บทที่ 428 โยนความผิดให้คนอื่น
จิ่งหนิงตะลึงเล็กน้อย
หัวเหยาพูดต่ออีกว่า “หนิงหนิง เธอเป็นแม่คนแล้วนะ อย่าได้ทำตัวฝืน เขาโชคดีที่มีเบื้องหลังเป็นตระกูลจิ้น นับว่าที่นั่นเป็นเจ้าถิ่น
อย่างน้อยถ้าไม่เพื่อคนอื่นก็เห็นแก่หน้าฉัน เขาจะช่วยเธอ เธออย่ามีอคติไม่ขอความช่วยเหลือจากเขาเพราะเรื่องในอดีตเลยนะ”
จิ่งหนิงได้ฟังถ้อยคำที่เป็นห่วงเป็นใย ในใจก็รู้สึกอบอุ่น
นิ้วมือที่จับโทรศัพท์แน่นขึ้นจากนั้นก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น
“อื้ม ฉันรู้ เธอวางใจได้”
หัวเหยาถึงคลายกังวล
หลังจากวางสายจิ่งหนิงก็นึกขึ้นได้ว่าอยากกินอาหารจีนจากร้านหนึ่ง
หลังจากอยู่โรงพยาบาลมาหลายวันทั้งสองก็กินอาหารจนเบื่อแล้ว เธอคิดอยู่พักหนึ่ง เมื่อก้มมองเวลาก็เห็นว่ายังเข้าอยู่จึงเตรียมตัวออกไปซื้อของ
เดิมทีซูมู่อยากบอกให้เธอไปพักผ่อนแล้วเขาจะไปเอง แต่จิ่งหนิงคิดว่าเขาต้องจัดการเรื่องหลายๆอย่าง เดิมทีเขาก็ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาว่างอยู่แล้วจึงไม่อยากกวนเขาด้วยเรื่องเล็กๆ
ยิ่งไปกว่านั้นร้านก็อยู่ไม่ไกล เดินทางเพียงสิบกว่านาทีเท่านั้น
ซูมู่เห็นดังนั้นจึงไม่ตื้อต่อ
โชคดีที่พวกเขาบอกโม่หนานแล้ว เดาว่าตอนบ่ายโม่หนานก็น่าจะมาถึง ถึงตอนนั้นก็ได้มีคนคอยประกบดูแลจิ่งหนิง จะได้ไม่ต้องกังวลอีก
จิ่งหนิงออกจากโรงพยาบาลแล้วโบกรถ
พอขึ้นรถก็บอกทาง
แต่ทว่าพอนั่งไปได้ไม่กี่นาทีก็รู้สึกทะแม่งๆ
พอจมูกได้กลิ่นเธอก็ชะงักทันที ขณะคิดจะตอบสนองกลับ เธอก็รู้สึกสะลึมสะลือทันที
ไม่นานก็สลบล้มพับไป
อีกฝั่งหนึ่ง
สำนักงานใหญ่จิ้นซื่อกรุ๊ป
จี้หลินยวนมาถึงในตอนเช้า
เขาไม่ได้กลับตระกูลจิ้น แต่ตรงมาที่บริษัท
ตอนนั้นเองในห้องประชุม
ตอนนี้เป็นเวลา 12 นาฬิกาแล้ว
แต่ผู้บริหารระดับสูงของทุกแผนกยังไม่เลิกงาน งานประชุมวันนี้กว่าจะมากันได้พร้อมหน้านั้นยากนัก แม้แต่คุณนายย่าที่ไม่ค่อยปรากฏตัวก็ยังมานั่งอยู่ในตำแหน่งประธานด้วยสีหน้าเย็นชา
ตรงกลางโต๊ะมีโทรศัพท์ที่เปิดลำโพงวางอยู่ เสียงคำรามของชายคนหนึ่งดังขึ้นอย่างชัดเจนข้างใน
“แม้ว่าฉันจะโง่แค่ไหน ฉันก็จะไม่โง่ถึงขนาดเอาเงินเป็นพันล้านไปถูกคนอื่นหลอก! ทุกคนคิดว่าจิ้นหยวนเป็นใคร? คนไร้ประโยชน์? คนโง่ที่ตามไม่ทันงั้นหรอ?
เงินพวกนั้นไอ้เวรโจวเหวินจงเอาไปแพ้ เราต้องไปตามตัวโจวเหวินจง!”
