บทที่ 295 สารภาพอย่างตรงไปตรงมาและจริงใจ
ลู่หลันจือจะก้มหัว โดยพื้นฐานถือว่าอยู่ในการคาดการณ์ของลู่จิ่งเซิน
หลังจากลู่จิ่งเซินรับปากแล้ว ตอนเย็นนัดกันไปบ้านเก่าด้วยกัน
ให้จิ่งหนิงกลับไปก่อน ฉีดยาให้หัวใจนายหญิงแข็งแรงสักเข็ม ให้พวกเขาเตรียมใจสักหน่อย
ในคืนนี้ สามคนก็ติดตามทั้งหน้าหลังเข้าไปในบ้านตระกูลลู่ด้วย
บ้านตระกูลลู่ นายหญิงได้ยินเรื่องนี้แล้ว ย่อมโมโหจนทนไม่ได้แน่นอน
ก่อนที่ลู่หลันจือจะมา ก็อาละวาดอยู่ในบ้านรอบหนึ่งแล้ว แม้แต่แก้วน้ำชาล้วนโยนแตกไปหลายใบ
จิ่งหนิงเกลี้ยกล่อมว่า “โชคดีที่คุณป้าเอาเรื่องนี้บอกกับพวกเราแล้ว กลับตัวยังไม่สาย คุณย่าท่านก็อย่าเพิ่งโมโหก่อน เรื่องนี้พูดถึงที่สุด เพราะเกิดจากความโกรธกระฟัดกระเฟียด พวกเราต้องไม่เพราะอารมณ์ชั่ววูบทำให้เรื่องยิ่งแย่อีก ก็ใจเย็นลงหน่อยค่อยมาจัดการอีกสำคัญกว่า”
นายหญิงถอนหายใจหนึ่งที
“ฉันรู้ แกวางใจเถอะ ฉันก็แค่อาละวาดในเวลานี้ ยังจะทำอะไรเธอได้อีกล่ะ? อีกสักครู่เธอเข้ามา ฉันไม่ว่าเธอก็ได้”
รับปากส่วนรับปาก รอเวลาที่ลู่หลันจือมาถึงจริงๆ ในที่สุดนายหญิงก็ยังอดทนไม่ได้ ด่าเธออย่างรุนแรงหนึ่งรอบ
ลู่หลันจือรู้ตัวว่าเป็นฝ่ายผิด ถูกด่าอีกก็ต้องอดทนด้วย ไม่ได้เอ่ยปากพูด
นายหญิงอาละวาดเสร็จ ไฟโมโหในใจในที่สุดก็กระจายไปเล็กน้อย นี่จึงเริ่มเรียงต้นสายปลายเหตุของเรื่อง
เรื่องนี้พูดถึงที่สุด ที่จริงแล้วง่ายมากๆ
เพียงแค่เป็นคนที่ไอคิวปกติคนหนึ่ง โดยพื้นฐานล้วนสามารถดูออกได้ ลู่หลันจือนี่ก็คือถูกคนตั้งค่าการหลอกลวงหลอกไปแล้ว
สิ่งที่ยากคือ ตัวเธอเองไม่รู้ ก็ไม่ได้เหลือหลักฐานอะไรไว้ อีกทั้งในทุกครั้งล้วนเป็นตัวเธอเองเข้าไปยินยอมซื้อหินดิบด้วยตนเอง
นอกจากใช้กลอุบายเป็นพิเศษ มิฉะนั้นยากที่จะพิสูจน์ว่าฝั่งตรงข้ามตั้งค่าการหลอกลวงหลอกเธอ
แม้ว่ากลอุบายตระกูลลู่มีมากมาย แต่ตอนนี้เป็นยามฉุกเฉิน อีกทั้งกำลังเริ่มพบไม้ใหญ่โดนลมโค่น ยิ่งไม่กล้าบุ่มบ่าม
เผิงเสี้ยวหลินสามารถทำตลาดการพนันหินจนใหญ่ขนาดนี้อยู่ในเมืองหลวง เป็นไปไม่ได้จะไม่มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ในเอกสารก่อนหน้านั้นที่ซูมู่สืบได้ แสดงให้เห็นว่าเขามีการติดต่อกับตระกูลกู้ เป็นไปได้อย่างมากว่าตระกูลกู้ก็คือเป็นที่พึ่งอยู่เบื้องหลัง
ทันทีที่พัวพันถึงเรื่องของลู่กู้ทั้งสองตระกูล ใครก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามด้วย
ลู่จิ่งเซินคิดแล้วคิดอีก “เรื่องนี้ผมสามารถส่งคนไปคิดวิธีจัดการ แต่ในช่วงเวลานี้ ดีที่สุดอย่าให้เห็นคุณป้าอยู่ในเมืองหลวง จะได้ไม่มีปัญหาแทรกซ้อนขึ้นมาอีก”
ในฉับพลันนั้นลู่หลันจือไม่ยินยอมเลย
“อาเซิน แกนี่คืออยากจะเนรเทศฉันหรือ? ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันก็จะอยู่แค่เมืองหลวง!”
คุณย่าเสียงโมโหกราดเกรี้ยวพูดว่า “อย่าเอะอะก่อกวน! ตอนนี้คือกำลังจัดเก็บเช็ดก้นให้แก! แกคิดว่าใครก็ยินยอมช่วยแกจัดการเรื่องนี้หรือ?”
ลู่หลันจือถูกนายหญิงตะโกนใส่ ในทันทีสูญเสียความมั่นใจเต็มเปี่ยมเลย
ผ่านไปสักพัก จึงน้อยเนื้อต่ำใจพูดว่า “งั้นก็ได้ งั้นฉันจะไปประเทศฝรั่งเศส”
“ไม่ได้!”
นายหญิงเสียงโมโหกราดเกรี้ยวห้ามไว้ จ้องมองเธออย่างเย็นชาหนึ่งที
“แม้แต่คิดแกล้วนไม่ต้องคิด! พรุ่งนี้ก็ไปจองตั๋วเครื่องบินไปประเทศสหรัฐอเมริกาน้าของแกอยู่ที่นั่น! ฉันจะส่งคนจับตาดูแกไว้ แกอย่าคิดจะไปมั่วทุกที่! เรื่องยังจัดการไม่เสร็จ ที่ไหนแกก็ห้ามไปด้วย”
ในทันทีลู่หลันจือไม่ยอมจนร้องกรี๊ดขึ้นมา
“แม่ ฉันล้วนอายุสามสิบกว่าแล้ว ไม่ใช่สามขวบ ท่านนี่คือเหมือนเฝ้าติดตามฉันดั่งเด็กน้อยหรือ?”
นายหญิง ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง
“ฉันเห็นไอคิวของแกนี้ กับสามขวบก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่”
ลู่หลันจือ “……..”
ในเมื่อนายหญิงตัดสินใจแล้ว นั่นแม้แต่ใครก็เปลี่ยนไม่ได้ด้วย
สุดท้าย การประชุมครอบครัวฉากนี้ประกาศจบอยู่ภายใต้การตัดสินใจของนายหญิง
ลู่จิ่งเซินกับจิ่งหนิงย่อมต้องกลับไปวิลล่าเฟิงเฉียวอยู่แล้ว
นายหญิงเป็นห่วงว่าลู่หลันจือจะก่อเรื่องอะไรอีก ด้วยเหตุนี้ไม่ได้อนุญาตให้เธอไป ให้เธอพักอยู่บ้านตระกูลลู่ต่อ เช้าวันรุ่งขึ้น นั่งเครื่องบินออกไปโดยตรง
ตอนออกจากประตู อยู่ดีๆลู่หลันจือเรียกจิ่งหนิงไว้
เธอจ้องมองลู่จิ่งเซิน ยิ้มพูดว่า “อาเซิน ฉันมีคำพูดอยากจะพูดกับหนิงหนิง ให้พวกเราอยู่ตามลำพังสักพักได้หรือไม่?”
ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว จ้องมองจิ่งหนิงหนึ่งที
จิ่งหนิงพยักหน้าให้สัญญาณกับเขา
“คุณไปรอฉันอยู่บนรถก่อนเถอะ! เดี๋ยวฉันก็มา”
ลู่จิ่งเซินนี่จึงพยักหน้า หมุนตัวออกไปเลย
หลังจากรอเขาไปแล้ว เดิมทีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของลู่หลันจือ ในฉับพลันนั้นก็หายลงไปเลย
“จิ่งหนิง ตอนนี้แกดีใจเป็นพิเศษใช่หรือไม่? ภูมิใจเป็นพิเศษหรือ? ทำให้ฉันออกจากเมืองหลวง วันหลังก็ไม่มีคนจับตาไว้แกไว้ ไม่มีคนยุ่งกับแกแล้ว แกก็สามารถจับกุมอาเซินไว้อย่างตามใจได้ เรื่องอะไรล้วนให้เขาเชื่อฟังแกหรือ?”
จิ่งหนิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ว่าสักพัก ก็ปล่อยออกเลย
เธอมีความเย็นชาเล็กน้อยจ้องมองลู่หลันจือ นัยน์ตาปรากฏความเยาะเย้ยเล็กน้อยขึ้นมา
“คุณป้าเรียกฉันไว้ ก็เพราะว่าจะพูดสิ่งเหล่านี้กับฉันหรือ?”
ลู่หลันจือยืดหน้าอกขึ้น
“ยังไงล่ะ? ฉันยังพูดไม่ได้เลยหรือ? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ความคิดเล็กน้อยเหล่านั้นของแก แกดูภายนอกเหมือนดั่งอยากจะช่วยฉัน ตามความจริง ก็แค่เพื่อที่จะเห็นฉันขายหน้า!
ดีมาก ตอนนี้สมปรารถนาแกแล้ว ถือว่าฉันอยู่ในตระกูลลู่ล้วนขายหน้าจนหมดแล้ว นายท่านนายหญิงก็ผิดหวังกับฉันด้วยแล้ว วันหลังจะไม่รับฟังฉันอีกเลย ตอนนี้แกคงพอใจแล้วล่ะ!”
จิ่งหนิงส่ายหัวส่ายแล้วส่ายอีก
“ฉันไม่เคยมีความคิดอย่างนี้มาก่อน”
“เหอะ จะหลอกใครหรือ? พูดถึงที่สุด แกก็ไม่ใช่เพียงแค่ไม่พอใจที่ฉันไม่ชอบแกกับอาเซินอยู่ด้วยกันมาโดยตลอดหรือ?ฉันยิ่งถูกใจเสว่เฟยกับอาเซินมาโดยตลอด จุดนี้จะต้องทำให้แกไม่พอใจอย่างมากแน่นอนล่ะ?
งั้นแกรู้หรือไม่ว่า เสว่เฟยกับอาเซิน พวกเขาเคยเป็นคู่รักกัน เติบโตด้วยกันตั้งแต่เด็ก เป็นคนหนุ่มสาวที่เติบโตเล่นด้วยกันมาแต่เด็กๆ ความรักความผูกพันอย่างดีมาก แกพูดดูสิ ตอนนี้แกแทรกขวางเข้ามาอยู่ที่นี่ มีความหมายอะไรหรือ?”
จิ่งหนิงสูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที
ในใจทนความรำคาญไม่ได้เล็กน้อย
เรื่องเรื่องหนึ่ง คุณพูดแค่ครั้งเดียว จะมีความอดทนอย่างมาก
แต่หลังจากพูดไปแล้วหลายรอบ ก็เพียงแค่รู้สึกเหนื่อยหน่าย แม้แต่ความอดทนที่จะฟังต่อก็ไม่มี
เธอจ้องมองลู่หลันจือ เสียงเข้มพูดว่า “ในเมื่อคุณป้าล้วนพูดคำพูดถึงขนาดนี้แล้ว งั้นลองให้ฉันถามสักประโยคซะ ในเมื่อความรักความผูกพันของพวกเขาดีขนาดนี้ งั้นทำไมสุดท้ายคนที่อาเซินแต่งคือฉันแต่ไม่ใช่เธอล่ะ?”
ลู่หลันจือเงียบสนิทในทันที
จิ่งหนิงเยาะเย้ยหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง
“คุณป้า ที่จริงแล้วฉันไม่ค่อยเข้าใจมาโดยตลอด ทำไมท่านไม่ชอบฉันขนาดนี้ล่ะ? ฉันคิดว่าจากการเริ่มต้น ก็ไม่เคยแสดงเจตนาร้ายกับท่าน ดังนั้นที่ไหนที่มารยาทไม่พอกับท่านทั้งหมด ก็เพราะว่าท่านยั่วยุมาก่อนด้วย
ฉันรู้ว่าท่านดีต่อจิ่งเซินอย่างมาก หลายปีที่พ่อแม่เขาไม่อยู่นี้ ท่านก็ดูแลเขาอย่างมากด้วย ฉันไม่เคยปฏิเสธถึงความผูกพันทางสายเลือดของพวกท่าน แต่ว่าท่านควรเข้าใจ อนาคตคนที่จะเดินเป็นเพื่อนของเขาทั้งชีวิตไม่ใช่ท่านแต่เป็นฉัน
ความผูกพันทางสายเลือดลึกขนาดไหน ถ้าหากว่าอยู่ภายใต้การเสียดสีที่ผิดหวังและขัดแย้งกันเป็นเวลานาน ก็จะค่อยๆ เสื่อมสลายหายไปด้วย ฉันไม่หวังว่ารอจนสุดท้ายท่านทำให้ความซาบซึ้งใจเพียงเล็กน้อยนี้ในระหว่างพวกท่านล้วนเสื่อมสลายหายไปแล้วค่อยมาเสียใจภายหลังอีก
ดังนั้นฉันตักเตือนท่านสักคำ คุณป้า ถ้าหากว่าอยากใช้ชีวิตอย่างดีในบั้นปลายชีวิต ยังคงต้องหยุดสักหน่อย บริหารจัดการตัวเองให้ดีๆเถอะ ถึงยังไงตระกูลลู่นี้ในอนาคตก็เป็นของจิ่งเซิน แต่ฉันเป็นภรรยาของเขา จึงจะเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลลู่อย่างแท้จริง”
เธอพูดจบ เพียงเห็นสีหน้าของลู่หลันจือเขียวซีดสลับกัน โมโหจนเหมือนดั่งวินาทีถัดมาก็จะเป็นลมไปนี่จึงยกมือ เรียกคนรับใช้คนหนึ่งเข้ามา
“ร่างกายคุณป้าไม่ค่อยสบาย รบกวนคุณส่งเธอกลับไปพักผ่อน”