บทที่ 280 มาหาลูกของเขา
น้ำเสียงที่คุ้นเคย
หัวเหยานิ่งไป เธอโมโหจนรู้สึกปวดท้อง
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็หัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา และพูดขึ้นว่า“นี่คือบ้านของฉัน ฉันจะเปิดหรือไม่เปิดประตูมันก็เรื่องของฉัน เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?ว่าแต่คุณเถอะ พังประตูบ้านคนอื่นเข้ามาแบบนี้ ไม่กลัวฉันจะแจ้งความคุณเหรอ?”
จี้หลินยวนเลิกคิ้วขึ้น ไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อย
“คุณลองดูก็ได้นะ”
เมื่อเห็นเขามีท่าทีแบบนี้ ทำให้หัวเหยาไม่กล้าที่จะแจ้งความ
หัวเหยาโมโห เธอรู้สึกเหมือนมีกองไฟสุมอยู่ในอก อยากจะเหวี่ยงชายตรงหน้าออกจากระเบียง
หลังจากนั้นไม่นาน เธอจึงพูดขึ้นอย่างเดือดดาล:“คุณมาทำอะไรที่นี่?”
จี้หลินยวนหัวเราะขึ้นอย่างเยือกเย็น ใบหน้าที่เย็นชาและดุร้ายของเขา ดูน่ากลัวมากขึ้นเมื่ออยู่ภายใต้รอยยิ้มนั้น
เขาก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว อากาศเย็นยะเยือกจากร่างของเขาฟุ้งกระจายออกมากดดันร่างเล็ก หัวเหยาถอยหนี จนหลังของเธอชนเข้ากับกำแพง เธอหมดทางหนีแล้ว
จี้หลินยวนยื่นมือออกมา ผลักเธอติดกำแพง
ดวงตาอันแสนเยือกเย็นจ้องมาที่เธออย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมกับยกมุมปากขึ้นอย่างเย้ยหยัน
“ท้องเหรอ? ลูกใคร?”
หัวเหยากัดฟันอย่างสิ้นหวัง พยายามอย่างมากเพื่อควบคุมตัวเองไม่ให้สาปแช่งชายตรงหน้า
“ไม่ใช่ธุระอะไรของคุณ”
“อา!”
ทันใดนั้นเขาก็หยิบกระดาษสองสามแผ่นออกมาจากกระเป๋าเสื้อ และโยนมันลงบนใบหน้าของเธอ
“คุณขโมยลูกของผม และมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่คนเดียว คุณอยากใช้โอกาสนี้ในการแสดงละครน้ำเน่าเหรอ?หรือคุณรู้อยู่แล้วว่าผมจะกลับมาที่ตระกูลจิ้นคิดจะเล่นแผนสกปรกอะไร?”
หัวเหยาตัวแข็งทื่อ
ขอบกระดาษที่แหลมคมบาดเข้ากับผิวหน้าบอบบางของเธอ ให้ความรู้สึกเจ็บแสบเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามความเจ็บปวดทั้งหมดนี้ เทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดของหัวใจที่ถูกย่ำยีของเธอ
เธอเงยหน้าขึ้น จ้องมองเขาอย่างเย็นชา
ดวงตาของเธอเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง แต่ภายใต้น้ำแข็งนั้นกลับปะทุไปด้วยเพลิงไหม้ เปล่งประกายด้วยความอดกลั้นและความคับแค้นใจไม่รู้จบ
“ไม่ว่าคุณจะกลับไปที่ตระกูลจิ้นหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน และเด็กคนนี้ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณ”
“เขามีเลือดของผมอยู่ในตัว คุณยังกล้าพูดว่าเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผม!”
