บทที่ 37 เธอต้องการอะไร
เซ่เซียวตะลึง รีบทำปากยกขึ้น และนั่งลงอย่างเชื่อฟัง
ลู่จิ่งเซินจึงถอนหายใจเฮ้อออกมา
หลังจากนั้นไม่นาน เซ่เซียวก็มองทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้า แต่ก็อดไม่ได้
จึงถามอย่างสงสัยว่า: “พี่ชาย พี่แต่งงานเมื่อไหร่ ทำไมฉันไม่รู้”
ลู่จิ่งเซินตอบโดยไม่แม้แต่จะมองเขาว่า
“ฉันจะแต่งงานยังต้องรายงานแกก่อนเหรอ”
“ไม่ใช่ ฮ่า ฮ่า”
เซ่เซียวยิ้มอย่างอายๆ และพูด “ที่คุณปู่ลู่ตั้งหน้าตั้งตารอมาหลายปี และนี่ก็พอดีเลยที่ทำให้คนแก่อย่างเขามีความสุข!”
ดวงตาลู่จิ่งเซินมืดลง และไม่พูดอะไร
จิ่งหนิงก็จะไม่ขัดจังหวะในเรื่องนี้
ถึงแม้ เธอกับลู่จิ่งเซินจะอยู่ในสถานการณ์พิเศษ ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะพบคนในตระกูลลู่ แต่เรื่องนี้จะอธิบายกับเซ่เซียวก็ไม่ได้ด้วย
ดังนั้น จึงได้แต่นิ่งเงียบไว้
เซ่เซียวเห็นว่าพวกเขาเงียบ แม้ว่าจะสงสัยแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมอีก
อาหารก็ใกล้มาเสิร์ฟแล้ว หลังจากกินข้าวเสร็จ ลู่จิ่งเซินให้คนมาเก็บจานชามออกไป และให้เอาน้ำชามาเสิร์ฟ
จิ่งหนิงได้ดื่มชา แล้วถามว่า “เล่ามาเถอะ! เล่าเหตุการณ์ที่แท้จริง และรายละเอียดทั้งหมดให้ฉันฟัง”
ทันทีที่พูดคุยเกี่ยวกับธุระ เซ่เซียวก็เปลี่ยนท่าทีที่ดูโง่เขลา ให้กลายเป็นท่าทีที่จริงจังทันที
ในความเป็นจริงเรื่องราวต่างๆไม่ได้ซับซ้อนเลย
ไม่มีอะไรมากไปกว่าผู้ชายที่เอาแต่บ่นงี่เง่าเรื่องผู้หญิงเท่านั้น
ก่อนหน้าเซ่เซียวเคยมีแฟนมาก่อน แต่เขาเป็นไอดอล และกำลังอยู่ในช่วงก้าวหน้าทางอาชีพ ดังนั้นความรักที่ผ่านมาต้องหลบซ่อนตลอด ไม่เคยถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ
ก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนี้ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และทั้งสองก็มีช่วงเวลาที่แสนหวานอีกด้วย
แต่เมื่อประมาณครึ่งปีที่ผ่านมา ทั้งสองคนก็ทะเลาะกันบ่อยครั้ง
ฝ่ายหญิงเริ่มขอเงินจากเขาเป็นจำนวนมาก เซ่เซียวไม่ใช่คนขี้เหนียว ก็ให้เงินไปเกือบทุกครั้ง
แต่แค่นี้ยังไม่พอ เขาพบว่าเบาะแสสถานที่ที่ฝ่ายหญิงไปเริ่มแปลกขึ้น อารมณ์ของเธอแปลกๆ หงุดหงิดง่าย และมักจะโมโหใส่เขา
มีหลายครั้ง แม้ว่าเขาจะกำลังถ่ายละคร หรือเตรียมการแสดง เธอก็จะหาเรื่องขึ้นมา
เธอยังขู่เขาว่า ถ้าเขาไม่ไปปรากฏตัวต่อหน้าเธอในตอนนั้น เธอก็จะเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเขาสองคนทันที และจะทำลายหน้าที่การงานของเขา
เซ่เซียวไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยอมปล่อยการแสดง เพื่อไปเอาใจแฟนสาวของเขา
และด้วยเหตุนี้ เขาจึงสูญเสียงานโฆษณาไปหลายตัว และทีมงานถึงกับเล่นข่าวว่าเขาทำตัวเป็นซูเปอร์สตาร์
จริงๆแล้วเขาทำตัวเป็นซูเปอร์สตาร์ตรงไหน เพียงแค่ในใจมีความกังวล ไม่มีทางเลือก
