บทที่ 424 การผ่าตัดสำเร็จ
จิ่งหนิงฟังอย่างเลื่อนลอย ใบหน้าไม่แสดงอาการใดๆ
ขณะที่หมอตรวจเธอใกล้จะเสร็จแล้ว จู่ๆเธอก็ถามว่า “หมอคะ เมื่อกี้คุณบอกว่าเขาอายุเท่าไรนะคะ?”
หมอพูด “สี่สัปดาห์ครึ่ง”
จิ่งหนิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง “สี่สัปดาห์ครึ่งก็เดือนกว่าแล้ว ดังนั้นเขาต้องใช้เวลาอีกแปดเดือนกว่าถึงจะคลอดใช่ไหมคะ?”
พอหมอได้ยินเธอพูดก็ยิ้มทันที “ใช่ค่ะ ทำไมคะ? รอไม่ไหวอยากจะเจอลูกแล้วหรอคะ?”
หยุดไปพักหนึ่งก็พูดต่อว่า “แต่ไม่ต้องรีบนะคะ เรื่องนี้ต้องใจเย็นๆ รีบไปก็ไม่มีประโยชน์”
น้ำตาไหลจากมุมตาของจิ่งหนิงเงียบๆ เธอฝืนดึงมุมริมฝีปาก “ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”
หลังจากทำอัลตร้าซาวด์เสร็จแล้ว หมอก็ส่งผลการตรวจให้เธอแล้วบอกว่า “หมอจะสั่งยาป้องกันทารกในครรภ์ให้คุณนะคะ อย่าลืมกินให้ตรงเวลาและอย่าลืมตรวจครรภ์ตามเวลาที่กำหนดด้วย เรื่องนี้จะประมาทไม่ได้ นายลู่เป็นคนดีผีจะต้องคุ้มครองแน่นอน เขาจะต้องฟื้นขึ้นมา คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเขา”
เมื่อเห็นสีเธอแย่ลงเธอก็ถอนหายใจแล้วเกลี้ยกล่อมอีกว่า “แม้จะเกิดอะไรขึ้นกับเขาก็ยังโชคดีที่ตอนนี้คุณยังมีลูกนะคะ เพื่อลูกคุณต้องเข้มแข็งขึ้นนะคะเข้าใจมั้ย?”
จิ่งหนิงก้มหน้าฝืนยิ้มแล้วพยักหน้า “ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณนะคะหมอ”
พูดจบก็จากไป
เธอถือผลตรวจครรภ์กลับไปที่ชั้นสาม ลู่จิ่งเซินก็ยังไม่ออกมา
ตอนนั้นเองซูมู่ก็รีบมา
จริงๆแล้วสองวันที่ผ่านซูมู่ก็อยู่ในประเทศF เพียงแค่จัดการเรื่องอื่น ไม่ได้ติดตามลู่จิ่งเซิน
เขาตกใจมากเมื่อทราบข่าวการบาดเจ็บของลู่จิ่งเซิน ตกใจจนวิญญาณแทบหลุดจึงรีบมาที่นี่
ตอนนี้พอเห็นไฟในห้องผ่าตัดยังเปิดอยู่ก็อดถามไม่ได้ว่า “ท่านประธานเป็นยังไงบ้างครับ?”
มีคนอธิบายให้เขาฟัง “ยังไม่ออกมา”
ซูมู่ขมวดคิ้วอย่างกังวล
เขาหันหน้ามาเห็นจิ่งหนิง แม้ว่าในใจจะเป็นกังวล แต่เขาก็เดินไปหาเธอแล้วพูดด้วยความโล่งใจว่า “คุณผู้หญิง ไม่ต้องกังวลนะครับ ท่านประธานจะเปลี่ยนเรื่องร้ายเป็นเรื่องดีได้แน่ครับ”
จิ่งหนิงพยักหน้า
ดวงตาเฉียบแหลมของซูมู่เห็นผลตรวจครรภ์ในมือเธอแวบเดียว
ทันใดนั้นเขาก็ตะลึง
คุณผู้หญิงท้องแล้ว?
บางครั้งชีวิตก็เหมือนละคร อยู่ตั้งนานไม่ท้องแต่ดันมาท้องตอนลู่จิ่งเซินได้รับบาดเจ็บ
เขารีบปลอบ “คุณผู้หญิงคุณคลายอารมณ์เพื่อลูกนะครับ ถ้าเหนื่อยก็ไปพักสักครู่ ถ้าทางนี้ท่านประธานฟื้นแล้ว ผมจะแจ้งให้คุณทราบทันที”
จิ่งหนิงส่ายหน้า
“ไม่ ฉันอยากรอเขาที่นี่ด้วยตัวเอง”
ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะเกิดอะไรขึ้นเธอสามารถเข้มแข็งได้
แต่ตอนนี้พอมองไปที่แสงสีแดงในห้องผ่าตัดทำไมเธอถึงเข้มแข็งไม่ได้นะ ในใจเธอสับสนไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
เธอกลัวจริงๆ กลัวมากๆ เธอนึกไม่ออกจริงๆว่าถ้าลู่จิ่งเซินไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ เธอควรจะทำอย่างไร?
เพราะเธอเองที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเรื่องทั้งหมดในวันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
ถ้าเขาไม่ฟื้นจริงๆเธอจะใช้ชีวิตต่อยังไง เผชิญกับชีวิตต่อจากนี้ได้ยังไง?
ซูมู่มองเธออย่างเงียบๆ รู้ว่าไม่สามารถโน้มน้าวใจได้อีก ดังนั้นจึงไม่พูดอีก
ผ่านไปไม่นานจิงหนิงก็พูดว่า “ซูมู่ฉันไม่เป็นไร นายไปเถอะ”
ซูมู่ผงะและพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที “ผมไม่ไป ผมจะไปได้ยังไง ผมอยากอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องคุณ!”
จิ่งหนิงส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการใครมาปกป้อง นายไปเถอะ ไปช่วยเย่ไป๋”
ฟังเธอพูดเช่นนี้ซูมู่ก็ตกใจ เขาดูประหลาดใจ
จิ่งหนิงพูดต่อ “ฉันอยากรู้ว่าทำไมฆาตกรถึงทำแบบนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของเธอกับฉันที่มันดีมากเธอโกหกฉันมาโดยหรือเปล่า? ทั้งหมดนี่เป็นแค่ละครฉากหนึ่งรึเปล่า?”
ซูมู่ตกใจแล้วพูดขึ้น “คุณหมายความว่า…คุณรู้จักฆาตกร?”
จิ่งหนิงพยักหน้า
เธอนั่งอยู่ตรงนั้นสักพักแล้วพูดว่า “นายไปช่วยเถอะ หลังจากเจอคนๆนั้น หลังจากเจอเธอ ต้องให้ฉันเจอ ฉันอยากจะถามด้วยตัวเอง”
ซูมู่มองเธออย่างลังเล
จิ่งหนิงพูดขึ้นอีกครั้ง “นายอยู่ที่นี่กับฉันก็ไม่มีทางที่จะบรรเทาความรู้สึกผิดของฉันได้ ถ้านายอยากช่วยฉันจริง รีบจับฆาตกรมา ฉันจะซาบซึ้งมาก”
ซูมู่ตัวสั่นหลังนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พยักหน้า
“ผมเข้าใจแล้ว คุณผู้หญิงวางใจได้ ต่อให้คุณจะไม่สั่งเราก็จะพยายามหาตัวฆาตกรเพื่อบอสอย่างเต็มที่”
จิ่งหนิงพยักหน้า
ซูมู่ถึงจะหมุนตัวจากไป
จิ่งหนิงไม่ได้พูดอะไรอีก ตอนนั้นเองไฟเหนือห้องผ่าตัดดับลง
ทุกคนวิ่งเข้าไปด้วยสีหน้าตกใจ
“หมอคะ เขาเป็นยังไงบ้าง?”
หมอในชุดเสื้อคลุมสีขาวถอดหน้ากากออกจากใบหน้า หยิบผ้าขนหนูที่พยาบาลส่งมาเช็ดเหงื่อแล้วพูดว่า “ยินดีด้วยครับที่เขารอดชีวิตมาได้ ตอนนี้ไม่มีอะไรร้ายแรงแล้ว รอข้างในทำความสะอาดเสร็จก็สามารถย้ายไปห้องพักผู้ป่วยได้เลยครับ”
คำพูดของเขาช่วยคลายความกังวลของทุกคนได้ในทันที
ทุกคนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ร่างกายที่จิ่งหนิงทนฝืนก็ฝืนต่อไม่ไหวจึงอ่อนยวบลงไป
“หนิงหนิง!”
“พี่สะใภ้!”
คนข้างๆรีบพยุงเธอ จิ่งหนิงโบกมือ “ฉันไม่เป็นไร พยุงฉันไปนั่งสักพักก็พอ”
ทุกคนรู้ดีว่าตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์ ก่อนหน้านี้เธอพยายามเฮือกสุดท้ายเพื่อพยุงร่างกายรออยู่ที่นี่ ตอนนี้พอเธอรู้แล้วว่าลู่จิ่งเซินปลอดภัยก็ย่อมต้องการพักผ่อน
เขารีบสั่งให้คนเตรียมห้องพยุงเธอไปพักผ่อนก่อน
ตอนนั้นเอง อีกฝั่งหนึ่ง
บนถนน
หญิงสาวสวมเสื้อรัดรูปสีดำยืนอยู่บนดาดฟ้ามองแสงไฟที่ยาวใต้เท้าของเธอแล้วยิ้มอย่างเย็นชา
ยี่สิบนาทีที่แล้วเธอพยายามออกไป ก็พบว่าการจราจรทั้งหมดในเมืองเต็มไปด้วยด่าน ทุกคนกำลังตามหาเบาะแสของเธอ
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ชื่อของเธออยู่ขึ้นในบัญชีใบประกาศจับ
ตอนนี้หากเธอปรากฏตัวก็จะถูกจับทันที
คิดได้เท่านี้มุมปากของเธอก็ขยับเงียบๆราวกับกำลังเยาะเย้ย
คนที่คู่ควรคบกับลู่จิ่งเซินมีสไตล์เหมือนกันหมด ล้วนโหดเหี้ยมไร้ความรู้สึก
เธออดนึกถึงกลางดึกของคืนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนไม่ได้ ตอนที่เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะออกจากจีน คนเหล่านั้นก็ขัดขวางเธอไว้เช่นนี้
พวกเขาตั้งด่านจราจรทั้งหมดทั่วเมืองหลวง สกัดเที่ยวบินที่เธอโดยสารเพื่อจับตัวเธอกลับมา
คนนั้นเธอประสบกับสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดในโลกและเป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่สุด
เธอเฝ้าดูพ่อของเธอกระโดดลงมาจากตึกสูงที่เหมือนกับความสูงที่เธอกำลังยืนอยู่
เธอดิ้นอย่างสุดชีวิต กรีดร้อง พยายามคว้าเสื้อผ้าพ่อ แต่เธอขยับไม่ได้
คนเหล่านั้นจับร่างเธอไว้ราวกับปีศาจ
มองคนตัวเป็นๆกระโดดลงมาจากที่สูงอย่างเฉยเมย!