วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 315 เข้าใจผิดกันใหญ่

บทที่ 315 เข้าใจผิดกันใหญ่

คนคนนั้นได้ยินก็ได้ขำออกมา “พอเลย อย่าตีหน้าตัวเองจนบวมแล้วบอกว่าเป็นไอ่อ้วน คิดว่าฉันดูไม่ออก?”

คำพูดของเขา ก็ได้ฉีกการเสแสร้งของกู้จื่อจุน กู้จื่อจุนสีหน้าได้เสีย ใบหน้าก็ได้มีการขายหน้าเล็กน้อย

พี่ฮุยก็ได้ถามต่อ “ว่ามา! นายอยากจะได้ผู้หญิงคนนั้นไหม?”

กู้จื่อจุนคิดไปสักพัก ก็ได้พูดออกมา “ต้องอยากได้อยู่แล้วแต่ว่าเธอดื้อมาก ไม่สนใจผมเลย”

พี่ฮุยเลิกคิ้ว พูดว่า “งั้นนายอยากจะให้เธอเชื่อฟังนายไหม?”

กู้จื่อจุนเงยหน้า พูดอย่างไม่เข้าใจ “ต้องอย่างอยู่แล้ว”

พี่ฮุยพยักหน้า “ถ้าแบบนั้น ฉันสอนวิธีหนึ่งให้นาย”

กู้จื่อจุนเลิกคิ้วด้วยความดีใจ “วิธีอะไรครับ?”

เห็นคนคนนั้นได้เอาผงสีขาวออกมาจากกระเป๋า วางไว้ตรงหน้าเขา พูดเสียงเบา “เดี๋ยวเอาอันนี้ไปใส่ในเหล้าเธอ รับรองว่าคืนนี้ได้ตามที่นายหวังแน่”

กู้จื่อจุนสีหน้าได้เปลี่ยน ก็ได้ฝืนยิ้ม “พี่ฮุย ไม่ขำครับ ผมจริงจังกับเธอนะ ถ้าทำแบบนี้ ต่อไปเธอยังจะสนใจผมไหม?”

พี่ฮุยหัวเราะอย่างเย็นชา “อันนี้นายไม่เข้าใจ มนุษย์อย่างผู้หญิงนั้น เกิดมาเพื่อนอน เอาอันนี้ให้เธอดื่ม คืนนี้ก็ทำอะไรที่ควรทำไป ถึงพรุ่งนี้ ต่อให้เธอเสียใจทีหลัง ก็ไม่มีทางที่จะเสียใจทีหลังแล้ว!”

“แต่ว่า……” กู้จื่อจุนก็ยังลังเล

พี่ฮุยก็ได้พูดต่อ “ตอนแรกๆ เธอนั้น ต้องโวยวายกับนายไม่กี่วันแน่นอน ช่วงนั้นนายก็ทำตัวดีๆ หน่อย ง้อเธอหน่อย ทั้งไม้อ่อนแล้วไม้แข็ง ผ่านไปไม่นาน เธอก็ต้องยอมรับความจริง แล้วก็ค่อยๆ ยอมรับนาย นายวางใจ นี่เป็นประสบการณ์ของพี่ ไม่มีทางที่จะทำร้ายนาย”

กู้จื่อจุนถูกเขาพูดจนเริ่มเชื่อ หันไปมองกวนเยว่หวั่น เห็นว่าหญิงสาวได้นั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ใบหน้าที่ใสสะอาดได้เย็นชา เหมือนดอกหินขาวที่อยู่กลางหิมะ

ในหัวก็ได้จินตนาการถึงใบหน้าที่เย็นชานั้นได้มีใบหน้าที่มีความสุขอยู่ใต้ร่างของเขา เลือดในร่างกายก็ได้ร้อนขึ้นมา

เขาลังเลไปสักพัก สุดท้ายก็ได้ยื่นมือไปเอาผงนั้น พยักหน้า “ครับ ผมทำตามที่พี่บอก!”

