บทที่ 292 ตลาดการพนันหิน
ลู่จิ่งเซินย่อมไม่สนใจพวกเขาอยู่แล้ว แต่จิ่งหนิงไม่อยากดึงดูดสายตาคนอื่น จะได้ไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น ได้เพียงแต่ทำพอเป็นพิธีอย่างมีมารยาท
ก็อยู่ในเวลานี้ อยู่ดีๆโม่หนานพูดเสียงเบาประโยคหนึ่งว่า “เธอมาแล้ว”
ในใจจิ่งหนิงหนาวเหน็บทันที เงยหน้ามองไป ก็เห็นอยู่ตรงประตูมีสุภาพสตรีที่สวมใส่เสื้อโอ่อ่าร่ำรวยคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่ง
บนกายสุภาพสตรีสวมใส่เสื้อกันหนาวขนแกะตัวหนึ่ง มือถือกระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ใหญ่ ผมจัดแต่งจนละเอียดรอบคอบ มีความรู้สึกงดงามหรูหราสูงส่งจากภายในสู่ภายนอกทั้งตัว
แต่บนใบหน้าของเธอกลับแฝงไว้ด้วยความโศกเศร้าเล็กน้อย ทั้งเดินไปยังข้างใน ทั้งฟังผู้ชายที่อยู่ข้างๆพูดอะไรอยู่
เดินถึงครึ่งทาง อยู่ดีๆเธอหยุดการย่างก้าว หันหน้ามองไปยังผู้ชายที่อยู่ข้างกาย บนใบหน้าแฝงไว้ด้วยสีหน้าที่โกรธแค้นพูดไปแล้วหลายประโยค
เพราะว่าอยู่ห่างกันไกลเกินไป จิ่งหนิงไม่ได้ยินชัดว่าพวกเขาพูดอะไร
เพียงแค่เห็นสีหน้าของคนทั้งสองล้วนไม่ค่อยดี คาดว่าน่าจะไม่ใช่คำพูดที่ดีอะไร
เธอถามลู่จิ่งเซินเสียงเบาว่า “พวกเราเข้าไปตอนนี้ไหม?”
สีหน้าลู่จิ่งเซินขึงลับเล็กน้อย “รอสักครู่ ดูก่อนค่อยว่ากัน”
จิ่งหนิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก
เพียงเห็นทั้งสองคนนั้นทะเลาะกันไปหลายนาทีแล้ว ก็ไม่ได้ทะเลาะกันอีกเลย ผู้ชายหมุนตัวออกไป ส่วนลู่หลันจือก็อยู่ที่เดิม ทั้งสองคนเลิกราอย่างไม่สบอารมณ์
จิ่งหนิงยิ้มพูดว่า “เห็นลักษณะแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้ดูเหมือนไม่ธรรมดา ก่อนหน้านั้นคุณเคยเห็นมาก่อนไหม?”
ลู่จิ่งเซินส่ายหัว
จิ่งหนิงคิดแล้วคิดอีก หันหน้าไปสั่งซูมู่
“ซูมู่ คุณออกไปตามผู้ชายคนนั้นไว้ ไปสืบภูมิหลังและประวัติของเขาสักหน่อย”
ซูมู่พยักหน้าตอบรับ หมุนตัวออกไปเลย
ทั้งสามคนยืนอยู่ที่นั่นต่อ รอไปสักพัก เห็นเพียงลู่หลันจือเหมือนจะจัดการกับอารมณ์เรียบร้อยแล้ว เริ่มเดินไปยังข้างใน
ทั้งสามคนรีบตามไปด้วย ผ่านไปไม่นาน ก็มองเห็นเธอมาหาผู้ชายคนนั้นที่เมื่อกี้ตอนเข้าประตูมาพูดคุยกับลู่จิ่งเซินและคนอื่นๆ หยิบเงินสดถุงหนึ่งออกจากกระเป๋ามอบให้ฝั่งตรงข้าม
สีหน้าลู่จิ่งเซินขึงลับเล็กน้อย
ลู่หลันจือกำลังเจรจาหารือกับฝั่งตรงข้ามอยู่
“ที่นี่คือหนึ่งแสน แม้ว่าเงินไม่เยอะ แต่ในปัจจุบันนี้ฉันก็สามารถเอาออกมาได้แค่นี้แล้ว ก่อนหน้านั้นคุณเคยรับปากกับฉัน จะไม่ทำให้ฉันขาดทุน คุณเห็นฉันในตอนนี้ล้วนขาดทุนจนกลายเป็นแบบไหนแล้วล่ะ? ฉันไม่สน คราวนี้คุณจะต้องทำให้ฉันได้กำไรกลับมา!ไม่ได้กำไรกลับมาฉันไม่จบกับคุณแน่!”
