วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 416 ได้ยินความลับ

บทที่ 416 ได้ยินความลับ

พูดแล้ว ทั้งสองคนไปถึงห้องนอนของเธอ

ถึงแม้มองดูแล้วซูหยุนเหมือนจะดูห้าวหาญไปหน่อย แต่เธอก็แค่สาวน้อยอายุยี่สิบต้นๆ ในห้องเป็นสีชมพูทั้งห้อง ดูแล้วสดใสเหมือนวัยรุ่นมาก

จิ่งหนิงแค่มองไปรอบๆโดยประมาณก็ไม่ดูอีกเลย ซูหยุนหยิบเอาชุดกระโปรงใหม่มาให้ และพูดว่า: “ตัวนี้ละกัน ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่ ยังไม่เคยใส่เลย”

จิ่งหนิงยิ้มนิดๆ “ได้ ขอบคุณค่ะ”

“งั้นคุณเปลี่ยนตรงนี้ ฉันออกไปข้างนอกก่อนนะ”

“ค่ะ”

ซูหยุนออกไปแล้ว จิ่งหนิงเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้อง หลังจากที่เปลี่ยนเสร็จแล้ว ตอนที่ออกไป กลับไม่เห็นเงาของซูหยุนเลยแม้แต่น้อย

เธอขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

สำหรับเธอแล้ว ตระกูลจิ้นเป็นสถานที่ไม่คุ้นเคยเลยสักนิด เพราะห้องนอนเยอะมากเกินไป การออกแบบก็สับสน อีกอย่างถ้าเธอจำไม่ผิด ทั้งสองคนมาถึงที่นี่ ต้องใช้เวลาอยู่สักพักหนึ่ง แสดงว่าห้องพักของเธอห่างจากห้องรับแขกด้านหน้าไกลมาก

ในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้าไม่มีคนสนิทนำทาง จะหาห้องรับแขกด้านหน้าได้ยากมาก

นึกถึงเช่นนี้แล้ว จิ่งหนิงจึงไม่รีบร้อนเดินกลับไปไหนมาไหน รออยู่ที่เดิมสักพัก เห็นเธอยังไม่กลับมา จึงค่อยๆเดินกลับไปตามทางที่เธอพอจำได้

จากนั้น ในเวลานั้นพอดี

ตอนที่เดินผ่านระเบียงทางเดิน ได้ยินห้องข้างๆมีเสียงชายหญิงคู่หนึ่งทะเลาะกัน

“โจวเหวินจง!คุณทำแบบนี้มันเกินไปหน่อยไหม? เงินก้อนใหญ่ขนาดนั้น จะมาบอกว่าหมดแล้วก็หมดเลยเหรอ คุณให้ฉันบอกคุณหญิงย่าว่ายังไง?”

“จิ้นหง คุณฟังผมอธิบายก่อน เงินเหล่านั้นไม่ใช่ว่าหมดไปแล้ว ผมแค่เอาไปลงทุน คุณก็รู้ การลงทุนในต่างประเทศแค่เอาเงินไปร่วมหุ้น แค่ระยะเวลาสั้นๆเอากลับมาไม่ได้ คุณมาขอเงินกับผมตอนนี้ จะเอาชีวิตผมหรือไง?”

“ฉันไม่สน! เงินก้อนนั้นฉันแค่บอกว่าเอาไว้ที่คุณชั่วคราว ไม่ได้บอกว่าให้คุณเอาไปลงทุน คุณเอาไปใช้เองโดยไม่บอก ถ้าตรวจสอบบัญชีขึ้นมา อย่าว่าแต่คุณ แม้แต่ฉันก็จะต้องได้รับผลกระทบ คุณต้องเอาเงินก้อนนั้นกลับคืนมาเดี๋ยวนี้!”

“จิ้นหง ไม่ใช่ผมไม่อยากเอามาคืน แต่มันเอาคืนมาไม่ได้จริงๆ อีกอย่างสรุปงบกำไรขาดทุนสิ้นปียังมีเวลาอีกหลายเดือนไม่ใช่เหรอครับ? คุณจะรีบร้อนไปทำไม? อย่างมากถึงเวลานั้นผมถอนเงินทุนกลับมาก็ได้แล้ว”

“พูดง่ายนี่ ถ้าเงินก้อนนี้ลงทุนไปจริงๆ คุณอยากถอนกลับก็ถอนได้อย่างนั้นเหรอ?”

“แล้วฉันต้องทำยังไง ตั้งหนึ่งพันล้าน ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ตอนนี้ในมือผมก็ไม่มีเงินเยอะมากขนาดนั้น”

หนึ่งพันล้าน?

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว

ฟังดูแล้ว นี่คือคดีร่วมกันโกงเงินบริษัทมาใช้ส่วนตัวนั่นเอง

จิ้นหงชื่อนี้ ตอนที่พวกเธอคุยกันในห้องรับแขกเมื่อสักครู่นี้ เหมือนเธอจะเป็นลูกสาวของตระกูลจิ้น ก็คือลูกสาวของคุณหญิงย่า ถ้านับญาติแล้วถือเป็นอาของจี้หลินยวน

ผู้ชายที่อยู่ข้างในเธอไม่รู้จัก แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร ฟังดูแล้วเหมือนจะเกี่ยวข้องกับตระกูลจิ้น ไม่อย่างนั้น จิ้นหงไม่มีทางเอาเงินพันล้านไปไว้ในมือของเขาหรอก

จิ่งหนิงคิดไปคิดมา คิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง จึงไม่คิดจะฟังอีกต่อไป

กำลังจะก้าวขาออกไป จากนั้นได้ยินคนข้างในพูดขึ้นมาอีกว่า: “พูดแล้วก็เพราะไอ้จี้หลินยวนนั่นแหล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ผมจะถูกคุณหญิงย่าเตะออกมาจากจิ้นซื่อกรุ๊ป! ทำให้ตอนนี้ แค่จะใช้เงินยังต้องแอบๆซ่อนๆ”

จี้หลินยวน?

เธอก้าวเท้าออกไป แล้วก็ถอยกลับมาอีก

“ใช่สิ ไอ้หนุ่มนั่นความคิดโหดเหี้ยม ตอนนั้นฉันขอร้องให้คุณ จนต้องขอกับคุณหญิงย่าแล้ว คุณหญิงย่าก็ยอมใจอ่อนอยู่แล้วเชียว ก็เพราะเขา ยังไงก็จะไล่คุณออกให้ได้

พี่ใหญ่ของผมก็ตายมาหลายปีแล้ว ตอนแรกก็นึกว่าตระกูลจิ้นไม่มีผู้สืบทอดวงศ์ตระกูล ทรัพย์สมบัติทั้งหมดช้าเร็วก็ต้องเป็นของผม แต่ตอนนี้สิ คุณหญิงย่าไปหาไอ้นอกคอกคนนี้กลับมาจากไหนก็ไม่รู้ พอนึกถึงในอนาคตเขาจะมาเป็นทายาทสืบทอดตระกูลจิ้น ฉันก็เกลียดจนกัดฟันแน่นและคันปาก”

“เหอะ! ไอ้หนุ่มนั่นจะสืบทอดจิ้นซื่อกรุ๊ป? คงจะคิดมากไปแล้ว! คุณดูสิตอนนี้ทั้งกลุ่มในวงศ์ตระกูลจิ้น มีกี่คนที่ฟังเขา ทุกคนไม่ใช่คนโง่ ทั้งซ้ายทั้งขวา ทุกคนติดตามคุณมานานขนาดนี้ เขาอยากมาก็มาใครจะยอมเชื่อมั่นในตัวเขา?”

“พูดแบบนี้ก็ไม่ได้ ไอ้หนุ่มนั่นมันก็ไม่ใช่จะโต้ตอบได้ง่ายๆ ตอนนี้เขากลับมายังไม่นาน แล้วยังถูกผู้หญิงคนนั้นผูกมัดไว้ในประเทศ ถ้าต่อไปกลับมาแล้ว ไม่รู้อาจจะทำอะไรก็ได้

ดูตอนนี้สิ ถึงแม้ว่าผมยังเป็นผู้ดูแลบัญชีทั้งหมด แต่ก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน ผมพูดอะไรต้องเป็นอย่างนั้น ตอนนี้คนพวกนั้นที่เขาส่งให้มาเป็นสายสืบ ถ้าผมอยากจะทำอะไรนิดๆหน่อยๆบนยอดตัวเลขในบัญชี อย่าว่าแต่โยกย้ายเงิน แค่ขาดไปบาทสองบาท เขาก็สามารถตรวจสอบออกมาได้”

“ถ้าอย่างนั้นแล้ว หนึ่งพันล้านนั่น……”

“ดังนั้นฉันถึงได้ร้อนใจไง! หนึ่งพันล้านนี้เป็นเงินที่คุณหญิงย่าโมโหคิดจะเตรียมเอามาลงทุนที่ดินผืนนั้นที่อยู่รอบนอกเมือง ฉันยืดระยะเวลาออกไปให้คุณได้แค่เดือนสองเดือน แต่ถ้านานไปกว่านี้ ต้องตรวจสอบเจอแน่นอน”

“แล้วจะทำยังไง?”

“จะให้ทำยังไง? เอาเงินคืนมาสิ!”

“แต่ว่า……เงินนั่นผม ผมทำเสียไปตั้งนานแล้ว”

“อะไรนะ? โจวเหวินจง! คุณ!”

“จิ้นหง คุณฟังผมก่อน ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ผมก็แค่ครั้งก่อนไปเมืองT ตอนแรกก็แค่เล่นๆ ใครก็นึกไม่ถึงว่าพวกเขาวางแผนหลอกลวงไว้ ผมไม่ทันระวังไปหลงกลเข้า ในตอนนั้นผมก็มีผีบังตา คิดว่าจะต้องเอาเงินคืนให้ได้ แล้ว……”

“โจวเหวินจง! คุณจะทำให้ฉันต้องซวยไปด้วยรู้หรือเปล่า!”

“ผมรู้ผมรู้ เอาอย่างนี้ คุณให้เวลาผมอีกหน่อยนะ ผมต้องหาวิธีให้ได้ ไม่ปล่อยให้พวกเขาตรวจสอบเจออย่างแน่นอน”

“คุณ……”

ได้ยินเช่นนี้ จิ่งหนิงพอเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว จึงไม่อยากฟังต่อไปอีก

ดังนั้น จึงค่อยๆย่องขาออกไปเบาๆ

พอเธอเดินออกไปไม่นาน ประตูห้องก็ถูกเปิดออก โจวเหวินจงถูกจิ้นหงไล่ออกมาจากข้างใน

“โจวเหวินจง! ฉันจะให้เวลาคุณแค่อาทิตย์เดียว ภายในหนึ่งอาทิตย์ถ้าคุณไม่เอาเงินกลับมาคืน ต่อไปคุณก็รับชะตากรรมเอาเองละกัน!”

พูดจบ ยังขว้างหมอนข้างออกมาด้วยความโมโห

โจวเหวินจงรับหมอนข้างเอาไว้ สีหน้าซีดเซียว หันหน้าไป กลับเห็นเงาคนผ่านไปตรงทางเลี้ยว

เอ๋? นั่นมัน……

สีหน้าของเขายิ่งซีดขาวมากกว่าเดิมอีก

จิ่งหนิงกลับไปถึงห้องรับแขก เห็นทุกคนยังนั่งอยู่ตรงนั้น ซูหยุนก็นั่งอยู่ข้างๆคุณหญิงย่า กำลังกินเกาลัดอย่างมีความสุข เห็นเธอเดินมา ยังยิ้มแย้มอย่างเบิกบาน

“ซ้อเล็ก เมื่อกี้พี่หายไปไหนมาคะ? ฉันแค่ออกไปรับโทรศัพท์แป๊บเดียว กลับไปก็มองไม่เห็นคุณอีกเลย จากนั้นได้ยินว่าทางนี้มีเกาลัด จึงวิ่งออกมาอีกครั้ง พี่คงไม่โทษฉันนะ”

จิ่งหนิงรู้สึกเยือกเย็นข้างในใจ แต่บนใบหน้ากลับยิ้มแย้มบอกว่า “ไม่เป็นไร”

ตอนนี้เธอพอดูออกแล้ว ว่าทำไมก่อนหน้านั้นเห็นซูหยุนคนนี้แล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรหรือพูดอะไรก็ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ?

เห็นได้ว่าเธอตั้งใจจะทำเช่นนั้น

ถึงแม้จิ่งหนิงจะไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้พุ่งเป้ามาที่ตนเอง แต่ความจริงก็เห็นกันอยู่แล้ว เธอจึงได้แต่คอยระวังหน่อย

“เด็กคนนี้ ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วเป็นผีตนไหนมาเกิดใหม่ เห็นอะไรที่ชอบกินแล้วก็ไม่ยอมขยับขาไปไหนเลย ใครๆก็บอกว่าเป็นลูกสาวที่เกิดในตระกูลใหญ่เรียบร้อยสง่างาม มีกี่คนที่เหมือนเธอ ฉันว่า ตรงปากนั่นแหล่ะที่ไม่สง่างามเหมือนใครเลย”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset