บทที่ 413 คุณยอมผมก็เต็มใจ
ลู่จิ่งเซินรู้ว่าเธอรู้สึกโมโห แล้วยิ้ม จึงจับมือเธอมาจูบทีหนึ่งและพูดด้วยเสียงที่อ่อนหวาน: “ขอโทษครับ เมื่อคืนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ครั้งหน้าผมจะแก้ไขตัวเอง”
เผชิญหน้ากับแววตาที่โมโหของจิ่งหนิงแล้ว เขาตะลึงอยู่สักพัก ยิ้มแล้วพูดว่า: “คุณนอนพักอีกสักครู่ ยังมีเวลา ผมไปยกอาหารเช้าขึ้นมาให้คุณ พักผ่อนอีกหน่อยค่อยออกไป”
จิ่งหนิงทำเสียงฮึ่มอย่างเย็นชาแล้วปล่อยเขาไป
ในขณะนี้ อีกที่หนึ่ง
แสงอาทิตย์ในตอนเช้าส่องผ่านม่านหน้าต่างสีขาวเข้ามาข้างใน ทำให้ทั้งห้องสว่างจ้าและอบอุ่น
พรมที่หรูหราบนพื้น มีคนกำลังนอนหลับสนิทอยู่หนึ่งคู่ แสงอาทิตย์ส่องบนหน้าอันขาวเนียนของหญิงสาว มองดูอย่างละเอียดแล้วยังสามารถมองเห็นรูขุมขนบนผิวหน้า หน้าขาวนวลดั่งนางฟ้า
ถังลั่วเหยาตื่นเพราะความเจ็บปวด
ทั้งตัวไม่มีที่ไหนที่ไม่เจ็บตัว เหมือนเคยถูกรถกระบะทับอย่างนั้น เหมือนอะไหล่ในร่างทั้งตัวถูกแกะออกมาแล้วประกอบเข้าร่างใหม่อีกครั้ง ไม่มีตรงไหนที่ไม่เจ็บ
เธอลืมตาขึ้น และมองดูเพดาน รู้สึกเพลียๆอยู่หลายวินาทีแล้วถึงรู้สึกตัวว่าตนเองอยู่ไหน
ความจำของเมื่อคืนค่อยๆนึกได้ทีละนิด เธอจำได้ว่า ตนเองไปร่วมงานฉลองวันเกิดของเฟิงยี่ ทุกคนไปทานปิ้งย่างเสร็จแล้วก็ไปดื่มเหล้า สุดท้ายเล่นเกมส์แพ้จนต้องดื่มเหล้าเยอะมาก
หลังจากนั้นทำไมถึงมาที่นี่ได้?
ความเจ็บปวดในหัวเหมือนจะระเบิด เธอหายใจลึกๆเบาๆและทำเสียง “สึ” ออกจากปาก กุมขมับไว้ทั้งสองข้างเตรียมจะลุกจากเตียง แต่กลับได้ยินด้านข้างมีเสียงดังขึ้น
เธอตกใจจนตัวเกร็งทันที
หันไปมองด้านข้างอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
ทันใดนั้น—–“อ้า!”
“อ้า—-!”
เสียงกรี๊ดดังขึ้นทีละเสียง จากนั้นก็ได้ยินเสียง “พัฟ” คนที่อยู่ข้างๆตกใจจนตกลงไปบนพื้น
“ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่?”
“แล้วคุณทำไมถึงอยู่ที่นี่?”
ทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ถังลั่วเหยาและเฟิงยี่ต่างจ้องหน้ากันด้วยความไม่อยากเชื่อ เหมือนไม่อยากจะเชื่อภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าอย่างนั้น สุดท้าย ทั้งสองคนก็หันไปมองกระจกด้านข้างอีกครั้งโดยไม่ได้นัดหมาย
ในกระจกนั้นมีเงาของเขาทั้งสองคน
คนหนึ่งดึงผ้าห่มมาปิดและหดตัวไว้ ไหล่ที่สวยงามและใบหน้าที่เนียนใส ทรงผมยุ่งเหยิง บนตัวยังมีรอยแห่งความรักที่เขียวช้ำ
ส่วนอีกคนกอดผ้าห่มไว้และยืนอยู่ข้างเตียง ใบหน้าที่หล่อเหลายังมีรอยแผลที่โดนชนหรือโดนตีก็ไม่รู้
ปกติใบหน้าที่ควรจะดูเป็นผู้ดี แต่ในตอนนี้ก็เพราะท่าทางและสภาพทำให้ดูโทรมอย่างเห็นได้ชัดเจน
ทั้งสองคนกรี๊ดดังๆพร้อมกันอีกครั้ง
“อ้า—-!!!”
ทันใดนั้น “เปรี๊ยะ—–!”
เฟิงยี่หันข้างปุ๊บ รู้สึกว่าบนแก้มขอตนเองรู้สึกเจ็บแสบร้อนมาก
“เฟิงยี่ นายมันสัตว์เดียรฉาน!”
ถังลั่วเหยาโกรธจนอยากจะร้องไห้
เธอไม่รู้เลยสักนิด ตนเองนอนอยู่บนเตียงกับชายคนนี้ได้ยังไง และจำไม่ได้เลยสักนิดว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น!
น่าสงสารเธอที่เก็บรักษาคืนแรกของเธอมานานยี่สิบกว่าปี กลับถูกไอ้เลวคนนี้ทำลายย่อยยับ!
เฟิงยี่ในขณะนี้รู้สึกงง
หลังจากที่งงอยู่พักหนึ่ง ถึงรู้สึกตัวว่าตนเองถูกตบไปทีหนึ่ง ทันใดนั้นทั้งร้อนใจทั้งโมโห
“คุณว่าใครคือสัตว์เดียรฉาน? คุณนั่นแหล่ะ! นี่เป็นห้องนอนของผม ถ้าไม่ใช่คุณเต็มใจเอง ทำไมถึงอยู่ที่ห้องนอนผม?”
ถังลั่วเหยาลืมตาโตจ้องกลับไป
“ไอ้เหี้ย คุณดูให้ชัดๆก่อน ว่านี่มันห้องใคร?!!!”
เฟิงยี่ได้ยินแล้ว หันไปมองเลขที่ห้องตรงประตู
พอเห็นปุ๊บ ไม่ใช่ห้องเขาจริงๆด้วย
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
ในใจรู้สึกผิดเล็กน้อย
หรือว่า เมื่อคืนตนเองจะเมาแล้วทำอะไรลงไปโดยไม่รู้ตัวจริงๆ อารมณ์ขึ้น จึงทำอะไรเค้าแบบนั้น?
ถังลั่วเหยามองดูหน้าตาที่รู้สึกผิดของเขา ยิ่งมั่นใจว่าคนๆนี้ตั้งใจอย่างแน่นอน ถือโอกาสลงมือ ทำลายความบริสุทธิ์ของตนเอง
เสียดายที่ตนเองยังอุตส่าห์ยินดีมาร่วมงานวันเกิดของเขา ฉลองวันเกิดให้เขา แต่เขากลับเป็นคนแบบนี้!
ถังลั่วเหยาโมโหมาก จับหมอนขึ้นมาขว้างไปใส่เขา
ขว้างไปด้วยด่าไปด้วย “ไอ้ลามก ไอ้เลว! ฉันจะตีนายให้ตายไปเลย!”
เฟิงยี่ถูกเธอขว้างหมอนใส่จนหงุดหงิดและโมโห จึงตะคอกตอบกลับ: “พอแล้ว!”
ถังลั่วเหยาหยุดชะงักกะทันหัน
ทันใดนั้น ทำปากจู๋เหมือนรู้สึกเสียใจที่โดนรังแก
เฟิงยี่เห็นเช่นนั้นแล้ว กลับเธอจะร้องไห้ที่นี่ จึงรีบๆอดกลั้นความรู้สึกหงุดหงิดไว้และปลอบโยนเธอ: “ผมขอโทษ ผม ผมไม่ได้ตั้งใจจะตะคอกใส่คุณ คุณอย่าเพิ่งร้องไห้นะ เดี๋ยวผมลองย้อนนึกเรื่องราวดู อาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้?”
พูดไปด้วยและเอาทิชชู่เช็ดน้ำตาให้เธอด้วย
ถังลั่วเหยาในขณะนี้จะควบคุมได้ยังไง?