จี้หลินยวนเริ่มรู้สึกโกรธ
เขากระชากข้อมือของเธอขึ้น บีบแน่นจนข้อมือของเธอแทบจะแหลกสลายคามือของเขา
หัวเหยาแทบจะร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด
แต่เล็กจนโตหัวเหยาไม่เคยแบกรับความไม่เป็นธรรมแบบนี้มาก่อน และสิ่งที่ทุกข์ทรมานมากที่สุด ก็คือการตั้งครรภ์ครั้งนี้ ทรมานมากกว่าความทุกข์ในช่วงครึ่งแรกของชีวิตของเธอรวมกันด้วยซ้ำ เธอบอบช้ำมามากพอแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้กับเธออีก
เจ็บปวดจนเหลือทน บวกกับความอัดอั้น น้ำตาเธอไหลพรากอย่างควบคุมไม่ได้
“ปล่อยนะ!เจ็บ”
ใบหน้าของชายคนนั้นดูแข็งกระด้างเล็กน้อย
ผู้หญิงตรงหน้ามีใบหน้าที่ละเอียดอ่อน แม้เธอจะดูอวบขึ้นจากการตั้งครรภ์ แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดเสน่ห์ของเธอได้
ยามเธอร้องไห้ หยดน้ำตาใสไหลพราวราวกับลูกปัดที่แตกละเอียด ช่างน่าสงสารและดูเปราะบาง ทำให้ผู้ที่เห็นอยากจะดึงเธอเข้าสู่อ้อมอกเพื่อปลอบใจเธอ
เธอสวย
เขารู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้ว
ถ้าเธอไม่สวยขนาดนี้ เขาจะหลงเธอหัวปักหัวปำ และเจ็บปวดเจียนตายอย่างครั้งแรกได้อย่างไร
ความทรงจำในอดีตหลั่งไหลราวกับกระแสน้ำ ระงับความสงสารที่เพิ่งก่อตัวขึ้นในใจของเขา
เขาหัวเราะเยาะ“คุณร้องไห้ทำไม?ผมมาหาคุณแล้วไม่ใช่เหรอ? ตามหาตัวคุณตั้งนาน แต่คุณกลับซ่อนอยู่ในที่บ้าๆ นี่ ทนลำบากมาตั้งมากมาย ผมยังไม่ร้องไห้เลย คุณมีสิทธิอะไรมาร้องไห้?”
สิ่งที่เขาพูดนั้น ขัดแย้งกับน้ำเสียงของเขาอย่างสิ้นเชิง
ถ้าให้คนอื่นพูด อาจให้ความรู้สึกเหมือนกำลังบ่นหรือห่วงใย
แต่เมื่อเขาเป็นคนพูด กลับมีเพียงความเย็นชาที่แสดงออกมา
เช่นเดียวกับความหนาวเหน็บที่ไม่มีที่สิ้นสุด เยือกเย็นจนไอหนาวแผ่กระจายออกมาจากกระดูก
หัวเหยาตัวสั่นเทา เธอรีบเช็ดน้ำตา
เธอเหลือบมองกองข้อมูลของเธอที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น และยิ้มอย่างเยือกเย็น
“คุณชายจี้ เพิ่งเคยได้กลับไปไหว้บรรพบุรุษถึงตระกูลจิ้นทำไมคุณไม่พักผ่อนอยู่ที่บ้าน ออกมาตามหาฉันทำไม?อ้อ คงไม่ใช่เพราะคืนนั้น คุณตกหลุมรักฉันเข้าแล้วล่ะสิ!”
“หัวเหยา!”
จี้หลินยวนตะโกนด้วยความโกรธ
ข้อมือของเธอถูกเขาบีบอย่างแรง เจ็บจนแทบหายใจไม่ออก
แต่เธอก็ไม่พูดอะไร
“ที่คุณยังพูดเรื่องของฉันได้ จะไม่ให้ฉันพูดเรื่องขอคุณเลยเหรอ?คุณเป็นผู้ชายแท้ๆ เอะอะก็ใช้แต่ความรุนแรง เป็นผู้ชายแบบไหนกัน?ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ มันเจ็บ”
จี้หลินยวนขบฟันแน่น แต่สุดท้ายก็ผ่อนแรงที่บีบข้อมือของเธอลง
หัวเหยารู้ว่า สู้ไปเธอก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้
เธอสูดหายใจเข้าลึก ดวงตาแดงก่ำ เธอลดเสียงลง“ได้ พูดมา! คุณต้องการอะไร?”
