที่จะละลาย ดีกับเธอมากๆ

แต่ว่าดีกับเธอเป็นเรื่องหนึ่ง แต่งเข้าบ้านนั้นเป็นอีกเรื่อง

ยังไงซะผู้คนนั้นไม่เคยที่จะได้ยินมาก่อนว่า ลู่จิ่งเซินแต่งงานแล้ว ตระกูลลู่ได้เปลี่ยนคุณนายแล้ว

แต่จิ่งหนิงก็ถึงว่าโชคดี ต่อให้ไม่มีโอกาสได้เข้าตระกูลลู่ แต่ว่าได้อยู่ข้างกายลู่จิ่งเซินเป็นช่วงเวลาสั่นๆ นั้น ก็เป็นความอิจฉาของคนอื่นที่ไม่รู้ว่าต้องทำดีกี่ชาติถึงจะได้แบบนี้

ในใจของคนมากมายได้เดากันไปเอง และอีกด้าน ลู่จิ่งเซินไม่มีอารมณ์ที่จะมาสนใจความคิดของคนพวกนั้น

จิ่งหนิงถูกคนวางยา นี่เขารู้ก็ตอนที่รับตัวเธอได้

และก็เพราะแบบนี้ เขาถึงได้ไม่ได้รีบเอาเรื่องตระกูลจิ่งกับเฉินหย่งต๋ามาลงโทษ

ยังไงซะมีคนที่ต้องรีบช่วยก่อน

ภายในห้องเพรสซิเดนสูทที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ลู่จิ่งเซินได้วางคนลงบนเตียง หันหลังไปเตรียมตัวที่จะเอาผ้าขนหนูให้เธอ

แต่ชายเสื้อนั้นได้ถูกมือที่ขาวจับไว้

ใบหน้าที่อ่อนล้าของจิ่งหนิงมองไปที่เขา ใบหน้านั้นแทบจะไม่มีเส้นเลือดอะไรเลย ได้เปิดปากเล็กน้อย

“ฉันอยากดื่มน้ำ”

เธอนั้นยังออกเสียงไม่ได้เหมือนเดิม แต่ว่ารูปปากนั้นลู่จิ่งเซินมองออก

“รอก่อน”

ตอนที่กลับมา ในมือนั้นได้มีผ้าขนหนูอุ่น แล้วก็น้ำอุ่นหนึ่งแก้ว

เขาได้เดินไปที่หัวเตียงแล้วก็นั่งลง ประคองจิ่งหนิงลุกขึ้น ป้อนน้ำให้เธอดื่มไปครึ่งแก้ว แล้วก็เอาผ้าขนหนูอุ่นเช็ดหน้าของเธอ

จิ่งหนิงนั้นถูกความร้อนที่ผ้าขนหนูทำให้ใจนั้นคันเล็กน้อย ราวกับว่าได้มีแมลงเป็น หมื่นเป็นพันตัวมาไต่ตามตัวเธอ ทรมานมากๆ

เธอดิ้นรนไปสักพัก ลู่จิ่งเซินถึงหยุด ก็ได้เห็นระหว่างคิ้วของเธอนั้นได้ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย แววตาที่ใสราวกับหยอดน้ำได้มองมาที่ตัวเอง จากนั้นก็ได้หลับตาลง เหมือนว่าได้ดิ้นรนจากความทรมานบางอย่าง

เสื้อผ้าบนร่างกายนั้นได้ยุ่งเพราะการดิ้นรน ชุดเดรสกระโปรงยาวเกาะอกสีดำได้เริ่มเปิดออก ก็ได้เริ่มมีอะไรแสดงออกมา

เส้นเลือดสีแดงนั้นได้ชัดออกมาตั้งแต่หน้าอกจนลามมาถึงต้นคอ แล้วก็ลามไปถึงหลังหู สุดท้ายก็ลามไปยังใบหน้า ในความซีดนั้นก็ได้กลายเป็น ภาพที่เริ่มยั่วยวนขึ้น

เส้นผมนั้นเป็นเพราะทรมานก็ได้เปียกเหงื่อ แล้วก็ได้ติดไปตามหน้าผาก นั้นเป็นภาพที่งดงามอย่างไม่รู้ว่าจะบรรยายออกมายังไง

ลู่จิ่งเซินได้มองเธอ ลมหายใจได้หนักขึ้น สายตานั้นได้นิ่งลงเล็กหน่อย

เขายื่นมือ แล้วไปเช็ดเหงื่อของเธอเบาๆ พูดเสียงเข้มว่า “จิ่งหนิง พวกเราเป็นสามีภรรยา เธอมีสิทธิ์ที่จะขออะไรฉันก็ได้”

แต่ว่าหญิงสาวที่อยู่บนเตียงนั้นเหมือนไม่ได้ยิน

เธอนั้นทรมานจนขดตัว สองมือกอดตัวเอง ถึงขั้นเอาหน้าซุกเข้าไป เหมือนว่าจะยืมการกระทำนี้มาควบคุมตัวเอง ให้ตัวเองนั้นไม่ต้องวู่วามแล้วทำอะไรออกไป

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว ยื่นมือไปแตะที่หน้าผากของเธอ

ผิวได้ร้อนมาก

นัยน์ตาของเขาได้เข้มลง พูดเสียงเข้มว่า “เธอแน่ใจนะว่าจะไม่ให้ฉันช่วย?”