ตื่นมาแต่เช้าก็เห็นตัวเองเสียความบริสุทธิ์ก็รู้สึกเสียใจแย่แล้ว นี่ยังถูกผู้ที่กระทำตนตะคอกใส่อีก ยิ่งรู้สึกเสียใจยิ่งกว่า น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด
“คุณยังคิดจะมาหลอกฉันอีกเหรอ? ฉันไม่เคยมีความรัก แต่ฉันก็ไม่ได้โง่! เกิดอะไรขึ้นกับตนเองฉันจะไม่รู้สึกหรือ? ไอ้ชั่ว! ไอ้เลว! นายทำอะไรลงไปยังไม่อยากยอมรับ! ไอ้คนหลอกลวง สารเลว!”
เธอพูดแล้ว ก็เอาหมอนขว้างใส่ตัวเขาอีกครั้ง
ครั้งนี้ ยี่เฟิงยอมแล้ว ไม่ขยับ แล้วแต่เธอจะระบาย
ที่จริงบนตัวของถังลั่วเหยารู้สึกไม่สบายตัวอยู่แล้ว ไม่มีแรงมากขนาดนั้น ขว้างหมอนได้ไม่กี่ครั้งก็เหนื่อยแล้ว
เธอสะอึกสะอื้นดูดน้ำมูกเข้าไปแล้ว หลังจากที่ระบายอารมณ์สักพักแล้ว ค่อยๆสงบสติอารมณ์เล็กน้อย
เธอหันไปมองเฟิงยี่ด้วยสองตาที่แดงก่ำและถาม: “คุณจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้จริงเหรอ?”
ถึงแม้เฟิงยี่จะไม่อยากยอมรับ แต่ที่จริงแล้วคือ เขาจำไม่ได้แล้ว
ที่จำได้อย่างเดียว จิ่งหนิงและลู่จิ่งเซินพากันออกไปก่อนแล้ว พวกเขาก็ดื่มเหล้ากันต่อ จากนั้นเหมือนว่าคนอื่นก็ค่อยๆพากันกลับแล้ว ก็เหลือแต่เขาและถังลั่วเหยาสองคน
เขาจองห้องไว้ที่โรงแรมล่วงหน้าแล้ว เพราะพวกจิ่งหนิงไม่เข้าพักที่นี่ จึงมีห้องว่างอยู่หนึ่งห้อง
ดังนั้นเขาจึงพยุงตัวถังลั่วเหยา อยากจะส่งเธอกลับไปพักผ่อนที่ห้อง
แต่หลังจากนั้นไม่รู้ทำไมทั้งสองคนถึงได้มาอยู่ห้องเดียวกัน แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก เขาจำไม่ได้แม้แต่นิดเดียวจริงๆ
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้ว เขาก็อดรู้สึกผิดไม่ได้
เพราะนั่นมันเป็นครั้งแรกของหญิงสาว กลับถูกเขาทำลายความบริสุทธิ์เพราะความประมาทเลินเล่อของเขา อีกทั้งหลังเกิดเหตุยังลืมเรื่องราวทั้งหมด ดูยังไงแล้วตนเองก็สมควรโดนตี
นึกถึงเช่นนี้แล้ว เขาทำใจและเอามือของเธอมาตบหน้าของตนเอง
ถังลั่วเหยาตกตะลึง
ตกใจกับสิ่งที่เขาทำ จนลืมร้องไห้ทันที
“คุณทำอะไรอ่ะ”
“ผม……” ปกติเฟิงยี่จะเป็นคนที่ท่าทางขี้เกียจ พอทำตัวจริงๆจังๆขึ้นมาทันทีทันใดเช่นนี้ กลับรู้สึกไม่ค่อยชิน
หยุดชะงักไปหลายวินาที ค่อยพูดออกมา: “ผมขอโทษ เมื่อคืนผมไม่ได้ตั้งใจ เหยาเหยา คุณอย่าโกรธผมเถิดนะ คุณจะตีผมด่าผมก็ยอม ไม่หายโกรธก็ตีหลายๆครั้ง ขอแค่อย่าโกรธผมก็พอ ได้ไหมครับ?”
ถังลั่วเหยาเห็นดังนั้น มองหน้าเขาสักพัก แล้วทำเสียงฮึ่มใส่
เฟิงยี่รู้สึกปวดหัว
คุณชายรองของตระกูลเฟิงอย่างเขา เที่ยวมานานหลายปี นอนกับใครก็ยินยอมทั้งสองฝ่าย เคยมีตอนที่เขินอายเช่นนี้ที่ไหน?