จี้หลินยวนมีสีหน้าจริงจัง เขาพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม“คืนนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
หัวเหยายิ้มอย่างเศร้าใจ“จะเกิดอะไรขึ้นได้อีกล่ะ?คุณก็เห็นหมดแล้วนี่?ตั้งแต่เราแยกทางกันเมื่อสี่ปีก่อน ฉันก็คิดถึงคุณไม่เคยลืม หลายปีที่ผ่านมานี้ก็ยังรักคุณ
คืนนั้นฉันวางยาคุณ หลอกล่อคุณ แล้วก็มีลูกในท้อง เรื่องนี้มันเข้าใจยากขนาดนั้นเลยเหรอ? ”
จี้หลินยวนหรี่ตาลง“ผมจำได้ว่าตอนแรกคุณไม่ได้พูดแบบนี้”
หัวเหยาค่อนขอด“คุณไม่เคยได้ยินเหรอ?ผู้หญิงทุกคนโกหกเก่งกันทั้งนั้น เหตุผลที่ฉันไม่บอกคุณในตอนแรก คือฉันไม่อยากให้คุณคิดว่าฉันไร้ค่าก็เท่านั้น”
เธอหยุดไปสักพัก และกล่าวเสริมว่า“คนชอบพูดกันว่า ยิ่งถ้าผู้หญิงเป็นฝ่ายรุกมากเท่าไหร่ ผู้ชายก็จะดูถูกพวกเธอมากขึ้นเท่านั้น ตอนนั้นพวกเราก็มีความสัมพันธ์กันแล้ว ฉันยอมรับไม่ได้ว่าฉันเป็นคนหลอกล่อคุณ ดังนั้นความเข้าใจผิดทั้งหมดจึงตกอยู่ที่คุณไปโดยปริยาย”
จี้หลินยวนไม่ได้ตอบอะไร จากนั้นจึงถามขึ้น:“แล้วทำไมคุณต้องหนีมาต่างประเทศคนเดียวเงียบๆ?ทุกคนตามหาคุณ แต่ก็หาคุณไม่พบ”
หัวเหยายิ้มเยาะ นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชา“เพราะฉันสำนึกผิด จู่ ๆ ฉันก็ไม่อยากชอบคุณอีกแล้ว ฉันรู้สึกว่าคุณไม่ได้ดีอย่างที่ฉันคิดไว้ ทำไม ไม่อนุญาตเหรอ?”
คำพูดของเธอทำให้ดวงตาของชายคนนั้นแข็งกร้าวขึ้น เขาสาวเท้าเข้าหาเธอ
หัวเหยาก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว และมองเขาอย่างระแวดระวัง“คุณจะทำอะไร?ฉันเตือนคุณไว้ก่อน นี่คือบ้านของฉัน”
เมื่อเขาเห็นท่าทีตื่นตัวของเธอ จี้หลินยวนจึงยกยิ้มอย่างเย็นชา
เขาใช้สายตามองเธออย่างสำรวจ“คุณคิดจะไปไหน?ดูสภาพคุณตอนนี้ก่อนสิ ผมไม่หน้ามืดตามัวขนาดนั้นหรอก”
คำพูดของเขาทำให้หัวเหยาโกรธจัด เธอโกรธจนอยากจะเตะเขาออกไปให้พ้นหน้า
เธอกระสับกระส่ายเล็กน้อย และพูดเสียงเรียบ“งั้นคุณมาทำอะไรที่นี่?”
“ผมก็มาหาลูกชายของผมสิ”
หัวเหยาขึ้นเสียงอย่างเดือดดาล:“ใครเป็นลูกคุณ?”
สายตาของจี้หลินยวนมองลงมาที่หน้าท้องใหญ่ของเธอ มันชัดเจนอยู่แล้ว
หัวเหยาตัวเย็นวาบ เธอก้าวถอยหลัง“ฉันขอเตือนคุณไว้ก่อน จี้หลินยวน เขาเป็นลูกของฉัน และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลจี้ของพวกคุณหรือตระกูลจิ้นแม้แต่น้อย”
“แต่เลือดของผมไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขา”
“แล้วอย่างไร?” การแสดงออกของหัวเหยาเย็นชาขึ้น “นอกจากน้ำเชื้อของคุณแล้ว คุณก็ไม่ได้เสียสละอะไรให้เขา และฉันก็ไม่ต้องการให้คุณเสียสละอะไรทั้งนั้น
ฉันขอเตือนคุณ อย่ามายุ่งกับเขาอีก ไม่อย่างนั้น ฉันจะขอสู้จนตายตกไปตามกัน ดีกว่าปล่อยให้คนของตระกูลจี้ของคุณและตระกูลจิ้นได้ชีวิตอย่างมีความสุข “