บทที่ 381 งานเลี้ยงที่ศูนย์ไวน์
“เสี่ยวหวัง ไหนบอกว่าจะพาสาวสวยมาด้วย ทำไมไม่เห็นใครเลย”
“มาแล้ว มากันทุกคน รับประกันว่าคืนนี้ทุกคนต้องสนุก”
พูดอย่างนั้นแล้วเขาก็ขยิบตาให้พวกผู้หญิงที่อยู่นอกประตู ถึงแม้ว่าในท่ามกลางฝูงชนจะมีความไม่ยินยอม แต่ก็มีใจปรารถนาถึงโอกาสการเป็นคนแรกที่จะได้เดินเข้าไปก่อน
ถังลั่วเหยาตามท้ายฝูงชน ในใจพร่ำบ่นนับครั้งไม่ถ้วน
นี่มันกิจกรรมทางการค้าที่ไหนกัน
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการเอาป้ายโลโก้กิจกรรมทางค้ามาขอให้พวกเธอเป็นสาวนั่งดริงค์อย่างเปิดเผย
แต่โชคดีที่คนเยอะ คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดี๋ยวเธอจะพยายามลดการมีอยู่ของตัวเองให้น้อยที่สุด ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ผ่านคืนนี้ไปค่อยว่ากัน
เมื่อคิดแบบนั้น เธอก็หดคอ พยายามให้ตัวเองดูแย่และเล็กที่สุด
เข้าไปในห้องพิเศษแล้วถึงได้พบว่าข้างในมีคนนั่งอยู่เยอะแล้ว ห้องพิเศษใหญ่มาก มันใหญ่มากจนน่าเหลือเชื่อ อย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่าร้อยตารางวา
บนโซฟาข้างในมีกลุ่มชายหญิง ในหมู่พวกเขาถึงขั้นมีดาราหญิงที่มีชื่อเสียงในแวดวงบันเทิงหลายคน
ถังลั่วเหยามองเห็นพวกเธอแล้วมีความรู้สึกค่อนข้างไม่คาดฝัน
เธอคิดว่าคนเหล่านี้ล้วนมีชื่อเสียงมากอยู่แล้ว ในวงการบันเทิงก็มีสถานะสำคัญ ควรจะมีภาพพจน์มากๆ ถึงจะถูก ทำไมยังจะมาศูนย์ไวน์แบบนี้อีก
และมองไปยังผู้ชายที่นั่งข้างพวกเธอ ทันทีที่เห็นก็รู้ว่าพวกเธอกับตนก็แบบเดียวกัน ก็เป็นเพียงตัวเสริม
คืนนี้จะมีใครปรากฏตัวกันแน่
ในใจของถังลั่วเหยาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ตอนนั้นเอง พี่หวังที่อยู่ข้างๆ ก็กระซิบว่า “คืนนี้ทุกคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการบันเทิง พวกคุณจับตาดูให้ดีนะ อย่าคิดว่าตัวเองมีชื่อเสียงเล็กน้อยแล้วจะมาเล่นตัว นกกระจอกจะสามารถกลายเป็นนกฟีนิกซ์ได้หรือไม่นั่นก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกคุณเอง!”
พูดจบก็หันไปพูดกับฝูงชนด้วยรอยยิ้ม “ประธานหลี่ ประธานหวัง ไม่ได้เจอกันนานเลย วันนี้ที่มาล้วนเป็นเด็กใหม่ ต้องขอให้พวกคุณดูแลมากๆ”
พูดอย่างนั้นแล้วเขาก็พาหญิงสาวสองคนเข้าไปแนะนำ “นี่คือเสี่ยวอวี้ นี่คือชิงชิง ทักทายเร็ว”
“สวัสดีค่ะประธานหลี่”
“สวัสดีค่ะประธานหวัง”
“โอ้ สวัสดีครับๆ”
ถังลั่วเหยาเห็นกับตาว่าประธานหลี่จับมือของหญิงสาวด้วยสีหน้าท่าทางกระลิ้มกระเหลี่ย ส่วนหญิงสาวอีกคนนั่งลงข้างประธานหวัง
เธออดไม่ได้ที่จะสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ศูนย์ไวน์ในคืนนี้ เป็นอีกครั้งที่ฟื้นฟูการรับรู้และความเข้าใจ
นี่เป็นศูนย์ไวน์ที่ไหนกัน เป็นซ่องแมงดาชัดๆ
คิดว่าพี่หวังคนนี้มักจะทำแบบนี้บ่อยๆ พวกผู้หญิงด้านนอก ถ้าสามารถไต่เต้าโด่งดังในวงการบันเทิง บางทีอาจจะมีโอกาสได้ลืมตาอ้าปาก ดังนั้นพวกเธอจึงยินดีที่จะเข้าร่วม
เพียงแค่ว่าอย่างไรก็คาดไม่ถึง ว่าซูหงไปมีความเกี่ยวข้องกับคนพวกนี้ได้อย่างไร
ถังลั่วเหยาที่ในใจกำลังคิดถึงเรื่องพวกนี้อยู่ ก็ถูกพี่หวังดึงเข้าไปแล้วกดลงไปข้างตัวผู้ชายร่างอ้วนคนหนึ่ง
“ประธานหลิว นี่คือคนที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ ก่อนหน้านี้เคยเล่นละครมาหลายเรื่อง คืนนี้คุณต้องช่วยผมดูแลให้ดีนะครับ”
คนที่ถูกเรียกว่าประธานหลิว สายตามองถังลั่วเหยาด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มและพยักหน้า “ไม่มีปัญหา ดาราสาวใสๆ แบบนี้ผมก็ชอบ”
ในขณะที่พูด มืออ้วนก็สัมผัสมือของเธอไปด้วย ถังลั่วเหยาแค่รู้สึกคลื่นไส้มวนท้อง มีความคิดอยากจะวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด
แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็รับรู้ถึงสายตาเตือนของพี่หวัง จึงกดความขยะแขยงลงมาได้ในท้ายที่สุด
ช่างเถอะ เพื่อเงินก็ทนๆ ไปละกัน!
คิดแบบนั้นแล้วเธอก็ดึงมือออกเงียบๆ หยิบแก้วขึ้นมา ยิ้มและพูดว่า “ประธานหลิว ฉันขอดื่มให้คุณค่ะ”
“ดี”
เห็นเธอเริ่มก่อน ประธานหลิวคนนั้นก็ท่าทีมีความสุขมาก หยิบแก้วมาและดื่มกับเธอ
การดื่มแอลกอฮอล์นั้นถังลั่วเหยาไม่กลัว เพราะการดื่มของตนนับว่าไม่เลว
ถ้าดื่มก็รับประกันได้ว่าตนจะไม่เสียเปรียบ เช่นนั้นเธอจะยอมดื่มให้มากหน่อย
หลังจากจัดเรียงสิ่งเหล่านี้แล้ว พี่หวังคนนั้นก็ออกไป ตลอดทั้งคืนไม่ปรากฏตัวให้เห็นอีกเลย
ถังลั่วเหยาดื่มไปไม่น้อย เมื่อตอนเริ่มแรก ประธานหลิวยังนับว่าทำตัวดี แต่เมื่อถึงช่วงหลังๆ ก็เริ่มรุ่มร่าม
มักจะเอามือมาสัมผัสเธอแบบเนียนๆ ถึงขนาดพยายามโอบเอวเธอด้วยซ้ำ
ถังลั่วเหยาขยับออกเงียบๆ ประธานหลิวเองก็ไม่ได้บังคับ เพียงแค่มองตาเธอด้วยสายตาเจือความไม่พอใจเล็กน้อย
“ผมได้ยินว่าเมื่อก่อนคุณเคยแสดงละครมาหลายเรื่อง เล่นเรื่องอะไรบ้างเหรอ พอจะบอกผมได้ไหมครับ”
ประธานหลิวคนนี้ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงมากนัก ถังลั่วเหยาฝืนยิ้มและพูดยิ้มๆ ว่า “มันเป็นพวกโปรดักชั่นเล็กๆ ค่ะ ประธานหลิว พวกเราดื่มกันต่อเถอะ”
เมื่อพูดจบก็จะไปหยิบแก้วไวน์ แต่กลับกลายเป็นว่าถูกประธานหลิวหยุดไว้
เขามองออกแล้วว่าถังลั่วเหยาดื่มเก่ง ถึงขั้นเก่งกว่าตน ดังนั้นการมอมให้เธอเมาจึงเป็นไปไม่ได้
จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม “ไม่ต้องรีบ การดื่มมากเกินไปไม่ดีกับผู้หญิง เรามาคุยกันเรื่องการถ่ายทำของคุณก่อนเถอะครับ”
ถังลั่วเหยายิ้มหน้าแห้ง “เอ่อ ได้ค่ะ”
“ที่จริงแล้วในมือผมมีละครแนวร่วมสมัยอยู่เรื่องหนึ่ง ผมคิดว่าภาพลักษณ์และการวางตัวของคุณค่อนข้างเหมาะกับนางเอกในบทละคร”
หากเป็นคนปกติ หลังจากได้ยินประโยคนี้ จะต้องดีใจมากแน่
จากนั้นก็ถามว่าเป็นละครเรื่องอะไร ตนจะมีโอกาสได้เข้าร่วมไหม
แต่บังเอิญว่า ถังลั่วเหยาเพียงส่งเสียงบางเบาว่า “อ้อ” และไม่ได้มีคำพูดต่ออีก
ประธานหลิวขมวดคิ้วใส่เธอ
ผ่านมาตลอดทั้งคืนแล้ว ไม่ว่าเขาจะอดทนแค่ไหน แต่ตอนนี้เขาเริ่มทนไม่ไหวแล้ว
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าแกล้งโง่กันแน่
เขากวักมือเรียกบริกรที่อยู่แถวนั้น และไปกระซิบบางอย่างที่ข้างหูเขา
บริกรพยักหน้าอย่างเคารพและจากไป
แล้วประธานหลิวก็มองถังลั่วเหยาด้วยรอยยิ้มเย็นชาแวบหนึ่ง
ไม่ว่าเธอจะไม่เข้าใจจริงๆ หรือแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ ในเมื่อคืนนี้ถูกเขาหมายตาไว้แล้วอย่างไรก็หนีไม่รอด!
ตอนนี้ถังลั่วเหยายังไม่รู้ว่าประธานหลิวคิดอะไรอยู่ นั่งอยู่กับที่ดูเวลา มันเที่ยงคืนแล้ว เริ่มมีคนทยอยออกจากห้องไป
ในใจเธอคิดว่าน่าจะอีกไม่นานงานนี้ก็จะจบลง!
โล่งใจเล็กน้อย เพราะหลังจากกังวลมาทั้งคืน ทันทีที่สามารถออกไปได้ ก็จะมีความสุขมาก
ตอนนี้เอง บริกรมารินเครื่องดื่มให้พวกเขาสองแก้ว
ประธานหลิวยกข้อมือขึ้นดูเวลาก่อนจะพูดยิ้มๆ ว่า “ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ผมก็จะกลับเหมือนกัน คุณถัง ดีใจมากนะครับที่ได้รู้จักคุณ ดื่มอีกแก้วสุดท้ายได้ไหมครับ”
เมื่อถังลั่วเหยาได้ยินคำพูดนี้ก็ดวงตาเปล่งประกาย รีบยกแก้วขึ้นมา “ได้ค่ะ”
เธอไม่เอะใจมันเลย ดื่มไวน์แก้วนั้นลงไป แค่รู้สึกว่าไวน์แก้วนี้รสชาติแปลกไปนิดหน่อย
แต่ต้องการออกไปทันที เธอก็ไม่คิดอะไรมาก หลังจากที่ดื่มหมด ก็เห็นประธานหลิวลุกขึ้นยืนแล้ว
“คุณถัง คุณยังอยากอยู่ที่นี่ต่อหรือเปล่าครับ”
“อ้อ ไม่แล้วค่ะ ฉันก็จะไปเหมือนกัน”
ไร้สาระ! มันจบแล้วยังจะนั่งบื้ออยู่ที่นี่ทำไม
เธอรีบลุกขึ้น ประธานหลิวคนนั้นตาเป็นประกายพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นก็ออกไปกันเถอะครับ”
“อ้อ โอเคค่ะ”
สองคนเดินออกไปด้วยกัน หญิงสาวคนอื่นที่มากับถังลั่วเหยาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
หรือจะพูดให้ถูกคือ ไม่มีใครสังเกตเห็นพวกเขาเลย