บทที่ 334 กลับมาอีกครั้ง
นอกห้องมีเสียงเคลื่อนไหวของคนรับใช้ดังขึ้น มีใครบางคนหยุดฝีเท้าหน้าประตู และพูดขึ้นว่า : “คุณหนูค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
หัวเหยาร่างกายแข็งทื่อทันที
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าคนรับใช้ต้องได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในห้องแน่ เพราะไม่วางใจเลยเดินเข้ามาซักถาม
เธอรีบหันหน้าจ้องมองผู้ชายที่อยู่เบื้องหน้าให้เขาปล่อยมือ
แต่จี้หลินยวนทำเหมือนกับไม่เห็นอย่างนั้น เขายังคงเอามือไว้บนเอวของเธออยู่ และให้เธออยู่ระหว่างกลางร่างกายของเขากับประตู
หัวเหยาจนปัญญา เลยทำได้เพียงตอบว่า “ไม่มีอะไร”
คนรับใช้รู้สึกสงสัยเล็กน้อย แต่ก็ไม่ซักถามมากความ แล้วเดินหันหลังจากไป
หลังจากรอคนที่อยู่ข้างนอกจากไป หัวเหยาก็หันหน้าจ้องมองจี้หลินยวนอีกครั้ง และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : “ยังไม่ยอมปล่อยอีก?”
จี้หลินยวนจ้องมองเธออย่างนิ่งเงียบ โดยไม่ปล่อยมือ แต่กลับเดินเข้ามาใกล้ชิด ทำให้ระยะห่างใกล้กันมาก
บรรยากาศน่ากดดันเข้ามาแล้ว หัวเหยารู้สึกตื่นตระหนกมาก ขณะเดียวกันก็พยายามบิดตัวหนี
จู่ๆจี้หลินยวนก็หัวเราะเบาๆขึ้น
“เหยาเหยา ในใจของคุณยังมีผมอยู่”
หัวเหยาจ้องมองด้วยสายตาเคร่งขรึมขึ้น
เหมือนกับยอมรับกับคำพูดนี้ จี้หลินยวนยื่นมือจับคางของเธอเพื่อบังคับให้เธอเงยหน้ามองตัวเอง ซึ่งดวงตานั้นมีสายตาอ่อนโยนเล็กน้อย แต่เธอกลับมองไม่เห็น
“คุณรู้ไหมว่าไม่กี่ปีมานี้ ผมชอบคิดถึงอะไร?”
หัวเหยารู้สึกมึนงงเล็กน้อย ไม่พูดจา แต่จ้องมองเขาอย่างเงียบๆ
จี้หลินยวนลูบผิวหนังบนคางของเธอเบาๆ และพูดว่า : “ผมมักชอบคิดถึง ตอนที่คุณรักผมอย่างบ้าคลั่งในตอนนั้น ทำไมต้องทอดทิ้งผม? คำพูดที่คุณพูดกับผมในตอนนั้นเป็นจริงหรือเปล่า? คุณอยู่กับผม แค่แก้เหงาเท่านั้นหรอ และคนจนที่ไม่มีอะไรอย่างผมเหมาะสมกับคุณหนูอย่างคุณ……..”
ความทรงจำในอดีตพรั่งพรูเข้ามาในสมองอย่างกับคลื่นทะเลซัด
ห้าปีก่อน หัวเหยายังอายุน้อย คุณหนูอย่างเธอ แวบแรกที่เห็นจี้หลินยวนก็หลงรักท่าทางเย็นชา และความป่าเถื่อนของเขาแล้ว
แต่อายุในตอนนั้น ต่อให้ชอบก็ไม่พูดออกมาอย่างง่ายดายหรอกจริงไหม?
ยิ่งชอบ ยิ่งลังเล ยิ่งอึดอัดใจ
ทั้งที่ในใจรักแทบตาย แต่ใบหน้าและท่าทางกลับเผยเมินเฉย
โดยเฉพาะเธอ เป็นคุณหนูของตระกูลหัว
คนรอบข้างของเธอ มีแต่เพื่อนที่ร่ำรวย ล้วนเป็นลูกของตระกูลใหญ่
แม้แต่จิ่งหนิง ก่อนที่โม่ไฉเว่ยจะเกิดเรื่อง เธอก็เคยเป็นหัวแก้วหัวแหวนของคนในตระกูล
รอบข้างของเธอมีแต่คนร่ำรวย มีอยู่วันหนึ่ง มีคนซักถามเธอว่าคบกับคนจนคนหนึ่งหรอ แถมยังพูดจาประชดประชันด้วย
ก็ไม่รู้ทำไม เธอเสียสติพูดออกมาว่าแค่เล่นแก้เบื่อเท่านั้น ไม่มีอะไรน่าแปลก!
ฝ่ายตรงข้ามพูดแทงใจดำว่า ในอนาคตเธอต้องแต่งงานกับคนจนทำนา ตลอดชีวิตต้องเป็นคนจน เมื่อได้ยินแบบนี้เธอก็โมโหเดือดดาลขึ้น เธอพูดขึ้นว่าเธอไม่มีทางแต่งงานกับคนจน เธอคือคุณหนูของหัวซื่อกรุ๊ป ถึงแม้ตอนนี้คบกันก็แค่แก้เหงาเท่านั้น อีกอย่างคนจนคนนั้นแทบไม่อะไรเหมาะสมกับเธอเลย!
เธอไม่ได้หมายถึงแบบนั้น
เธอแค่อยากพูดว่า คนที่เธอหมายถึงไม่ใช่คนจนที่มาจากบ้านนอก
เขามีความรอบรู้ มีความกล้าหาญ มีความฉลาด
เขาเป็นอัญมณีมีค่า ไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกับคนบ้านป่าเถื่อนแบบนั้น
ดังนั้นเธอเชื่อมั่นในตัวเขา สักวันหนึ่งเขาจะสามารถแสดงศักยภาพของตัวเองออกมา พิสูจน์ว่าเขาเหมาะสมกับเธอ
แต่การอธิบายเหล่านี้ เธอไม่มีโอกาสพูดออกมา
จี้หลินยวนยืนอยู่ทางเข้าซอย เลยได้ยินคำพูดสูงส่งเหล่านั้นหมดเลย
จนถึงตอนนี้ หัวเหยาเองก็ไม่เคยลืม ในตอนนั้นเขามีสายตาเย็นชาและมืดครึ้ม
ราวกับผ่านไปชั่วพริบตา ผลักเธอไปไกลแสนไกล ทั้งที่ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันขนาดนั้น จะแนบชิดกันเพียงไม่กี่ก้าวแล้ว แต่กลับเหมือนกับอยู่ห่างกันแสนไกล ไกลจนเธอแทบเอื้อมไม่ถึงเลย
วันต่อมา จี้หลินยวนก็หายไป
เหลือเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์จะถึงเวลาสอบเข้ามหาวิทยาลัย เขาก็จากไปอย่างเงียบๆแล้ว แทบไม่พูดอะไรต่อเธอเลย
ในตอนนั้นหัวเหยารู้สึกโมโห และโกรธมาก
เธอเป็นคุณหนูที่มีแต่คนเอาอกเอาใจตั้งแต่เด็ก มีใครบ้างที่ไม่เอ็นดูเธอ?
แต่ผู้ชายคนนี้ เพียงเพราะแค่ฟังคำพูดเหล่านั้นก็จากไปโดยไม่บอกลา เป็นแบบนี้ได้ยังไง?