เซ่เซียวคิดมาตลอดว่า การที่อีกฝ่ายทรมานแบบนี้ อาจเป็นเพราะความรักที่หลบๆซ่อนๆทำให้เธอไม่มีความรู้สึกปลอดภัย ตราบใดที่ตัวเองลงทุนมากขึ้น สถานการณ์ก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน
แต่ไม่คิดว่า ครึ่งเดือนที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงบอกเลิกกับอย่างกะทันหัน
เซ่เซียวที่ถูกทรมานมานาน ก็รู้สึกเหนื่อยแล้วจริงๆ
ไม่เพียงแต่เหนื่อยเท่านั้น แต่ทีมผู้จัดการต่างไม่พอใจผู้หญิงคนนี้ทั้งนั้น เขาเป็นคนกลาง ก็ตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เมื่อเห็นท่าทีแน่วแน่ของอีกฝ่ายในตอนนี้ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ก็เลยตอบตกลงไป
หลังจากเลิกกัน เซ่เซียวก็ทุ่มเทพลังทั้งหมดให้กับการทำงาน
แต่ไม่คาดคิดว่า วันหนึ่งจะมีข่าวออกมา ผู้หญิงคนนี้โพสต์ข้อความบนWeiboกล่าวหาว่าเขานอกใจ ใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายเธอ ฉ้อโกงเงินจำนวนสิบล้านจากเธอไป และไม่ยอมคืน!
เซ่เซียว：？？？？？
นี่เขาไม่ได้ทำอะไรเลยหรือไม่ได้หาเรื่องใคร แต่กลับเป็นเหยื่อถูกโจมตีด้วยคำพูดของคนอื่น
เซ่เซียวก็ติดต่อผู้หญิงคนนั้นทันที แต่หลังจากเขากดโทรออกก็พบว่า อีกฝ่ายบล็อกเบอร์เขาไปแล้ว
แม้ว่าบริษัทจะออกประกาศชี้แจงความบริสุทธิ์ให้เขาแล้ว แต่ผลที่ได้กลับช่วยได้น้อยมาก
สุดท้ายถึงแม้ ผู้ชมต่างชอบดูความสนุกสนานที่สุด
โดยเฉพาะข่าวดังของดาราชายยอดนิยม
ก็เหมือนเห็นเขายกตึกสูงแบบนี้เขาถล่ม
ก็เหมือนกับรู้เห็นแค่เพียงด้านเดียว แต่กลับไม่เห็นความจริงอีกด้านหนึ่ง ยิ่งเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้พวกนักเลงคีย์บอร์ดที่มีจิตใจที่มืดบอดรู้สึกเหนือกว่าและมีความสุข
ดูเอาเถอะ! ฉันเคยบอกว่าคนพวกนี้ไว้ใจไม่ได้ และตอนนี้ก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ!
มีคำด่ามากมายบนอินเทอร์เน็ต
อันนี้ยังไม่นับนะ ผ่านไปไม่กี่วัน ผู้หญิงคนนั้นก็ปล่อยภาพบนอินเทอร์เน็ตอีก
ซึ่งเป็นภาพรอยฟกช้ำทั่วร่างกายของเธอ
เธอระบุบนWeiboว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เซ่เซียวทิ้งไว้ให้ และยังบันทึกเสียง อธิบายโดยละเอียดว่าเขาทำร้ายเธออย่างไร
เรื่องนี้ก็ถูกแชร์กันอย่างรวดเร็วบนอินเทอร์เน็ต และยังขึ้นเป็นคำค้นหายอดนิยมอยู่เป็นเวลาหลายวันว่า
#เซ่เซียวทำร้ายคน แฟนเก่าของเซ่เซียว เซ่เซียวนอกใจ#
มีคำค้นหายอดนิยมหลายคำเกิดขึ้น ได้ทำลายชื่อเสียงที่กำลังก้าวหน้าของศิลปินชายไปอย่างสิ้นเชิง
ไม่ช้า เพื่อความปลอดภัยและการพิจารณาอื่นๆ โฆษณาและกิจกรรมทางการค้าของเซ่เซียวก็ถูกระงับลงทั้งหมด
แม้แต่ภาพยนตร์ที่กำลังถ่ายทำอยู่ก็ถูกระงับเช่นกัน
แม้ว่าเขาจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของลู่จิ่งเซิน แต่ความสัมพันธ์นี้ในบริษัทไม่ค่อยมีใครรู้
ยิ่งเป็นไปได้ยากที่จะให้ชาวเน็ตมองเขาด้วยความชื่นชมเพราะความสัมพันธ์ของทั้งสอง
ดังนั้น มันยากเกินไปที่เซ่เซียวจะพูดออกมาได้
วิธีเดียวคือ ต้องรีบหาตัวผู้หญิงคนนี้ และเผชิญหน้ากับเธอ
แต่เป็นเวลาครึ่งเดือนแล้ว ที่เขาและทีมงานของบริษัท พยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อค้นหาเบาะแสของอีกฝ่ายแต่ก็ไม่เจออะไรเลย
เรื่องนี้ดูเหมือนจะมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า เพราะหลังจากที่หญิงสาวโพสต์ข้อความเหล่านั้นเสร็จ ก็หายไปใน
ทันที
เซ่เซียวไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้เพียงส่งคนตามหาเธอไปด้วย และหาคนประชาสัมพันธ์ที่เชี่ยวชาญเพื่อทำให้สถานการณ์ในปัจจุบันนี่คงที่
หลังจากจิ่งหนิงได้ฟังคำอธิบายของเซ่เซียวจบลง ก็ตกอยู่ในความเงียบ
เธอไม่ได้พูดอะไร และผู้ชายที่อยู่ข้างๆก็ได้ฝากเรื่องนี้ไว้ให้เธอจัดการ เขาจึงไม่เอ่ยปากพูดอะไร
มีเพียงเซ่เซียวที่อยู่ตรงข้าม จ้องมองเธออย่างประหม่า และถามขึ้นว่า
“เรื่องนี้……จัดการง่ายไหม”
จิ่งหนิงมองเธอ ยิ้มและตอบว่า “คุณคิดว่าไงละ”
เซ่เซียวก้มหน้าลงด้วยความหงุดหงิด และคิด
ยาก!
ถ้าไม่ยาก ทำไมตอนนี้ยังจัดการไม่ได้
จิ่งหนิงยิ้มและพูด เมื่อเห็นเขาท่าทางดูหดหู่：”มันเป็นเรื่องยากที่จะจัดการ เพราะอีกฝ่ายไม่มีการเคลื่อนไหว แม้ว่าเราจะมีกำลังมาก เหมือนหมัดที่ชกบนฝ้าย มันไม่ได้ช่วยอะไรมาก ดังนั้นคุณต้องหาคนคนนี้ให้เจอก่อน และส่วนที่เหลือก็จะสามารถจัดการแก้ไขได้”
เซ่เซียวขมวดคิ้ว
“ความจริงฉันก็รู้ แต่ประเด็นคือแม่งเหมือนคนล่องหน ฉันจะไปหามันได้ที่ไหนละ”
ลู่จิ่งเซินจ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา และพูด “ระวังคำพูดหน่อย!”
เซ่เซียวก็นึกได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขา ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของเขา แต่ยังเป็นพี่สะใภ้ของเขาด้วย
เขารีบยิ้ม และพูด “ฉันขอโทษนะ พี่สะใภ้ ฉันเป็นคนอารมณ์ร้อน และปากพล่อยง่าย! ต้องขอโทษด้วย”
จิ่งหนิงไม่ได้ใส่ใจ และยิ้มตอบ
“ที่จริงตอนนี้ ฉันนึกถึงปัญหาหนึ่งอยู่”
“ปัญหาอะไร”
“คนส่วนใหญ่ในโลกนี้สร้างปัญหาด้วยเหตุผลสองประการ ไม่เพื่อเงิน ก็เพื่อตัวคน แฟนเก่าของคุณทำร้ายด้วยวิธีเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ยังอยากจะสานต่อความสัมพันธ์กับคุณ
แต่จนถึงตอนนี้ เธอก็ไม่ได้ติดต่อคุณ และก็ไม่ได้เรียกร้องเอาเงินจากคุณ แล้วที่เธอพยายามใส่ร้ายคุณ จริงๆแล้วต้องการอะไรกันนะ”
เซ่เซียวชะงักไป
ลู่จิ่งเซินงอริบฝีปาก และมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเขาด้วยความชื่นชม
ที่จริงปัญหานี้ เขาคิดไว้มานานแล้ว
แค่ไม่เคยพูด รอให้จิ่งหนิงค้นพบด้วยตัวเอง