ตาของพี่ฮุยก็ได้เป็นประกาย ตบไปที่บ่าของเขา ไม่ได้พูดอะไรต่อ

กวนเยว่หวั่นนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว เดิมก็น่าเบื่ออยู่แล้ว เวลาผ่านไปนานก็เริ่มนั่งไม่อยู่

เวลานี้ เดิมกู้จื่อจุนที่ได้เดินไปแล้วก็ได้กลับเข้ามา ก็ได้เอาเหล้ามาแก้วหนึ่ง ยิ้มให้แล้วพูดว่า “เมื่อกี้ฉันร้อนใจไปหน่อย น้ำเสียงไม่ดี ฉันมาขอโทษกับเธอ เธออย่าถือสาฉันเลยได้ไหม?”

กวนเยว่หวั่นหันไปมองเขา ขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าผู้ชายคนนี้จะมาไม้ไหนอีก

“นายคิดที่จะทำอะไรอีก? พูดมาตรงๆ!”

กู้จื่อจุนเห็นว่าความคิดของตนนั้นถูกเธอจับได้ ก็เริ่มมีพิรุธ

“ฉันยังจะมีแผนอะไรอีก? ฉันก็แค่มาชวนเธอดื่มเหล้าเท่านั้น!”

นิ่งไป ก็พูดต่อ “เธอดู ต่อให้เราสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกัน เป็นเพื่อนก็ได้ไม่ใช่เหรอ? วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน ไหนๆ เธอก็ออกมาแล้ว ทำไมถึงจะมาเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนานไม่ได้ล่ะ? มีหน้าที่เย็นชาแบบนี้ตลอด ทำให้ฉันขายหน้ามากรู้ไหม?

ให้พูดต่อ เธอนั้นพูดให้ฉันโมโหอยู่หลายครั้ง ฉันยังไม่ถือสาอะไรเธอเลย เธอใจกว้างหน่อยไม่ได้เหรอ เป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง ครั้งนี้ยกโทษให้ฉันนะ?”

กวนเยว่หวั่นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถ้านายยอมมาเจรจากับฉันตั้งแต่แรก ก็ไม่จำเป็นให้ฉันนั่งโมโหอยู่ที่นี่!”

กู้จื่อจุน “……”

สีหน้าของเขาได้เย็นชาลง พูดอย่างโมโห “วันนี้เธอคิดดีแล้วใช่ไหมจะไม่ไว้หน้าฉันอ่ะ?”

กวนเยว่หวั่นได้พูดอย่างเยือกเย็น “ฉันได้บอกไปตั้งแต่แรกแล้ว พวกเรานั้นไม่มีทางที่จะอยู่ด้วยกัน เป็นนายที่หน้าด้านจะเข้ามาให้ตัวเองโดนด่าเอง งั้นก็อย่าโทษฉันที่มีท่าทางที่ไม่ดี พูดตามตรง ตอนนี้ฉันยังไม่หันหน้าเดินออกไป ก็ถือว่าดีมากแล้ว”

คำพูดของเธอ ทำให้สีหน้าของกู้จื่อจุนได้เสียไป ก็ได้พูดอย่างโมโหว่า “เธอรู้ไหม เธอแบบนี้เป็นการพูดดีๆ ไม่ได้ต้องใช้กำลังอ่ะ!”

กวนเยว่หวั่นกระตุกมุมปากอย่างประชดประชัน “นายจะทำอะไร? ไม้อ่อนไม่ได้มาไม้แข็ง? บังคับคนอื่น? อย่าลืมไปนะ ที่นี่เป็นที่สาธารณะ!”

เธอได้มีท่าทางที่ไม่กลัวอะไร ทำให้สายตาของกู้จื่อจุนเย็นจนถึงขีดสุด ก็ได้หึออกมา สุดท้าย ก็ไม่ได้พูดอะไรไม่น่าฟังออกมา หันหลังเดินออกไป

เห็นเขาออกไป กวนเยว่หวั่นก็คิดว่าเขาได้ถูกเธอทำให้โมโหแล้วก็ออกไป ก็อยากให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะงั้นก็ไม่ได้สนใจเขาต่อ