ฝั่งตรงข้ามจับธนบัตรที่อยู่ในมือ จับแล้วจับอีก ยิ้มพูดว่า “คุณลู่ทำไมต้องโมโหรุนแรงขนาดนี้ล่ะ? พนันหินโชคดีล่ะ เดิมทีที่พนันก็คือความโชคดี พูดได้อีกว่า มีครั้งไหนที่ผมแนะนำหินดิบให้คุณไม่สามารถตัดหยกออกมาได้ล่ะ? เพียงแค่ตัวคุณเองใจโลภเกินไป ดื้อที่จะได้กำไรเยอะในรอบเดียวให้ได้ ผมจะช่วยอะไรได้ล่ะ?”
พูดถึงเรื่องนี้ ลู่หลันจือก็มีความโมโห
“นั่นไม่ใช่คุณยุแยงฉันหรือ? พูดว่างวดนี้ล้วนเป็นคุณให้ผู้เชี่ยวชาญมาดูให้แล้ว ข้างในล้วนมีสิ่งล้ำค่า ยังพูดอีกว่าเพียงแค่ซื้อได้จำนวนเงินพอสมควรก็จะให้ฉันเป็นหุ้นส่วนที่นี่ ฉันล้วนเชื่อฟังคำพูดของคุณแล้ว ตอนนี้คุณปัดความรับผิดชอบได้ยังไงหรือ?”
ฝั่งตรงข้ามยิ้มพูดว่า “ได้ ผมก็จะไม่พูดคำพูดที่ไร้ประโยชน์เหล่านั้นอีกเลย ยังไงเรื่องก็ผ่านไปแล้ว แต่ว่าคุณลู่ หนึ่งแสนแค่นี้ของคุณ อยู่ในตลาดการพนันหินนี้มากล่าวแล้ว ซื้อสิ่งของดีๆอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ท่านจะเพิ่มอีกสักหน่อยหรือไม่?”
ลู่หลันจืออารมณ์เสียพูดว่า “ฉันไม่มีเงินแล้วคุณไม่ใช่ไม่รู้!”
ฝั่งตรงข้าม อิอิ ส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก
“พูดเล่นมั้ง คุณคือคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่สง่างามของตระกูลลู่ พี่ชายกับพี่สะใภ้คุณล้วนตายแล้ว ทรัพย์สมบัติของตระกูลลู่ไม่ว่ายังไงอย่างน้อยก็มีครึ่งหนึ่งเข้าไปในกระเป๋าของคุณด้วยล่ะ? หากคุณบอกว่าไม่มีเงิน ผมก็ยังจะไม่เชื่อจริงๆ”
พริบตาเดียวลู่หลันจือสีหน้าก็เปลี่ยนเลย
เธอถลึงตาจ้องมองฝั่งตรงข้าม กัดฟันพูดว่า “ฉันกล่าวเตือนคุณ เรื่องของฉันคือเรื่องของฉัน คุณอย่าดึงพี่ชายกับพี่สะใภ้ของฉันมาเกี่ยวด้วย!”
ผู้ชายคนนั้นส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก
“ได้ ถือว่าผมพูดผิด แต่ว่าเงินหนึ่งแสน แม้แต่ก้อนหินที่เท่านิ้วก้อนหนึ่งล้วนซื้อไม่ได้ ไม่มีประโยชน์อะไรจริงๆ หากว่าคุณไม่มีเงิน งั้นก็คราวหน้าค่อยมาใหม่ เป็นยังไงล่ะ?”
ลู่หลันจือหยาบคายไร้เหตุผลพูดว่า “ฉันทำไมต้องมาคราวหน้าล่ะ? ก่อนหน้านั้นฉันใช้เงินอยู่ในมือของคุณล่ะมากเท่าไหร่? หลายพันล้านล้วนมีแล้วมั้ง? ตอนนี้คุณพูดกับฉันว่าเงินเล็กน้อยนี้ไม่มีประโยชน์หรือ? ยังมีอีก ฉันไม่ใช่มีหุ้นปันผลที่นี่หรือ? ทำไมฉันจะไม่สามารถซื้อก้อนหินเหล่านี้ราคาถูกหน่อยล่ะ?”
ฝั่งตรงข้ามปวดหัวเล็กน้อยจนถอนหายใจหนึ่งที
“คุณนาย ปันผลนั้นก็ถึงรอบฤดูกาลจบ หรือสิ้นปีจึงจะมีล่ะ ตอนนี้คุณวิ่งมากลางทางก็บอกว่าคุณจะเอาปันผล ผมจะเอาจากที่ไหนมาแบ่งให้คุณหรือ?”
“ฉันไม่สน ยังไงก็ตามวันนี้ฉันก็จะเอาก้อนหินหลายก้อนนี้ ฉันเอาแน่!”
ทั้งสองคนกำลังดึงฉุดอยู่ ก็อยู่ในเวลานี้ อยู่ดีๆมีคนข้างหลังเรียกคำหนึ่งว่า “คุณป้า!”
ลู่หลันจือตื่นตะลึงทันที รีบหันหน้าไป ก็มองเห็นจิ่งหนิงเกาะแขนลู่จิ่งเซินยังมีโม่หนานยืนอยู่ที่นั่นด้วยกัน
ในฉับพลันนั้นเธอสีหน้าเปลี่ยนไป พริบตาเดียวก็ซีดลง
“อา อาเซิน จิ่งหนิง พวกแกอยู่ที่นี่ได้ยังไงหรือ?”
จิ่งหนิงยิ้มแล้วยิ้มอีก “วันนี้ฉันกับจิ่งเซินล้วนหยุดพอดี ได้ยินว่าฝั่งนี้มีตลาดการพนันหินแห่งหนึ่ง มีความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย ก็เข้ามาดูสักหน่อย นึกไม่ถึงจะได้พบปะกันกับคุณป้าที่นี่ คุณป้าก็เข้ามาพนันหินด้วยเหมือนกันหรือ?”
สีหน้าของลู่หลันจือมีความซีดเซียวเล็กน้อย รีบส่ายหัว
“ไม่ ฉันไม่ใช่”
“โอ๊ะ? ไม่ใช่หรือ เมื่อกี้ฉันมองเห็นท่านเอาเงินให้เขา ยังคิดว่าท่านน่าจะถูกใจหินดิบก้อนไหนแล้ว เตรียมตัวที่จะซื้อแล้วล่ะ!”
คำพูดของจิ่งหนิง ดูเหมือนไม่เจตนา แต่ด้วยความจริงคือทุกประโยคจี้ถึงจุดสำคัญ
ลู่หลันจือล้วนเกือบจะร้องไห้แล้ว
“เหอะๆ พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลาย พอดีเพิ่งเจอกันในช่วงนี้ ในสองวันนี้เงินที่เขามีใช้ขาดไปเล็กน้อย ก็เลยถามยืมกับฉันสักหน่อย วันนี้ฉันคือตั้งใจมาส่งเงินให้เขาล่ะ”
เธอพูดอยู่ ยังถอยไปก้าวหนึ่งเล็กๆ หวาดกลัวว่าตนเองจะเกี่ยวพันอะไรกับฝั่งตรงข้ามอีก
ฉับพลันทันทีจิ่งหนิงพยักหน้า
“โอ๊ะ แท้ที่จริงเป็นเช่นนี้เองล่ะ”
ในเวลานี้ ซูมู่ก็ส่งคนไปสืบได้เบาะแสของฝั่งตรงข้ามแล้วอย่างรวดเร็ว ส่งข้อความไปยังมือถือของลู่จิ่งเซินแล้ว
ลู่จิ่งเซินจ้องมองมือถือหนึ่งที ต่อจากนั้นหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง
“คุณป้ามีเพื่อนร่วมชั้นจากประเทศมาเลเซียตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วล่ะ”
คนทั้งหลายล้วนอึ้งชะงัก
ในใจลู่หลันจือตื่นตกใจทันที งุ่มง่ามอยู่ที่นั่นทั้งตัว ในทันทีไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไง
ลู่จิ่งเซินจ้องมองผู้ชายคนนั้นหนึ่งที สุดท้ายสายตาตกอยู่บนกายลู่หลันจือ
“พ่อค้าหยกประเทศมาเลเซีย มีเหมืองแร่สามแห่งอยู่ที่ประเทศT อาศัยขุดเหมืองเลี้ยงชีพมาโดยตลอด หลายปีก่อนก่อตั้งเปิดตลาดการพนันหินแห่งนี้ในเมืองหลวงแล้ว การค้าขายเจริญรุ่งเรือง เงินทองไหลมาเทมา
คุณป้าคือปีที่แล้วคุณจึงรู้จักเขานะ เพราะว่าครั้งแรกเข้ามาที่นี่ก็ใช้เงินไปแล้วไม่น้อยดังนั้นถูกฝั่งตรงข้ามจับตาไว้ ร่วมมือกับเพื่อนตั้งค่าการหลอกลวงหลอกล่อคุณเข้าสู่เกมลงทุนสองพันล้านรับปากให้คุณเข้าร่วมหุ้นให้ปันผลคุณ
ทันทีนั้นคุณลุ่มหลงก็เชื่อฟังเขาเลย นึกไม่ถึงตนเองก็ค่อยๆหลงใหลกับพนันหิน ไม่เพียงเสียพนันต้นทุนทั้งสองพันล้านนี้จนหมด ยังติดหนี้ท่วมหัวด้วย
วันนี้ก็เอาเงินเล็กน้อยนี้เข้ามา คืออยากจะอาศัยเงินนี้พลิกเอาทุนล่ะ? ใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยแต่ได้ผลดีหรือว่าจับเสือมือเปล่าล่ะ? อืม?”
ลู่หลันจือนึกไม่ถึงว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะรวดเร็วขนาดนี้ นี่เพิ่งเข้ามา ก็สืบเรื่องทั้งหมดจนน้ำลดตอผุดแล้ว
ถูกเขาพูดความจริงของเรื่องทั้งหมดออกมาอยู่ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ ในทันทีนั้นใบหน้าของลู่หลันจือก็อดกลั้นไว้ไม่ได้เล็กน้อยเช่นกัน
สีหน้าเธอขึงลับโหดร้ายลง พูดกับลู่จิ่งเซินว่า “อาเซินแกพูดเหลวไหลอะไรล่ะ? ฉัน ฉันเสียพนันมากขนาดนั้นได้ที่ไหนล่ะ? ป้าก็แค่ยามปกติรู้สึกเบื่อ ให้เป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งฆ่าเวลาเท่านั้น ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่แกพูดขนาดนั้น”