“ถ้าหากเขาไม่คายเงินออกมาก็ส่งเข้าคุกไป อ้อ จริงสิ เขาเลี้ยงอีหนูไอ้ข้างนอก 3 คนนี่ พวกแกหาเงินไม่เจอใช่มั้ย?
ก็ไปตามหาอีหนูพวกนั้น ทุกปีเขาจ่ายเงินให้พวกเธออย่างน้อยตั้งกี่สิบล้าน แต่ให้ไม่ครบ แต่ทั้งสามรวมกันก็น่าจะได้พอๆกัน!”
น้ำเสียงโกรธของจิ้นหยวนทำให้คณะกรรมการบริหารทุกคนในห้องประชุมมองหน้ากัน จิ้นหงที่นั่งอยู่ด้านซ้ายล่างหน้าซีดไปแล้ว
จิ้นหยวนเป็นคนเชื้อสายรองของตระกูลจิ้น เพราะพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตไว เขาได้รับการเลี้ยงดูจากคุณนายย่า ดังนั้นเขาจึงนับเป็นหนึ่งในคนเชื้อสายตรง
แต่ทว่าการใช้ชีวิตปกติของเขาไม่ค่อยดีนัก ทำตัวร่ำรวย เชื่อถือไม่ค่อยได้ ดังนั้นจิ้นหงจึงอยากยัดหนี้หลายพันล้านให้เขา
ไม่คิดเลยว่าจี้หลินยวนจะใช้วิธีนี้เพื่อเผชิญหน้ากับเขา
พอคิดได้เท่านั้นจิ้นหงก็หน้าเสียมากขึ้น
“เฮอะ!” จี้หลินยวนหัวเราะเยาะ ทั้งห้องทำงานนอกจากเสียงจิ้นหยวนก็มีเพียงแต่เสียงเขาเท่านั้น
นอกจากนี้ก็เงียบมากจนสามารถได้ยินแม้กระทั่งเข็มที่หล่นลงบนพื้น
“พูดแบบนี้ หมายความว่าลูกเขยเป็นคนเอาเงินไปจริงๆงั้นหรอ?”
“ไอ้ลูกเขยขี้หมา! มีลูกเขยที่ค้านหลานชายตัวเองแบบนี้ด้วยหรอ? เขาคิดว่าตัวเองเป็นลูกหลานของตระกูลจิ้นแล้วทำตัวแย่ๆได้ใช่มั้ย?
นี่มันเงินของตระกูลจิ้นไม่ใช่เงินของเขา! เขาเอาเงินไปเลี้ยงผู้หญิงเล่นพนัน ทำเอาเรื่องคาวๆนั่นมันสกปรกมาถึงฉัน! เขาคิดว่าตัวเองเป็นราชาแห่งสวรรค์รึไง?”
จี้หลินยวนเม้มปากอย่างเย็นชา ไม่ตอบกลับ
“พี่ ฉันผิดไปแล้ว เรื่องก่อนหน้านี้เป็นเพราะฉันหุนหันพลันแล่น ฉันรู้ว่าพี่ยกโทษให้ฉันแล้ว มิฉะนั้นคงไม่หาตำแหน่งที่ดีเช่นนี้ในประเทศให้
พี่วางใจเถอะ! ฉันจะทำที่นี่ให้ดีอย่างแน่นอน รอผลลัพธ์ออกมา จะประจักษ์ให้ทุกคนได้เห็นอย่างแน่นอน”
จี้หลินยวนพยักหน้า ท่าทางนั้น อารมณ์ที่แสดงออกมานั้นคล้ายกับพี่ชายที่รัก
“อืม งั้นก็ดี ทางฝั่งนี้ยังมีธุระอื่น วางก่อนนะ”
“อื้ม พี่เชื่อฉันก็ดี พี่ทำธุระของพี่เถอะ บ๊ายบาย”
จี้หลินยวนวางสาย
หันหน้าไปมองจิ้นหงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเย็นชา
ตอนนี้สีหน้าของคุณนายย่าเย็นชาไปหมด เธอพูดอย่างเคร่งขรึมกดดันอย่างรุนแรง “อาหง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
จิ้นหงหน้าซีดเสียงสั่นเล็กน้อย “ฉัน ฉันไม่รู้”
ไม่ว่าโจวเหวินจงจะพูดยังไงก็เป็นสามีเธอ จริงๆเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่รู้
เพียงแค่ว่าไม่สามารถยอมรับต่อหน้าคนจำนวนมากได้
มิฉะนั้นต่อให้คุณนายย่าอยากจะปกป้องเธอไว้ก็ทำไม่ได้
แต่ทว่า——
“เรื่องงามหน้าที่สามีเธอทำ เธอไม่รู้งั้นหรอ?”
คุณนายย่าโกรธขึ้นมาทันที เธอตบฝ่ามือลงบนโต๊ะทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าสั่นด้วยความโกรธ
จี้หลินยวนเลิกคิ้วเบาๆ
ผู้บริหารหลายคนบนโต๊ะประชุมก้าวไปข้างหน้าเพื่อบอกให้ใจเย็น แต่การเกลี้ยกล่อมให้ใจเย็นนั้นประกอบไปด้วยหายนะ
ตระกูลจิ้นรุ่งเรืองมาหลายปี แล้วตอนนี้ดันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ลูกเขยทำร้ายหลานชาย ครอบครัวทะเลาะกันอย่างลับๆ พวกเขาจะไม่มีความสุขได้อย่างไร?
ทะเลาะสิ! ทะเลาะยิ่งใหญ่โตเท่าไรยิ่งดี! ทางที่ดีทะเลาะจนลูกหลานตระกูลจิ้นแตกคอกัน พวกเขาถึงจะมีโอกาสขึ้นเป็นใหญ่เป็นโต
“สามีของเธอโจวเหวินจง คิดว่าฉันไม่รู้หรอว่าหลายปีที่ผ่านแอบทำอะไรลับหลังไว้บ้าง? แค่คิดว่าเขาเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดของหยุนหยุน เทียบกันแล้วฉันถึงปล่อยวันเลยตามเลยไป ก็ถือว่าไว้หน้าพวกเธอจึงทำเป็นไม่เห็น แต่ดูตอนนี้สิ!”
“หนึ่งพันล้าน! โจวเหวินจงบอกเอาไปก็เอาไป ดี! ต่อให้ไม่ตามเงินหนึ่งพันล้านนี้ แต่พวกเธอก็ไม่ควรโยนความผิดให้จิ้นหยวน!
จิ้นหยวนเป็นลูกหลานตระกูลจิ้นของเรา เขาจะเป็นผู้ช่วยหลินยวนในอนาคต! รู้มั้ยว่าการทำแบบนี้ทำให้เขาต้องแปดเปื้อนมากแค่ไหน? แล้วจากนี้เธอจะให้เขาดูแลบริษัทได้ยังไง? จะได้รับการรับถือได้ยังไง?”
ใบหน้าของจิ้นหงซีดขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าก่อนหน้านี้เธอไม่เคยคิดมากขนาดนี้
เธอไม่มีพ่อตั้งแต่เด็ก มีพี่ชายกับแม่ที่เลี้ยงดูเธอมา ดังนั้นเวลาทำอะไรก็เอาที่ตัวเองชอบใจว่า
การแต่งงานกับโจวเหวินจงก็เป็นเพราะความชอบของตัวเอง แม้ว่าแม่เธอจะไม่เห็นด้วย แต่ในที่สุดเธอก็ยอมตามใจเธอ
ตอนโจวเหวินจงพูดในตอนแรกว่าให้จิ้นหงรับโทษ เธอก็ไม่เห็นด้วย แต่ต่อมาก็ทนคำอ้อนวอนของเขาไม่ได้
เธอคิดว่าแม้ว่าจิ้นหยวนจะเป็นคนตระกูลจิ้น แต่ก็ไม่สนิทกับป้าอย่างเขามากนัก
และเขาก็เป็นลูกหลานตระกูลจิ้นที่ได้รับการเลี้ยงดูในนามของคุณนายย่า เขาก็อาจมีส่วนแบ่งของบริษัทในอนาคตเช่นกัน จะใช้เงินของที่บ้านตัวเองสักหน่อยจะเป็นอะไรไป?
แม้ว่าความผิดถูกเปิดโปง อย่างมากก็คงถูกคุณนายย่าด่าไม่กี่ประโยคก็จะผ่านไป ไม่ได้คิดจนถึงขั้นนี้