วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 452 ปรองดองร้อยปี

บทที่ 452 ปรองดองร้อยปี

หัวเหยารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

เธอเป็นแม่คนแล้ว แล้วจะอายุน้อยอะไรกัน?

แต่คำพูดของพนักงานกลับถูกใจผู้ชาย เขายิ้มมุมปาก และไม่ซักถามถึงราคา แต่ยื่นเสื้อให้กับพนักงานและพูดว่า “ห่อให้ด้วยครับ!”

หัวเหยารีบจับมือเขาไว้ “ไม่ต้องลองหน่อยหรอ?”

ตรงเอวของชุดนี้ค่อนข้างแคบ เธอกังวลจะสวมใส่ไม่ได้

ผู้ชายหันหน้ามองเธอ แล้วมองประเมินเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วพูดว่า : “ไม่ต้องลองหรอก คุณสวมได้แน่นอน”

ไม่รู้ทำไม หลังจากที่เขาพูดจบ หัวเหยาก็หน้าแดงอย่างผิดปกติขึ้น

พนักงานยิ้มและซักถามว่า : “คุณผู้ชายต้องการชำระด้วยการรูดบัตรหรือเงินสดค่ะ?”

“รูดบัตร”

“ค่ะ เชิญคุณผู้ชายด้านนี้ค่ะ”

จี้หลินหยวนเดินตามพนักงานไปชำระเงิน ส่วนหัวเหยายืนรออยู่ที่เดิมอย่างเงียบๆ

ไม่นานก็เห็นเขาถือถุงเดินออกมา ชุดเดรสตัวเดียวกลับมีสามถุงหรอ แต่เมื่อรับมาดู ที่แท้เขายังช่วยเธอซื้อกระเป๋าและรองเท้าด้วย

ในใจรู้สึกแปลกประหลาดขึ้น

ผู้ชายคนนี้!

พนักงานมีท่าทางมีความสุขมาก ถึงแม้คนที่มาเที่ยวที่นี่เป็นคนร่ำรวย แต่ลูกค้าที่ซื้อของอย่างใจกว้างค่อนข้างมีน้อยมาก ดังนั้นเลยไปส่งพวกเขาถึงหน้าประตูอย่างกระตือรือร้น

ทั้งที่พวกเขาสองคนเดินออกมาไกลแล้ว ยังโบกมือทักทายอย่างกระตือรือร้นอีก “เดินทางปลอดภัย ขอให้พวกคุณรักกันเป็นร้อยปีนะคะ!”

รักกันเป็นร้อยปีหรอ?

หัวเหยารู้สึกตกใจกับประโยคนี้มาก

จี้หลินหยวนยื่นมือจับแขนของเธออย่างรวดเร็ว พร้อมหันหน้ามองเธอด้วยสายตาหยอกเล่นขึ้น

หัวเหยายืนตรง แล้วสะบัดมือของเขาออก เหมือนกับมีเชื้อโรคมาเปื้อนมืออย่างนั้น

“ฮ่าฮ่า! พนักงานร้านนี้ถือว่ามีสายตาแย่มาก จริงไหม?”

เธอยิ้มอย่างเก้อเขิน

จี้หลินหยวนพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งว่า “ไม่หรอกมั้ง เธอมีสายตาเฉียบแหลมมากกว่า”

เธอหันหน้าจ้องมองเขาด้วยสายตาแหลมคมขึ้น

ผู้ชายเผยสีหน้าสงบนิ่งขึ้น และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า : “กระเป๋าและรองเท้าที่สวมใส่คู่กับชุดเดรสสวยมาก ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องพวกนี้ แต่ผมก็รู้สึกพึงพอใจกับคำแนะนำของเธอ”

หัวเหยา : “…….”

เมื่อทั้งสองคนกลับถึงโรงแรมก็กลับไปพักผ่อนในห้องของตัวเอง โดยนัดเดินทางสามทุ่มพร้อมกัน

เวลาสามทุ่ม

หัวเหยาได้เตรียมแต่งงานเสร็จเรียบร้อยล่วงหน้าแล้ว ตอนนี้เธอหยิบชุดเดรสออกมาเปลี่ยนแล้ว

แต่เมื่อสวมได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆก็หยุดนิ่งลง

ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาใช้ชีวิตสบายมากเกินไปหรือเปล่า ดูเหมือนตรงเอวจะมีพุงแล้ว แถมชุดเดรสตัวนี้ค่อนข้างเล็ก ตอนที่รูดซิปแผ่นหลังขึ้นมา ทำไมเธอกลับรูดซิปไม่ขึ้น

นอกประตูได้ยินเสียงเคาะประตูของจี้หลินหยวนดังขึ้น “เสร็จหรือยัง?”

เธอยืนอยู่เบื้องหน้ากระจก แล้วกลั้นหายใจ เธอรูดซิปพลาง และตอบพลางว่า : “ใกล้เสร็จแล้วค่ะ”

แต่ก็ยังคงรูดซิปไม่ได้อยู่ดี!

ไม่นานบนหน้าผากก็มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้น

“ต้องการให้ผมช่วยไหม?” นอกประตูมีเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง

หัวเหยาครุ่นคิดสักพัก ถึงยังไงเธอก็เคยเผยแผ่นหลังให้เขาทายามาก่อน ครั้งนี้แค่รูดซิปเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมาก

ดังนั้นเลยเปิดประตูให้เขาเข้ามา

หลังจากเปิดประตูก็ถึงกับสายตาเป็นประกายขึ้น

ในค่ำคืนนี้เธอเห็นจี้หลินหยวนสวมชุดสูทสีน้ำเงิน พร้อมผูกเนคไทสีดำกับสีฟ้าคริสทัลสลับตัดกัน ทำให้เขาดูมีออร่าเปล่งประกาย ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาราวกับเป็นรูปปั้นแกะสลัก และท่าทางอันอ่อนช้อยของเขายิ่งทำให้เขาดูน่าดึงดูดสายตา

หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้น!

เมื่อจี้หลินหยวนเดินเข้ามาก็เห็นเธอมีใบหน้าแดงก่ำ และเห็นเธอมีท่าทางผิดปกติด้วย

เขาเผยสายตายั่วยุขึ้น ยิ้มและพูดว่า : “สวมไม่ได้หรอ?”

หัวเหยาเผยสีหน้ามืดครึ้มขึ้น แต่ก็พยักหน้าตอบรับอย่างซื่อตรง

“ไหนขอผมดูหน่อย”

ขณะที่จี้หลินหยวนพูดก็เดินไปข้างหลังเธอ

หัวเหยาสวมเสื้อซับในข้างในชุดเดรส เป็นเหมือนชุดชั้นในที่มีขนาดยาวกว่าปกติเล็กน้อย ซึ่งเป็นการปกปิดการดึงดูดสายตาอย่างดี

นี่เป็นการกระทำที่เคยชินของชาติปางก่อน เพราะค่อนข้างออกงาน และมีความเป็นไปได้ที่ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงประเภทนี้ เพื่อสะดวกต่อการขยับร่างกาย ดังนั้นจึงสวมชุดซับในข้างในชุดเดรส เธอคิดว่าความเคยชินนี้เป็นเรื่องที่ดี อีกอย่างรูปร่างที่ค่อนข้างผอม ต่อให้สวมใส่ก็มองไม่ออก ดังนั้นเลยสวมใส่ตลอด

จี้หลินหยวนเอามือของเธอออก และมองประเมินซิป

จากนั้นก็มองบนแผ่นของหญิงสาวเล็กน้อย

เขากระแอมขึ้นเล็กน้อย

เขายื่นมือขยับซิป และพูดว่า : “เก็บผมหน่อย”

หัวเหยารีบเอาผมยาวไปไว้ข้างหน้า

เมื่อปัดผมแล้ว หลังคอก็เผยปานสีแดงเล็กๆ เหมือนกับสามารถเผาไหม้ได้อย่างนั้น

จี้หลินหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย

ในหัวสมองก็ปรากฏภาพเหตุการณ์ฝนตกกระหน่ำอย่างหนักในตอนกลางคืน และมีหญิงสาวนั่งฟุบบนพื้นด้วยเนื้อตัวที่เปียกโชก

ในความทรงจำมีภาพเลือนรางเล็กน้อย เพราะเป็นค่ำคืนที่ฝนตกหนักกระหน่ำ เลยทำให้เขาแยกแยะไม่ออกว่าเป็นฝันหรือความจริง

ความคิดที่แวบเข้ามาในสมอง สุดท้ายก็จบสิ้นลง และทำได้เพียงถอนหายใจอย่างเงียบ!

หัวเหยายืนนิ่งเงียบ ภายในห้องไม่มีเสียง เธอรู้สึกเก้อเขินมาก

หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าตรงเอวผ่อนคลาย และสามารถรูดซิปสำเร็จ

ในที่สุดเธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจขึ้น

อันที่จริงชุดเดรสก็ไม่ได้เล็กมาก สวมแล้วรู้สึกพอดีตัว เธอเดินมาดูหน้ากระจก และรู้สึกตกใจเล็กน้อย

เธอเป็นคนชอบสีค่อนข้างเข้ม ดังนั้นตอนแรกนึกว่าสีฟ้าครามประเภทสาวน้อยไม่เหมาะสมกับเธอ แต่เมื่อมองดูตัวเองในกระจก ก็รู้สึกว่าตัวเองสง่าผ่าเผยและอ่อนโยนมาก และยังพบว่าที่แท้เธอก็สามารถสวมชุดที่มีสีประเภทนี้ได้

การตัดแต่งเสื้อผ้าค่อนข้างเรียบง่าย ดูแล้วสบายตา แต่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

โดยเฉพาะสร้อยข้อมือเพชรสีฟ้าบนมือของเธอ ยิ่งขับความโดดเด่นให้กับเธอ

ขณะที่มองประเมิน จู่ๆก็แอบหัวเราะเบาๆขึ้น

“ไปได้หรือยังครับ? คุณนายจี้?”

หัวเหยาเงยหน้าขึ้น และเห็นจี้หลินหยวนปรากฏขึ้นข้างหลังเธอ เขามีหน้าตาหล่อเหลา และดูสง่างามกว่าปกติด้วย

เขาหยิบกระเป๋าที่วางไว้บนโต๊ะยื่นให้กับเธอ แถมยกแขนขึ้นให้เธอโอบด้วย

“คุณนายจี้ ถ้าหากยังไม่ไปคงมาส่ายแล้ว”

หัวเหยามีใบหน้าแดงระเรื่อ เธอหันหลัง และสบตาเขา

จากนั้นก็ยื่นมือโอบแขนของเขา

สถานที่จัดงานเลี้ยงตั้งอยู่ที่ห้องโถงชั้นสองของโรงแรมที่พวกเขาพักอยู่

ทั้งสองคนนั่งลิฟท์ลงข้างล่าง

วิลล่าตากอากาศหมิงหลิวถือเป็นสถานที่พักผ่อนชนชั้นสูงของเมืองเจียง ดังนั้นโรงแรมจึงมีความหรูหราเป็นพิเศษ เพิ่งเข้าห้องโถงก็สัมผัสได้ถึงแสงสว่างที่เปล่งประกายดั่งพระราชวัง ขณะเดียวกันก็มีคนสัญจรไปมา ดูแล้วบรรยากาศคึกคักมาก

หัวเหยากวาดตามองเล็กน้อย และพบเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยขึ้นในฝูงชนอย่างง่ายดาย มีทั้งคนในวงการทหาร วงการราชการ วงการธุรกิจ และวงการผู้มีชื่อเสียง จนอดใจรู้สึกแปลกใจกับความสามารถของคนตระกูลกู้

แต่สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจมากที่สุดคือ คิดไม่ถึงว่าเฟิงยี่และคนของตระกูลลู่ก็มาด้วยเหมือนกัน!

ลู่จิ่งเซินอยู่ต่างประเทศ ไม่มีเวลา ตระกูลลู่จึงส่งคนอื่นมาร่วมงานแทน ส่วนเฟิงยี่มาเป็นตัวแทนของตระกูลเฟิง

คนๆนี้เป็นคนรุ่นหลังที่เข้ากับคนง่ายที่สุดของตระกูลเฟิง ในตอนนี้ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนกำลังพูดคุยกับนักธุรกิจไม่กี่คนอยู่

และสิ่งที่ยิ่งทำให้เธอแปลกใจมากที่สุดคือ คิดไม่ถึงว่าหลี่ม่านซินจะอยู่ด้วยกันกับพวกเขา

คืนนี้หลี่ม่านซินสวมชุดราตรีสีขาว และทำผมเก็บมวยหลัง ภายใต้แสงเผยผิวขาวนวลเนียนดั่งหยก ดูแล้วมีความสง่าสูงส่งมาก

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset