บทที่ 366 ตัวตนที่แท้จริงของเธอ
“ไม่ได้ยินที่หมอบอกว่าห้ามขยับเหรอ? อยากจะเอาอะไรเรียกโม่หนานเข้ามาไม่เป็น?”
โม่หนานได้เฝ้าอยู่ที่ประตูอยู่ตลอด เลี่ยงที่จะให้คนมาอยู่ข้างๆ จิ่งหนิงจะหลับไม่สบาย หรือว่าตื่นมาแล้วต้องการมาดูแล
จิ่งหนิงเก้อเขินเล็กน้อย “ฉันก็แค่เจ็บมือ ขาไม่ได้เจ็บ แค่ดื่มน้ำไม่ต้องถึงขั้นเรียกคนมาช่วยก็ได้มั้งค่ะ”
ลู่จิ่งเซินหัวเราะ
“เพราะงั้นคิดว่าจะเอามือที่ใช้การไม่ได้ของคุณมาถือแก้ว อือ?”
สีหน้าของจิ่งหนิงดูทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
ผ่านไปไม่กี่วิ ก็ได้พูด “ขอโทษก็ได้ ฉันลืมไปเลย”
ชายหนุ่มขำให้ลำคอ แล้วก็เอาเธอไปวางไว้ที่เตียง จากนั้นก็ได้หันไปรินน้ำอุ่นให้เธอ
จิ่งหนิงเอาแก้วมา วางไว้บนมือแล้วก็ดื่มไปทีละน้อย มองสีหน้าของเขาแล้วถาม “คุณยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลยนะคะ เมื่อกี้คุณกลับมาจากข้างนอกใช่ไหม?”
“อืม”
ชายหนุ่มตอบไป แล้วก็จับมือของเธอไป พับแขนเสื้อนอนที่ยาวของเธอขึ้นไป
เห็นแต่มือที่อ่อนนุ่มนั้นก็ได้มีผ้าพันแผลหนาๆ พันอยู่ มองแล้วขัดตามาก
เขาได้ขมวดคิ้ว ตอนที่กำลังจะไปแก้ออกนั้น
จิ่งหนิงก็ได้รีบห้ามเขา “อื้อ ไม่ต้องแก้ ก่อนนอนพึ่งทายาไปเอง”
ชายหนุ่มก็ได้หยุดการกระทำของตน ค่อยๆ จับไปที่แผล พูดเสียงเข้มว่า “ยังเจ็บไหม?”
“ก็โอเคค่ะ ยาที่หมอเอมี่ให้ฉันใช้ก็ดีอยู่ นอกจากตอนที่เปลี่ยนยาแล้วเจ็บ ตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ”
อีกอย่างสองแผลนี้ ได้สามารถให้เธอมีชีวิตอยู่ เธอรู้สึกว่าคุ้ม
ลู่จิ่งเซินก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ว่าสายตาที่มองไปที่บาดแผล ก็ได้ปวดใจมาก
จิ่งหนิงไม่อยากให้เขาดูต่อ ก็ได้ดึงมือกลับไป ถามว่า “คนที่อยู่เบื้องหลังเป็นใครคะ? สืบได้หรือยัง?”
ลู่จิ่งเซินจ้องมองเธอ “ผมคิดว่าคุณเดาออกได้”
จิ่งหนิงก็ได้พูดออกไปว่า “จิ่งเสี่ยวหย่า?”
ลู่จิ่งเซินพยักหน้า
ในใจของจิ่งหนิงก็ได้เข้าใจ
เพราะคนที่มีความแค้นกับเธอก็มีแค่นั้น แต่เธอไม่เข้าใจ ว่าทำไมจิ่งเสี่ยวหย่าที่ได้เป็นคุณหนูรองของตระกูลกวน ยังไม่ปล่อยเธอไปอีก
หรือว่าเธอนั้นจะมีชีวิตเป็นของตัวเองไม่ได้เลยเหรอ ให้เธอนั้นอยู่อย่างสงบสุขไม่ได้?
ไม่มีเรื่องแล้วหาเรื่อง สุดท้ายแล้วได้อะไร?
ลู่จิ่งเซินเหมือนว่าได้อ่านใจเธอออก ก็ได้พูดออกไป “ไม่ได้มีแค่จิ่งเสี่ยวหย่า ยังมีกวนจี้หลี่”
จิ่งหนิงอึ้ง ไม่กล้าที่จะเชื่อ “คุณลุงกวน?”
“ใช่”
ลู่จิ่งเซินไม่ได้ปิดบังเธอ ก็ได้เอาคลิปเสียงที่ได้ก๊อบมาจากโทรศัพท์ของจิ่งเสี่ยวหย่าแล้วก็เปิดให้เธอฟัง
จิ่งหนิงฟังจบ ก็ได้ตกใจมากๆ
เพราะว่าเนื้อหาของคลิป ไม่ได้แค่บอกว่ากวนจี้หลี่กับจิ่งเสี่ยวหย่าได้ร่วมมือกันวางแผน ที่สำคัญก็คือ จิ่งเสี่ยวหย่ากับกวนจี้หลี่ ยังเป็นพ่อลูกกันอีก?
นี่……มันเป็นอะไรที่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ!
เธอได้กลืนน้ำลาย แล้วก็เอาแก้วขึ้นมาดื่มน้ำอีกหน่อย ถึงได้ย่อยข่าวนี้ไปได้
เงยหน้า ถามออกไปด้วยความสงสัย “เธอเป็นลูกสาวลับๆ ของกวนจี้หลี่ งั้นทำไมถึงต้องปลอบตัวเป็นลูกสาวของกวนจี้หวั่น? คนหนึ่งเป็นลูกของลูกชาย อีกคนเป็นลูกของลูกสาว ลูกของลูกชายต้องชิดสนิทกว่าลูกของลูกสาวหรือเปล่า?”
ลู่จิ่งเซินหัวเราะอย่างเย็นชา
“เพราะว่าก่อนที่กวนจี้หวั่นตาย ก็ได้เก็บหุ้นส่วนสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของกวนซื่อกรุ๊ปไว้ มีแค่ลูกสาวของเธอถึงรับได้ แต่ถ้าเธอนั้นเป็นแค่ลูกสาวของกวนจี้หลี่ นอกจากแต่งงานแล้วได้รับสินสอดที่ดีแล้วและตำแหน่งของคุณหนู อย่างอื่นก็ไม่ได้อะไรเลย”
จิ่งหนิง “……”
เป็นแบบนี้จริงด้วย คนตายเพราะเงิน คำพูดนี้พูดได้ไม่มีผิด
เธอคิดๆ ก็รู้สึกสงสัย
“ไหนๆ ก็เป็นแบบนั้น งั้นเธอก็น่าที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดีๆ ขอแค่คุณท่านกวนตายไป ก็สามารถที่จะรับสืบทอดมรดกอีกหลายหมื่นล้าน แล้วทำไมถึงยังได้มาต่อกรกับฉันอีก?”
สายตาที่ลู่จิ่งเซินมองเธอก็ได้ลึกซึ้งกว่าเดิม
จิ่งหนิงถูกเขาจ้องจนหลังเริ่มชา รู้สึกว่าสายตานั้นมีอะไรที่อธิบายออกมาให้ชัดเจนไม่ได้
เธอได้ถอยหลังไป พูดออกไป “คุณจ้องฉันขนาดนั้นทำไม?”
ลู่จิ่งเซินถอนหายใจออกมา “ไม่มีอะไร”
ที่จริงก่อนหน้า เขาก็ไม่เข้าใจ
แต่ตอนเย็นวันนี้ ตอนที่คุณท่านกวนรีบมาถามไถ่แล้วเป็นห่วงอาการของเธอถึงขนาดนั้น เขาก็ได้รู้สึกถึงอะไรบางอย่างแล้ว
จากนั้น พอได้คลิปเสียงนี้มา มั่นใจแล้วว่าจิ่งเสี่ยวหย่าไม่ใช่ลูกสาวของกวนจี้หวั่นจริง บวกกับความสัมพันธ์ระหว่างจิ่งหนิงกับจิ่งเสี่ยวหย่า ก็ไม่ยากที่จะคิด ตอนแรกที่กวนจี้หมิงสืบไปถึงตระกูลจิ่งแล้ว แต่ก็แค่ถูกพวกหวังเสว่เหมยทำอะไรไว้ ทำลายหลักฐานที่ยืนยันตัวของเธอ
เพราะงั้น คนที่เป็นลูกแท้ๆ นั้น เป็นไปได้ว่าเป็นจิ่งหนิง
แต่ว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้ยืนยัน เขาก็ได้เลือกที่จะไม่บอกจิ่งหนิง
ยังไงซะ ถ้าเกิดสิ่งที่เขาคิดนั้นเป็นเรื่องจริงขึ้นมา งั้นเรื่องตัวตนประวัติของเธอก็จะต้องจัดการใหม่ เพื่อที่จะไม่ให้เธอนั้นคิดมาก ก็ยังไม่บอกก่อนดีกว่า
ยังไงซะไม่ว่าเธอเป็นใคร ก็เป็นภรรยาของเธอ แค่นี้ก็พอ
เขาได้ลูบหัวของเธอ พูดอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องคิดแล้ว เรื่องนี้ให้ผมจัดการ ผมต้องจัดการให้แน่ อื้อ?”
จิ่งหนิงพยักหน้า
ไหนๆ ก็ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับกวนจี้หลี่ แน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับตระกูลกวนด้วย เพราะงั้นเรื่องนี้ให้ลู่จิ่งเซินจัดการเหมาะที่สุดแล้ว
ไม่ว่าผลสรุปเป็นยังไง เธอก็เข้าใจในการกระทำของเขา
และอีกด้าน ตระกูลกวน
คุณท่านกวนก็ได้รับคลิปเสียงนี้แล้ว
คลิปเสียงนั้นลู่จิ่งเซินเป็นคนส่งให้เขา
ยังไงซะ ไหนๆ จิ่งเสี่ยวหย่าเป็นเชื้อสายของตระกูลกวนจริง งั้นการที่จะจัดการจิ่งเสี่ยวหย่า ก็ต้องบอกกับคุณท่านกวนก่อน
เห็นด้วยไม่เห็นด้วยคนก็ต้องถูกจัดการ แต่การบอกก่อนเป็นการพูดไปก่อนว่า
แค่มีเรื่องกับจิ่งเสี่ยวหย่า ไม่ได้จะมีเรื่องกับตระกูลกวน
คุณท่านกวนได้คลิปเสียง พอฟังจบ ก็ได้โมโห
เขาคิดไม่ถึงว่า ลูกชายแท้ๆ ของตน กล้าที่จะทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้ออกมาลับหลังตน!
ให้ลูกสาวลับๆ ของตัวเองไปปลอบตัวเป็นลูกสาวของน้องสาวตัวเองก็ช่างแล้ว ยังช่วยเธอมาทำร้ายหลานสาวของตัวเองอีก!
นี่มันเดรัจฉานจริงๆ!
แต่ว่า คุณท่านกวนไม่ได้จัดการเลยทันที
ยังไงซะ กวนจี้หลี่เป็นลูกชายแท้ๆของตน หลายปีมานี้ ไม่ว่าในบริษัทหรือในบ้าน ก็มีเส้นสายของเขาเยอะ
เขาได้แก่แล้ว หลายปีมานี้ เรื่องหลายๆ เรื่องก็ได้ปล่อยให้ลูกชายทั้งสองไปทำ
เพราะว่าลูกชายคนที่สองฉลาดเกินไป บางครั้งก็ทำให้คนโตดูอ่อนไป เพื่อที่จะไม่ให้ลูกชายคนโตนั้นมีความไม่ยุติธรรมในใจ เพราะงั้นบางครั้งหรือว่าหลายๆ ครั้งก็ได้เอาใจเขาไปหน่อย
แต่ก็เพราะแบบนี้ ตอนนี้เขานั้นถึงได้ไม่กล้าที่จะทำอะไรวู่วาม
แต่ว่า ไม่ทำอะไรวู่วาม ไม่ได้หมายความว่าไม่ทำอะไร
ไม่นานคุณท่านกวนก็ได้แอบออกคำสั่งออกไป ค่อยๆ ที่จะเก็บอำนาจในมือของกวนจี้หลี่กลับมา รวมถึงในอำนาจบริษัทแล้วก็ข้างนอกทั้งหมดที่เกี่ยวกับตระกูลกวนมาทั้งหมด ไม่ให้เขาได้ใช้มันอีก
ทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมด เขาถึงได้ค่อยๆ เอาภาพถ่ายใบหนึ่งออกมาจากใต้หมอก อาศัยแสงจากดวงจันทร์มองภาพหญิงสาวที่อยู่ในรูปภาพ เป็นลูกสาวคนที่สามของเขากวนจี้หวั่น
เขาได้ยิ้มออกมาอย่างหดหู่ ถอนหายใจ สุดท้าย ก็ได้เก็บรูปภาพกลับไป