ในตอนนั้นเธอตามหาเขาอย่างบ้าคลั่ง ทั้งโทรศัพท์หาเขา แถมยังแอบไปหาเขาที่บ้านเกิดด้วย
แต่กลับไม่มีเบาะแสอะไรเลย
ต่อมาเธอได้ยินเพื่อนที่เคยซุบซิบนินทาเธอกับเขาคบกันว่า มีคนเห็นจี้หลินยวนไปต่างประเทศ และดูเหมือนจะไปกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วย
เธอไม่เชื่อ หลังจากสอบเสร็จ เธอก็ไปต่างประเทศด้วย โดยไม่สนใจการต่อต้านจากพ่อ
นั้นเป็นสนามแข่งรถแข่งแห่งหนึ่ง เขายังคงมีสีหน้าเย็นชาเหมือนเดิม แต่ยังมีความสง่าผ่าเผย เขาขับรถทั้งเร็วและแรง จนสุดท้ายคว้าชัยชนะเป็นอันดับหนึ่ง
เขาเปิดประตู เดินลง จากนั้นก็โอบกอดผู้หญิงคนหนึ่ง
บนใบหน้าของเขาเผยสีหน้าและรอยยิ้มแห่งความสุข แต่สำหรับเธอแล้ว กลับเหมือนกับมีดเล่มหนึ่งที่เข้ามาทิ่มแทงดวงตาของเธอ
ดูสิ ตัวเองโง่เขลามากแค่ไหน!
ความรู้สึกผิด รีบร้อน กังวล คิดถึง ลังเลในวัยรุ่น นึกว่าเป็นความรักเอง ในสายตาของคนอื่นแล้ว บางทีเป็นเพียงแค่ลมพายุหิมะเท่านั้น
ตอนที่อยู่มหาสมุทรแอตแลนติค เธอจินตนาการคำพูดที่เขาได้ยิน คงเจ็บปวดและเสียใจมากแค่ไหน ในความเป็นจริง เขากลับสบายดี มีความสุข มีผู้หญิงอยู่ในอ้อมกอด แถมไม่เก็บคำพูดของเธอมาใส่ใจด้วย และไม่รู้สึกเสียใจกับการจากลากับเธอ
สุดท้ายเธอไม่ปรากฏตัว แต่กลับไปอย่างผิดหวัง
หลังจากเวลาผ่านไป เธอก็เก็บความรักอันน่าเจ็บปวดนี้ลงในก้นบึ้งของหัวใจ และไม่แสดงมันออกมาให้ใครรู้อีกเลย
หัวเหยาได้ลืมความทรงจำนั้นตามเวลาที่ล่วงเลยไป แต่ในวินาทีนี้ เธอกำลังสบตาผู้ชายที่อยู่เบื้องหน้า เหมือนกับได้เห็นคนๆนั้นในตอนนั้นอีกครั้ง
จี้หลินหยวนยังคงพูดต่อ
ด้วยน้ำเสียงที่ทุ่มต่ำและแหบ
“ผมเคยปล่อยคุณไป คุณคิดว่าระยะทางและเวลาจะสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้หรอ และรวมถึงความรักที่ผมมอบให้กับคุณด้วย ในความเป็นจริงแล้ว ผมทำได้ สี่ปีไม่เจอหน้ากัน เหมือนกับผมลืมคุณได้แล้ว ผมสามารถมีผู้หญิงคนอื่น มีความรัก และมีเพศสัมพันธ์
แต่เมื่อถึงประเด็นสำคัญทุกครั้ง ทำไมเบื้องหน้าถึงปรากฏใบหน้าของคุณล่ะ? คุณคิดว่าคุณทำของใส่ผมหรือเปล่า? ทำให้ผมไม่สามารถชอบผู้หญิงคนอื่น แถมเพียงแค่สัมผัส กลับทำให้ผมรู้สึกขยะแขยง มีบางครั้งผมเริ่มสงสัยว่าตกลงผมเป็นผู้ชายปกติหรือเปล่า
ในความเป็นจริง การปรากฏตัวของคุณอีกครั้งพิสูจน์ว่าผมเป็นผู้ชายปกติ เหยาเหยา เรื่องนี้คุณย่อมรู้ดี ในส่วนลึกของหัวใจผมมีเสียงหนึ่ง ที่ปฏิเสธผู้หญิงทุกคน เพราะมันยังไม่ปล่อยคุณไป ลืมคุณได้ มันเป็นของคุณ ตอนนี้คุณยังต้องการมันไหม? ลืมทุกอย่างในอดีต แล้วกลับมายอมรับมันอีกครั้ง กลับมารักมันอีกครั้งได้ไหม?”