ก็ได้นั่งไปสักพัก เธอรู้สึกว่าน่าเบื่อ ก็ได้เอากระเป๋าแล้วก็เดินออกไป

เดิมเธอนั้นก็แค่อยากจะไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็ออกไปสูดอากาศ แต่คิดไม่ถึงว่าพอออกมาจากห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงหายใจของผู้หญิงที่ไม่เหมือนกันมาจากข้างๆ แถวทางเดิน

เธอได้อึ้งเล็กน้อย เวลานั้น ก็นึกได้ว่านั้นเป็นเสียงอะไร

พอนึกได้ เธออดหน้าแดงไม่ได้ ก้มหน้า แล้วก็ได้รีบก้าวขาเดินออกไป

พอได้ยินเสียงผู้หญิงที่อ่อนหวานได้ส่งออกมาว่า “ได้ยินว่าคุณหมอจี้อ่อนโยนกับผู้หญิงอยู่ตลอด ทำไมวันนี้ถึงได้รุนแรงจัง?”

เธออึ้งเล็กน้อย ได้ยิน “คุณหมอจี้” สองคำนี้ ในหัวก็ได้มีภาพของจี้หยุนซูโผล่ขึ้น

เวลานั้น ก็ได้ส่ายหน้า รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ คนที่เย็นชาอย่างจี้หยุนซู จะมาในที่แบบนี้แล้วก็ทำเรื่องอย่างว่ากับพูดหญิงได้ยังไง

คิดได้แบบนั้น ก็ได้วางใจลง เตรียมที่จะก้าวออกไปนั้น

จากนั้นก็ได้มีร่างผู้ชายคนหนึ่งได้พุ่งออกมาตรงทางเดิน ชนไปที่เธอ

เธอสะดุด เกือบที่จะล้มลงไป คนคนนั้นก็ได้ไปประคองเธออย่างเร่งรีบ แต่แล้วพอยืนมือไปแค่นิดเดียว ก็ได้นิ่งไป

กวนเยว่หวั่นเงยหน้า ก็ได้มองผู้ชายที่อยู่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากที่จะเชื่อ ไม่กล้าที่จะเชื่อแม้แต่นิด ว่าเป็นเขาจริงๆ!

สายตามองตั้งแต่หน้าที่แดงของเขา ลงไป หยุดที่เสื้อผ้าที่ยุ่งของเขา แล้วก็รอยลิปที่อยู่ตรงคอเสื้อ สีหน้าก็ได้ซีดลงอย่างช่วยไม่ได้

จี้หยุนซูเห็นว่าเป็นเธอ ก็ได้อึ้งเล็กน้อย

“หวั่นหวั่น เธอทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?”

พูดจบ ก็ได้ยืนมือจะไปประคองเธอ แต่กวนเยว่หวั่นก็ได้ชิงลุกขึ้นมาก่อนแล้ว ไม่พูดอะไรแล้วก็ปัดมือเขาไป สีหน้าเย็นชา

จี้หยุนซูใจเต้น เหมือนว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้น

เวลานี้ ผู้หญิงที่แต่งตัวสวยมากๆ ก็ได้รีบวิ่งเข้ามา

“คุณชายจี้ คุณจะไปไหน?”

พอออกมา ก็ได้รู้สึกว่าภาพที่เจอตรงหน้านั้นมันไม่ปกติ

เธอได้มองกวนเยว่หวั่นอย่างระแวงไปสักพัก ก็ได้มองไปที่จี้หยุนซู

“คุณชายจี้ เธอเป็นใครคะ? พวกคุณรู้จักเหรอ?”

จี้หยุนซูสีหน้าได้เย็น เห็นว่ากวนเยว่หวั่นจะเดินออกไป ในใจได้รีบร้อน ก็ได้รีบอธิบาย “เธออย่าเข้าใจผิด ฉันกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน!”

กวนเยว่หวั่นมองเขา หัวเราะอย่างเย็นชา “คุณกับเธอเป็นอะไรกันไหม เกี่ยวอะไรกับฉัน? คุณหมอจี้ ฉันว่าคุณดื่มมากไปแล้วนะคะ!”

เธอเรียกว่าคุณหมอจี้ ไม่ใช่รุ่นพี่

สีหน้าของจี้หยุนซูได้เปลี่ยน ก็ได้ไปคว้ามือเธออัตโนมัติ

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset