บทที่ 382 ขอความช่วยเหลือจากเขา
ออกจากห้องมาแล้ว ถังลั่วเหยาก็โทรหาพี่หวังคนนั้น ถามพวกเขาว่ารถอยู่ที่ไหน
ก่อนมาเขาบอกว่าถ้าถึงตอนกลับแล้วไม่สะดวกนั่งรถ ก็ให้โทรหาเขา เขาจะส่งรถมารับ
แต่กลับกลายเป็นว่า สายของเธอยังไม่ทันได้โทรออก ก็พลันรู้สึกวิงเวียน
แล้วภาพตรงหน้าก็เบลอขึ้นฉับพลัน โลกหมุนมืดมัว
ถังลั่วเหยาหลับตาลงและสะบัดศีรษะ
ประธานหลิวที่เดินนำหน้า เมื่อเห็นจึงหยุดก้าวเท้า และเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงว่า “คุณถังครับ คุณเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ”
“เอ่อ…ไม่เป็นไรค่ะ อาจจะดื่มมากไปหน่อย ฉันโอเค”
“ผมเดาว่าคุณคงจะดื่มมากไป คืนนี้คุณก็ดื่มไวน์ไปไม่น้อย หรือไม่เอาแบบนี้ คุณอยู่ที่ไหนครับ เดี๋ยวผมไปส่ง”
ประธานหลิวพูดอย่างนั้นแล้วก็จะเข้ามาโอบไหล่เธอ
ถังลั่วเหยารีบก้าวถอยหลังเพื่อเลี่ยงหลบ ยิ้มฝืนๆ และพูดว่า “ไม่ต้องหรอกค่ะประธานหลิว ฉันเรียกรถกลับเองก็ได้”
“ทำอย่างนั้นได้ยังไง เวลาแบบนี้ ผู้หญิงคนเดียวเรียกรถกลับคนเดียวไม่ปลอดภัยมากๆ ผมไปส่งคุณกลับดีกว่าครับ!”
“ไม่ต้องเลยจริงๆ ค่ะ ประธานหลิว! คุณทำอะไร ปล่อยฉัน!”
มือของประธานหลิวเกี่ยวเอวเธออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย โอบเธอไว้ในอ้อมแขนตัวเอง ถังลั่วเหยาดิ้นอย่างไม่คิดชีวิต
ในเวลานี้ ประธานหลิวหมดความอดทนแล้ว ฉีกหน้ากากนักธุรกิจบุคลิกสง่างามที่หลอกลวง เปิดเผยธาตุแท้ของเขาออกมา
ในขณะที่โอบกอดถังลั่วเหยาก็พูดพลางยิ้มเยาะว่า “พอได้แล้ว! ถึงเวลานี้แล้วยังจะเสแสร้งอะไรอีก อย่าคิดว่าผมไม่รู้ พวกคุณดาราหญิงน่ะไม่มีใครใสซื่อหรอก เพื่อไต่เต้าขึ้นไปมีอะไรที่ไม่เคยทำบ้าง คุณวางใจ! ไปกับผมคืนนี้ การลงทุนละครครั้งต่อไปจะให้คุณเป็นนางเอกแน่นอน! แต่ก่อนหน้านั้นคุณต้องทำให้ผมมีความสุขก่อน!”
เมื่อพูดอย่างนั้นเขาก็ยังยิ้มลามก ก้มลงไปเพื่อจูบปากหญิงสาว
ถังลั่วเหยาเพียงรู้สึกมวนท้องคลื่นไส้ ผู้ชายยื่นปากเข้ามา ลมหายใจที่มีกลิ่นยาสูบและไวน์โชยมากระทบหน้า ทำให้เธอมึนเบลออยากจะอาเจียน
“ประธานหลิว! อย่าทำแบบนี้! คุณปล่อยฉันก่อน!”
“ปล่อยคุณงั้นเหรอ เหอะ! ต่อให้ผมปล่อยคุณไปตอนนี้ คุณจะยังยืนได้งั้นหรอ”
ประธานหลิวยิ้มร้าย ถังลั่วเหยาใจกระตุก
ความรู้สึกชาเพิ่มขึ้นจากท้องน้อย แค่ไม่กี่วินาที มันก็โจมตีลามไปทั่วร่าง
แขนขาของเธอเจ็บมาก หัวก็ปวดตุบๆ หนัก ความร้อนระบายออกมาจากในกาย ทำให้ร่างกายเธออ่อนยวบ! บ้าเอ๊ย!
เหมือนว่าเธอจะถูกคนวางยา!
ถังลั่วเหยาไม่ใช่ดอกไม้ขาวเล็กๆ ที่ปลูกไว้ในเรือนกระจก ถ้าถึงเวลาแบบนี้แล้วยังไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ถ้าอย่างนั้นยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาก็เปล่าประโยชน์แล้ว
ประธานหลิวเห็นเธอร่างกายอ่อนแรงก็ยิ้มอย่างมีชัย ใบหน้าอ้วนเต็มไปด้วยเนื้อ แทบจะบีบรูปตาสามเหลี่ยมจนมองไม่เห็น
“คุณถัง คุณไม่ต้องกลัว คืนนี้ผมจะรักคุณอย่างดี มาเถอะที่รัก!”
เมื่อพูดจบ คู่มืออ้วนก็จะยื่นเข้าไปในชุดของเธอ
ถังลั่วเหยาทั้งตกใจทั้งกลัว ใช้ประโยชน์จากช่องว่างที่เขายื่นออกมา กระทุ้งเข่าเตะเข้าเป้าของเขา จากนั้นก็ผลักเขาออกพยายามจะวิ่งไปข้างหน้า
“โอ๊ย! นังผู้หญิงสารเลว! กล้าดียังไงมาเตะฉัน!”
“ประธานหลิว เกิดอะไรขึ้นครับ” บอดีการ์ดที่อยู่ข้างหลังตามเข้ามา
“ยังจะซื่อบื้ออยู่ทำไม วิ่งไปสิ ยังไม่ไปจับมาให้ฉันอีก!”
บอดี้การ์ดหลายคนมองไปยังทิศทางที่ถังลั่วเหยาหนีไปแล้วมองหน้ากัน
ประธานหลิวตบหัวทุกคนรุนแรงอย่างโกรธจัด “ทุกคนหูหนวกใช่ไหม วันนี้ถ้าจับเธอไม่ได้! พวกแกทุกคนเก็บของไสหัวไปให้หมด! ได้ยินไหม”
หลานคนเริ่มได้สติ รีบตอบว่า “ครับ!”
หลังจากนั้นก็ทิ้งประธานหลิวและรีบเร่งไล่ตามไป
ถังลั่วเหยาวิ่งหนีไม่คิดชีวิต
ถึงแม้ว่าเท้าจะอ่อนแรงมาก แต่นางรู้ว่าเมื่อครู่เธอเตะไม่เบาแรง
คืนนี้ถ้าถูกประธานหลิวจับได้ เธอจบเห่แน่!
ดังนั้นต้องหนีให้ได้
คิดแบบนั้นแล้วเธอก็รีบวิ่งไปที่ลิฟต์และกดปุ่ม
แต่ลิฟต์ยังมาไม่ถึง ข้างหลังก็มีเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวของผู้ชาย “หยุดนะ!”
ทันใดนั้นรูม่านตาของถังลั่วเหยาก็ขยายออก หันไปมองก็เห็นฝูงบอดี้การ์ดไล่ตามมา
ในโรงแรมยังมีแขกอยู่ไม่น้อย แต่ไม่มีใครเลยที่จะยื่นมือเข้ามาช่วย
ถังลั่วเหยาใจกระตุก หันกลับมามองลิฟต์ เห็นว่าลิฟต์ยังอยู่แค่ชั้นสอง
ด้วยความเร็วเท่านี้ ถ้าเธอยังรอลิฟต์ ก็ต้องถูกจับได้แน่
จะทำอย่างไรดี
ฉับพลันใจเธอก็ราวกับถูกไฟแผดเผา เห็นคนพวกนั้นยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ไม่มีเวลาให้คิดมาก หันตัวและรีบวิ่งไปอีกทาง
และไม่รู้ว่าวิ่งมานานแค่ไหนแล้ว เธอพุ่งเข้าไปปะทะหน้าอกแกร่ง
“คุณคะ คุณได้โปรดช่วยฉันด้วย! มีคนจะจับฉันค่ะ!”
แม้แต่การจะเงยหน้าขึ้นมองว่าเป็นใครเธอก็ไม่มีเวลา คว้าจับเสื้อของเขาและพูดอย่างรีบร้อน
แล้วก็มีเสียงประหลาดใจดังขึ้นเหนือศีรษะ “เป็นคุณเหรอ”
ถังลั่วเหยาชะงักไป
เงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้างดงามไร้ที่ติของเฟิงยี่ และบนใบหน้ายังเจือรอยยิ้มล้อด้วย
“อ้าว นี่มันอะไรกันเนี่ย จะโยนตัวเองเข้าสู้อ้อมแขนของใครก็ต้องเลือกสถานที่ด้วยนะ มีคนมากมายกำลังมองอยู่ มันเหมือนอะไรรู้ไหม”
พูดอย่างนั้นแล้วยังเหลือบมองเธออย่างคลุมเครือด้วย แล้วเอื้อมมือไปจับคอเสื้อของเธอดึงออกจากที่จับเสื้อสูท
ถังลั่วเหยาก็คิดไม่ถึงว่าจะเจอเขาที่นี่
ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะพูดอย่างนั้นแล้วทำให้อยากตบหน้าเขา แต่ว่าตอนนี้ การเจอเขาก็ดีกว่าเจอคนอื่น
อย่างน้อยในใจเธอก็มีเสียงบอกว่า ต่อให้เฟิงยี่จะเลวร้ายแค่ไหน ก็แค่ปากไม่ดี แต่ไม่เอาเปรียบเธอ
เมื่อคิดแบบนี้แล้วเธอก็อดกลั้นการอยากตอบโต้กลับ คว้าจับเสื้อเขาอีกครั้งและรีบเร่งบอกว่า “เฟิงยี่ ช่วยฉันด้วย”
เฟิงยี่เพิ่งตระหนักว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับหญิงสาว
เห็นเธอแก้มแดง หน้าผากมีชั้นเหงื่อเกาะพราว หายใจหอบถี่ ร่างกายอ่อนแรงมาก
เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เห็นที่สุดทางเดิน มีชายชุดดำหลายคนกำลังวิ่งมาทางนี้
“นั่นเธออยู่ตรงนั้น รีบจับเธอเร็ว!”
ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วหนักทันที
กอดหญิงสาวไว้ในอ้อมแขนแล้วเปิดริมฝีปากบางเบาๆ “ซู่เหลิ่ง!”
“คุณชายรอง!”
ผู้ชายแข็งแรงคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านหลังของเขา
เฟิงยี่ไม่ได้พูดสั่งอะไร เพียงส่งสายตาให้อีกฝ่ายเข้าใจความหมายของเขา
ซู่เหลิ่งหันหลังเดินไปทางพวกบอดี้การ์ด
ที่มากับเฟิงยี่ยังมีซีอีโอของกรุ๊ปบริษัทหลายที่ เมื่อเห็นเรื่องในตอนนี้ก็ค่อนข้างงุนงง
แต่ละคนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถามออกมาอย่างแปลกใจว่า “คุณชายรอง นี่มันเรื่องอะไรกันครับ”
เฟิงยี่คิ้วขมวด
ในใจก็บ่นว่า คุณถามผม แล้วผมถามใคร
แน่นอนว่าต้องเป็นผู้หญิงคนนี้ที่ก่อเรื่อง!
เขามองผู้หญิงในอ้อมแขนอย่างรังเกียจ แต่กลับพบว่าเธอหมดสติไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ร่างกายอ่อนนุ่มอยู่ในอ้อมแขนตน หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าเล็กแดงมาก
เขาใจสะดุดไปเล็กน้อย
เฟิงยี่ที่เคยชินกับสถานที่คาวโลกีย์ เห็นเธอเป็นแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบก็รู้คร่าวๆ ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ใบหน้างดงามหยาดเยิ้มเย็นชาลงหนักทันที สายตาเย็นเยียบจนเกินบรรยาย
สมควรตาย! ไอ้พวกสวะ! กล้าดียังไงมาวางยาเธอ!