จิ่งหนิงส่ายหน้า จากนั้น อยู่ๆ ก็ยกหน้าขึ้น เปิดปากพูด พูดแบบไม่มีเสียงว่า “ฉันอยากเจอหมอ”

ลู่จิ่งเซินมองรูปปากของเธอ ไม่พูดอะไร

จิ่งหนิงก็ไม่รู้ว่าเขานั้นดูออกไหม แต่ว่าเธอไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะทำอย่างอื่น ทำได้เพียงก้มหน้ามุดลงไป ทำตัวเหมือนว่าได้ป้องกันตัวแล้วขดตัวเหมือนกับกุ้ง ถ้าเกิดสังเกตดีๆ ก็ยังสามารถที่จะมองเห็นว่าร่างกายที่ผอมบางนั้นได้สั่น

เธอนั้นพยายามที่จะอดทนอย่างสุดชีวิต

ลู่จิ่งเซินไม่รู้ว่าเวลานี้คงหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดี

เขานั่งข้างเตียง มองเธอสักพัก ไม่นาน ก็ได้ขำออกมา

เสียงนั้นไม่รู้ว่าขำตัวเองหรือว่าสงสารตัวเอง จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น เอาผ้าห่มมาห่มร่างของจิ่งหนิง จากนั้นก็ได้ก้าวออกไปข้างนอก

ไม่นานหมอก็มาถึง

เหมือนว่าลู่จิ่งเซินออกไปไม่นาน หมอผู้หญิงที่ใส่ชุดไปรเวทคนหนึ่งก็ได้เดินตามซูมู่เข้ามา

เวลาแบบนี้ แน่นอนว่าซูมู่คงจะไปหาคนที่โรงพยาบาลมาไม่ได้ โชคดีที่คฤหาสน์บ้านลู่มีหมอประจำตระกูลอยู่ เขาก็เลยได้โทรไปทางนั้นทันที แล้วก็ได้รีบมา ใช้เวลาไม่เกินสิบนาที

จิ่งหนิงได้ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มไหมอ่อน รู้สึกถึงมือนั้นได้จับเธอไว้ ก็ได้กระชากกลับโดยสัญชาตญาณ

หมอหญิงได้เห็น ก็พูดออกมาอย่างอ่อนโยนว่า “คุณจิ่ง ไม่ต้องกลัวค่ะ ฉันเป็นหมอ มาดูอาการให้คุณค่ะ”

ได้ยินที่เธอพูดออกมา จิ่งหนิงถึงได้ปลดการระวังตัว ปล่อยให้เธอมาจับมือของตัวเอง

จากนั้นผ้าห่มก็ถูกดึงออก เดิมเธอก็โดนวางยา ตัวได้ร้อนไปหมด แล้วก็ยังมีผ้าห่มมาห่มอีก ก็ต้องมีออกเหงื่อมากอยู่แล้ว ทั้งตัวเหมือนว่าจะเปียกไปหมด

หมอหญิงขมวดคิ้ว พูดออกมาอย่างไม่พอใจว่า “เหตุการณ์แบบนี้ทำไมยังให้เธอห่มผ้าอีก? เดี๋ยวจะไม่สบายได้นะคะ”

ลู่จิ่งเซินที่ยืนอยู่ข้างๆ หนังตาก็กระตุก ใบหน้าไม่มีสีหน้าอะไร

หมอหญิงนั้นไม่ได้สังเกตสีหน้าของเขา ก็ได้ตรวจอาการให้เธออย่างตั้งใจจนเสร็จ จากนั้นก็ได้เอาเข็มฉีดยาออกมาฉีดยาให้เธอ

จิ่งหนิงนั้นได้ให้เธอฉีดยาอย่างว่าง่าย

ซูมู่กลับรู้สึกว่าสถานการณ์นั้นไม่ค่อยปกติเท่าไหร่

เขานั้นได้มองลู่จิ่งเซินด้วยความสงสัย ในใจคิดเขานั้นพึ่งออกไปแค่สิบนาที ทำไมเจ้านายของตัวเองนั้นอยู่ๆ ก็อารมณ์ไม่ดีแล้วล่ะ?

อ่า! คงยังโมโหคนของตระกูลจิ่งแล้วก็ไอ่สวะเฉินหย่งต๋าแน่ๆ!

ยังไงซะคืนนี้เขากล้าที่จะทำแบบนี้กับจิ่งหนิง ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นก็คงปล่อยไปไม่ได้แน่ๆ!

ซูมู่รู้ดีว่าตัวเองนั้นความรู้สึกไว ในใจนั้นได้เดาว่าเจ้านายของตัวเองนั้นจะจัดการกับเรื่องนี้แบบไหน แล้วก็ได้คิดหาวิธีที่จะช่วยให้คุณนายในอนาคตของตนนั้นเอาคืนพวกนั้น

อีกด้าน หมอนั้นได้ฉีดยาให้จิ่งหนิงเรียบร้อย

เธอได้หันไปพูดกับลู่จิ่งเซิน “ยาถอนนั้นได้ฉีดเข้าไปแล้ว แต่ว่ายังต้องใช้เวลาอีกหนึ่งชั่วโมงถึงจะดีขึ้น ช่วงนี้คุณอยู่เป็นเพื่อนเธอก่อน ถ้าเกิดยังไม่สบายตัวอีกนั้นก็ให้เธอนั้นแช่น้ำเย็น เดียวสักพักก็ดีขึ้นแล้วค่ะ”

ลู่จิ่งเซินก็ยังคงสีหน้าไร้ความรู้สึกเหมือนเดิม ท่าทางนั้นได้เย็นชามาก ปากกลับพูดว่า “เธอทำไมยังออกเสียงไม่ได้?”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset